ดินแดนสวรรค์เกาะใต้ของญี่ปุ่น ฮาวายฉบับริวกิว ผสมผสานกันได้ลงตัวสุดๆญี่ปุ่นแบบริวกิวและอเมริกันแบบฮาวาย
เมืองตากอากาศของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ชาวญี่ปุ่นใฝ่ฝันจะมาเยือนซักครั้ง รวมถึงผมได้ยินชื่อโอกินาว่ามานานมากแล้ว รู้แค่ว่าเป็นที่เที่ยวทะเลของญี่ปุ่น แค่นั้นจริงๆ พอมาหาข้อมูลพบว่าที่โอกินาว่าเนี่ย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากๆทั้ง จีน อเมริกัน ญี่ปุ่น ผสมๆกัน มันก็ได้อารมณ์การเที่ยวญี่ปุ่นแบบใหม่ๆที่เราไม่เคยไปมาก่อน ค่อยๆอ่านไปนะครับ รอบนี้ยาวหน่อยๆนะ ^_^
ทริปนี้ฉบับคนมีวันจำกัด อิอิ
ทริปนี้เราใช้เวลา 3 วัน 2 คืน
Flight Time by Peach airline สายการบินใหม่ บินตรงจากประเทศไทย ไฟล์บินเวลาดี แถมมีโปรออกมาเรื่อยๆ
BKK-OKA 01.40 - 08.10
OKA-BKK 21.55 - 00.25
ผมไปมาเดือน เมษายน 2560 ครับ อากาศกำลังดีครับ เฉลี่ย 20 องศา ครับ
ค่าใช้จ่ายทริปนี้เราหมด 69xx บาท(ไม่รวมตั้วเครื่องบิน)
- ค่าใบขับขี่สากล 505 บาท
- ค่าที่พัก 2 คืน 8xx บาท
- ค่าเช่ารถ 2 วัน 48 ชม. 11xxx เยน /3 ตกคนละ 11xx บาท
- ค่ากองกลางและค่าเข้าสถานที่ 25xx บาท
- ค่าอาหาร 2xxx บาท
ปล.ค่าเครื่องบินเราได้ 45xx บาท
Route Trip ไล่ตามลำดับที่ผมไปจริงๆเลยนะครับ รายละเอียดสถานที่และทริปจะอยู่ด้านล่างนะครับ
Day 1 : Airport-OTSrentCar-Okinawa world -Okinawa Peace Memorial Park - Blue Seal Ice Park - Kouri Is.
Day 2 : Churaumi Aquarium - Orion Happy Park - Cape Manzamo -American Village - Kokusai Street
Day 3 : Makishi market-Heiwa Dori Street - Shuri Castle - Fukushuen Garden -T GALLERIA DFS - Airport
เอามาเริ่มกันเลยนะครับ ทริปนี้มันเริ่มจากตั้วโปรสายการบินใหม่ที่เริ่มบริการเดือน กพ60 นี้เองกับ Peach Air ที่แบบว่าราคาโคตรถูก บินตรง ไปกลับ 45xx บาท หลังจากเห็นโปร ใจสั่นต้องการจอง ฮ่าๆ และก็หาเพื่อนร่วมทริปได้เพื่อนสนิทมา 1 คน จองกันเสร็จเรียบร้อย นึกขึ้นได้มีพี่ที่ทำงานเคยคุยกันไว้ว่าจะพาแกไปญี่ปุ่น ก็เลยว่าจะไปชวนคุณลุงไปด้วยด้วยอายุผมกับลุงห่างกันเป็น 10 กว่าปี แถมเราจองกับเพื่อนเราไปแล้ว และเพื่อนเราจะโอเคไหม?