สวัสดีเพื่อน ๆ Readme นะค้า วันนี้ลาเต้ปั่นเย็น ๆ มีรีวิวที่พักเก๋ ๆ มาแนะนำกัน
กับสถานที่ยอดฮิต ใกล้กรุงฯ อย่าง...อัมพวา...เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านในที่นี้ เคยไปเยือนมาแล้วอย่างแน่นอน
" The Buffalo Amphawa " เป็นรีสอร์ตริมแม่น้ำแม่กลองสุดชิค ที่ตกแต่งสไตล์ลอฟท์
ผสมผสานความเป็นศิลปะท้องถิ่นเข้าไป ด้วยงานฝีมือที่เก๋จนน่ทึ่ง ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวา
ด้วยการเดินทางเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาที ตามลาเต้ปั่นเย็น ๆ ไปเที่ยวอัมพวาด้วยกันดีกว่าค่ะ Let's GO !!
ฝากเพจน้อย ๆ ของลาเต้ปั่นเย็น ๆ ไว้ด้วยนะค้าา
https://www.facebook.com/coolpartiew/
เชิญชมคลิปสั้น ๆ ที่ The Buffalo Amphawa กันเป็นน้ำจิ้มก่อนละกันนะค้าา
The Buffalo Amphawa เป็นรีสอร์ตริมแม่น้ำแม่กลอง ห่างจากตลาดน้ำอัมพวา เพียงแค่ 6 กิโลเมตร
ที่นี่นอกจากจะมีที่พักแสนเก๋แล้ว ยังมีโซนร้านอาหารและคาเฟ่ริมน้ำอีกด้วยค่ะ
เดี๋ยวราจะมาดูในส่วนของที่พักกันก่อนนะคะ ซึ่งโซนนี้จะเป็น Private zone สำหรับแขกผู้เข้าพักเท่านั้นค่ะ
หลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว พนักงานนำรก Buggy มารับ แล้วพามาเชคอินที่ Lobby
รีสอร์ตที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ งานคราฟต์ ไม้ไผ่สาน งานฝีมือที่สวยมาก
เป็นรีสอร์ตที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ยากจะหาใครเหมือนค่ะ
ดีเทลเล็ก ๆ ที่สื่อให้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มุมให้ถ่ายภาพมีเยอะมาก
สาว ๆ มาเที่ยวที่นี่รับรอง มีรูปอัพลงโซเชียลกันยาว ๆ เลยค่ะ
จากนั้นพนักงานพาเราไปที่ห้องพัก รอบ ๆ รีสอร์ต เต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นเย็นสบาย
มีมุมให้นั่งพักผ่อนอยู่มากมายเชียวค่ะ มองไปทางไหนก็ชื่นใจ
ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 4 ประเภท
1. Standard
2. Superior
3. Deluxe
4. Suites
อาคารรายล้อม และมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางค่ะ
ห้องพักของเราวันนี้คือ Suites ห้องพักประเภทสูงสุดของที่นี่
ตัวตึกเป็นปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ ดีไซน์เก๋ ๆ ด้วยการแทรกกิมมิคเล็ก ๆ ลงไปได้อย่างลงตัวทีเดียว
เปิดประตูเข้าไปส่วนแรกที่พบคือ ห้องนั่งเล่นค่ะ การตกแต่งยังคงคอนเซปต์เดิม งานฝีมือ งานไม้ที่สวยมาก
อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้มีให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะ กระเป๋าสาน มินิบาร์ ชา กาแฟ
โซฟานั่งพักผ่อน หมอนอิงเพียบบบ...สัญลักษณ์ที่เห็นอยู่ทั่วไปของที่นี่คือ " ควาย "
สมกับชื่อโรงแรม The Buffalo Amphawa
เพดานสูงโปร่ง โล่งสบาย ทำให้ดูไม่อึดอัดค่ะ โคมไฟจากงานสานแบบแฮนด์เมด ดูมีดีเทลมาก
ลำโพง Marshall ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือของเราได้เลย
เดินผ่านประตูเล็ก ๆ เข้าไปยังห้องนอน ฟากฝั่งหัวเตียงตกแต่งด้วยว่าวจุฬาและปักเป้า
ที่สะท้อนความเป็นตัวตนและวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวสมุทรสงครามได้เป็นอย่างดี
ฝั่งปลายเตียงมี LCD TV และโต๊ะทำงาน
ที่ชอบมาก ๆ อีกมุมหนึ่งในห้อง Suites คือ โซนโต๊ะทำงาน สามารถเปิดกระจกสัมผัสธรรมชาติ
ได้มาเที่ยวแล้ว ยังได้นั่งคิดงานเพลิน ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าจบ ครบ ที่เดียว
ในโซนของห้องนอนนี้จะมีตู้เสื้อผ้าไม้เก๋ ๆ เสื้อคลุม ตู้เซฟ ร่ม ด้วยนะคะ
ห้องน้ำกว้างขวาง สีสบายตา แบ่งโซนเปียก โซนแห้งได้ดีค่ะ อ่างล้างหน้ามี 2 อ่าง ไม่ต้องแย่งกันใช้
Amenities kit มีให้ครบครัน ไม่ต้องเอาอะไรมาเลยจ้า สะดวกสบายสุด ๆ ไปเลย
อีก 1 มุมที่ปลื้มมากคือระเบียงด้านหลัง มีมุมนั่งพักผ่อนสำหรับ 2 ท่าน รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว
แถมมีอ่าง Bath tub สีทองแดงแบบวินเทจให้นอนแช่ ตีฟองกันฟินส์ ๆ อีกด้วย
ฉีกแนวห้องพักแบบธรรมดา ๆ ไปอีกค่ะ ได้ชาร์จแบตชาร์จพลังกันเต็มที่ไปเลย...
