▶️ลงจากเรือ เราก็งงๆกันเลย ต้องเพิ่งพา google map เพื่อนำทางไปยังที่พักที่เราจองไว้ล่วงหน้า (เเนะนำโหลดเเผนที่ google เเบบ off line ไว้ล่วงหน้า) ที่พักห่างจากท่าเรือราวๆ 700 เมตรเท่านั้น
▶️16.40 น.เราถึง penang hill ก็ไปซื้อตั๋วคนละ 30 RMY เพื่อขึ้นรถรางไปยังด้านบนของ penang hill เเต่............ คนเยอะม๊ากกกกกกก ถึงมากที่สุด เรายืนรอนานม๊ากกกก บอกเเล้วอย่าตกใจนะ เรายืนกัน 3ชั่วโมง เพื่อต่อคิวขึ้นรถราง ด้านบนจะมี Sky walk ให้ถ่ายรูป อยากบอกว่าสวยมากๆกับบรรยากาศ 360° ยามค่ำคืนของเมืองปีนัง Penang hill ยังมีจุดให้เที่ยวอีกเยอะมากกกก
▶️จุดๆนี้ sky walk จะเป็นจุด High light ที่ใครๆมา penang hill ต้องมาถ่ายรูปที่นี่ ไม่เชื่อลองมาเเล้วใครมาถึงที่นี่เเล้วไม่ถ่ายรูปที่นี่เราไม่เชื่อเลย ^^
▶️Penang hill เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในปีนัง รู้จักกันดีในนามของ Bukit Bendera ยอดเขาแห่งนี้มีความสูงประมาณ 833 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวเมืองปีนังและท้องทะเลโดยรอบที่สวยที่สุด โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังด้านบน มีระยะทางประมาณ 1,996 เมตร จะมีสถานีย่อยระหว่างทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมในจุดต่าง ๆ
หลังจากเที่ยว Penang hill เสร็จเราก็ต่อเเถวเพื่อที่จะลงรถรางกลับที่พัก ขากลับไม่ธรรมดาอีกต่อเเถวลงอีก 1ชั่วโมง รถเมล์รอบสุดท้ายจาก penang hill คือ 22.00 น.ถ้าไม่ทันต้องเรียก Geab อย่าเดียวน๊าาาา 😁
ตกดึกเราไปเดินย่านถนนคนเดิน Love Land กันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก
ถนนเส้นนี้มีของกินล้วนๆ 55
วันอาทิตย์ที่ 17-6-61 ตอนเช้าเราออกกันเเต่เช้าเพื่อไปเเวะกินอาหารเช้าเเละเที่ยวชมวัด kek lok si (หรือวัดเขาเต่า) ซึ่งเป็นวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาอีร์อิตัม
▶️เราใช้วิธีเดินทางเเบบเดิมคือหารถเมล์ไปลงที่ Komtra เเล้วรอรถเมล์สาย 201,202 เเต่เราเลือกสาย 203 เพราะจะไปสุดสายที่วัด kek lok si เลย ยืนรอเลนที่2 ค่ารถคนละ 2.00 RMY รถใช้เวลาวิ่งราวๆ 30 นาที เราสามารถลงหน้าวัด Kek lok si ได้เลย หน้าวัดจะเป็าคล้ายๆตลาดเช้าบ้านเรา เน้นอาหารจีนเป็นส่วนใหญ่ เราเเวะกินข้าวกันที่นี่
▶️หลังจากกินข้าวเช้ากันอิ่มเราก็ใช้วิธีเดินเท้าขึ้นมายังวัด kek lok si ระหว่างทางเดินขึ้นมีจุดถ่ายรูปเยอะม๊ากกก จุด high light ของที่นี่คือรูปปั้นเจ้าเเม่กวนอิมองค์ใหญ่ อยู่บนจุดสูงสุดของวัด การที่จะขึ้นไปนมัสการรูปปั้นเจ้าเเม่กวนอิมจะต้องเสียค่าขึ้น ลิพท์คนละ 6.00 RMY ด้วยนะ
▶️วัด kek lok si เป็นวัดจีนที่มีสถาปัตยกรรมชาวจีนเเบบ 100% ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศรอบๆวัดหรือสิ่งปลูกสร้างทำให้คิดว่าอยู่เมืองจีนจริงๆ มีสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ หอสวดมนต์ เจดีย์ หอระฆัง และสระเต่า เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี วัดแห่งนี้สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
▶️วัด kek lok si มีสถานที่ให้ถ่ายรูปเยอะมาก อยู่ครึ่งวันก็ไม่เบื่อ เชื่อไหม เพราะที่นี่มีทั้งจุดขายของฝาก เเละของที่ระลึกเยอะมาก เราใช้วิธีเที่ยวกันตามอัธยาศัยเเล้วนัดเวลาเจอกัน
▶️ตอนกลับจากวัด kek lok si เราก็มายืนตรงจุดที่เราลงรถเมล์ตอนเเรก รอขึ้นรถเมล์สาย 202, 203 เพื่อกลับไปยัง Komtra ค่ารถขากลับ คนละ 2.00 RMY
▶️Komtra เป็นศูนย์รวมการคมนาคมและช็อบปิ้ง รถเมลทุกสายจะผ่านมาที่ตึกนี้ สามารถต่อรถเมลไปยังที่ต่างๆได้จากที่นี่ ตึกคอมต้าเป็นตึกทรงกระบอกที่ดูสูงโดดเด่นกว่าตึกอื่นๆ และบริเวณรอบก็เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ด้านบนมี Sky walk สำหรับชมวิวด้วยนะ ▶️จาก komtra เรานั่งรถเมล์ฟรี (สังเกตุคำว่า CAT เเสดงว่าเป็นรถเมล์ฟรี ) นั่งมาลงใกล้ที่พักเเล้วก็เเยกย้ายกันเดินเล่น Street art ในเมือง "George Town” ลักษณะของอาคารก็จะเหมือนกับเมืองชิโน – โปรตุกีสที่ภูเก็ตบ้านเรา
จากนั้นก็เดินเเยกย้ายเก็บภาพบรรยากาศของ George Town ในแบบฉบับออเดิร์ฟกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เเต่เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันน
เมื่อรถไฟถีงหาดใหญ่เเล้วเราได้เดินไปฝากกระเป๋าที่โรงเเรม Hat yai dee hostel เพื่อที่จะเดินเล่นตลาดกิมหยงเพื่อรอเวลาไปสนามบินหาดใหญ่เพื่อกลับกรุงเทพ กราบบบบบ ขอบคุณ Hat yai dee hostel อีกครั้งครับที่อำนวยความสะดวกในการเที่ยวครั้งนี้
▶️20.30 น.รถตู้ของทาง Hat yai dee holtel ก็พาเรามาส่งที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่เพื่อกลับกทม (ดอนเมือง)