สิงคโปร์ -

3 วัน 3 คืน กับโจทย์แลนด์มาร์คสำหรับคนไปครั้งแรก และที่เที่ยวใหม่ๆ สำหรับคนที่ไปซ้ำ กับเพื่อนๆ สมาชิกทั้งที่เคยไปและไม่เคยไป

เราเดินทางด้วยเครื่องบิน Jetstar จากสุวรรณภูมิสู่สนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกที่ทำเมื่อไปถึงคือไปรับซิมที่เราสั่งซื้อผ่าน Klook ไว้ เป็น 4G ซิมการ์ดของ StarHub ราคา S$12 สำหรับ 7 วัน อินเตอร์เน็ต 4G 100GB ที่ใช้ยังไงก็ไม่หมด กับค่าโทร 500 นาที ไว้โทรตามเพื่อนตอนแยกกัน

สำหรับการเดินทางในประเทศสิงคโปร์เราใช้บัตร EZ-Link คนที่มีอยู่แล้วก็จัดการเติมเงิน ใครยังไม่มีจัดการซื้อที่ได้ที่เคาท์เตอร์หน้าทางเข้า MRT ในราคา S$12 (ค่าบัตร S$5 และเงินในบัตร S$7) และไปเติมเงินเพิ่มที่ตู้เติมเงินให้พร้อม


"วันแรกพาเที่ยวไม่ไกลจากที่พัก"

Fountain of Wealth เช็คอินจุดแรกที่น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง น้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกจุดรวมพลังงานบวกตามหลักฮวงจุ้ย ขอเปิดทริปรับโชคกันก่อนเป็นอย่างแรก

น้ำพุเปิดตามช่วงเวลา 10.00-12.00 น., 14.00-16.00 น. และ 18.00-19.30 น. ใครอยากขอพร ให้ขอพรและเดินวนแตะน้ำพุจำนวน 3 รอบ ส่วนใครอยากดูการแสดงแสงสี มีการแสดงวันละ 3 รอบ ในเวลา 20.00 น., 20.30 น. และ 21.00 น.

การเดินทาง : MRT Promenade Exit C

Bugis ย่านบูกิสเป็นย่านที่มีการท่องเที่ยวทั้งแบบศิลปะ วัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมสวยๆ รวมถึงแหล่งช้อปปิ้ง

การเดินทาง : MRT Bugis (Exit C สำหรับ Bugis Junction และ Exit B สำหรับฝั่ง Haji Lane)


Spiral straicase เดินผ่านและแวะถ่ายรูปบันไดวนหลากสีที่อยู่ด้านหลังของตึก Bugis Village


Bugis เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งวัดจีน Kwan Im Thong Hood Cho Temple (วัดเจ้าแม่กวนอิม)

ติดกันคือ Sri Krishnan Temple (วัดศรีกฤษณะ) วัดเก่าแก่ของศาสนาฮินดู

ไม่ไกลกันคือ Singapore Life Church โบสต์ของชาวคริสตจักร

Singapore Life Church จะตั้งอยู่ตรงข้ามกับ LASALLE College of the Arts สถาบันการศึกษาด้านศิลปะกับตัวอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามทันสมัย

นั่งรถเมล์กลับมาแถวที่พักยังคงอยู่ในย่านบูกิสกับ Sultan Mosque (มัสยิดสุลต่าน) มัสยิดเก่าแก่และสำคัญของชาวมุสลิมในสิงคโปร์

Jamilla Boutique Inn บ่ายสามถึงเวลาเช็คอิน ที่พักของเราตั้งอยู่ในย่านบูกิส กับโจทย์ในการเลือกที่พักของเราคือราคากำลังดี เดินทางสะดวก และมีห้องน้ำในตัว

ที่นี่เป็นห้องพักเล็กๆ ตามสไตล์โฮสเทลในสิงคโปร์ มีอาหารเช้าเป็นขนมปังไว้ให้ปิ้งกันเองในตอนเช้า กับน้ำเย็นให้กดดื่มได้ฟรี และที่ตั้งไม่ไกลจาก MRT สถานี Nicoll Highway