ถ้าจะชวนคนอื่นไปด้วย? สรุปไปคุย เพื่อน มันโอเค ไปชวนแกดิ ได้หมด โอเคทีนี่มาถึงฝั่งลุงที่ทำงาน ฮ่าๆ จริงๆก็ลังเลเพราะกลัวพี่แกจะคาดหวังกับญี่ปุ่นแบบที่เราเห็นๆกันทั่วไป เกิดคำถามจากตัวเราเองว่าแกจะอยากไป โตเกียว โอซาก้า ไรแบบนั้นมากกว่าไหม? ก็เลยไปคุย แกไปเปิดดูอากู๋ เจอรูป อคอเรียมที่โอกินาว่าที่มีฉลามวาฬ ใหญ่ๆ พร้อมกับกลับมาบอกผมว่า ไปไป พาไปไหนก็ไป อยากไปอควอเรียม เราก็โอเค้ ไปก็ไป เลยไปจองเพิ่มอีก 1 คน สรุปรวมตัวได้ 3 คน 2 หนุ่ม กับ 1 ลุง 5555 ลุงมาอ่านอย่าเสียใจไป จริงๆอายุยังไม่เยอะหรอกครับ เรียกไปงั้น ฮ่าๆ หลังจากจองเรียบร้อย โดยที่ไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง จองเสร็จก็มานั่งดูว่ามันมีอะไรบ้างให้เที่ยว ดูผ่านๆหลังจองตั้วเสร็จนั้นแหละ ตอนนั้นคิดว่า จริงๆไปกินอย่างเดียวกับบรรยากาศรอบข้าง ก็โคตรคุ้มแล้ว คงฟินแล้วแหละ ราคาตั้วมันถูก ฮ่าๆ
มาถึงประเด็นที่หลายๆคนคงสงสัยว่า ว่า ว่า ทำไมไปแค่ 3 วันเอง? จะเที่ยวพอหรอ? บลาๆๆ ก็จริงๆไม่ใช่อะไรนะครับ ที่เราจองแค่ 3 วัน ส่วนตัวผมเอง วันลาพักผ่อนมีน้อย เนื่องจากทริปเที่ยวมันเยอะเหลือเกิน กับใจที่มันต้องการจะไป กับวันลาที่มีในมือ เลยเลือก 3 วัน พอ ให้แต่ได้ไป ก็แบบ ไปเสาร์ทิตย์จันทร์ ไม่ก็ศุกร์เสาร์ทิตย์ก็พอ ลางานเพิ่ม 1 วันเองก็ได้ไปญี่ปุ่นแล้วแกร๊เอ้ยยยยย เอาที่หลักๆพอ ไม่ทันก็ไม่ไป นั่งกินก็พอ คิดแค่นั้นจริงๆ
ก่อนขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ผมและเพื่อนเอาแผนที่มากาง แล้วมาคุยกันว่าพรุ่งนี้ไปถึงจะทำอะไร ไปไหนบ้าง วางแพลนวันต่อวัน ค่อยๆเป็นๆค่อยๆไป โดยที่วางไว้ก็คือ ไปถึงเช่ารถขับกัน 2 วันและ 1 วันสุดท้าย ใช้ Monorail เที่ยวในตัวเมือง ระหว่างวันก้ค่อยๆวางแพลนตามสภาพอารมณ์ อากาศ และ งบประมาณ ฮ่าๆ
มาสาระกันซักหน่อยนะครับ โอกินาว่าแบ่งออกเป็น 4 ภาค รายละเอียดประมาณนี้นะ
ภาคใต้ : เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงที่ชื่อว่า นาฮะ เป็นประตูสู่เกาะโอกินาว่าทั้งทางอากาศและทางทะเล
ภาคกลาง : เป็นที่ตั้งฐานทัพทหารอเมริกันตั้งแต่สมัยสงครามโลกที่ 2 บ้านเมืองแถวนี้จะมีการออกแบบเป็นแนวอเมริกันฮาวาย
ภาคตะวันตก : เป็นชายฝั่งทะเลที่มีหาดทรายขาวสวยที่สุดโอกินาว่า
ภาคเหนือ : เป็นที่ตั้งเมือง นะโฮะ
มาถึงรายละเอียดทริปจะเล่าสถานการณ์ตอนนั้นให้ฟังว่า เราไปทำอะไร เจออะไรแต่ละที่บ้าง ทำไมถึงไป รู้สึกอย่างไร ชอบไม่ชอบ บลาๆ จะไม่ขออธิบายถึงการเดินทางแบบ ต้องเดินไปตรงนั้น ตรงนี้ เพื่อทำแบบนั้นแบบนี้ ของแบบนี้ไปถึงแล้ว ยังไงก็เดินถูกครับ ให้หัวใจมันพาไป หลงก็ถามเอาครับ คนญี่ปุ่นใจดี แต่อย่าหลงไปถามทัวร์จีนละครับ คนจีนเยอะมากเป็นมดกันเลยทีเดียว 55555 แต่ยังไงมันก็ยังมีเสน่ห์น่าไปอยู่ดีแหละครับ อ่าเริ่มๆๆๆๆๆ มาต่อกันในคอมเม้นต่อๆไปนะครับ
