วันนี้มารีวิวโรงแรมแถวพัทยาค่ะ กับ VERANDA RESORT PATTAYA สำหรับ Veranda มีโรงแรมในเครือ 3 แห่ง คือ แม่ริม (เชียงใหม่) หัวหิน (ประจวบฯ) และ พัทยา (ชลบุรี)

สำหรับพัทยา เพิ่งเปิดเมื่อปลายธันวาคม ปี 58 จึงถือว่าใหม่มาก ช่วงของใหม่ รอจังหวะราคาโปรโมชั่น เลยมีโอกาสไปใช้บริการ เราเลือกเข้าพักปลายกุมภา 59 ค่ะ กะว่าช่วงแรกๆ การบริการ หรือสถานที่อาจจะยังไม่เรียบร้อย เลยรอเวลาซัก 2 เดือน จองห้องต่ำสุดไว้ Seascape Room

ที่ตั้งโรงแรม อยู่ในซอยนาจอมเทียน 4 ถ้าจากกรุงเทพด้วยเส้นสุขุมวิท เลยตลาดน้ำ 4 ภาค แล้วก็เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยนาจอมเทียน 4 ช่วงรถวิ่งเร็วๆ ก็เลี้ยวลำบากนิดนึง ให้ทางเลือกที่สองไว้ คือ ยอมไปกลับรถสี่แยกไฟแดงข้างหน้า แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าซอยค่ะ

แปะ GPS ไว้ให้ค่ะ เผื่อใครมาใช้ Google map :: 12.859431, 100.896857

ภาพนี้ถ่ายวันกลับค่ะ ลูกศรเลยกลับด้านนิดหน่อย

จากทางเข้า วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เจอสามแยกตัว T เบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ก็เจอกับป้ายด้านหน้าโรงแรม

โรงแรมอยู่ถัดเข้าไป ส่วนด้านหน้ายังมีการก่อสร้างอาคารสูงอยู่ ถามมาได้ความว่า เจ้าของเดียวกับโรงแรมแต่ทำเป็นคอนโดที่พักอาศัยค่ะ ไม่กล้าถามเรื่องราคา สำหรับที่จอดรถ มี 2 จุด ค่ะ

1. จอดพื้นราบ จากทางเข้า ตรงเข้ามา ซ้ายมือจะมีลานจอดรถ สามารถนำรถเข้าไปจอดได้ ตรงลานจอดจะมีป้ายเหมือนเป็นที่จอดของร้านอาหารนะคะ คาดว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน

2. จอดบนอาคารจอดรถ แบบนี้ ก็ตรงเข้าไป จนถึงหน้าโรงแรม ขนสัมภาระลงตรงนี้ แล้วเอารถวนขึ้นอาคารจอดทางขวามือได้เลย เป็นอาคารจอดรถขนาด 6 ชั้น

จากจุดที่เอากระเป๋าลง เราลงบันไดเพื่อไปเชคอินกันค่ะ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสปา ที่นี่มีบริการนะคะ อยู่บริเวณ ชั้น 2 ทางเข้า ถัดจากบันไดทางลงเมื่อกี้ค่ะ

พื้นที่เชคอินเป็นแบบเปิดโล่ง มีที่นั่งดีไซน์เก๋ๆ ไว้บริการ

เข้าพักวันเสาร์ช่วงหยุดยาวค่ะ ลูกค้าเข้าพักเต็มทุกห้อง ส่วนเชคอินเลยค่อนข้างวุ่นวาย

ระหว่างรอ รับผ้า และเวลคัมดริ๊งค์มาจิบให้ชื่นใจ เป็นพั๊นซ์ที่รสชาตพอดีๆ

อาคารที่พักมี 2 อาคารค่ะ อาคารแรกติดทะเลจะเป็นห้องพักประเภท Beachfont ส่วนเราได้อาคารถัดเข้ามา อาคารเดียวกับที่เชคอิน ได้เบอร์ห้องแล้วไปสำรวจห้องพักกันค่ะ หมายเลขห้อง 2706 ชั้น 7 ค่ะ จากทั้งหมด 8 ชั้น

ห้องพักใช้ระบบคีย์การ์ด มีแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศแปะข้างฝา 1 อัน และกระจกขนาดเต็มตัว 1 บาน