นอนพักผ่อนหนีร้อนกันจนเย็นก็มาเดินเที่ยวรอบๆ Gardens by the Bay รอบนี้ไม่ได้ซื้อบัตรเข้าชมในโดม แต่เลือกมาเดินชมสวนด้านนอกกันแทน เดินผ่าน Marina Bay Sand มุมเดิมๆ ที่เคยผ่าน

การเดินทาง : MRT Bayfront (Exit B สำหรับที่จะไปชม Garden by the Bay Exit D,C สำหรับคนที่ต้องการเข้า Marina Bay Sand)

ตกเย็นกับกิจกรรมแสงสีเสียงทั้งสองที่กับ Supertree Grove จัดแสดงทุกวัน 2 เวลา 19.45 น. และ 20.45 น.

และ SPECTRA – A LIGHT & WATER SHOW การแสดงแสงสีและโชว์น้ำพุริมอ่าวมารีน่า ด้านหน้ามารีน่า เบย์ แซนด์ส จัดแสดงวันอาทิตย์-อังคาร 2 รอบ เวลา 20.00 น. และ 21.00 น. และวันศุกร์และเสาร์ 3 รอบเวลา 20.00 น., 21.00 น. และ 22.00 น.


"วันที่สองชมธรรมชาติ และเที่ยวตาม MRT สายสีเขียว"

Punggol Waterway Park ณ สะพาน Sunrise Gateway ตอนเช้ากับการเดินทางด้วย MRT สุดสายสีม่วง สถานี Punggol และต่อ LRT ลงสถานี Kadaloor เดินไปทาง Waterway Sunbeam แล้วทะลุออกไปเดินเส้นเลียบริมน้ำ เดินเลาะขวามาเรื่อยๆ จนถึงสะพาน Sunrise Gateway เราจะเห็นทางเดินไม้เลียบริมน้ำคดไปคดมา และมองเห็น Lorong Halus Bridge

การเดินทาง : MRT Punggol ต่อ LRT Kadaloor Exit A สำหรับคนที่ต้องการไปที่ Sunrise Gateway

Lorong Halus Bridge สะพานสำหรับคนและรถจักรยานระหว่างสองฝั่ง โดยพังโกลคือย่านที่พักอาศัย โดยเมืองจะมีธารน้ำยาวจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตกเรียกว่า Waterway ซึ่งเป็นริมน้ำจะมีทางเดินและทางจักรยานตลอดเส้นทาง เป็นทั้งจุดพักผ่อนและออกกำลังกายของคนที่นี่


Tiong Bahru เป็นอีกย่านที่พักอาศัยมีทั้งอาคารเก่าๆ ที่ยังอนุรักษณ์ไว้ รวมถึงย่านอพาร์ทเม้น ที่นี่มีร้านคาเฟ่ฮิปๆ ร้านแฮนด์เมดเก๋ๆ แทรกตัวอยู่ตามห้องแถวต่างๆ

การเดินทาง : MRT Tiong Bahru Exit A

ส่วนเป้าหมายของเราคือแวะมาหาขนมรองท้องกันที่ Tiong Bahru Bakery

Tiong Bahru Bakery ร้านเบเกอร์รี่ที่โด่งดังโดยเฉพาะครัวซองต์ เป็นร้านยอดนิยมที่คนต่อแถวรอไม่มีว่าง กับขนมหวานละลานตา ราคาเองก็ไม่เบาเลยทีเดียว

ที่นี่ต้องบอกว่าเบเกอร์รี่อร่อยจริง มีน้ำเปล่าให้เติมฟรี ส่วนเราสั่งน้ำส้มมาดื่มด้วย สำหรับเพื่อนที่สั่งกาแฟบอกว่ากาแฟทีนี่ยังไม่เข้มเท่าไหร่


Enabling Village ที่นี่คือหมู่บ้านเพื่อโอกาสผู้พิการในสิงคโปร์ สร้างไว้เหมือนเป็นเมืองเล็กๆ สำหรับท่องเที่ยว สันทนาการ โดยจุดประสงค์หลักคือศูนย์ฝึกอบรมผู้พิการ ที่นี่มีมุมนิยมสำหรับชาวอินตาแกรมในพื้นที่ที่แวะมาเช็คอินกันทั้งที่นั่งไม้สีเขียวสลับน้ำตาล และท่อกลมที่จัดวางไว้ให้นั่งพักก็ปรับมาถ่ายรูปเก๋ๆ

