ทริปนี้เกิดจากการจองตั๋ว 0 บาทข้ามปีอีกตามเคย นานแค่ไหนก็จะรอ หึ หึ แต่เดือนที่จองดันเป็นหน้าฝนเสียนี่ ต้องลุ้นกันตัวโก่งเลยว่าจะได้มาไหม (กว่าจะสรุปแผนการท่องเที่ยวเล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะหน้าฝนปีนี้ ฝนชุกมาก เรียกว่าก่อนมา น้ำท่วม ถนนตัดกันหลายที่เลย)

ตั๋วถูก ๆ ไฟลท์เดินทางก็จะเช้า ๆ หน่อย 55

ทริปนี้เรามีกันแค่ 2 คน จึงเลือกพาหนะเดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์เช่าเหมือนเดิม เพราะประหยัด และคล่องตัวดี (แต่ก็เสี่ยงกับฝนสักหน่อย ลุ้น ๆ )

ที่สนามบิน สามารถโทรล่วงหน้าเช่ารถมอเตอร์ไซด์ได้จากร้านไบกี้ (ค่ารับ-ส่ง 100 บาท/เที่ยว ค่าเช่าวันละ 300บาท ส่งรถไม่เกิน 18.00 น. !!! นี่แหละคือปัญหา เพราะขากลับไฟลท์เรา 21.45 น. เลยหาเจ้าอื่นแทน

จากสนามบินเชียงราย ไม่มีรถสาธารณะเข้าเมือง ต้องใช้บริการแท็กซี่ในสนามบิน ราคาเหมา 200-300 บาท โห !!!! แพงม๊ากกก

ถ้าอยากประหยัด เดินออกมาด้านนอก กดเรียก Grab แท็กซี่ ค่าบริการ 160 บาทไปร้านเช่ามอเตอร์ไซด์แถวหอนาฬิกา เราใช้โปรโมชั่นลดได้ 100 บาท เหลือจ่าย 60 บาท กรี๊ดดดด

ถึงร้านก็เลือกรถคู่ใจ ทำสัญญา เลือกหมวกกันน็อค และวางมัดจำ 3000 บาท แพงจัง ใครจะเช่าควรกันเงินส่วนนี้ไว้ด้วยนะ

กองทัพต้องเดินด้วยรถ เฮ้ย ด้วยท้อง หาไรกินก่อนเลย

อร่อยดี ไม่เสียดายเงินที่จ่ายไป ^_^

ทริปนี้ ไม่ได้ไปไหนไกล กะจะเที่ยวรอบ ๆ เมืองนี่แหละ จึงขับรถย้อนมาทางสนามบิน มาที่ "ขัวศิลปะ"

ภาพ The Heroes ตั้งโชว์อยู่ด้านหน้า (แต่เป็นภาพพิมพ์นะคะ ภาพจริงย้ายอยู่ที่วัดร่องขุ่น เมื่อ 17/8/61 ก่อนเราเดินทางไป 2 วัน ไม่ได้ ๆ วันรุ่งจะพาไปเห็นของจริง)

ที่ขัวศิลปะ จะเข้าชมฟรี เป็นสถานที่จัดแสดง ผลงานของศิลปินและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม

สวย ๆ เดินระวัง ๆ กันด้วยนะ แต่ละชิ้นมูลค่าสูงเชียว

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอ ปู่ม่านย่าม่าน คุณพระ ! นี้เรามาถึง จ. นานได้งัย

เดินชมภาพ จนอิ่มเอม ก็มีร้านกาแฟ น่านั่งให้ได้ผ่อนคลาย

จากนั้นก็ไปวัดร่องเสือเต้นกันต่อ

ฟ้าไม่สวย คลึ้ม ๆ ตลอด มีฝนโปรยเป็นระยะ ๆ

ด้านในสวยมาก ๆ ใช้เฉดสีน้ำเงิน งดงามที่สุด

ข้างวัดมีสับปะรดภูแล จำหน่าย อร่อย กรอบ มาก ๆ (ดูร้านดี ๆ เดินไป ถุงเล็กบางร้านขาย 60 บาท)

คนเยอะถุงใหญ่ คนน้อยถุงเล็ก ผลไม้นี้ คนจีนเห็นไม่ได้ ชอบทานสุด ๆ

ถ้ามาวัดนี้แล้ว ไม่มาที่นี่คงไม่ได้ เพราะเข้าไปอีก 200 เมตรก็ถึง แวะซะหน่อยว่าธรรมดาจริงไหม ??