เดินออกจากประตูห้องมา เป็นโซนสระว่ายน้ำ
สีจะดูแปลกตาไปสักหน่อยนะคะ ด้วยการดีไซน์ที่อยากให้เหมือนแม่น้ำในคลองอัมพวา
แขกที่เข้าพักจะได้ซึมซับบรรยากาศแบบท้องถิ่นได้เต็มที่ เตียงริมสระก็มีหลากหลาย
เลือกนอนกลิ้งไป กลิ้งมาได้ตามใจชอบเลย...แขกส่วนมากที่มาพักในวันที่เราไป
เป็นครอบครัวที่มีเด็กค่ะ เล่นน้ำกันครื้นเครง มีความสุขมาก ๆ
ต้นไม้และมุมนั่งเล่นเยอะ...ร่มรื่นดีจัง
ต่อไปเรามาดูโซนที่คนนอกสามารถมาใช้บริการได้บ้างนะคะ
เป็นโซนร้านอาหารและคาเฟ่ จะเห็นได้ว่าพื้นที่กว้างมาก เด็ก ๆ มา ได้วิ่งเล่น ดูควาย มีความสุขมาก ๆ เลยนะเราว่า
เราขอรีวิวในส่วนของ The Buffalo Cafe กันก่อนนะคะ โซนนี้จะเป็นคาเฟ่ริมน้ำ
ให้บริการพวกเครื่องดื่มและเบเกอรี่ มีให้เลือกนั่งทั้งโซน Indoor และ Outdoor
แน่นอนว่าเราต้องนั่งด้านนอกอยู่แล้ว ถ้ามาช่วงเย็นๆ บรรยากาศน่าจะชิลล์มาก
The Buffalo Cafe เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
เมนูที่เราสั่งคือ ลาเต้อาร์ต รูปควาย กรี๊ดดดมากกกค่ะ น่ารักมาก ส่วนเบเกอรี่อร่อยทุกเมนูค่ะ
แนะนำเลยว่าต้องลอง...แก้วกาแฟที่ใช้ เป็นแก้วดินเผาทำมือ ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น
บรรยากาศช่วงค่ำของที่ The Buffalo Cafe
นอกจากจะได้มาจิบเครื่องดื่ม ทานเบเกอรี่อร่อย ๆ แล้ว ที่นี่ยังมี The Buffalo House บ้านของเจ้าควายแคระ 2 ตัว กะทิ กับ กะลา ที่ใคร ๆ ก็อยากมาหา เรียกได้ว่ามาที่นี่ครบ จบที่เดียว อย่างที่เราบอกว่า แขกที่มาเยือนที่นี่ส่วนมากเป็นแบบครอบครัวที่มีเด็ก เด็กในเมืองยากนักที่จะได้สัมผัสบรรยากาศวิถีชุมชนแบบนี้ มาที่นี่เราว่าน่าจะได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ใกล้กรุง ฯ เดินทางง่ายสะดวก แถมประหยัดเวลาอีกด้วยค่ะ
ส่วนสุดท้าย The Buffalo Restaurant ตัวอาคารรูปดอกกุหลาบ ที่ตั้งของ ร้านอาหาร Rusty Rose เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น. เป็นร้านอาหารริมน้ำที่อลังการงานสร้างมาก ดีไซน์เก๋ แปลกตามากค่ะ
ด้านในตกแต่งด้วยงานไม้ไผ่ งานฝีมือที่ละเอียดมาก ทำได้ดีมาก ๆ ค่ะ อาหารจะอร่อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับรสชาติเพียงอย่างเดียว ถ้าสถานที่สวย บรรยากาศดี เราว่าอาหารมื้อนั้นจะอร่อยมากขึ้นไปอีกค่ะ สวยจริง ๆ ต้องมาลองสักครั้ง
เมนูแรกวันนี้คือ สปาเก็ตตี้เส้นดำขี้เมาทะเล รสชาติจัดจ้าน โดนเด่นน่าทานเพิ่มขึ้นเพราะมีกุ้งแม่น้ำตัวเขื่องด้วย
หมูสามชั้นทอดน้ำปลา เป็นเมนูง่าย ๆ ที่หาทานได้ไม่ยาก แต่ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มแจ่วที่เสิร์ฟเคียงคู่มานี่ล่ะค่ะ หมูสามชั้นทอดร้อน ๆ น้ำจิ้มเข้มข้น เผ็ด ๆ โอ้โห เด็ดจนลืมอ้วนไปเลยค่ะเมนูนี้
