ต้องบอกก่อนว่าเห็นรีวิวทริปวังเวียงตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว เห็นครั้งแรกก็อยากไปทันที ตอนนั้นคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการนั่งกินเบียร์ชมวิวเขียนบทความ นั่งคุยกับตัวเอง ครับ !! นั่นเป็นความคิดของเมื่อ 3-4ปีก่อน แต่ตอนที่จะไปมันไม่ใช่ความคิดนั้น การตัดสินใจไปในครั้งนี้เพราะเพื่อนชวน มันก็เป็นเวลาที่เหมาะเพราะก่อนหน้านี้ก็อยากไปอยู่แล้ว พอตกลงไปกันเราก็เตรียมเรื่องข้อมูลการเดินทางและที่พัก ส่วนเรื่องสถานที่เที่ยวเราเลือกที่จะไม่ดูรีวิว เพราะมีความทรงจำจางๆ เมื่อ 3-4ปีก่อน ว่าเราต้องไปทำอะไรบ้าง ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็คือการไปนั่งจิบเบียร์ คุยกับตัวเองนั่นแหละ

หมดเวลาเล่าเรื่องเดิมแล้ว ม่ะ !!! มาพูดถึงทริปนี้กันดีกว่า เมื่อเราถึงวังเวียง สิ่งแรกที่สมองคิดคือ เชี่ยไรว่ะเนี้ย !! ภาพที่เห็นมันเหมือนเกาะสมุยเมื่อ 10-15 ปีก่อน (ละไม,เฉวง) เละเทะไปหมด ความสวยงามของผังเมืองอยู่ที่ไหน ไหนวิวสวยๆ ที่วาดฝันไว้ แต่ก็ช่างมันเถอะครับ

วันแรกมีเวลาเดินในเมืองตลอดช่วงบ่ายและค่ำคืน ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ ในเมืองวังเวียง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกาหลีเยอะจริงๆ เรด้าร์พังหมดครับ ตรงนั้นก็ขาว ตรงนี้ก็หมวย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าไปนั่น !! มาดูมุมธรรมชาติที่อยู่ในเมืองบ้าง(ในเมือง ขอย้ำคำนี้นะ) ก็ต้องยอมรับแหละว่าธรรมชาติเขาสวยดี แต่ก็ต้องหามุมหน่อยนะ วันแรกนี้พวกเราเดินเท่าที่มีเวลาก็ตามภาพด้านล่างนี้แหละ

Advertisementshopee

ค่ำคืนแรกรออะไร “ซากุระ” สิครับ ซากุระที่ว่าคือร้านเหล้า เป็นผับแบบเปิด น้องที่ไปด้วยดูรีวิวมา ซึ่งรีวิวเขียนว่าห้ามพลาด พวกเราก็ไม่อยากจะพลาดด้วย จัดไปคืนแรกนี่แหละ

Advertisement

เข้าไปปุ๊บก็ต้องสปีคอิงลิชกันเลยทีเดียว เพราะที่แห่งนี้ฝรั่งเป็นเจ้าของ เราก็ได้เบียร์มาคนละขวดจะได้เอามานั่งดื่มระหว่างรอคนเข้าร้าน เครื่องดื่มที่นี่มีให้เลือกน้อยมาก มันก็ไปจบที่เบียร์ลาวนั่นแหละ เพราะมันไม่มีอะไรให้เลือกเลย เบียร์ตกขวดละ 20,000 กีบ (80-100 บาท) แต่เสียใจด้วยนะไม่ได้ถ่ายภาพสาวๆ มาให้ดู อยากดูต้องไปเอง

ดึกๆ เริ่มคึกคนเริ่มมาอาการนัวเริ่มเกิด แม่สาวเกาหลีเริ่มออกสเต็ป (ไม่มีภาพประกอบสวยงาม เพราะตอนนั้นกำลังกอบโกยความขาวอยู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า) หลักๆ ก็มี 3 ชาติที่กำลังชิงความเป็นคิงเรื่องการออกสเต็ปแดนซ์ เกาหลี / ฝรั่ง(ไม่ทราบสัญชาติ) / พี่ไทยเรา ในฐานะกรรมการแบบเราก็ตัดสินแบบแฟร์ๆ คนหน้าตาดีชนะครับ ไม่ระบุสัญชาติ โอ้ยยยย หัวใจพังหมดแล้ว นี่ถ้าไม่มีแฟนหัวใจดวงนี้คงพังยับเยิน (คิดถึงแฟนตลอดครับ ไม่มีใครแย่งพื้นที่นี้ได้)

หมด 1 วันที่ “วังเวียง” ไหนธรรมชาติ วันแรกนี่โลกีล้วนๆ ภาพรวมมันทำให้เรามองแบบนั้นจริงๆ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ามันเหมือนสมุยเมื่อ 10-15 ปี ที่แล้ว โอกาสทางธุรกิจค่อนข้างเยอะในมุมมองของเรานะ สำหรับใครที่สนใจลงทุนหรือทำธุรกิจกับนั่งท่องเที่ยวไปดู แล้วหาช่องทางสร้างกันได้เลย ณ จุดนี้เราก็มีกิจการในหัวเหมือนกัน ว่าจะทำอะไรที่วังเวียงดี เมืองท่องเที่ยวมักจะมีอะไรให้เรากอบโกยเสมอ แต่มันก็อยู่ที่ว่าจะเรากอบโกยเอาอะไรกลับไป ถ้ามีโอกาสได้ไปลงทุนที่นั่นจะเอามาแชร์นะครับ

นี่แค่วันแรกนะ วันที่ 2 ขอเกริ่นก่อนว่าเที่ยวทั้งวัน เดี๋ยวมาเขียนเพิ่มพักสายตาก่อน ^^


ความคิดเห็น