คนเยอะนะ แต่ก็มุม เล็ก ๆ ว่างไว้สำหรับเรา ♥

นั่งเพลิน ๆ มองแม่น้ำไปเรื่อย ๆ จนเกือบหลับ เข้าที่พักดีกว่าเรา >>> จองกับอาโก ดูไป ดูมา ใช้ code dtac ลด แถมจองช่วงเวลาโปรฯ จ่ายแค่ 447.46 บาท รวมอาหารเช้า คุณพระ !!!

ที่พักของเรา เป็นที่พักและร้านอาหาร แต่หยุดวันอาทิตย์ อดดิ

ห้องพักสะอาดมาก ๆ ที่นอน/ห้องพักไม่เหม็น (โรคจิดอีกแล้ว 55) มีส่วนกลางให้นั่งทานอาหาร

เปิดแอร์เย็น ๆ นอนเอาแรง ซะหน่อย ZZZzzz

ตื่นมาอีกที เกือบ 4 โมงเย็น

รีบบึ่งไป ไร่เชิญตะวัน เพราะปิด 17.00 น.

จากที่พัก 24 km. ทางสะดวก ถนนโล่ง หาง่ายไม่ยาก

ไปถึงเกือบ 16.30 น. เหลือเวลาอีก 30 นาที ทันไหมเนี่ย

ไปถึงเงียบมาก ๆ เพราะคนคงกลับมาหมดแล้ว รีบเข้าไปดูกัน

อุโมงค์โคม

ด้านในร่มรื่นมาก ๆ

เสียดายสุด ๆ เดินได้ไม่ทั่วเลย เนื่องจากจะ 5 โมงเย็น เราต้องรีบออก เกรงใจ เจ้าหน้าที่ เคารพกฏดีกว่า

ก่อนกลับแวะเอาคาถากลับบ้านซะหน่อย ไว้เราจะกลับมาอีกนะ

ขากลับแวะวัดร่องขุ่น ซึ่งก็ปิดแล้วเหมือนกัน แต่ก็ตั้งใจมาตอนนี้ เพราะจะได้ถ่ายรูปแบบไม่ติดคน อิ ๆ

จากนั้นก็ขับไป ชิม ขนมบัวลอยมือถือ ซะหน่อย เค้าว่าอร่อยนัก อร่อยหนา 10 ปี ขึ้นถวาย 15 ครั้ง ไปชิมกัน

ร้านเปิด 18.00 - 20.00 น. อยู่ตรงทางเข้า เชียงรายไนท์บาร์ซ่า หาไม่ยากอีกแล้ว

ราคา 20-25 บาท อร่อย ๆ ไม่หวานเกินไป กะทิมัน นุ่ม หอม หนึบ ใครมาเร็วก็จะได้ถ้วยกะลา ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งจึงเป็นที่มา ของคำว่า "บัวลอยมือถือ"

จากนั้นก็เดินเล่น ที่ถนนคนม่วน เป็นถนนคนเดินวันอาทิตย์

อันนี้ชอบมาก ๆ เห็นทีไร ไม่เคยพลาด

เดินได้สักพัก หาอะไรทาน แล้วก็กลับ เพราะไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่ เหมือนเดินตลาดนัดบ้านเรา มีแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เคสมือถือ ไม่มีกลิ่นไอของชาวเหนือเท่าไหร่เลย...เสียดาย

แต่ลำใยถูกดี ซ้ายมือราคา โลละ 20 บาท จัดสิ รออะไร

ถึงที่พักก็นอน ตื่นมาตอนเช้า ขี่รถไปไร่บุญรอดกัน ว่าเช้า ๆ จะงดงามแค่ไหน

เข้าฟรี แต่ก็จะมีเส้นทางที่ไปได้ และห้ามผ่าน

อากาศยามเช้า ดีสุด ๆ

สามารถวิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยานได้ มีทางจัดไว้ให้เป็นสัดส่วน ปลอดภัยชัวร์

