เป็นทริปเที่ยว ตปท. (ไม่ผิดใช่ป่ะ 55)ที่ไม่ได้วางแผน ไม่ได้เตรียมการมาก่อน (ปกติแต่ละทริปเราจะเตรียมล่วงหน้านาน แรมปี เพราะจะได้ตั๋วเครื่องบินและห้องพักราคาถูก ๆ อิ ๆ)
เนื่องจาก 20-23 ตุลาคม 2561เป็นวันหยุดติด 4 วัน (ลาพักร้อน 1 วัน) คิด ๆๆว่าจะไปไหนดีใจมันร้อนรุ่ม เมื่อเห็นวันหยุดยาวไม่ได้ ฮ้า ฮ้า ฮ้า
เนื่องจาก 2 ใน สมาชิกเรา จะไปเที่ยว ออสเตเลีย กะ ญี่ปุ่น ช่วงสิ้นปี ..... ชีวิตดี๊ดีหันมามองตัวเราT_T เก็บเงินต่อไปลูก ฮึบ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จึงหาข้ออ้างชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันก่อนทริปสิ้นปี แฮะ ๆ เพื่อนเห็นดีเห็นงามด้วย จึงมาลงตัวกันที่ “วังเวียง” เพราะเคยคุยกันนานแล้ว ว่าอยากไป สมาชิกได้ 3 คน .... ไปดิ ไม่ต้องคิดเยอะ ไปเอง ไปง่าย ใคร ๆ เค้าก็ไปกัน หุ หุ
วันที่ 29 กย. 61 จองตั๋วเครื่องบินขากลับจาก อุดร-ดอนเมือง ก่อนเลย เอาแบบ ไปลำบาก กลับสบาย ๆ หน่อย เพราะถ้าขากลับ นั่งรถทัวร์ จะเสียเวลาไปอีก 1 วันรวมเป็น 5 วัน จ่ายแพงหน่อย แต่ซื้อเวลาได้อีก 1 คืน ก็ยอม ป๋าป่ะ
30 กย. 61 (พอดีอยู่กับเพื่อนที่ จ.กาญจนบุรี) เลยช่วยกันหาที่พัก 2 คืนแรกเอาแบบราคาไม่แพง เพราะ วันแรกไปถึงเย็น ก็จะนอนแล้วและอีกวันก็เน้นกิจกรรมทั้งวันส่วนคืนที่ 3 เอาแพงขึ้นมานิด ขอวิวแจ่ม ๆ หน่อยก็แล้วกันที่พัก ทั้ง 2 ที่ จะเป็นอย่างไร ไว้มาเม้าส์
ตั๋วขากลับได้แล้ว ที่พักได้แล้ว สบายใจแระแต่คุณพลาด พลาดอย่างแรงแรง มากด้วย T_T เพราะ ช่วงวันหยุดยาว วังเวียงมักจะมีคนไทยไปเที่ยวเยอะ ดังนั้น ตั๋วรถ อุดร-วังเวียง (สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน ที่เบอร์ 1490) เต็ม !!!!!
เสียดายมาก ๆเพราะราคา 320 บาท ถูกและนั่งสบาย ไม่ต้องไปต่อหลายสาย ตรงถึงวังเวียงเลยแอบเซ็ง ซึ่งก็ควรเต็มแหละ เพราะมีวิ่งแค่วันละ 1 เที่ยว เองนิ >>>>ไปต่อรถที่อุดร-เวียงจันทน์ ก็ได้ เชอะ ไม่ง้อก็ได้
เลยให้เพื่อนรีบจอง ตั๋วรถทัวร์ กรุงเทพฯ-อุดรคุณพระช่วย กล้วยทอด ตั๋วหมด !! หนักกว่าตอนแรกอีกตรู หรือที่มีตั๋วก็เวลาไม่ได้อีก กรำ.....รีบดูราคาตั๋วรถไฟไปหนองคาย ชั้น 1 หมดอีก เหลือชั้น 3 ม่ายเอา กว่าจะถึงระบมตรูดแน่นอน T_T
รีบหาตั๋วเครื่องบินมีนะแต่ ก็แพงอีก คชจ.บานแระ 555 ทำไงดีหว่า เลยนึกขึ้นได้ว่า เราเคยไปเวียงจันทน์ มาแล้วนิ ลืมได้ไงจากอุดร ก็ต้องไปหนองคายอยู่ดี งั้นก็ซื้อตั๋วรถทัวร์ ไปลงหนองคายเลยแล้วกัน
แต่รถทัวร์เจ้าดี ๆ (นครชัยฯ สมบัติทัวร์) ก็หมดอีก ไรฟ๊ะ T_T จึงมาลงเอยที่ บขส.999 ลองดูจะเป็นไงหนอ ลุ้น ๆ ไม่เคยนั่งเลยอ่ะ
19/10/61 ลางาน 2 ชม. นั่งเรือจากบ้านไป bts บางหว้า (เลี่ยงการเดินทางบนถนน เพราะรถติดมาก)