*ทริปนี้เป็นรีวิวต่างประเทศครั้งแรกใน Pantip ทริปอื่นๆตามไปที่เพจได้นะครับ
ฝากรีวิวเที่ยวในไทย กับกระทู้ของผมด้วยนะครับ
ภู บั ก ไ ด จ. เ ล ย 2 วัน 1 คืน นึกว่าอยู่นิวซีแลนด์ ^__^
https://pantip.com/topic/36435973
1 0 ข้ อ !! "สั น ห น อ ก วั ว" ถ้ารักเขาจงเดินไปหาเขา^_^
https://pantip.com/topic/36466183
*ฤ ดู ฝ น * ด อ ก ก ร ะ เ จี ย ว แ ล ะ เ ร า ส า ม คน . . .
https://pantip.com/topic/36539035
ติดตามทริปท่องเที่ยวฉบับคนมีวันลา 10 วันต่อปี ทำไงเที่ยวได้เยอะได้
ตามกันไปต่อที่ Getout Thailand นะครับ
https://www.facebook.com/getoutTH/
DAY 1 : Airport- OTSrentCar-Okinawa world -Okinawa Peace Memorial Park - Blue Seal Ice Park - Kouri Is.
การเดินทางภายในตัวเมืองก็ Taxi-Bus และการเดินทางหลักของนักท่องเที่ยวจะเดินทางด้วย Monorail มีทั้งหมด 15 สถานี จะครอบคลุมพื้นที่ในตัวเมืองนาฮะเท่านั้น สะดวกและเหมาะกับการเที่ยวในตัวเมืองนาฮะ และใช้เดินทางไปกลับจากตัวเมืองและสนามบินได้สะดวกด้วยครับ สถานีแรกคือ สถานี Naha Airport และ สถานีสุดท้าย Shuri (สถานีที่เป็นที่ตั้ง ปราสาทชูริ) ของผมเลือกใช้ Monorail ในวันสุดท้ายนะครับ
Airport- ด้วยไฟล์บินมันเอื้อยต่อการเที่ยว 3 วัน 2 คืนมาก ถึงสนามบินตอน 8 โมงกว่าๆ เช้านี้ต้อนรับพวกเราด้วยฝนตก ฮ่าๆ เอาไงกันต่อละทีนี้ อ่ะ อ่ะ วางมาไงก็พยายามเดินตามแพลนที่คุยกันไว้ ว่าจะเช่ารถขับกัน ออกจาก ตม. เนื่องจากเราไม่ได้จองรถกันมา มันจะมีบูธให้บริการเช่ารถอยู่ตรงนั้นประมาณ 2 ร้าน เราเลือกเช่าของ OTS ถามเค้าตรงนั้นเลย จะเช่ากี่ชั่วโมง มากี่คน จะเอารถแบบไหน เดวเค้าประสานให้เราของผมเหมา 2 วัน ได้รถ Toyota Aqua ราคารวมประกัน ประมาณ 11xxx เยน ถ้าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เค้าจะให้ใบจองกับเรา แล้วจะมีรถบัสของบริษัทมารับตรงสนามบินเพื่อไปรับรถที่บริษัท
เอ่อลืมบอก สถานที่ท่องเที่ยวในโอกินาว่า ถึงเกาะจะไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่สถานที่ต่างๆหากเราเป็นนักท่องเที่ยวแนะนำว่าควรเช่ารถขับเที่ยวจะสะดวกสบายกว่าครับ หาเพื่อนร่วมทริป 3-5 คน หารค่ารถหมดไม่เยอะเลยครับ ของผมหารกัน 2 วัน ตกคนละพันกว่าบาทเองครับ สบายๆ เที่ย่ายเก็บของได้ด้วย วาแผนดูอีกทีนะครับ ^_^
