ชวาหะร์ลาล เนห์รู รัฐบุรุษของอินเดียกล่าวไว้ว่า
“เราอยู่ในโลกอันน่าประหลาดใจที่เต็มไปด้วยความงดงาม เสน่ห์และการผจญภัย ไม่มีคำว่าสิ้นสุดสำหรับการผจญภัยที่เราสัมผัสมันได้ ถ้าเพียงเราเปิดดวงตาค้นหาความงดงามเหล่านั้น ”
และ เซนต์ ออกัสติน กล่าวไว้ว่า
“ โลกเปรียบเสมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยออกเดินทาง ก็เหมือนอ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว ”
ขณะที่กำลังนั่งว่างและหาอ่านบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็เผอิญเจอบทความดังกล่าวด้านบน และสำหรับคนที่เรียนท่องเที่ยวและรักในการท่องเที่ยวอย่างพวกเราอ่านแล้วรู้สึกมีแรงผลักดันอยากจะออกไปค้นหาความงดงามและความสุขที่ไหนสักที่ แล้วโชคก็เข้าข้างพวกเราค่ะ เมื่อทาง ททท. จัดทำโครงการ อส.Social พาเที่ยวชุมชน ซึ่งพวกเราได้มีโอกาสเข้าร่วมด้วยและเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทการท่องเที่ยวแบบ One Night Stay With Local
และจุดหมายปลายทางของพวกเราก็คือชุมชนการท่องเที่ยวปะทิว (บางสน) จ.ชุมพรค่ะ
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้
พวกเราเลือกเดินทางโดยการขับรถไปค่ะ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ขับรถไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พักรวมระยะทางแล้วก็ประมาณ ประมาณ 483 กม. โดยจุดหมายปลายทางที่แรกของเราคือบ้านไม้ชายคลองโฮมสเตย์ที่พักของพวกเรานั่นเองค่ะ
7.30 น. ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเรา บ้านไม้ชายคลองโฮมสเตย์ บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ที่พักสมกับชื่อโฮมสเตย์เลยค่ะเป็นบ้านไม้ติดริมคลอง ลมโชยเย็นสบายเหมาะกับการมาพักผ่อนอย่าแท้จริง
จากนั้นพวกเราก็ไม่รอช้าค่ะ สำรวจบรรยากาศภายในโฮมสเตย์ เก็บกระเป๋าสำภาระต่างๆเข้าห้องพัก ซึ่งต้องขอบอกห้องพักได้มาตรฐาน มีเครื่องปรับอากาศ หมอนและผ้าห่มให้อารมณ์ความเป็นชุมชนและเตียงนุ่มมากๆเลยค่ะอยากจะทิ้งตัวลงนอนเสียตรงนี้ แต่ความคิดต้องหยุดชะงักทันทีค่ะ เพราะยอดเขาที่สูงที่สุดในอำเภอปะทิวรอให้พวกเราไปพิชิตอยู่ แอบหาข้อมูลมาว่าวิวสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยค่ะ
ไปให้สุดอย่าหยุดความพยายาม.....เขาดินสอ
เดินขึ้นไปสักพักเราก็จะเห็นความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่ เห็นดอกไม้ป่า เห็ด สีสันสวยงามที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวชะอุ่มแห่งนี้
ในที่สุดความพยายามของเราก็สำเร็จแล้วค่ะ ซึ่งมันคุ้มมากๆ พวกเราก็ไม่ลังเลที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆรับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด ปกติแล้วภาพที่พวกเราคุ้นชินคือรถที่ติดแน่นทั่วท้องถนนและเต็มไปด้วยฝุ่นควัน แต่ภาพข้างหน้าของเราคือสีเขียวของต้นไม้ ป่าภูเขา สีฟ้าของน้ำทะเลที่เรามองเห็น สีขาวของหมอกที่ลอยผ่านตัวเราเลยค่ะ คุณลุงบอกว่าวันนี้หมอกค่อนข้างเยอะเลย อากาศกำลังเย็นสบายความเหนื่อยนี่หายไปทันทีเลยค่ะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง....บ้านเกาะเสม็ด
11.00 น. จากการขึ้นเขาดินสอได้ดูดพลังของพวกเราไปไม่ใช่น้อย คุณลุงสมโชคจึงพาเรามาเพิ่มพลัง ที่บ้านเกาะเสม็ด มีผู้ใหญ่กร และคุณป้าให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่น
ปอปูมีไข่.....โรงรับจำนำปู
หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนแล้วละค่ะ ยังมีอีกหนึ่งที่ ที่รอให้พวกเราไปเยือนอยู่ นั่นก็คือธนาคารปู ดูแล้วเหมือนจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจนอกจากปูและลูกปูใช่ไหมคะ สำหรับพวกเราแล้วที่นี่นอกจากจะมีน้องปูเป็นล้านๆตัวที่รอคอยการถูกปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติแล้วนั้นยังมีเรื่องราวของการก่อตั้งธนาคารปู ที่กว่าจะได้มาเป็นธนาคารปูที่ประสบผลสำเร็จอย่างวันนี้ ต้องต่อสู้กับคำดูหมิ่น ต้องก้าวข้ามผ่านวิกฤตค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบกันเอง การไม่ให้ความร่วมมือของคนในชุมชน จนทุกคนเห็นว่าสิ่งที่ทำได้ช่วยให้ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้นและฟื้นฟูระบบนิเวศ จนกระทั่งมีทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนมาให้การสนับสนุนในที่สุด ฟังแล้วเป็นอะไรที่ปลื้มใจและมีความสุขไปกับคนที่นี่เลยค่ะ
เข้าวัดทำบุญ....วัดแหลมยาง
ชาร์จพลัง....โฮมสเตย์บ้านไม้ชายคลอง
ได้เวลาสังหารสำรับอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ตามแพลนของคุณลุงคือจะให้พวกเราทานอาหารและล่องแพชมบรรยากาศริมคลองบางสนจนถึงปากอ่าว แต่ฝันของเราก็ต้องสลายเพราะพี่ฝนได้ตกลงมาอีกแล้วค่ะ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคต่อความหิวโหยในครั้งนี้ พวกเราจึงทานอาหารกันที่โฮมสเตย์บนโต๊ะอาหารที่สามารถห้อยขาลงไปให้น้องปลาเสือดีดน้ำใส่ ฟินสุดๆไปเลยค่ะ
แจวมาแจวจ้ำจึก.....ล่องแพ
ฝนฟ้าเริ่มสงบลง คุณลุงสมโชครีบพาพวกเราไปชมวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองบางสน บรรยากาศเต็มไม้ด้วยบ้านไม่ที่ดูร่มรื่นมีป่าชายเลนอยู่ข้างๆ เรือปะมงที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของผู้คนที่นี่
หลังจากเต็มอิ่มจากการดื่มด่ำกับบรรยากาศท่ามกลางทะเลยามพลบค่ำแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราจะได้กลับที่พักชาร์จพลังให้เต็มที่สำหรับวันพรุ่งนี้
Day 2
รีบๆโตมาเจอกันนะ.....เจ้าปูน้อย
หลังจากเมื่อวานที่พวกเราได้ไปธนาคารปูแล้ววันนี้พวกเราเลยได้มาปล่อยน้องปูให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติกันค่ะโดยมีพี่ช้างและคุณลุงชลเป็นผู้ดูแลการปล่อยน้องๆปูในครั้งนี้ค่ะ
โอ้ทะเลแสนงาม....เกาะไข่
ไปค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงไปดำน้ำกันค่ะ จุดหมายปลายทางของเราคือเกาะไข่ค่ะ เดินทางโดยเรือประมงก็จะลุยๆหน่อย ยังไม่ทันถึงเกาะก็เปียกแล้วค่ะ
เกาะไข่เป็นเกาะที่ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์มากค่ะ และมีหาดทรายสีขาว เมื่อพวกเราเดินมาถึงบนเกาะก็พบกับซากปะการัง หอยมือเสือ ปลาดาว ปลิงทะเล เป็นต้น
เนื่องจากว่าช่วงที่พวกเรามามีพายุเข้าพอดีค่ะ คลื่นลมก็จะค่อนข้างแรง น่าเสียดายมากที่พวกเราสู้คลื่นไม่ไหวเลยไม่สามารถเก็บภาพปะการังมาฝากทุกๆคนเลยค่ะ แต่แอบเห็นว่าปะการังก็สวยนะคะน้องๆปลาเยอะมากเลยค่ะ ที่เห็นชัดๆก็จะมีน้องปลานกแก้วค่ะ
การเดินทางอื่นๆ
- รถทัวร์ กทม – ชุมพร
- รถไฟ กทม. – สถานีรถไฟปะทิว
- เครื่องบิน กทม – ท่าอากาศยานชุมพร
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
- ค่าแพ็คเกจทัวร์ 1500 บาท
- ค่าแก๊ส LPG ขาไปและกลับ รวม 1,060 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 500 บาท
การติดต่อจองที่พัก
ติดต่อ 080-779-1650 คุณสมโชค
https://m.facebook.com/homestaybangson
ดูรายละเอียดโปรแกรมทัวร์ได้ที่
https://www.1nightstaywithlocals.com/
twingirl
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.05 น.