เตียงนอน king size ขนาด 8 ฟุต (เอาจริงๆ นะ นอน 3-4 คนตัวเล็กๆ ได้สบาย)


มีน้องปลาหมึกสีน้ำเงินคอยต้อนรับ

อีกด้านของห้องเป็นส่วนของทีวี และเคาน์เตอร์บาร์

มุมพักผ่อนเล็กๆ ติดระเบียงห้อง

ส่วนห้องน้ำกั้นจากห้องด้วยประตูฉลุบานเลื่อน

ด้านในแบ่งหลักๆ เป็น 2 โซนเปียก โซนแห้ง


ด้านซ้ายติดประตูเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า มีผ้าขนหนู เสื้อคลุม รองเท้า ร่ม และไดร์ ให้พร้อม รวมทั้งบริการซักรีด

ถัดเข้าไปด้านใน เป็นส่วนของชักโครก

โซนแห้งส่วนสุดท้ายเป็นส่วนของอ่างล้างหน้า ตัวอ่างล้างหน้าเหมือนจะเล็กไปซักหน่อย แต่ค่อนข้างลึกทำให้การใช้งานไม่เลอะเทอะอย่างที่คาดไว้ บริเวณเคาน์เตอร์ยาววางของได้เต็มที่ พร้อม Amenities กระจกบานใหญ่ เหมาะกับหน้าใหญ่ๆ ของเรา ประดับด้วยโคมไฟเก๋ๆ

โซนเปียกกั้นด้วยกระจกฝ้า ห้อง Seascape นี้ ไม่มีเรนชาวเวอร์ แอบเสียดายนิดๆ เท่าที่ทราบห้องแบบอื่นมีอ่าง แต่มีเรนมั๊ยไม่แน่ใจ ครีมอาบน้ำ และแชมพูเป็นกลื่นตะไคร้ ชอบมากกกกก


ไปดูด้านนอกกันบ้างค่ะ ในส่วนของระเบียงหลังห้อง มีเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นเล็กๆ

เป็น Sea View แบบเอียงๆ ยิ่งชั้นสูงๆ จะเห็นทะเลชัดขึ้น ด้านล่างยังมีการตกแต่งสวนกันอยู่ ยังไม่เรียบร้อย ส่วนพื้นที่รอบๆ เป็นคอนโด โรงแรม และบ้านส่วนตัว ที่สูงมากกว่าตัวโรงแรมที่มีเพียง 8 ชั้น อาจไม่ค่อยส่วนตัวนัก (ทั้งเค้า และเรานี่หละ)


ไปดูสระว่ายน้ำกันค่ะ วางตัวอยู่ระนาบเดียวกับทะเล เล่นน้ำไป มองวิวทะเลไป

มีทั้งส่วนของสระเด็ก สระผู้ใหญ่ ความลึกที่ 1.2 เมตร และมีจากุชชี่ด้วย (ตรงรูปตัว V ค่ะ)

รอบๆ สระ จัดเป็นเก้าอี้นั่งพักผ่อน

เมื่อมองจากทะเลเข้ามา ห้องชั้น 2 และ 3 เป็นแบบ Beachfront ส่วนชั้นถัดไปเป็นห้องอาหาร 2 ห้อง คือ " I Sea Sky" และบนดาดฟ้า ชื่อ "The Jetty"


ที่นี่มีพูลบาร์ "Waves" ไว้บริการ แช่น้ำไป จิบเครื่องดิ่มไป ดูพระอาทิตย์ตกดินไป

ข้างๆ พูลบาร์ มีห้องน้ำบริการ สัญลักษณ์หน้าห้องน้ำงงๆ นิดหน่อย เป็นรูปคน 1 ขีด กับ คน 2 ขีด (ไปส่องมา คน 1 ขีด ห้องน้ำชาย, คน 2 ขีด ห้องน้ำหญิง)

ห้องอาหารหลักที่นี่ ชื่อ "The Deck" เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม วันที่เข้าพักอาหารเย็นเป็นแบบ BBQ International Buffet