การเดินทาง : MRT Redhill Exit A

"แวะเที่ยวตาม MRT สายสีเขียวไปเรื่อย"

Chinese Garden กับภายในของ 7-Storey Pagoda จุดเช็คอินภาพถ่ายบนไดวน 7 ชั้นภายในตัวเจดีย์ แต่ละชั้นสามารถเดินออกไปชมวิวภายนอกได้

การเดินทาง : MRT Chinese Garden Exit B

Twin Pagoda เดินต่อไปอีกนิดเราจะเจอกับเจดีย์แฝดริมน้ำ จุดถ่ายรูปสวยๆ อีก 1 ที่ สำหรับสวนแบบจักวรรดิจีนนี้สามารถเดินชมบรรยากาศและความงามแบบจีนโบราณได้ แต่วันที่เราไปฝนฟ้าคะนองจนต้องถอยทัพกลับ


Raffles Marina สถานที่ที่เป็นท่าเรือยอร์ช ภายในมีทั้งร้านอาหาร โรงแรมที่พัก กับบรรยากาศริมน้ำเหมาะกับการมานั่งกินลมชมวิวในตอนเย็นๆ

การเดินทาง : MRT Tuas Link Exit B

Raffles Marina Lighthouse ประภาคารที่อยู่ริมอ่าวฝั่งตะวันตกของสิงคโปร์ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ แต่เสียดายวันนี้เรายังคงเจอฝนไม่หยุดหย่อนเลยไม่ได้รูปแบบที่ตั้งใจ


"วันที่สามวันพักผ่อน ถ่ายรูป และช้อปปิ้ง"

Joo Chiat Rd ย่าน Katong ที่นี่ถือเป็นย่านฮิปๆ อีกแห่งของสิงคโปร์ตามถนน Joo Chiat มีร้านอาหารให้เลือกมากมายตลอดเส้นทาง และเรามาที่นี่เพื่อแวะมาถ่ายรูปเช็คอินกับตึกแถว Peranakan Houses

การเดินทาง : มาได้ด้วยรถเมล์หลายเส้นทางเรานั่งสาย 16 ลงป้าย Opp Maranatha Hall ถ้า MRT ที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Eunos)

Peranakan Houses ตึกแถวหลากสีของบ้านเรือนยุคโคโลเนียน สไตล์เปรานากัน เป็นบ้านที่ยังคงสภาพและสไตล์แบบเดิมไว้ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะมาถ่ายรูป

Homeground Coffee Roasters ร้านกาแฟที่ตามคนในพื้นที่มาอีกเช่นเคย กับร้านคาเฟ่สไตล์มินิมอล ร้านเล็กๆ แต่ไม่อึดอัด กับเครื่องดื่มเข้มๆ เราชอบมากกับช็อคโกแลตแบบไม่หวาน

Katong กับตึกแถวสวยๆ


Capitol Piazza กับร้านดัง Capitol Guan's Mee Pok แวะกินข้าวกลางวันกันก่อนจะไปเที่ยวต่อ เนื่องจากจุดหมายที่จะเที่ยวอยู่แถวนี้พอดีเราเลยแวะเข้า Capitol Piazza ร้านอยู่ที่โซน Food Republic ชั้น B1 กับร้านหมี่ป๊อกชื่อดังที่การต่อคิวรอรับอาหารยาวนานจนเพื่อนกินข้าวอิ่มไปแล้วสองรอบ แต่อร่อยจริงให้อภัย