การเดินทางไปหมอชิต ช่วงวันหยุดยาว ๆ ควรจองตั๋วล่วงหน้า และเผื่อเวลาเดินทางไว้ด้วยนะ ลุ้นตั้งแต่เดินทางเลย เสียวตกรถแทบแย่
ลงสถานีหมอชิด รีบนั่งวิน 60 บาท >>>>> รอดแล้วเว้ย ไม่ตกรถชัวร์
พาหนะที่เราไป ก็สภาพโอเคนะ เพื่อนเลือกนั่งชั้นล่าง มันสุดยอดมาก ๆ เพราะกว้างดี มี 8 ที่นั่ง ส่วนตัว และสามารถยึดขาได้เต็มที่ เบาะปรับได้ แม้จะไม่มีเบาะนวด หรือหูฟัง เหมือนรถหรู ๆ แต่ก็ถือว่าดีเลย คุ้มกับราคาสามารถวางกระเป๋าไว้ในนี้ได้เลย แจ่ม
20.40 น. รถออกจากหมอชิต ค่อย ๆ ขยับไป จุดหมายปลายทาง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่เหมือนกันคือ ใจ ไปถึงแล้ว อิ ๆ (ตามเวลา 6.40 น. ถึงหนองคาย มาดูกันว่าถึงกี่โมง)
มีขนม น้ำ กาแฟ แจก (แต่ไม่มีน้ำร้อนให้ชงกาแฟตอนเช้า แล้วให้ทำไมฟ๊ะ พอถาม ก็บอกว่าวันนี้ไม่มี ก็ได้หรา)
00.57 น. แวะทานอาหาร เราเลือกทานข้าวต้ม อันน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้กิน เอาน่า ราคานี้
นอนไป ยาว ๆ ZZzzzz ...... เช้าแล้ว ใกล้แล้วนิ เมื่อยขบเหลือเกิน T_T
8.38 น. ถึง บขส.หนองคาย โอ้ แม่เจ้า (12 ชม) ช้าไป 2 ชั่วโมง แถมรถเวียงจันทน์ เที่ยวแรก ออกไปแล้ว แง ๆ
พอถึงบขส.หนองคาย คุณจะเหมือนดาราดัง จะมีคนเข้ามาถาม มาเรียกไปขึ้นรถ อย่า อย่า อย่าใจอ่อน ยิ้มสวย ๆ แล้วเดินไปตู้ขายตั๋ว ของดีราคาถูก รอคุณอยู่ตรงนี้
เข้าไปถามตั๋วไปวังเวียง (เผื่อมีใครตกรถ 55) ว่ามีไหม คำตอบคือเต็ม (ถ้าขึ้นจากที่นี่จะราคา 270 บาทเอง) เลยเปลี่ยนเป็นซื้อตั๋วไปเวียงจันทน์แทน (ใช้พาสปอร์ตตอนซื้อด้วยนะ) รถจะวิ่งวันละ 6 เที่ยว (ตามภาพ)
มีเวลาเกือบ ชม. เลยหาอะไรทานแถวนั้น อร่อยดี ไม่แพงด้วย (เป็นมื้อสุดท้ายที่ได้กินของถูก 555)
ลองสอบถามราคารถสกายแลปไปด่าน (5 กิโล) คิดคนละ 80 บาท ถ้า 3 คน คิดคนละ 60 บาท แพงจัง ต้องไปซื้อตั๋วข้ามสะพานอีก 20 บาท ขึ้นรถไปตลาดเช้าอีก ถ้าไม่รีบ ก็อย่าไป อย่าไป แพงเกิ้น
9.35 น. รถมาแล้ว เป็นรถประเทศลาว
เบาะนั่งสะอาด น่านั่งดี มีหมายเลขระบุไว้ชัดเจน นั่งตามที่ระบุนะจ๊ะ
พอรถออก พนักงานสาวลาว จะแจกใบตม.เข้า-ออก ให้รีบกรอก (ปากกาให้พกมาด้วยเพื่อความรวดเร็ว) ไม่เอามาจะช้า เป็นตัวถ่วงเพื่อนร่วมรถนะเออ 555 (เพราะจากบขส ไปด่านไทย ไม่เกิน 15 นาทีถึง ถ้ากรอกไม่ทันให้กรอกแต่ขาเข้าก่อนก็ได้ ขาออกค่อยเขียนตอนกลับ)
รายละเอียดที่กรอก ก็เป็นข้อมูลในพาสปอร์ตนะแหละ ลืมถ่ายรูปด้านในมา เช่น ชื่อ-สกุล วดป เกิด สถานที่ออกพาสปอร์ต วันเริ่มต้น-หมดอายุ เดินทางวันไหน ไปเพื่ออะไร พักที่ไหน อาชีพอะไร ประมาณนี้ ไม่ยาก ๆ แต่รีบ ๆ หน่อย
