อยากหยุดเวลาไว้ ณ ทะเลตรัง

ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเมษายนของทุกปี เป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวของทะเลฝั่งตะวันตกหรือทะเลอันดามันครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส ท้องทะเลมีคลื่นลมที่สงบ เหมาะแก่การท่องเที่ยวท้องทะเลอันดามันเป็นอย่างยิ่งครับ ซึ่งจังหวัดที่ติดต่อกับทะเลอันดามันของไทย มีอยู่ 6 จังหวัดครับ ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล วันนี้ผมขอพาเที่ยวทะเลตรัง ซึ่งเป็นทะเลในจังหวัดบ้านเกิดผมเองครับ

เนื่องด้วยผมมีเวลาพักผ่อนประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้ตัดสินใจกลับเที่ยวทะเลตรัง ผมเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดตรังด้วยสารการบินราคาประหยัดตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ โดยได้จองที่พักไว้บนเกาะไหง ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา แต่เนื่องจากการเดินทางจากท่าเรือปากเมงจังหวัดตรังจะสะดวกกว่า ทำให้เป็นเกาะไหงนี้อยู่ในกลุ่มเกาะทะเลตรังด้วย

เครื่องบินสายการบินราคาประหยัด ออกเดินทางจากดอนเมืองในตอนเวลาประมาณ 7:30 น ถึงสนามบินตรังเวลาประมาณ 9:00 น เนื่องจากผมไม่ได้บอกทางรีสอร์ทให้ไปรับที่สนามบิน ผมจึงต้องต่อรถจากสนามบินไปยังสถานีขนส่งเพื่อเดินทางไปยังท่าเทียบเรือหาดปากเมงด้วยตัวเองให้ทันเวลาเรือข้ามฟากในเวลา 12:00 น

วันนี้ท้องฟ้าที่จังหวัดตรังสดใสครับ แต่อากาศค่อนข้างร้อนนิดหน่อย เมื่อถึงท่าเทียบเรือปากเมงผมจึงได้จัดแจงซื้อตั๋วโดยสารเรือข้ามฟากไปยังเกาะไหงด้วยราคา 350 บาท แต่เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้มีผู้โดยสารไปยังเกาะไหงบางตานิดหน่อย หากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนขัตฤกษ์ น่าจะมีผู้โดยสารข้ามฟากมากกว่านี้

เรือโดยสารข้ามฟากใช้เวลาไปยังเกาะไหงประมาณ 1 ชั่วโมง บนเกาะไหงมีที่พักหลายระดับราคาครับ ตั้งแต่รีสอร์ทแบบบังกะโลพัดลม ไปจนถึงรีสอร์ทระดับหรูหราพักแบบครอบครัว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลายๆ กลุ่มพากันมาเที่ยวพักที่เกาะไหงแห่งนี้ ซึ่งสามารถจองที่พักได้จากเวปไซต์ห้องพักทั่วไป

ถึงแม้ว่าบนเกาะไหงจะมีที่พักหลายระดับ แต่มีความเป็นส่วนตัวสูงครับ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน แต่ละรีสอร์ทมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ทำให้ผู้ที่มาพักมีประทับใจ บางคนอาจมาพัก 2-3 วัน บางคนพักเป็นอาทิตย์ หรืออาจพักยาวเป็นเดือน ๆ ก็มี บนเกาะแห่งนี้หากใครจะมองหาร้านสะดวกซื้อ รับรองท่านหาไม่เจอแน่นอนครับ

น้ำทะเลรอบเกาะไหงใสสะอาดมากครับ เหมาะกับการลงเล่นน้ำเป็นอย่างมาก ตัดกับขอบฟ้าที่มีสีฟ้าคราม งดงามจับใจครับ พร้อมด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาดตา เม็ดทรายละเอียด เดินแล้วนุ่มเท้าดีครับ ผมคิดว่าหากจะมาพักผ่อนจริงๆ เกาะไหงก็เป็นหนึ่งเกาะในท้องทะเลตรังที่อยากให้ทุกท่านมาเยือนและพักที่นี่

หากเรายืนอยู่บนเกาะไหงแล้วมองมายังด้านหน้าของเกาะ จะเห็นภูเขาหินปูนเด่นสง่านอยู่ด้านหน้า นั่นคือ “เกาะม้า” ครับ เกาะม้าเป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม และหากมีลมมรสุมชาวเรือจะใช้เกาะม้าแห่งนี้เป็นพื้นที่กำบัง หรือหากกวาดสายตาจากเกาะม้าไปทางด้านขวามือก็จะเห็นเกาะเชือก เกาะมุก และเกาะแหวน เรียงรายกันไปครับ ซึ่งเกาะเหล่านี้จัดอยู่ในหมู่เกาะแห่งท้องทะเลตรังเช่นเดียวกัน มีปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม มีปลาชุกชุม จึงทำให้เกาะเหล่านี้เป็นแหล่งดำน้ำที่ขึ้นชื่อของทะเลตรังเลยครับ

ยามน้ำทะเลลด ทำให้เห็นโขลดหินหน้าชายหาดบนเกาะไหง แปลกตาไปอีกแบบครับ

นอกจากหาดทราย น้ำทะเล ท้องฟ้าที่สวยงามแล้ว บนเกาะไหงแห่งนี้ยังมีนกเงือก ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วย เนื่องจากนกชนิดนี้หาชมได้ยาก และจะอาศัยในพื้นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เท่านั้น นับเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะไหงแห่งนี้ที่ได้ชมนกเงือกกัน