Chijmes ที่นี่เคยเป็นโบสถ์และโรงเรียนคาทอลิกสำหรับเด็กผู้หญิง อาคารหลัก Caldwell House เป็นอาคารที่ออกแบบสวยงาม เป็นหอสวดมนต์ที่สร้างในแบบโกธิคสไตล์อังกฤษ-ฝรั่งเศส หนึ่งในงานที่ปราณีตที่สุดในสิงคโปร์ ด้านในเป็นสถานที่พักผ่อนทั้งลานสนามหญ้า และร้านอาหาร รวมถึงแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน มาถ่ายรูปเช็คอินกับอาคารสีขาวสวยๆ และนั่งพักผ่อน ที่นี่สงบและร่มรื่น จนคนในพื้นที่เรียกว่าโอเอซิสแห่งความสงบ

การเดินทาง : MRT City Hall Exit B ส่วนเรามาจาก Katong เลยนั่งรถเมล์สาย 14 มาลงป้าย Capitol Bldg


Uncle Chieng Traditional Ice Cream ร้านไอติมแซนวิชชื่อดังของสิงคโปร์ร้านนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าห้าง Takashimaya และคนส่วนใหญ่มักมาอุดหนุนเพราะคุณลุงโดยเฉพาะ พอคุณลุงไปพักเบรคคนดูซาไปเลยทันที

การเดินทาง : MRT Orchard Exit C แต่จริงๆ เรามาโดยรถเมล์น่าจะสาย 7 ลงป้าย Opp Orchard Stn แล้วเดินทะลุห้าง เนื่องจากวันที่สามเราเหนื่อยจะเดินลง MRT เลยเปลี่ยนแผนเป็นนั่งรถเมล์แทน

Apple Orchard Road ร้าน Apple Store แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับจุดเช็คอิน บันไดหินแกะสลัก ที่อยู่ด้านข้างภายในร้าน เป็นอีกหนึ่งผลงานด้านสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของที่นี่

Chinatown ความตั้งใจเดิมคือจะมากินข้าวเย็นที่ Liao Fan Hawker Chan แต่เราพบว่าร้านปิดไปตั้งแต่บ่าย 2 เนื่องจากที่ร้านมีธุระ ก็เลยไปฝากท้องที่เดิมๆ ที่ Maxwell Food Centre

การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A ส่วนเรามาด้วยรถเมล์เช่นเคยลงป้าย New Bridge Ctr

Buddha Tooth Relic Temple วัดพระเขี้ยวแก้วของสิงคโปร์ ที่รอบนี้เราไม่ได้แวะเข้าไปด้านใน

Keppel Bay ย่านนี้จะเป็นย่านที่พักอีกที่ โดยเป็นคอนโดหรูริมแม่น้ำ (Corals at Keppel Bay) และท่าจอดและบริการให้เช่าเรือ สามารถเดินข้ามสะพานไปยังเกาะ Keppel ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านอาหารและสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย

การเดินทาง : MRT HarbourFront Exit B ส่วนถ้าใครนั่งรถเมล์แบบเราสามารถมาลงได้ที่ป้าย Caribbean at Keppel Bay

กับมุมถ่ายรูปอาคารสูงทรงผลึกโค้งเรียงกันสามแท่งออกแบบโดย Daniel Libeskind สถาปนิกชื่อดังชาวโปแลนด์อเมริกัน กับภาพสะท้อนของตึกบนพื้นน้ำ กับบรรยากาศช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน

Haji Lane ปิดท้ายค่ำคืนก่อนเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้นกับย่านฮิปๆ Haji Lane ที่ไม่ไกลจากที่พัก จริงๆ เพราะเราออกมาเดินหาร้านน้ำผลไม้เย็นๆ เพราะความร้อนที่สะสมมาทั้งวัน เลยใช้เวลาที่เหลือเดินชมบรรยากาศตึกสไลต์โคโลเนีย ที่กลางวันจะเป็นร้านเสื้อผ้า และเครื่องประดับของวัยรุ่น และตอนกลางคืนจะเปลี่ยนโฉมเป็นผับนั่งเล่นสไตล์อินดี้ และร้านนั่งดื่มชิวๆ

"Good bye and see you again"

สิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่เดินทางสะดวก และมีอะไรน่าสนใจอยู่เสมอ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีกครั้ง แล้วพบกันใหม่



ติดตามที่กินที่เที่ยวกับเราได้ที่

http://www.whenigoto.com

https://www.facebook.com/whenigoto/


ความคิดเห็น