OTSrentCar- หลังจากรถบัสบริษัทมารับ ก็เอาใบจองไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ เค้าก็จะอธิบาย บลาๆๆๆ เกี่ยวกับ ข้อระเบียบการใช้รถ ใช้ถนน ต่างๆในตัวเมืองโอกินาว่า ว่าต้องทำยังไง ชำระเงินเสร็จ พารับรถ พร้อม เที่ยวกันแล้วนะ ทริปนี้เราไม่เคยมีใครเคยขับรถเที่ยวญี่ปุ่นกันเลย ตื่นเต้นหน่อยๆ แต่ลืมบอก อย่าลืมทำใบขับขี่สากล!!! จากประเทศไทยไปก่อนนะครับ ราคาที่ทำ 505 บาท มีอายุใบอนุญาตใบขับขี่สากล 1 ปี ครับ
*จุดเช่ารถจะมีบัตรค่าเข้าสถานทื่ท่องเที่ยวต่างๆในโอกินาว่า
หลังจากได้รถแล้ว Let go go go go แพลนวันแรกฝนตก เราก็เที่ยวในตัวเมืองนิดหน่อยแล้วค่อยๆขับขึ้นไปทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่า
Okinawa world – สถานที่เที่ยวที่แรกที่เราไปหลังจากได้รถมาเป็นอีกที่ที่ต้องไปเมื่อไปเยือน เพราะยังคงวัฒนธรรมโอกินาว่าไว้อย่างดี จุดท่องเที่ยวหลักคือถ้ำเกียวคุเซนโดะ มีความยาวถึง 5 กม.แต่เปิดให้ชม 890 ม. นอกจากนั้นก็จะมีการแสดงริวกิวดั้งเดิม และก็มีพิพิธภัณฑ์งูขนาดเล็ก แต่เสียเงินเพิ่มจากค่าเข้า โอกินาว่า เวิร์ล
Okinawa Peace Memorial Park – เป็นที่ตั้งสมรภูมิรบที่ใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในมีสวยมีการสร้างสุสานผู้สเยชีวิต อนุสาวรีย์ของจังหวัดและองค์กร และพิพิธภัณฑ์รำลึกสันติภาพด้วย
Cr.ภาพ http://www.okinawaphotographytours.com/peace-memorial-park-okinawa/
ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายมาเลยขอเอาจากลิ้งมาให้ดูครับ
Blue Seal Ice Park – มาถึงโอกินาว่า ไม่ได้กินไอติม Blue Seal ถือว่าพลาด มีหลายหลายราคาหลายแบบ หรือใครที่พาเด็กๆไป มีกิจกรรมให้เด็กทำไอติมด้วยที่สาขาหลักของไอติมบลูซีล
Kouri Is.- เป้าหมายต่อไปคือการไปชิลที่เกาะคูริทางตอนเหนือช่วงเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกของเกาะโอกินาว่า วันนี้เราเลือกจองที่พักย่าน Motobu เป็นเมืองตอนเหนือซึ่งจะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวเราในวันพรุ่งนี้ ใกล้ๆเกาะคูริเหมือนกัน อ่ะมาถึงเกาะคูริมีอะไรที่เราไปมาบ้าง คือสะพานข้ามฟาก เป็นสะพายยาวและสวยดีครับ อากาศเย็นสบายๆ เมื่อข้ามฟากไปสถานที่ต่อไปก็คือ หินรูปหัวใจ อารมณ์ เกาะตะปูบ้านเรา ไปถ่ายรูปกับหินรูปหัวใจ 2 ก้อน อยู่กลางทะเล
DAY 2 : Churaumi Aquarium - Orion Happy Park - Cape Manzamo -American Village - Kokusai Street