นอกจากเกาะไหงแล้ว ทะเลตรังยังมีเกาะแก่งหลายๆ เกาะให้ไปเยือมชมอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นเกาะมุก ที่มี “ถ้ำมรกต” ซึ่งถือเป็น “Unseen Thailand” แล้ว ยังมีเกาะกระดานที่มีหาดทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลที่ใสมากกกกก ให้ไปเยี่ยมเยียนกันครับ โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อ package แบบ 1-day trip เที่ยวเกาะเหล่านี้ภายใน 1 วันได้อย่างสบายๆ จากรีสอร์ทที่พักต่างๆ

ผมคนนึงก็ไม่รีรอครับ ได้ซื้อ package แบบ 1-day trip เที่ยวเกาะในท้องทะเลตรังเช่นเดียวกัน เพื่อนำรูปมาฝากกันครับ

Trip ของผมเริ่มต้นจากดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณหน้าเกาะม้า ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ด้านหน้าเกาะไหงนี่เอง บริเวณนี้ผมเคยดำน้ำตื้นมาเมื่อหลายปีก่อน มีปะการังเขากวางและดอกไม้ทะเลที่สวยงามมาก แต่เนื่องจากจุดนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมเป็นจำนวนมาก ทำให้ปะการังไม่สมบูรณ์อย่างเก่า พร้อมกับช่วงจังหวะที่ไปนี้ กระแสน้ำค่อนข้างเชียว ทำให้พลาดโอกาสชมความสวยงามของปะการังบริเวณนี้อย่างน่าเสียดาย

จุดถัดไปเป็นจุดดำน้ำตื้นอีกจุดหนึ่ง คือ “เกาะเชือก” เป็นเกาะที่มีฝูงปลาชุกชุมมาก ปลานกแก้วตัวใหญ่ หมึกทะเล ปลาเทวดา และปลาอื่นๆ ก็สามารถเห็นได้บริเวณนี้ครับ

เมื่อดำน้ำดูปะการังกันแล้ว คนขับเรือพานักท่องเที่ยวมุ่งหน้าต่อไปยังเกาะมุก ที่มีถ้ำมรกตที่เป็น Unseen Thailand อย่างที่บอกข้างต้น การเข้าไปยังถ้ำมรกตนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องสวมเสื้อชูชีพ และลอยคอเข้าไปเป็นขบวน ดูแล้วเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวไปอีกแบบครับ

ถ้ำมรกตเป็นถ้ำที่อยู่บนเกาะเข้าออกได้ทางเดียวโดยการว่ายน้ำเข้าไปเท่านั้น จากบริเวณปากถ้ำไปถึงชายหาดที่อยู่ด้านในมีระยะทางประมาณ 80 เมตร เหตุที่มีชื่อว่าถ้ำมรกต เนื่องจากเวลาเข้าไปในถ้ำจะมีแต่ความมืด เมื่อถึงบริเวณปากถ้ำจะมีแสงส่องกระทบกับน้ำทะเล ทำให้มองเห็นน้ำทะเลบริเวณปากถ้ำนั้นเป็นสีเขียวมรกต ซึ่งภาพที่มองเห็นเมื่อถึงปากถ้ำเป็นไปตามคำล่ำลือครับ เหมาะกับคำว่า “Unseen” จริงๆ

ภายในถ้ำมรกตมีชายหาดที่สามารถเดินเล่นโดยรอบได้ มีน้ำทะเลสีเขียว มีหน้าผาสูงชัน ที่ไม่สามารถออกไปทางไหนได้

เมื่อได้ชมความงดงามของถ้ำมรกตแล้ว เป้าหมายต่อไปของ Trip นี้อีกที่หนึ่งคือ “เกาะกระดาน” ครับ

เกาะกระดานเป็นอีกเกาะหนึ่งที่อยู่ในท้องทะเลตรัง มีน้ำทะเลที่ใสมากๆๆๆๆๆ บางคนบอกว่าใสราวกับกระจก ซึ่งผมก็มีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่ขาวสะอาด เม็ดทรายละเอียด มีปะการังน้ำตื้น และมีฝูงปลาชุกชุม เกาะนี้จึงเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในท้องทะเลตรัง และยังมีที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมประจำอยู่บนเกาะนี้ด้วย นอกจากนี้เกาะกระดานแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีวิวาห์ใต้สมุทรในช่วงวันแห่งความรักอีกด้วยครับ

บนเกาะกระดานแห่งนี้ยังมีที่พักหลายระดับเช่นเดียวกับเกาะไหงครับ โอกาสหน้าหากมาทะเลตรังอีก แน่นอนว่าผมจะต้องมาพักบนเกาะกระดานแห่งนี้ให้ได้

การมาเที่ยวทะเลตรังของผมในครั้งนี้ถือว่าคุ้มมากๆ ได้ผ่อนคลายความเครียด สูดอากาศบริสุทธิ์

ผมอยากหยุดเวลาไว้ ณ ท้องทะเลตรังจริงๆ ครับ บอกตรง!!! ไม่อยากกลับไปเผชิญกับความวุ่นวายในกรุงเทพเลยครับ

ความคิดเห็น