Mission หนึ่งอย่างที่วางเอาไว้เมื่อไปญี่ปุ่น ก็คือ ขอหนึ่งคืนไปนอน "เรียวกัง" แบบดั้งเดิม ใส่ชุดยูคาตะ กินอาหารดั้งเดิม นอนฟูตอง และแช่ออนเซน แบบออริจินัล มีข้อแม้ว่า ขอเป็นเรียวกังแบบออริจินัลจริง ๆ ไม่ใช่โรงแรมทันสมัยที่แค่ตกแต่งห้องพักเลียนแบบ "เรียวกัง" หรือ Japanese Style ค่ะ
สุดท้ายก็ได้ที่นี่ "Ryokan Nanten-en" อยู่ที่เมือง Amami นั่งรถไฟจากสถานี Namba, Osaka ไม่ถึงชั่วโมง
เป็นเรียวกังอายุ 100 ปี ที่ได้รับการประกาศให้เป็น Tangible Cultural Properties หรือทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของญี่ปุ่น
สภาพของเรียวกังที่นี่ ยังคงความเป็นดั้งเดิมได้ดีค่ะ ตัวอาคารส่วนใหญ่เป็นไม้ คือดูออริจินัล แต่ไม่เก่าหรือทรุดโทรมนะคะ เค้าค่อนข้างจะรักษาความสะอาดและดูแลเรียวกังให้อยู่ในสภาพดีมาก
ราคาห้องพักมีหลากหลายนะคะ ขึ้นอยู่กับช่วงเทศกาลด้วย ห้องพักราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4 พันบาท ไม่รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า มีทั้งแบบห้องพัก 2 คน ไปจนถึง 3 - 4 คนค่ะ
เนื่องจากเรียวกังนี้ตั้งอยู่โดด ๆ ในเขตชานเมือง โดยรอบไม่มีร้านอาหารหรือสถานบันเทิงใด ๆ ดังนั้นจึงต้องวางแผนเรื่องมื้ออาหารด้วย แนะนำว่า อย่างน้อยควรเลือกบวกอาหารเย็นไปด้วย ตอนเช้าค่อยเช็คเอาท์เพื่อไปกินอาหารเช้าในเมืองก็ได้
แต่แก๊งเราเลือกบวกอาหารค่ำและอาหารเช้าแบบ Full Course ไปเลยค่ะ อยากสัมผัสบรรยากาศออริจินัลให้สุด ๆ ที่นี่ไปเลย
ค่าเสียหายของเราไปกัน 3 คน รวมอาหาร 2 มื้อ ประมาณ 1 หมื่นบาทค่ะ หารกันคนละ 3 พันนิด ๆ
คือเราไปกัน 10 วัน เฉลี่ยกับค่าห้องพักคืนอื่น ๆ ที่ถูกกว่า บอกตรง ๆ ว่ายอมจ่ายเพื่อสิ่งนี้แค่คืนเดียวค่ะ
การจองห้องพัก สามารถจองผ่านเว็บไซต์จองห้องพักทั่วไปได้ค่ะ
การเดินทาง
เรียวกังอยู่ด้านหลังสถานี Amami เลย ถ้ามาถึงสถานีแล้ว รับรองไม่มีหลง
Amami เป็นสถานีรถไฟเล็ก ๆ ชานเมือง ให้บรรยากาศแบบชนบท สำหรับคนที่อยากสัมผัสแนวนี้ รับรองว่าฟินค่ะ
ให้ดูบรรยากาศของสถานี Amami ก่อนเลย
ที่สถานีมีตู้หยอดเหรียญค่ะ ใครอยากจะสังสรรค์กลางคืน แนะนำให้กดไปเลย
เพราะ service ในโรงแรมไม่ได้มีตลอด 24 ชม.ค่ะ มีมินิบาร์ในห้องพัก แต่ก็ไม่หลากหลายเท่าไหร่
เมื่อเดินออกจากสถานี จะเจอป้ายชี้ทางไปที่เรียวกัง เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถึงแล้วค่ะ อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย
เดินตรงไปทางด้านข้างสถานีเลยจ้า
ก็จะเจอเรียวกังของเราแล้ว