ถึงด่าน ตม.ไทย ** ห้ามถ่ายรูป** ก็ลงไป ต่อคิว ตามช่องพาสปอร์ต/บัตรผ่านแดนชั่วคราว (สำหรับคนไม่มีพาสปอร์ต) สแกนเล่ม ถ่ายรูป สแกนลายนิ้วมือ และแสตมป์ จบ พิธีการด่านไทย เร็วมาก
เสร็จเดินออกไปขึ้นรถคันเดิม (จำทะเบียน จำรถไว้ด้วยหล่ะ)
******************************************
** นอกเรื่องสำหรับคนที่เริ่มต้นที่ด่าน เมื่อเสร็จ ตม.ไทย ออกมาแล้วให้ซื้อตั๋วข้ามสะพาน 20 บาท แล้วไปขึ้นรถที่จอดไว้ด้านหน้านะจ๊ะ **
รถจะหน้าตาประมาณนี้ เป็นรถร้อนนะ (นั่งแป๊บเดียว ตดยังไม่หายเหม็นก็ถึงแล้ว ชิว ๆ ไป)
****************************************
ต่อ ๆ แล้วก็ข้ามสะพานมิตรภาพไทย–ลาว 1 กัน
ไม่กี่นาทีก็ถึง ด่านลาว คนจะเยอะมาก ๆ ให้ไปต่อคิวตรวจหนังสือเดินทางก่อนเพราะจะใช้เวลานานกว่า จนท.จะเก็บใบขาเข้า และฉีกใบขาออกคืน (ให้เก็บไว้ตอนขากลับ) ถ่ายรูป แสตมป์พาสสปอร์ต เสร็จ
ระหว่างต่อคิว .... เจอคนดัง ป้าเกษ นั่นเอง ♥
แล้วกลับมา ซื้อบัตร ONE WAY TICKET (ลักษณะจะเหมือน bts บ้านเรา) วันธรรมดา 1000 กีบ (5 บาท) วันเสาร์-อาทิตย์ 12000 กีบ (50 บาท)
แล้วก็เดินไปเสียบบัตร จะเหมือนกันขึ้นรถไฟฟ้าบ้านเราเลย แค่เข้าช่องให้ถูกแล้วกัน ว่าช่องไหนพอ
เมื่อเดินออกมาก็ถึงเวลา แลกเงินกีบ และซื้อซิมเน็ต ราคา 100 บาท เล่นเน็ตได้ 1 GB (เล่นเน็ตได้ 5 วัน) ซื้อเหอะไม่แพง เอาไว้ยามจำเป็น ฉุกเฉิน จะได้โทร line หากันได้ หรือ up รูปสวย ๆ ลงเฟส อิ ๆ
ก่อนแลกเงินกีบ คำนวนเงินที่จะใช้ดี ๆ นะ เพราะจ่ายด้วยเงินกีบ จะประหยัดกว่าจ่ายเงินไทย วันนี้เรา 3 คน ไป 4 วัน แลกไป 8000 บาทไทยก่อน ไม่พอค่อยไปหาแลกเอาเพิ่มหรือใช้เงินไทยจ่ายได้หมด
***********************************
***นอกเรื่อง ถ้าใครมาเอง ตรงนี้จะสามารถจับกลุ่มกันเหมารถตู้ไปวังเวียงได้เลย ต่อรองราคากันเอง เพราะจะมีคนรุมมาหาคุณเยอะแยะ แต่ถ้าใจแข็งพอ ก็เดินไปขึ้นรถสาย 14 ไปตลาดเช้า แล้วต่อรถสาย 8 ไป ขนส่งสายเหนือ แล้วไปซื้อตั๋วรถตู้ไปวังเวียงได้เหมือนกัน ****
************************************
มาต่อเรื่องของเราก่อน พอคนครบ ก็นั่งรถไปประมาณ 40 นาที ลงตรงไหนก็ไม่รู้ลืมถามพนักงานมาด้วย
พอลงจากรถ จะมีคนมารุมเรา ถามไปไหน พอบอกวังเวียง เข้าทางพวกเค้าเลย เพราะจะมีคนไปวังเวียง เยอะมาก มีคนร่วมชะตากรรมแบบเรา 15 คน ราคาแต่ละคนที่เค้าแจ้งไม่เท่ากัน บางกลุ่มบอก 300 บาท 350 บาท บางกลุ่มบอก 80000 กีบ ส่วนของเรามากระซิบ บอก 320 บาท จึงตกลงไป (ตอนแรกจะเดินไปขึ้นรถสาย 8 ไปขนส่งสายเหนือ) เจอคนพวกนี้ ลากกลับมาอีก 5555 เรียกว่า ปลาติดเบ็ดแล้ว จะปล่อยไปไหนไม่ได้