มาแม่กลองไม่มีปลาทูเหมือนมาไม่ถึง ปลาทูซอสลำพู ปลาทูทอดกรอบ ๆ มีซอสไว้ราดเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่
ข้าวผัดเกลือกุ้งแม่น้ำ รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ ทานคู่กับกุ้งเม่น้ำตัวโต ๆ เนื้อเด้ง ๆ เพลิ๊นเพลิน
ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศครีมข้าวแช่ เนื้อไอศครีมกะทิผสมกับน้ำอบข้าวแช่ ได้ความหวานจากน้ำตาลโตนด โดยไม่มีส่วนผสมจากนมและเนย เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงเป็นถ้วยเล็ก ๆ ที่มีลูกกะปิทอด ปลาหวาน หัวไชโป้วผัดหวาน ที่ให้เราเลือกใส่ได้ตามใจชอบค่ะ
ดินเนอร์มื้อนี้อิ่มหนำสำราญ...อร่อย แถมบรรยากาศดีอีกด้วยค่ะ
ถ้ามาช่วงเย็น ๆ อยากสัมผัสบรรยากาศโรแมนติก ริมแม่น้ำล่ะก็ สามารถเลือกนั่งด้านนอกได้เลยค่ะ นอกจากจะเป็นโซนร้านอาหารแล้ว ยังมีบาร์ริมน้ำให้นั่งชิลล์กันอีกด้วย
บรรยากาศช่วงเช้านี่แบบเย็นสบาย นั่งจิบชา กาแฟ ระเบียงหลังห้อง เปิดเพลงฟังเบา ๆ คือดีค่ะ บอกเลย !
กิจกรรมดี ๆ อีกอย่างของที่นี่คือใส่บาตรค่ะ ช่วง 7 โมงเช้าจะมีพระมาบิณฑบาตรที่หน้าบ้านของเจ้ากะทิ และ กะลา สามารถติดต่อได้ที่พนักงานเลยค่ะ ได้มาเที่ยวด้วย ได้ทำบุญด้วย สุขใจจริง ๆ
มื้อเช้า เรามาทานกันที่ บัฟฟาโล่ โภชนา ค่ะ เป็นห้องอาหารแบบเปิดโล่ง ลมพัดเย็นสบาย
ส่วนเราเลือกนั่งในโซนสวนด้านนอก ชิลล์มาก
อาหารเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ เป็นอาหารไทยโลคอล ท้องถิ่นแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิ ปลาทู พะโล้ แกงพะแนง ข้าวมันไก่ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ต้มเลือดหมู ข้าวต้มปลาชิ้นโตมาก ทานแบบอิ่มไปจนถึงมื้อกลางวันกันเลย
จบไปแล้วสำหรับรีวิวที่ The Buffalo Amphawa หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อยสำหรับท่านที่อยากหลบความวุ่นวาย อยากมาพักผ่อนใกล้กรุง ฯ เราว่ามาที่นี่ จบ ครบ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ กิจกรรมต่าง ๆ พื้นที่ก็กว้างขวาง มีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น ได้สัมผัสวิถีชุมชนแบบท้องถิ่นจากงานศิลป์ที่มีให้เห็นอยู่ทุกมุมในรีสอร์ต ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งค่ะ
ราคาห้องพัก เริ่มต้นที่ 3,000 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และจองห้องพัก
TEL : 092 248 4333
FB : https://www.facebook.com/Thebuffaloamphawa/
WEBSITE : https://www.thebuffaloamphawa.com/
ท้ายนี้ฝากติดตามเพจ ลาเต้ปั่นเย็น ๆ ด้วยนะค้าา
https://www.facebook.com/coolpartiew/
ลาเต้ปั่นเย็นๆ
วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.52 น.