สำหรับวันนี้เราก็จะเที่ยวย่านตอนเหนือในที่ๆอยากไปแล้วก็ค่อยๆขับรถย้อนกลับมาทางตอนใต้ เพราะวันนี้จองที่พักในตัวเมืองนาฮะ เมืองหลวงของโอกินาว่าไว้นั้นเอง เราตื่นกันประมาณ 8 โมง ออกจากที่พักประมาณ 9 โมงเช้า วันที่สองเราประเดิมด้วยสถานที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาโอกินาว่า จุดขายของเมืองก็คือ อควอเรียมนี่หละท่านผู้ชม
Churaumi Aquarium – คือสถานที่ต้องห้ามพลาด เป็นสถานที่ที่ทางโอกินาว่าใช้โปรโมทการท่องเที่ยวหลักของจังหวัดกันเลยทีเดียว เป็นอันดับ 1 ที่ต้องมาให้ได้ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลก ไฮไลต์ที่นี่หนีไม่พ้น ตู้ปลาขนาดใหญ่มีฉลามวาฬในตู้จำนวน 3 ตัว พีคมากตอนไปยืนตรงนั้น และก็มีการแสดงโลมา และสัตว์น้ำทุกชนิด เหมาะกับทุกเพศทุกวัยครับ
Orion Happy Park – เบียร์ท้องถิ่นโอกินาว่า เป็นโรงงานเบียร์โอริออน คือจะให้เราดูขบวนการผลิตหลักๆว่ากว่าจะมาเป็นเบียร์ และมีให้ชิมเบียร์ที่ผลิตใหม่สดๆด้วย รวมถึงของฝากนี่สวยงาม ผมเองนี่ได้กลับมาเพียบเลย
Cape Manzamo – ตรงนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังต่างๆมากมาย ทั้งจากญี่ปุ่นและเกาหลีก็เคยมาถ่ายหลายๆเรื่อง มีลักษณะคล้ายๆรูปงวงช้าง เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวเยอะมากทั้ง จีน ทั้งเกาหลี ทั้งญี่ปุ่น และพี่ไทยของเรา แวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย แต่ด้วยตอนที่ผมไปเป้นช่วงบ่ายๆแล้ว อากาศร้อนไปหน่อยเลยอยู่ตรงนั้นประมาณ 15 นาทีเองครับ แต่ก็ถือว่าโอเคนะ ผมชอบ^^
American Village – ผมชอบที่นี่ที่สุด!!! ฮ่าๆ บรรยากาศพระอาทิตย์ตกริมทะเลฟินไปอีก และเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร ย่านช้อปปิ้ง ออกแนวฮาวายอเมริกัน มีฝรั่งเยอะเพราะตั้งอยู่ใกล้ฐานทัพอเมริกัน บรรยากาศช่วงเย็นและตกดึกนี่ชิลไปอีก นั่งกินเบียร์ นั่งกินอาหารมีให้เลือกเยอะมากครับ ขอแนะนำให้มานะครับ
Kokusai Street – หลังจากช้อปปิ้งที่อเมริกันวิลเลจเสร็จ ตอนนั้น สองทุ่มแล้วครับ เราขับรถกันเข้ามาในเมือง นาฮะไปเชคอินที่พักให้เรียบร้อยเราจองใกล้ๆกับถนนท่องเที่ยวหลักในตัวเมืองนาฮะ เป็นย่านกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง รวมกันทุ่ถนนเส้นเดียวเท่านั้น และร้านดังที่ทุกคนที่มาญี่ปุ่นมองหา ก็คือดองกิ้ โฮเต้ ก็อยู่ที่นี่ถนนนี้แหละครับ ผมไป ฮองกี้ตอนห้าทุ่มยังไม่ปิด คิดว่าน่าจะเปิด 24 ชม. มีทั้งหมด 4 ชั้นนะครับชำระเงินเป็นชั้นทำ Tax Refund ชั้น 1 หลังขำระเสร็จแล้วทุกชั้น แต่ร้านอาหารส่วนใหญ่จะปิด ประมาณ 4 ทุ่ม ตามตรอกซอยจะปิด 24.00 และถ้าพวกร้านดื่มเราต่อรองและนั่งได้ถึงเวลา 01.00 น.