แล้วต้อนพวกเราขึ้นรถมาจากตรงนั้นไปอีกนิด เพื่อต่อรถตู้ อัดไป 15 คน แม่งพอดีเลยนะ พอขึ้นไป เก็บคนละ 350 บาท (90000 กีบ) สาดดดด โวยดิ บางคนบอก ไหนบอก 80000 กีบ เราก็บอก 320 บาท
มันไม่ยอมไง จะเอา 90000 กีบให้ได้ ลายออก จากดี ๆ กลายเป็นหน้าดุ แถมถามกลับใครบอก ๆ ใครจะจำหน้าได้ เพราะเมิงเล่นขับรถพาพวกเราออกมา จะชี้ตัวคนแจ้งราคาก็ไม่ได้ เซ็งเลย ทุกคนเลยต้องยอมจ่ายไป หุ หุ หุ (มาสอบถามบนรถ คนขับรถตู้ได้ คนละ 200 บาท คนพวกนั้นได้ 150 บาทฟรี ๆ กินค่าหัวแพงไปนะ)
นั่งรถไป เกือบ 2 .30 ชม. แวะปั๊ม ทานอาหารเล็กน้อย พอประทังหิว
ระยะทาง จากเวียงจันทน์ - วังเวียง แค่ 157-160 กิโล แต่ถนนไม่ค่อยดี เป็นทางโค้ง ขึ้นเขา เราใช้เวลา 5 ชม. ถึงวิงเวียง เฮ้ย วังเวียน เล่นเอาเวียนหัวไปเลย ใครเมารถให้กินยาแก้เมาให้เรียบร้อย ไม่งั้นแย่แน่
17.00 น.ถึงที่พัก ก็เช็คอิน ปรากฏว่าห้องที่จองไว้ 3 คน ไม่ว่าง นักท่องเที่ยวไม่ยอมออก ทาง รร.เลย แก้ไขปัญหา upgrade เป็นห้อง 2 คน 2 ห้องนอน อยู่ชั้น 3 สามารถมองเห็นวิว ได้ชัดเจน
คืนแรกให้นอนไปก่อน อีกคืนค่อยได้ห้องที่จองมา เราโวยไปเหมือนกัน แต่ก็ต้องเอา เพราะได้กำไร 55
พอไปเห็นห้อง ก็โอนะ ไม่ต้องแย่งเข้าห้องน้ำ แถมวิว ก็สุดยอด คุ้ม ๆ (ห้องพักมีผ้าขนหนู สบู่ ให้ ไม่มีทีวี ตู้เย็น ส่วนน้ำดื่ม+กาแฟ+ กล้วย บริการฟรีทั้งวันแต่ต้องลงไปทานข้างล่าง)
ระเบียงหน้าห้อง
ห้องกลาง สามารถนั่งเล่น นอนเล่นได้
เอากระเป๋าเก็บ ล้างหน้า ล้างตา ลงมาดูทัวร์สำหรับพรุ่งนี้ โปรแกรมทัวร์เราเล็งไว้ก่อนมาแล้ว ที่นี่ขาย 160000 กีบ แพงมากกกก ** ขอเตือนอย่าจองทัวร์กะทางโรงแรมทุกที่ ให้เดินหาเองตามร้านขายทัวร์ มีมากมาย ก่ายกอง ตามถนนและราคาจะถูกกว่า รถขากลับก็เช่นเดียวกัน จองผ่าน รร.350 บาท จองผ่านทัวร์ 200 บาทมารับถึง รร.
เดินออกมาสักพัก เจอร้านน้ำทิพทัวร์ (อ่านจากรีวิวมาว่าบริการดี) เข้าไปถามก็ไม่ผิดหวัง ทัวร์ one day trip ที่เราต้องการ (ตัด zipline ออกเพราะกลัว) ราคา 120000 กีบ จ่ายเลย แล้วไปหาอะไรทานดีกว่า
จัดหน่อย เดี๋ยวมาไม่ถึง
มา สปป.ลาว ต้องไม่พลาดส้มตำ กับหมูแดดเดียว อร่อยมาก ๆ (คงจะสาดผงนัวไปเยอะ 55)
หลังมื้อเย็น ว่าจะไปต่อบาร์ แต่ฝนตกหนัก ไฟดับ แถมปวดหัวด้วย เลยกลับห้องนอนดีกว่า เพลีย จากการเดินทาง ที่ยาวนาน 21 ชม. หัวถึงหมอน หลับสนิท ZZZzzzz
เช้าแรก ที่วังเวียง
ที่พักไม่มีอาหารเช้าให้ แต่ไม่จำเป็นเลย เพราะไม่ไกลจากที่พักมีตลาดเช้า ให้เดินเล่น
ชาวบ้าน จะนำผัก ผลไม้ ปลา มาวางขาย มากมายตาม 2 ข้างถนน
มาสะดุด กับแผงนี้ ตอนแรกคิดว่าลูกหมู แต่พอถามแล้ว คือ ตัวตุ่น น่าสงสาร T_T
สำหรับคนตื่นเช้า สามารถใส่บาตรได้นะ
กองทัพเดินด้วยท้อง เติมพลังก่อนไปทัวร์ 8.30 น.