สวย ๆ ร้านอาหารยังไม่เปิด ก็ชมวิวไปแทน

เส้นทางไว้วิ่งออกกำลังกาย และปั่นจักรยาน อิจฉาคนที่นี่จุง

ออกจากไร่บุญรอด ก็แวะวัดร่องขุ่น สักนิด วัดเปิดพอดี

แปลกจัง ทริปนี้ เรามาตอนเย็น กับตอนเช้า ไม่เจอคนจีนเลย เจอแต่ฝรั่งแทน หรือว่าคนจีนมาตอนกลางวัน

ไปดูการปั้นหุ่น จ่าแซม และภาพวาดเดอะฮีโร่ ของจริง ที่โรงเหล็ก หลังวัดร่องขุ่นกัน

เกือบหาไม่เจอแล้ว เพราะมาเช้า ยังไม่มีใครมา หาทางเข้าไม่เจอ จนต้องถาม พนักงานกวาดขยะ จนขับหาจนเจอเย้

มีศิลปิน มาช่วยกันปั้นเยอะ และไม่คิดค่าแรง และไม่รับบริจาคด้วยนะ

รายละเอียดเยอะเลย

ไม่ได้ทำอย่ามาเอาหน้านะ สัส อาจารย์กล่าวไว้ถูกใจ 55

ด้านหลังจะเป็นภาพ The Heroes ของจริง ซึ่งสวยมาก ๆ มีมิติ ยกย่องศิลปินทุก ๆ ท่าน สุดยอดมาก ๆ

พระเอกของเรา หล่อมาก

และกลับที่พัก ทานอาหารเช้ากัน

อาบน้ำ เช็คเอ้าท์ ลาแล้วนะ เดอะการาจ ครบถ้วน คุณภาพครบ ที่พักสะอาด อาหารอร่อย บริการดี ที่พักติดถนน ปลอดภัย ในราคามิตรภาพสุด ๆ ♥

และมุ่งหน้าไป ไร่ชาฉุยฟง แต่ไม่พลาดที่จะแวะ ทุ่งเคียงดอย ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ในนาข้าว

ก่อนไป ดูข้อมูลในเพจดี ๆ บางเดือนหยุดวันจันทร์ บางเดือนหยุดวันพุธ 55 เดี๋ยวจะไปเก้อ

เราไปถึงตอน 11.30 น. คนยังไม่เยอะ (อาจเป็นวันจันทร์ด้วย)

วิวสวยมาก ๆ อากาศดี

อาหารหลักสิบ บรรยากาศหลักพัน หรือหลักหมื่นดี ... คุ้ม ฟิน นั่งๆ ไป เริ่มเต็ม นักศึกษา,วัยรุ่น มากันเยอะ

ที่ร้านจะมีร่ม สีสด ๆ ไว้บริการ ใครอยากถ่ายรูป กันแดด หยิบตามสบาย

นั่ง ๆ มองวิวเพลิน ๆ ได้ยินเสียงคนข้าง ๆ " เธอ ๆ ฉันมองดูแล้ว ในเนี๊ย เรา 2 คนแก่สุดเลย "

แล้วไงหล่ะ " แก่แล้วรักป่ะหล่ะ" ฮิ้วววว อรุณาเคยกล่าวไว้

สถานีต่อไป ก็ไร่ชาฉุยฟง อยากกินชาเขียวแล้ว

จอดรถปุ๊บ ถ่ายรูปได้ 1-2 ภาพ ฝนเทลงมา ดีนะที่เรามาถึงแล้ว

และซื้อชาเขียวกลับบ้าน ไปชงเอง ขอบอกอร่อยมาก ๆ หอม ชงได้ทั้งร้อน-เย็น

ขับมากินชาเขียวปั่นแล้วกลับ 55 ขากลับ เราแวะ บ้านดอยดินแดง

บ้านดอยดินแดง ตั้งอยู่ที่ บ้านป่าอ้อ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผา และศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาซึ่งเป็นงานทำมือทุกชิ้น ก่อตั้งโดย อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปิลเซรามิกระดับนานาชาติ

เปิดให้เข้าชมฟรี สามารถเดินดูได้ทุกห้อง และพูดคุยกับช่างได้ อย่างใกล้ชิด

ภายใน เงียบมาก ๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย สอบถาม จนท. คนเชียงรายไม่ค่อยมา จะมีก็แต่นักท่องเที่ยว และคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชม

ดินที่นำมาปั้น ต้องเป็นดินจากแม่ริม

เพราะทดสอบมาหลายที่แล้ว ดินที่นี่จะดำดี ปั้นแล้วสวย สวยจริง ๆ ด้วย

มีเครื่องปั้นรูปทรงแปลก ๆ สวย ๆ ให้ชมเต็มเลย

ทั้งทริป เราชอบที่นี่มากที่สุด เดินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ

ชอบ ๆ เดี๋ยวไปสร้างอัลบัมไว้ในเฟส ส่วนตัว รีวิวจะยาวไปแระ 55

ถัดจากบ้านดอยดินแดง จะเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวไม่ไกลกันเท่าไหร่ ประมาณ 1-2 กิโลเอง ลองแวะไปดูหน่อยแล้วกัน

เราไปถึงเกือบ 5 โมง (อีกแล้ว) ตอนแรกจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไป เพราะกลัวปิด

ได้ยินเสียง จนท.เรียก จะเข้าเยี่ยมชมหรือคะ ซื้อบัตรเข้าชมก่อนค่ะ 200 บาท มองหน้าแฟน ต่างชาติ 300 ค่ะ ห๊ะ!!! 200 เลยหรือ ข้างในมีอะไรให้ชมบ้าง

จนท. หยิบโบรชัวร์ มาดู โห ก็เยอะนะ 5 หมู่บ้าน แต่เวลาพี่ไม่พอนะสิ ถอยกลับมา เอาไง เหลือเวลาไม่มาก เอาไว้มาใหม่แล้วกัน สรุปเลยไม่ได้เข้า T_T

ออกจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ต้องส่งรถ ก่อน 1 ทุ่ม เวลาพอเหลือ ไปวัดห้วยปลากั้งดีกว่า

รอบที่แล้ว มาเข้าวัด แต่พลาดชมเจ้าแม่กวนอิม เพราะมาดึก รอบนี้ไม่พลาด กระโดดขึ้นรถรางแล้วไปกัน

ข้างบนเย็นดี และวิวสวยมาก ๆ

ทำบุญกัน เผื่อจะโชคดี ได้กลับมาอีก สาธุ

นั่งรับลมเย็น ๆ ....... ฝนเริ่มมาอีกแล้ว ไปส่งรถดีกว่าเรา

ส่งรถตอน 6 โมงกว่า ๆ เดินเท้ามา 5 นาที ไปกินกินบัวลอยป้าอ้วนอีกรอบติดใจ จากนั้นก็เดินไปที่หอนาฬิกา

ฝนตกหนักมาก ๆ แต่โชคดีที่เราถึงร้านอาหาร ตรงหอนาฬิกาพอดี

และเวลาที่รอคอยก็มาถึง ทุกเวลา 19.00 / 20.00 / 21.00 จะเปิดไฟ แสง สี เสียง นานราว 10 นาที ดังนี้

ผัดไท ไม่ได้สั่ง แต่สั่งน้ำเงี้ยวอีกแล้ว กินให้หายอยากอาหารเหนือเลย ขอบอก วิวดี ราคาถูก แถมอร่อยด้วยค่ะ ต้องลอง ๆ

ทานอิ่มก็เรียก Grab ไปส่งสนามบิน และเดินทางกลับบางกอกโดยสวัสดิภาพ

ค่าใช้จ่าย 2 คน ไม่รวมค่ากิน .ค่าทำบุญ และของฝาก แค่พันกว่าบาท ไม่แพงเลย ถ้าแลกกับสิ่งที่ได้มา

ชาร์ตแบ็ตเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะลุยงานต่อไป 2 วัน 1 คืน ได้เที่ยวเยอะ ได้กินอาหารอร่อย แถมค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ออกมาเต๊อะ ออกมาเที่ยวไทยกัน .... เที่ยวเมืองไทย ทำไมต้องจ่ายแพง บ๊าย บาย