ฮาโกดาเตะ เมืองท่าของเกาะฮอกไกโดที่สวยงาม ติดภูเขาและมีทะเลขนาบทั้งสองข้าง สามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ป้อมปราการรูปดาว (Goryokaku) โกดังอิฐแดง ท่าเรือริมทะเล ย่านโมโตะมาจิ เนินโมโตะมาจิ และวิวบนเขาฮาโกดาเตะ
แผนการเดินทางของแต่ละวันในฮอกไกโด
วันที่ 1 : Nijo Fish Market / Maruyama Park + ศาลเจ้าฮอกไกโด /
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด / Former Hokkaido Government Office / หอคอยนาฬิกาซัปโปโร / ทีวีทาวเวอร์ / ตรอกทานูคิโคจิ
วันที่ 2 : Jozankei
วันที่ 3 : Hitsujigaoka Observation Hill / Otaru
วันที่ 4 : Hakodate
วันที่ 5 : Aomori และกลับโตเกียว
สำหรับการเดินทางไปฮาโกดาเตะ เราเดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะด้วยรถ LTD. EXP เที่ยวตามตาราง
โดยเราใช้ JR Rail Pass จองตั๋วไปล่วงหน้า แต่ แต่ แต่ เราจองผิดวันค่ะ ฮ่าฮ่าๆ ด้วยเช้าวันที่จองคงเบลอเกินไป
หันมามองตั๋วตอนเช้าวันเดินทาง และเปรยขึ้นกับเพื่อนๆ ว่า พวกเธอบนตั๋วเราวันที่มันเมื่อวานนี่ ... ไม่เป็นไรค่ะ เรากะว่าไปถึงสถานีค่อยถามว่าจองใหม่ทันหรือไม่ หรือจะรอไปเที่ยวต่อไป
ปัญหาที่สองเราคือ เราลืมไปว่าเราพักแถวสถานีซูซุกิโนะ ซึ่งรถ subway จะเปิดตอนประมาณ 5.30 น. รถเที่ยวแรกคือ 5.58 น.
สรุปเราลากกระเป๋ามารอสถานีเปิด พร้อมคิดว่าเราคงจะตกรถเป็นแน่แท้ ให้ลากกระเป๋าใบหนักเดินไปก็ไม่ไหวซะด้วย
แต่สรุปเมื่อรีบเร่งไปทุกอย่าง เราไปถึงสถานี JR Sapporo หกโมงเกือบครึ่งไปถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่า Reserved seat เต็มหมด รวมถึงเที่ยวต่อไปด้วย แนะนำให้ขึ้น unreserved seat เที่ยวหน้า แต่ระหว่างนั้นเราคิดได้ว่านี่ยังไม่ถึงเวลารถออก ไปดู Unreserved seat เที่ยวแรกนี่เลยดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็วิ่งค่ะ แล้วสรุปเราก็ได้นั่งรถเที่ยวเดิม บนตู้แบบไม่จอง มีที่เหลืออยู่บ้าง ใช้นั่งแยกๆ กันเอา
10 โมงกว่าเราเดินทางถึงสถานีฮาโกดาเตะ ทำการซื้อตัว 1-day pass สำหรับรถรางและรถบัส
ราคา 600 เยน วิธีใช้ขึ้นรถรางก็คือขึ้นตรงประตูหลัง ดึงตั๋วไว้ ขาลงหย่อนตั๋วที่ดึงมาลงช่องหย่อนตั๋ว แล้วทำการรูดบัตร 1-day pass หากทำไมถูก ยื่นไปที่เจ้าหน้าที่ขับรถ เขาจะรูดให้
เราใช้บัตรนี้สำหรับเดินทางด้วยรถรางภายในเมืองและก็รถบัสขึ้นเขาฮาโกดาเตะ เนื่องจากว่าช่วงที่ไปกระเช้าปิดพอดี
ซื้อตั๋วเรียบร้อยก็เดินไปกินข้าวกันที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ(Hakodate Morning Market) ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ สถานีแค่เดินออกจากสถานีหันขวาเดินตรงเลยค่ะ
อาหารที่ขึ้นชื่อสำหรับเมืองฮาโกดาเตะจะเป็นปลาหมึกค่ะ