(ก่อนไปทัวร์ แจ้งกับ จนท.ว่า ต้องย้ายห้องไหม จะได้เก็บของ หรือจะให้นอนห้องเดิม เพราะจะไปทัวร์ จนท.ฟังไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง (เป็นคนจีน) ส่วนอีกคนที่รับจองยังไม่ตื่น ได้แต่พยักหน้า ก็เลยไม่ได้เก็บของ)
โปรแกรมทัวร์เต็มวัน เริ่ม 8.30 น. - 17.00 น. (รับ-ส่ง ที่พัก)
ทัวร์ 120000 กีบ หรือ 450 บาท มีอะไรบ้าง 1. ถ้ำช้าง 2.เดินผ่านทุ่งนา 3.นั่งห่วงยางที่ถ้ำน้ำ 4.ทานอาหารกลางวัน 5.พายเรือคายัค 8 กิโล 6.บลูลากูน1
1.ถ้ำช้าง จะแวะไหว้พระ และถ่ายรูปหินเหมือนช้าง 5-10 นาทีเสร็จ
2.เดินผ่านทุ่งนา มาช่วงนี้กำลังสวยพอดี สดชื่นดี
เกี่ยวเสร็จแล้วก็มี ^_^
ทางเดินก็สนุกดี มีปีนบ้าง อะไรบ้าง
ถึงจุดที่จะปล่อยลงน้ำ จนท.จะให้ฝากกระเป๋า ไว้ที่นี่ไม่ให้เอาไป (มีคนดูแลให้) สามารถนำมือถือใส่ซองกันน้ำไปได้ แต่ต้องรับผิดชอบเอง และจะสวมไฟฉาย ครอบศีรษะ ให้ทุกคน เพราะภายในถ้ำจะมึดมาก
ส่วนใครที่ใส่แว่นสายตา ก็ไม่ต้องกลัว เพราะเค้าจะมีสายรัดแว่นให้ฟรี อิ ๆ
จากนั้นก็เดินรับห่วงยางคนละห่วง
3. นั่งห่วงยางเข้าถ้ำน้ำ
สาวไปตามเชือก น้ำเย็นมาก
จากนั้นก็รอดเข้าถ้ำ ภายในถ้ำน้ำ ก็จะสวยดี มีน้ำหยด มีหินงอก หินย้อย มีน้ำในถ้ำเชี่ยว ไหลแรง บางจุด ตื้น บางจุดลึก ... ทำให้นึกถึงหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดถ้ำเลย
ผ่านจุดตื้นก็ต้องเดิน โดยรวมสนุกดี และก็ไต่เชือกกลับทางเดิม
ออกจากถ้ำ แม่เจ้า คนรอเข้าเยอะมาก แต่นี่ทัวร์เจ้าไหนหนอ ดีจัง มีหมวกใส่กันกระแทกด้วย ดีอ่ะ
ออกจากถ้ำมา คืนอุปกรณ์ มีอาหารวางรอไว้แล้ว
4.ทานอาหารกลางวัน
และเดินกลับทางเดิม ไปกิจกรรมต่อไป
5.พายเรือคายัค ระยะทาง 8 กิโลเมตร จนท.จะสอนการพายเรือให้ ก่อนลงเรือ ถ้าใครพายไม่เป็น สามารถไปกับไกด์ได้ (ถ้าว่ายน้ำไม่เป็น และไม่เคยพายแนะนำให้ไปกับไกด์ดีที่สุด หึ หึ )
เราไม่ได้ไปกับไกด์ เลือกพายเอง ลุยดิ กลัวอะไร อือ ของมีค่าให้ใส่กระเป๋ากันน้ำ (ถ้าไม่มี ทางทัวร์มีให้ยืม) แต่ดีที่สุด นำของติดตัวมาให้น้อยที่สุดจะดีกว่า ชุดแนะนำให้ใส่แขนยาว ขายาว หมวก ครีมกันแดดพร้อม เพราะพายตอนเที่ยง ๆ บ่าย ๆ กลับมาดำปี๊เลย
แม่น้ำซอง มีเชี่ยวเป็นบางช่วง ปล่อยพายถ่ายรูปทีไร เรือเข้าป่าหลายรอบเลย 55
พายได้สัก 40-50 นาที แวะบาร์น้ำ 30 นาที สั่งอะไรกินได้ (แต่กินไม่ทันไกด์มาเรียกแล้ว หุ หุ อย่าสั่งเยอะ)
ช่วงที่รออาหาร เดินไปถ่ายรูปบนสะพาน
ได้เวลาก็ไปต่อ
รอบนี้ เราได้เรือลำใหม่ ไม่ใช่ลำเดิม คิดว่าลำไหน ก็พายได้เหมือน ๆ กัน แต่คุณคิดผิดถนัด !!