รายละเอียดวันที่ 3 เดวมาต่อนะครับ ใจเย็นๆ
DAY 3 : Makishi market-Heiwa Dori Street - Shuri Castle - Fukushuen Garden -T GALLERIA DFS – Airport
เมื่อคืนเราจอดรถแถวๆที่พักเรา เสียไป 800 เยน เนื่องจากเมื่อวานเราจากแพลนเที่ยวของเราไม่สามารถเอารถมาส่งทัน 18.00 น.ได้ เลยต้องเช่ารถ 2 วันเต็ม คือ 48 ชม.นับตั้งแต่เช่ารถ ตื่นกันแต่เช้า วันนี้เราต้องเอารถไปคืนที่จุดส่งรถในตัวเมืองโอกินาว่า ประมาณ 10.00 น. โดยการคืนรถแต่ละบริษัทจะมีจุดคืนรถหลายจุดแล้วแต่บริษัท แต่หลักๆจะมีสถานี Omoromachi station ของ monorail ที่มีศูนย์เช่ารถหลายบริษัทอยู่ภายในตึก DFS เลยครับ ใครสะดวกเช่าและคืนรถสามารถมาติดต่อที่นี่ได้เลย อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเลยครับ
เราตื่นกันประมาณ 7 โมง 8 โมง ออกจากที่พักตามลำดับสถานที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ เนื่องจากเราเลือกที่พักใกล้ๆกับ Kokusai Street สถานที่เราไปอยู่ใกล้ๆกันเลยครับ สามารถเดินถึง ไปกันเลยพี่น้อง
Makishi market- เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เป็นตลาดที่เปรียบเสมือนห้องครัวของเมืองนาฮะเลยก็ว่าได้ ลักษณะจะเป็นตลาดปลาที่เราสามารถเลือกวัตถุดิบจากตลาดชั้น 1 แล้วเอาไปให้ร้านปรุงอาหารให้ด้านบน ชั้น 2 ได้ หรือไม่ก็ขึ้นไปทานอาหารชั้น 2 ได้เลยมีให้เลือกหลายร้านราคาอาหารไม่แพงครับ พวกเราเลือกทานอาหารเช้ากันทีนี่ครับ
Heiwa Dori Street – หลังจากเสร็จจากอาหารเช้าเดินลงมาด้านล่างจะพบกับถนนของฝาก ถนนของช้อปปิ้ง ของก้อปปี้ อารมณ์สัมเพ็งบ้านเราไรงี้ ก็เลือกช้อปปิ้งของฝากกันที่นี่ก็มีให้เลือกมากมายครับ
หลังจากนั้นเราก็เอารถที่เช่าไปคืนที่สถานีรถไฟ Monorail สถานี Omorachi สถานีหมายเลข 11 ซึ่งเมื่อเราไปคืนรถที่นั้นเราก็จะสามารถเดินมาเลือกใช้รถไฟ Monorail เที่ยวได้เลยทั้งวัน ก่อนอื่นก็ฝากกระเป๋าไว้ Locker coin ที่ตึกนี้ก่อนจะลุยเที่ยวแบบสบายๆทั้งวัน สะดวกป่ะละ มาถึงสถานีรถไฟฟ้าอีกรอบเราแนะนำให้ซื้อตั้ว One day pass ราคา700เยน นะครับ บัตรนี้สามารถนำไปโชว์แล้วใช้เป็นส่วนลดในการเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆภายในเมือนาฮะได้อีกด้วย ดีจะตาย แล้วตอนเย็นเราต้องไปสนามบินเพื่อไปขึ้นเครื่องกลับอีกด้วย ก็ยังใช้บัตรโดยสารนี้ได้ ถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ
Shuri Castle – จุดที่ต้องไปลงคือสถานีรถไฟหมายเลข 15 ชื่อสถานี Shuri Station สุดสายเลยครับ พอถึงสถานีก็เดินตามนักท่องเที่ยวไปเลยครับ หาไม่ยากครับ จริงๆมองเห้นตัวปราสาทตั้งแต่เราอยู่บนรถไฟแล้วครับ สำหรับสถานที่นี้ เป็นปราสาทประจำเมืองโอกินาว่ามีชื่อว่า ชูริ เป็นปราสาทที่มีรูปแบบเฉพาะของชาวริวกิว ปัจจุบันได้มีการสร้างจำลองให้ใกล้เคียงกับของจริงในอดีต และมีพิพิธภัณฑ์อยู่ภายในปราสาทด้วย ระหว่างทางเดินไปถึงปราสาทมีสวนและมีทางเดินหินที่มีลักษณะพิเศษ มีความสงบน่าไปเดินเล่นชิวๆครับ
Fukushuen Garden – อยู่สถานีหมายเลข 7 ชื่อ สถานีเค็นโจมาเอะ เดินต่อจากสถานีประมาณ 10 นาทีครับ สวนนี้มีสไตล์จีนๆหน่อยครับ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของจีนแล้วริวกิวในอดีต ก็โอเคนะครับ ราคาเข้าไม่แพง ไปเดินเล่นสวยๆขิวๆ การตกแต่งสถาปัตยกรรมภายในสวนก็ดี จัดเป้นที่เป็นทางเรียบร้อยดีครับ
T GALLERIA DFS – หลังจากเดินสวนเสร็จ ใครมีเวลาเหลือมากก็กลับไปเดิน Shopping ที่ Kokusai Street กันอีกก็ได้ ส่วนเราเลือกกลับไปสถานีเดิมที่เราคืนรถ คือสถานีหมายเลข 11 ตรงนั้นเป็นตึก DFS ซึ่งใครที่เป้นนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเพราะเป็น Duty Free Shop ขนาดใหญ่ สวยหรู มีจำหน่ายแบรนดังๆแทบทุกแบรน ครับ ราคาก็ตามแบรนด์ครับ ซื้อแล้วแสดงเที่ยวบินของเราให้เจ้าหน้าที่ แล้วไปรับของที่สนามบินตอนกลับครับ
อารมณ์ คิงพาวเวอร์บ้านเราอ่ะครับ
Airport – จบจากการ Shopping แล้วเราก็ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้แล้ว ใช้ตั้ว One day passที่เราซื้อไว้ ขึ้นสถานีรถไฟไป สถานนีหมายเลข 1 คือ สถานี Naha airport ครับ โดยจุดลงรถจะไปจอกที่ Domestic เราต้องไปขึ้นที่โกดังอีกที่นะครับ จะมีป้ายบอกทางให้เราไปขึ้นรถบัสของสนามบิน พาไปขึ้นที่โกดังซึ่งเป็นที่ขึ้นของสายการบิน Peach air นั้นเอง ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยรถบัสจากตัวอาคาร Domestic ครับ
ของกินที่เราแนะนำเมื่อไปเยือนโอกินาว่า มีเยอะมากเลย ราเมนโอกินาว่า สาหร่ายพวงองุ่น รวมถึงที่พลาดไม่ได้คือ มันม่วง มีให้เลือกหลายยี่ห้อจะครับ แนะนำให้ซื้อตอนไปที่ ดองกิโฮเต้ ย่าน Kokusai Street นะครับ
จบทริป โอกินาว่าครับ สามารถติดตามภาพทริปนี้เพิ่มเติมได้ที่เพจของเรานะครับ
รวมถึงทริปอื่นๆครับ แล้วเจอกันระหว่างทางครับ
https://www.facebook.com/getoutTH/
สอบถามเพิ่มเติมเจอกันที่เพจได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ
Getout Thailand
วันพฤหัสที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 02.56 น.