ก่อนที่จะเดินหาร้าน เราเข้าไปเดินในตลาดขายของฝาก มีร้านนึงคุณลุงเจ้าของร้านพูดภาษาไทยได้ แน่นอนค่ะว่าได้เปรียบเราเสียตังค์ซื้อปลาหมึกแห้งและขนมที่ร้านนี้กันเลย เพื่อนถามคุณลุงว่ารู้ภาษาไทยได้ยังไง คุณลุงบอกว่าเรียนเพื่อเพิ่มยอดขายค่ะ เหมือนเรารู้ภาษาอื่นก็ยิ่งทำให้คนสนใจได้มากขึ้น
จากนั้นก็แวะหาร้านนั่ง หาร้านง่ายๆ คนไม่เยอะค่ะ ไม่มีหลักการอะไรในการเลือกเลย เพราะตอนนั้นหิวละ
สรุปได้จานนี้มารวมซีฟู้ด โดยไม่ลืมปลาหมึกเพราะเป็นของขึ้นชื่อ
จากนั้นก็เอากระเป๋าไปเก็บที่พักค่ะ ที่นี่เราพักกันที่ Hakodate Park Hotel โรงแรมเล็กๆ พนักงานไม่ค่อยคล่องภาษา แต่บริการดีค่ะ ฝากกระเป๋าไว้กลับมาอีกทีเขาขนขึ้นห้องให้เรียบร้อย
สำหรับสถานีรถรางในฮาโกดาเตะมีสองสายตามนี้ค่ะ
สำหรับป้ายที่พักของเราคือ สถานี DY-13 Showa-bashi เราเดินทางไปป้อมปราการรูปดาวโดยนั่งรถรางไปลงสถานี DY-9 Goryokaku-koen-mae
วิวจากด้านบน
โถงด้านล่าง
จากป้อมปราการรูปดาวหากแฉก เราจะไปเที่ยวย่านโมโตะมาจิ (Motomachi District)
โดยนั่งรถรางสาย 5 ไปลงสถานี D21 Suehiro-cho
ย่านนี้มีที่ท่องเที่ยวหลักๆ ได้แก่ ห้องโถงอนุสรณ์สไตล์จีน (Chinese Memorial Hall), ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ (Old Hakodate Public Hall) , โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์ (Rusian Orthodox Church), สถานกงสุลอังกฤษเก่า (Old British Consulate), บ้านเก่าตระกูลโซมะ (Old Soma Residence), วัดฮิงาชิฮอนงันจิ สาขาเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate Higashi Honganji), โบสถ์โมโตมาจิโรมันคาธอลิค (Motomachi Roman Catholic Church), Motomachi Slope
แผนที่ตาม google map
แผนที่ลำดับการเดินสำหรับเป็นแนวทางค่ะ
ย่านนี้สวยๆ ไปทุกจุดเลย เราเลยเดินเรื่อยเปื่อยเลยค่ะ
พอเริ่มหิวเราก็กลับมาแถวโกดังอิฐแดงแวะร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดัง Lucky Pierrot สั่งแฮมเบอร์เกอร์กับน้ำอัดลมยี่ห้อประจำของร้าน
พออิ่มท้องก็ออกไปเดินเล่นแถวตึกแดง เสียดายมืดมากแล้ว แถมลมแรงมากด้วย
หลังจากนั้นสถานที่ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงฮาโกดาเตะ คือชมวิวบนยอดเขา เนื่องจากช่วงที่ไปกระเช้าปิด เราเลยต้องนั่งรถรางกลับไปที่สถานี Hakodate Ekimae เดินไปรอรถที่ท่ารถเมล์เพื่อขึ้นเขา
บรรยากาศตอนกำลังนั่งรถขึ้นไปคือ สวยมาก สวยมากๆ จนขึ้นไปแล้วอยากบอกว่าสวยมากจริงๆ อลังการกว่าในภาพเยอะมาก
แต่เสียดายว่าช่วงหน้าหนาว ไม่สามารถยืนดูได้เลย ต้องวิ่งออกมาดู ถ่ายรูป และวิ่งกลับเข้าในอาคาร เพราะทั้งหนาวและลมแรงสุดๆ
ภาพที่ไหวเพราะแรงลมพัดแทบปลิว แต่สวยมากจริงๆ ค่ะ
ถ้ามีโอกาสอย่าพลาดไปชมกันนะคะ
ติดตามการท่องเที่ยวของเราได้ที่ https://www.facebook.com/whenigoto
whenigo
วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.18 น.