เริ่มสตาร์ท ออกจากจุด ก็รู้สึกแปลก ๆ เรือเอียงตลอด ๆ บอกเพื่อนให้นั่งตรง ๆ เพื่อนบอกกุนั่งตรงแล้ว 55 พายได้สักพัก เอียงไป เอียงมา พอมีเรือเครื่องสวนมา น้ำเข้าเรือ แถมฝนตกซ้ำ น้ำในเรือยิ่งเพิ่ม
ยิ่งพายยิ่งยาก เวลาผ่านช่วงน้ำเชี่ยว ๆ เรือเกือบล่มหลายครั้ง ต้องประคองเรือตลอด เกร็งหน้าท้องไปหมด .... จนไม่ไหวแล้ว ตะโกนบอกเพื่อนอีกลำ ว่าเรือมีปัญหา น้ำปริ่มแล้ว ไกด์ในเรือเพื่อน บอก ให้พายไปจอดริมตลิ่งข้างหน้า
โชคดีที่มีเรือลำสุดท้ายพายปิดท้ายมา จึงแจ้งไกด์ในเรือ ให้ช่วยประคองเรือ แล้วไปด้วยกัน ณ ตอนนี้ เกลียดช่วงน้ำเชี่ยวมาก ๆ 555
จนถึงริมตลิ่ง ไกด์ ก็นำน้ำออกจากเรือ
2 ลำผู้มีพระคุณ
แค่คว่ำเรือ น้ำยังไม่หมด มันต้องยกตั้ง โห !!! รอน้ำออกอีกหลายนาที มิน่าหล่ะ เรือรั่ว น้ำเข้าเรือ ทำให้เอียงไป เอียงมานี่เอง
พอนำน้ำออกหมด ก็พายต่ออีก 10 นาที ถึงจุดหมายปลายทาง เฮ้อ เกือบทำให้เพื่อนต้องเกิดอุบัติเหตุแล้ว หายใจยาว ๆ โล่งอก
จากนั้นก็นั่งรถต่อไปอีก 5 กิโล ไปสถานที่สุดท้าย
อือ ปกติทางนี้ ฝุ่นจะมีตลอดทาง ให้เตรียมผ้าปิดจมูกมาด้วย แต่ว่าวันนี้ ฝนตกตลอด เลยสบายไป
6.บลูลากูน 1 (ไม่ต้องเสียค่าเข้า 10000 กีบ เพราะรวมอยู่ในทัวร์แล้ว) ปัจจุบัน มี บลูลากูน 2 และ 3 แต่อยู่ไกลจากตัวเมืองวังเวียง มีเรือคายัคให้พาย สระจะใหญ่กว่า คนจะน้อยกว่า ที่นี่
พอไปเห็น โห คนเยอะมาก เรามาเย็นแล้ว น้ำคงขุ่น แต่มันสีเขียวนะ บลูตรงไหนหนอ 55
ลงเล่นน้ำได้สักพัก เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง 55
เล่นเสร็จก็ไปนั่งรถบนรถเล่นเน็ตดีกว่า *คหสต. นะ สระมรกต จ.กระบี่ หรือน้ำตกเอราวัณ บ้านเรา น้ำใสกว่าเยอะเลย ภาพบางภาพในโซเชียล ก็แต่งซะ ... (จริง ๆ น้ำไม่ได้เขียวขนาดนี้นะ พอถ่ายออกมา แหมขึ้นกล้องเชียว ถ่ายรูปขึ้นนะเรา) แต่ถ้ามาแล้ว ก็ต้องไม่พลาด 55
17.00 น. จบโปรแกรม ทัวร์ส่งโรงแรม อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า หาอะไรทาน หิวมาก
เย็นนี้ฝากท้องกับร้านเดิม เพราะติดใจหมูแดดเดียว ส้มตำ และไส้อั่ว ขอบอกอร่อยมาก ๆ
สงสัยจะใช้พลังงานเยอะ มื้อนี้จัดไปเกือบ 2 แสน รวยแท้เรา
ท้องอิ่ม แต่ร่างกายแย่ 555 เราปวดไหล่ ปวดแขน เพื่อนปวดหัว เราจึงไปนอนนวด ส่วนเพื่อนกลับเข้าห้องพัก พอกลับเข้าห้องพัก จนท.คนที่รับจอง บอกว่า ถ้าจะนอนต่อ ต้องจ่ายเพิ่ม 100000 กีบ เพื่อนเลยเก็บข้าวของ และย้ายไปห้องที่เราจองมาใน booking ห้องที่จองมา เป็นห้องนอน 3 คน อยู่ชั้นล่าง