อาคารที่พักค่ะ เรียวกังมีแค่ 2 ชั้น ห้องพักจำนวนจำกัด ช่วงที่ไปห้องพักเต็มทุกห้อง
ถ้าพักชั้นล่าง จะสามารถเปิดประตูออกมาชมสวนด้านข้างได้เลยค่ะ
ช่วงที่ไปดอกบ๊วยกำลังบานค่ะ ซากุระยังไม่เริ่มบานเลย เสียดาย ไปเร็วไปหน่อยนึง
ประตูทางเข้าล็อบบี้ ออริจินัลมากๆ
เคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ เล็ก ๆ กะทัดรัด มีสินค้าที่ระลึกจำหน่าย มีไปรษณียบัตรกับสแตมป์ขาย และรับฝากไปรษณียบัตรไปส่งให้ด้วย
ห้องนั่งเล่นส่วนกลาง
ห้องดื่มน้ำชาแบบญี่ปุ่น
และนี่คือด้านหน้าห้องพักค่ะ อาคารจะเป็นไม้ทั้งหลัง ทางเดินจะปูพรมสีแดงทั้งหลังด้วย
ห้องพักไม่มีเลขห้องนะคะ จะเป็นชื่อนกต่าง ๆ ของเราเป็นนกอะไรจำไม่ได้ละ แฮ่ ห้องของเราห้องแรกขวามือเลยค่า
มาดูในห้องพักบ้าง เปิดประตูเข้ามา จะเจอโต๊ะตัวใหญ่วางอยู่ค่ะ
แม่บ้านจะมาจัดแจงน้ำน้ำชาและของว่างมาเสิร์ฟต้อนรับก่อนเลย
คนนี้น่าจะเป็นผู้จัดการเรียวกัง สำเนียงภาษาอังกฤษดีมากซะจนเราอาย อัธยาศัยดีมาก ๆ ด้วย
พี่ท่านจะมาอธิบายเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวกและการปฏิบัติตนต่าง ๆ ค่ะ
วิวจากห้องพัก เปิดประตูสัมผัสสวนญี่ปุ่นตรงหน้าได้แบบฟิน ๆ มีเกี๊ยะแบบญี่ปุ่นให้สวมไปเดินเล่นในสวนได้ด้วยค่ะ
ห้องพักทุกห้องของที่นี่ ใช้ห้องอาบน้ำรวมนะคะ แต่จะมีอ่างล้างหน้าและห้องส้วมแยกเป็นสัดส่วนไว้ในห้องพักค่ะ
ห้องส้วมที่แยกเป็นสัดส่วนในห้องพัก กว้างขวางพอสมควร
มินิบาร์ มีแค่นี้แหละค่ะ แนะนำว่าให้กดสารพัดน้ำบันเทิงมาจากสถานีรถไฟ Amami จะดีกว่า
ร้านอาหารของเรียวกังมีเครื่องดื่มและอาหารให้สั่งนะคะ แต่มีเวลาเปิด-ปิดค่ะ ถ้าจะไม่ผิดจะปิดตอน 4 ทุ่ม
ห้องพักจะมี Kit Set สำหรับแขกแต่ละคนด้วยนะคะ ผ้าขนหนูนี่สามารถเก็บกลับบ้านได้เลยด้วยค่ะ
มาถึงพิธีการอาหารค่ำกันเลยค่ะ
หลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เข้ากับบรรยากาศแล้ว คุณแม่บ้านจะเริ่มเข้ามาเสิร์ฟอาหารค่ะ ตอนจองโรงแรมแนะนำว่าถ้าเช็คอินหลัง 6 โมงเย็น จะไม่เสิร์ฟอาหารเย็น
เราไปถึงประมาณทุ่มนึง ตอนแรกก็กลัว ๆ เรื่องความตรงต่อเวลาของคนญี่ปุ่นมาก ๆ นึกว่าจะต้องอดข้าวเย็นซะแล้ว แต่พอไปถึงจริง ๆ ไม่มีปัญหาค่ะ พนักงานค่อนข้างจะมี service mind สูงมาก ๆ เป็นเรียวกังที่อบอุ่นจริง ๆ
ชุดน้ำชา Welcome Drink เนื่องจากห้องพักที่นี่มีชื่อเป็นนกทุกห้อง ชุดอาหารเลยเป็นนกหมดเลยค่ะ มี Theme มั่กๆ
นี่คือเซ็ตอาหารค่ะ จริง ๆ เค้าเสิร์ฟทีละอย่างค่ะ แต่อยากจะถ่ายรูปรวม เลยเก็บไว้จนครบ อิอิ
ในชุดอาหารจะมีปลาย่าง