แวะไปเก็บบรรยากาศภายในห้องอาหาร มีทั้งแบบนั่งด้านในห้องแอร์ และนั่งด้านนอก

พาไปชมอาหารเย็นกันค่ะ อย่างที่บอกเป็นบาร์บิคิว ดังนั้น ด้านนอกจึงจัดเป็นซุ้มอาหารสำหรับปิ้งย่างไว้ เน้นที่อาหารทะเล มากันครบ กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก สำหรับบาร์บีคิว มีทั้งเนื้อและไก่ไว้บริการ

สารพัดเส้นอยู่ด้านนอกเช่นเดียวกัน

ด้านใน มีอาหารร้อนเมนูหลากหลาย ทั้งหมู ไก่ และเนื้อ มีชื่อเมนูบอกไว้นะคะ แต่เป็นภาษาอังกฤษ อ่อนด้อยด้านภาษาต่างประเทศ เก็บภาพอย่างเดียวค่ะ งานนี้

บางชนิดจัดเป็นคำๆ ดูน่ารัก น่าเอ็นดู

สลัดก็มา

ส่วนของหวานมีทั้งขนมไทย เค้ก และผลไม้

ห้องอาหารด้านบน มี 2 ห้อง คือ "I Sea Sky" มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor เปิดบริการตั้งแต่ 2 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน

อีกห้องอยู่บนดาดฟ้า ต้องขึ้นบันไดไปอีกนิด ชื่อห้องอาหาร "The Jetty"

เปิดให้บริการ 2 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืนเช่นเดียวกับ I Sea Sky วิวสวยกว่า

มีไฮไลท์ตรงจุดถ่ายรูปที่ยื่นออกไปด้านนอก

วิวจากด้านบน

เก็บภาพค่ำคืนภายในโรงแรมมาฝากกันค่ะ จากบันไดที่ลงมาเชคอินเมื่อช่วงแรก พอกลางคืนเปิดไฟสวยงาม

บริเวณเชคอิน


และทางเดินรอบๆ

พูลบาร์

ขึ้นไปดูวิวด้านบนห้องอาหารกันค่ะ

เข้าห้องมาพร้อมกับเตียงที่ turn down เรียบร้อยแล้ว และรับข้าวต้มมัดกะละแมร์ไป 1 คู่

ตื่นมาพบกับวิวยามเช้า หลังห้อง ฟ้ายังคงปิดเหมือนวันแรกที่มา

ไปดูอาหารกันดีกว่า ห้องอาหารเดียวกับมื้อเย็น สำหรับอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ เปิดให้บริการ 6.00-11.00 น. ค่อนข้างนานเลยทีเดียว เปิดด้วยสลัดบาร์

โซนขนมปัง แพนเค้ก

น้ำผลไม้ และน๊ม นม

อาหารร้อนป้ายเมนูอาหารยังเป็นภาษาอังกฤษอยู่ ดังนั้น เราจะข้ามๆ ไปค่ะ ดูรูปภาพกันยาวๆ

ด้านนอกเป็นซุ้มก่วยเตี๋ยว ซุป ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ก่อนกลับเก็บวิวอีกเล็กน้อย ฟ้าก็ไม่เปิดเหมือนเดิม

ปิดจบการรีวิว Veranda Resort Pattaya ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับโรงแรม

ข้อดี ::

1. พนักงานตั้งแต่รปภ. พนักงานต้อนรับ พนักงานในร้านอาหาร ตลอดจนพนักงานทำความสะอาดให้บริการดีค่ะ Service Mind เป็นเลิศ

2. อาหารอร่อยค่ะ หลากหลาย เติมตลอด ไม่มีพร่อง

3. ห้องพักกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ การตกแต่ง จัดวางได้ลงตัว

4. โรงแรมขนาดไม่ใหญ่มาก แม้คนเข้าพักจะเต็มทุกห้อง แต่ไม่ดูแออัด เหมาะสำหรับครอบครัวไปพักผ่อน

ข้อเสีย :

1. เนื่องจากเป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดดำเนินการ บางส่วนยังก่อสร้างไม่เรียบร้อย และภายในห้องพักมีบางส่วนเก็บงานไม่เรียบร้อย

2. ราคาค่อนข้างสูง




ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด

 วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.20 น.

ความคิดเห็น