ห้องรกไปหน่อย เพราะเพื่อนรีบย้ายห้อง ยัดอะไรได้ก็ยัด กลัวเสีย 1 แสนกีบ 555
นอนเล่นเน็ตได้สักพัก มองหน้ากัน มาวังเวียงทั้งที ต้องโดนดิ อยากรู้ว่าวัยรุ่นเค้าทำอะไรกันตอนดึก ๆ
ไม่บอกคงจะทราบกันดีคือ ต้องไม่พลาด บาร์ชื่อดัง ซากุระบาร์ (ติดใจ มา 2 คืนติดเลย 55)
ทุกคืนเวลา 20.00-21.00 น. จะมีช่วง free drink จัดเลย ของฟรี
ช่วงหัวค่ำคนยังไม่เยอะ แต่พอดึก ๆ คนเยอะ สนุกดี มาดูฝรั่งเต้น เพลินดี
ทั้งเหล้า ทั้งเบียร์ ตีกัน มันเลยคืนนี้ 55
ราตรีสวัสดิ์ ไม่ได้เข้าบาร์มานานเท่าไหร่แล้ว ก็ดีนะ ดีกว่าที่ไทยเยอะเลย ถูกและดี ถ้าใครมาห้ามพลาดเชียว
เช้าวันใหม่ เมื่อคืนย้ายห้องตอนมึด พอตื่นเช้ามา เปิดม่านแทบกรี๊ด
วิวสวยมาก ๆ จากห้องพัก สวยกว่าห้องเมื่อวานอีก ติดตรงที่เตี้ยกว่า
ริมแม่น้ำซอง
เช้า ๆ สดชื่น และสวยมาก
เสียดาย จองที่นี่ไม่ทันห้องเต็ม
พอสาย ๆ ก็เช็คเอ้าท์ ย้ายที่นอนกัน วันสุดท้ายยอมจ่ายแพงหน่อย เอาวิวสวย ๆ (ตอนแรกคิดว่าที่แรกจะไม่ดี เลยจองแค่ 2 คืน เสียดาย)
ที่พักใหม่ ไม่ไกลจากที่เดิม เดินไปแค่ 100 เมตร ก็ถึงแล้ว 555 เดินผ่านหน้า รร.ทุกวัน ฝากกระเป๋า และเดินไปร้านทัวร์ จองรถตู้ขากลับ แล้วไปเช่าจักรยานปั่นกัน
ร้านเช่าจักรยาน ให้ถามหลาย ๆ ร้านนะ เจอร้านแรก 25000 กีบ/วัน ร้านนี้ 15000 กีบ เลยเช่า 2 คัน ปั่นไปถ้ำจังกัน
วิวที่ปั่นมา ก็สวยงาม มีชันบ้างบางช่วง แต่พวกเราก็ปั่นมาจนถึง จ่ายค่าข้ามสะพานคนละ 2000 กีบ
สะพานสีส้ม กับภูเขาสีเขียว เข้ากันที่สุด
สวย ๆ คนเยอะ แต่สักพัก ฝนตก นักท่องเที่ยวเลยหนีฝนกันหมด
และเข้าถ้ำ จ่ายค่าเข้าคนละ 15000 กีบ
ติดฝน แต่ก็ไม่เบื่อ เพราะวิว แหละหมอกสวยมาก ๆ
จากนั้นก็ปั่นกลับที่พัก เปลี่ยนร้านทานอาหารเย็น sakura restaurant อยู่ตรงข้าม รร. amari ที่นั่งดี อาหารอร่อยมาก ๆ ราคาไม่แพงด้วยนะเออ
เฝอชามใหญ่มาก ๆ ไม่รู้คิดว่าเล็ก สั่งมา 2 ชาม ป๊าด เหลือเลย
พิชช่า ที่นี่ก็อร่อย ถูกกว่าที่ไทยอีก 30000 กีบ หรือ 120 บาทไทยเอง
ท้องอิ่ม เรียกน้องเด็กเสริฟ มาสอบถามเรื่องสถานที่เที่ยวกลางคืน ว่ามีที่ไหนเด็ด ๆ บ้าง นอกจาก ซากุระบาร์ ได้ความว่า Viva Pub อีกที่ (น้องพูดไป ตาเป็นประกาย มีความสุขมาก ๆ 555 น่ารักดี) คุยกันอยู่นาน เสียดาย ถ้าอยู่ต่ออีกคืน วันออกพรรษา จะมีร้านริมแม่น้ำ เปิดให้จองที่นั่ง และเต้นกันมันส์มาก ๆ ตั้งแต่ดึกจนสว่าง เสียดาย ๆ
และก็ไปเที่ยวซากุระบาร์ อีกรอบ มาแล้วนิ 55 เอาให้คุ้ม และเข้านอน พรุ่งนี้ ต้องกลับบ้านแล้ว ZZZzzzz