ซาชิมิ ปลาหมึกสีขาว ๆ นั่น หวานมาก และอร่อยโฮก
สารพัดผัก อร่อยดี
แป้งย่างกับบุกย่าง
และซุป สวยอ่ะ
ตอบท้ายคอร์สแรกด้วยขนม อาหย่อยย
ยัง ยังไม่จบ ยังมีมาอีกคอร์สค่ะ
คุณป้าขยันเสิร์ฟมาก ถ้าให้รอนาน ก็จะขอโทษขอโพยใหญ่โต น่ารักจริง ๆ
ในเซ็ตที่สอง มีเทมปุระ ข้าว และซุปมิโสะ
ตบท้ายด้วยผลไม้สด อร่อยเว่อร์
กินอิ่มละ ได้เวลานอน
คุณแม่บ้านจัดแจงย้ายข้าวของ ทำพื้นที่กลางห้องสำหรับปูฟูกฟูตองค่ะ
ฟูนี่นอนสบายเจง ๆ
เรานอนฟูกนี้ อุ่นที่สุดเลย เพราะมีฮีตเตอร์อยู่ปลายเท้า ฮ่าๆๆ
โต๊ะทานข้าว ถูกย้ายมาไว้ที่อีกมุมของห้อง
มีทีวีและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ครบครัน
มีชุดน้ำชาและกาน้ำร้อน ให้ชนแก้วกันรอบดึกด้วย
ตัดมาที่อาหารเช้า
สังเกตว่าแขกส่วนใหญ่ไม่ได้รับอาหารเช้าที่นี่ ส่วนใหญ่เช็คเอาท์กันไปแล้ว
เวลาอาหารเช้าที่นี่คือ 8 โมงค่ะ ตอนเช้าวันที่เราไปอุณหภูมิประมาณ 2 - 4 องศา ฟินมาก
อาหารเช้าไม่เสิร์ฟในห้องนะคะ จะเซ็ตโต๊ะไว้ในห้องอาหาร มีบรรยากาศสวนด้วย
แม้จะเป็นอาหารเช้า ก็ยังคงพิถีพิถันอยู่ค่ะ
ได้เวลาเช็คเอาท์ไปตะลุยเมืองกันต่อ ก่อนกลับก็ยังบริการกันจนนาทีสุดท้ายค่ะ
รองเท้าที่พนักงานเก็บไปไว้ไหนไม่รู้เมื่อตอนกลางคืน พอจะกลับ มันก็มาวางรอเจ้าของอยู่ตรงนี้แล้ว น่ารักที่สุดเลย
ภาพสุดท้าย ยืมมาจากเว็บไซต์ Agoda ค่ะ คือจริง ๆ โดยรอบเรียวกังสวยมากค่ะ แต่ตอนไปไม่ได้แอคชั่นแบบนี้เลย
เพราะไปถึงก็ค่ำ ตื่นเช้ามาก็หนาวมาก มือแข็งจนถ่ายรูปไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้ภาพแบบนี้มา แต่โดยรวมเรื่องความประทับใจนี่ถือว่าให้เต็มค่ะ
ฝากไว้สำหรับใครที่มีแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นนะคะ อยากให้ใส่แผนค้างคืนที่เรียวกังแบบนี้ไว้ซักคืนนึง
จริง ๆ เรียวกังทำนองนี้มีอยู่เยอะค่ะ ไหน ๆ ไปแล้ว ลองเจียดเวลาซักคืนนึงไปสัมผัสอะไรที่มันออริจินัล จะได้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวญี่ปุ่นจริง ๆ ค่ะ
ส่วนนี่เป็นเว็บไซต์ของโรงแรม
http://www.e-oyu.com/en/nantentop.html#
ปล. โรงแรมมี WiFi ค่ะ ใช้ Osaka Free Wifi ได้เลย สัญญาณดี
ใครเป็นพวก "เดินทางสายกิน" ชอบชิมอาหารอร่อย ๆ
ติดตาม Food Journey "เดินทางสายกิน" ที่ FB กับ IG นี้ได้เลยค่ะ เอาไว้แบ่งปันพิกัดร้านอร่อยกันจ้า
Facebook Page: www.facebook.com/FoodJourneyThai
Instagram : www.instagram.com/foodjourney_th
"เดินทางสายกิน" Food Journey
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.23 น.