Bonjour สวัสดีคะ
กลับมาแล้วหลังจากหายไปซักพักใหญ่ๆเลย วันนี้พาไปทานอีกแล้ว ร้านอาหารลำดับที่ 12 ของโลก แถมพ่วงด้วย ร้านที่ได้รับ Michelin 3 ดาว มาตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งถือว่าเป็นร้านอาหารชั้นสูง แนวหน้าของฝรั่งเศสมากๆค่ะ ร้านนี้บริหารงานโดยเชฟ Alain Passard และเชฟเองก็เป็นเจ้าของร้านอาหารเองด้วย ซึ่งหาได้ยากมากๆ ร้านอาหารที่เบลพาไปวันนี้ ต้องบอกเลยว่าเบลโชคดีมาก ซึ่งร้านนี้การจองค่อนข้างยากมาก และราคาค่อนข้างสูงค่ะ ถ้าเพื่อนใน Readme สนใจร้านอาหารแนวหน้าในกรุงปารีสเบลว่าต้องไปให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ
พูดถึงคอนเซปดีกว่า คอนเซปของเชฟจะเป็น Farm to Table เช่นเคยค่ะ ซึ่งเป็นร้านที่เบลค่อนข้างให้ความสนใจอย่างมาก ตัวเบลเอง เบลชอบเชฟ Alain Passard มาก เพราะเค้ามีไอเดียรักสุขภาพและใช้ของออแกนิคสุดๆ ถึงขั้นที่เชฟลงทุนปลูกผัก ทำสวน ทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง เพื่ออาหารที่ออกมานั้นต้องดีที่สุด มีความพิเศษและความเอาใจใส่มากๆ เบลไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านอาหาร ร้านนี้ถึงได้ Michelin star ตั้ง 3 ดาวมาตั้งแต่ปี 1996 ความเอาใจใส่ของเชฟกับอาหารที่ทุกจานเกือบจะเป็นผักล้วน เค้าต้องพิเศษมากๆจริง รสชาติอย่าให้พูดถึงค่ะพิเศษมากจริงๆ อาหารของเชฟทั้งหมดทุกจานจะเน้นผักค่ะ เหมาะสำหรับคนชอบผัก แต่คนไม่ชอบผักเบลว่าก็ต้องชอบน่ะค่ะ เพราะผักนั้นปลูกไร้สาร ผักจะมีรสชาติโดยตัวของเค้าเอง แต่ทำไมผักถึงได้ Michelin Star มาตั้งแต่ 1996 นั่นซิค่ะ เอาเป็นว่าเราไปดูกันดีกว่า ว่าทำไม ^^
เมนูวันนี้มีให้เลือกหลายแบบค่ะ
เค้าเหมือนลูกซูคินี่ เชฟบอกว่าเอามาจากสวน ทานได้ทั้งลูกยันดอกเลย ไร้สารพิษด้วย แต่เราก็ให้เค้าแต่งบนโต๊ะไว้ก่อนละกัน
เริ่มต้นจานแรก เป็น Mille-feuille (มิว-เฟ่ย) สอดไส้ชีสค่ะ
จานที่ 2 เป็นเหมือนทาร์ต กับมูสโฟมผักต่างๆค่ะ มีแตง มะเขือเทศ กับแครอทค่ะ
จานที่ 3 เป็นมูสมัน ส่วนข้างบนเป็น ผักหั่นแบบ Brunoise คือ หั่นแบบ 4 เหลี่ยมเท่ากันทุกด้าน
จานที่ 4 เป็นซุปชนิดทานแบบเย็น เป็นซุปมะเขือเทศ 2 สี เหลืองกับแดงค่ะ ข้างบนเป็น ไอศครีมเบซิลผสมเครื่องเทศค่ะ
จานที่ 5 เป็นสลัดมะเขือเทศ 2 สี มะเขือเทศสดมาก หวาน นุ่ม ตัดกับน้ำมันมะกอกแบบออแกนิก โรยเกลือนิดๆ
จานที่ 6 เป็น Ravioli สอดไส้ผักต่างๆ จานนี้บอกเลยว่าดูเหมือนธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะ บีทรูท เนื้อแป้งเนียน บางไม่มีคำว่าหนา ลวกสุกแบบกำลังดี พยายามจะทำเองแต่ไม่ได้แบบนี้เลยค่ะ
จานที่ 7 เป็นอาหารล้างปากนิดนึง เป็น Radish ยังไส้ค่ะ
จานที่ 8 เป็น ผักกระหล่ำ สอดไส้ผัก ซอสเป็นชีส ฟินมากค่ะ อร่อยค่ะ
จานที่ 9 เป็นคล้ายซุปฟักทองแบบร้อน กับครีมโฟมมันฝรั่งชีสค่ะ
จานที่ 10 เป็น Radish กับ Rhubarb
จานที่ 11 Main มาแล้วค่ะ ในจานเป็นมันฝรั่ง,Radish, ปลาหมึก กับซอสโฟม Saffron คาวนิดๆของปลาหมึกตัดกับความสดของผักแล้วก็เผ็ดเบาๆ ลงตัวมากเลย
จานที่ 12 เป็นซุปล้างปากค่ะ ข้างล่างตัดลงไปเป็นมูสมันฝรั่ง ข้างบนเป็นโฟมมะเขือเทศ
จานที่ 13 เป็นอีกจานที่เบลชอบ เป็นสลัดบีทรูทดอง ข้างบนเป็นโฟมครีม
จานที่ 14 เป็นผักผัดกับน้ำมันออแกนิก มี Couscous แถมด้วย ไส้กรอกผัก
จานที่ 15 เริ่มด้วยขนมหวาน ชูครีมแตงกวา เย็นๆดีค่ะ บิสกิต มาการอง
จานที่ 16 Saffron Caramel Custard ทำออกมาได้ดีมากค่ะ หวานน้อย ทานแล้วสดชื่น
ขนมปิดท้าย เป็น Choux Cream Praline Noisette ไส้ถั่วฮาเซลนัท นั่นเอง
ปิดท้ายสำหรับวันนี้ด้วย Mille-Feuille ไส้ผลไม้รวม ราดด้วยซอสน้ำผึ้ง
อาหารวันนี้อย่างที่เบลบอกคือเชฟเน้นผักทุกจาน ส่วนมากจะเป็นผักค่ะ แต่เป็นผักที่คลีเอทีฟมากๆ เมนูทุกจานมีรสชาติไม่เหมือนทานผักแล้วอาหารก็ออกมาวิจิตรมาก อร่อย สดสุดๆ หวานด้วยตัวของผักเอง การบริการของร้านไม่ต้องพูดถึงดีมากๆ สำหรับเบล เบลคิดว่าเค้าทำออกมาได้ดี ทั้งเมนู การนำส่วนผสมของผักมาทำได้เมนูมากมายขนาดนี้ เบลอยากแนะนำถ้ามีโอกาสจริงๆอยากให้ไปลองซักครั้งในชีวิตค่ะ
ด้านล่างเป็นลิงค์ของร้าน ถ้าเพื่อนใน Readme สนใจก็จองผ่านเวปได้เลยค่ะ
ครั้งหน้าเบลมีรีวิวอะไรน่าสนใจจะมาแนะนำเพื่อนๆอีกค่ะ สำหรับวันนี้ ขอบคุณมากค่ะ ^^
Sakaokarn Vongchansilp
วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.32 น.