เช้าสุดท้ายที่ วังเวียง
ห้องพักเราอยู่ชั้น 3 นะ ห้อง 309 ดีนะ ห้องริม วิวสวย มากกกก แถมติดกับห้อง entertain สามารถ นั่งดื่ม กินบนนี้ได้ด้วย (ส่วนชั้นลอย ตอนนี้ปิดไม่ให้ขึ้น เพื่อความปลอดภัย)
วิวสวย ๆ ด้านหน้าคือ จำปาลาวบังกะโล จองไม่ได้ ได้เห็นก็ยังดี
ที่พักที่นี่ คือ Mountainview Riverside Boutique Hotel ต้องถอดรองเท้าด้านหน้า เดินเท้าเปล่า เข้า รร. จึงทำให้ สะอาดดี
บอลลูนมาอีกแล้ว
7.00 น. ลงไปทานอาหารเช้า (ไม่อร่อย กินที่ถนนพวกข้าวเปียกเส้น ข้าวต้มอร่อยกว่า) ถือว่าซื้อวิว
เช็คเอ้าท์ รอรถตู้มารับ 8.40 น. วนรับคน จนครบ 9.00 น. พอดี เดินทางสู่ เวียงจันทน์
ระหว่างทาง ก็ลุ้นว่าจะทันเครื่องไหม (เสียวไง ไม่เคยมา กลัวรถติด กลัวโน่นนี่) ดูนาฬิกาตลอด ๆ
แล้วก็จนได้..... รถยางรั่ว T_T เพิ่มความเสียวให้ตรูอีก เวลายิ่งน้อยอยู่
แวะพักรถ เหมือนขามา และส่งที่ สนามกีฬา เมื่อลงรถก็จะเป็นดาราอีก จะมีคนมารุม เรารีบไง ต้องเหมารถไปส่งด่าน ลุ้นตลอด เพราะรถติด
ถึงด่าน ก็แลกเงินคืน ดำเนินพิธี ตม. ลาว กลับเองแล้ว ต้องซื้อตั๋วข้ามสะพาน รอรถมารับ ลุ้น ๆ พอถึงด่าน ตม.ไทย จะมีรถแท็กซี่เยอะแยะ มาเรียก อย่าสนนะ ให้เดินออกมา จะเจอรถตู้อุดรแก้วทัวร์ จอดอยู่
เรามาถึง 14.40 น. พอดีเลย รีบเอากระเป๋า ขึ้นรถ รถออก 14.45 น. มีเป็นรอบ ๆ นะคะ ตามเที่ยวบินต่าง ๆ
ขึ้นรอบนี้ จะถึงสนามบิน 16.00 น. รอดแล้วเย้ เพราะต้องเผื่อเวลาโหลดกระเป๋าด้วย
ถึงสนามบิน ก็หิวสิ ประหยัดหน่อย ก็มาม่าคัพ 30 บาทเอง ถูกกว่าหลาย ๆ สนามบิน
บ๊ายบาย อุดร หนองคาย เวียงจันทน์ วังเวียง แล้วเราจะกลับมาใหม่นะ
ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด ถ้าวางแผนดี ๆ จองตั๋วเครื่องบินช่วงโปรฯ จองรถทัวร์ อุดร-วังเวียง ได้ทัน รับรอง 4 พันบาทสบาย ๆ ที่พัก คืนสุดท้าย ไม่ต้องนอนหรอก ไปนอนที่อื่นที่ถูกกว่า ก็สามารถเที่ยว ตปท.ได้แบบสบายกระเป๋า
** เพิ่มเติม 4/11/18 เราจองที่พักผ่าน booking แบบโปรฯ เพื่อนแนะนำเพื่อน คนจองได้คืน 550 และคนแนะนำได้คืน 550 รวมได้เงินคืน 1100 บาท ดังนั้นค่าที่พักคืนที่ 3 จ่ายไปแค่ 1273.41-1100=173.11 บาท กรี๊ด ถูกเว่อร์ 55
*** สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริปคนละ 4889.67-366.67= 4523 บาท สบายกระเป๋า อิ ๆ บาย จบแล้วจริง ๆ จ๊ะ
แตงโมเนื้อทราย
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.07 น.