บางปู สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อปู มีรูปปั้นปู แต่สัตว์เจ้าถิ่นไม่ใช่ปู กลับเป็นนกนางนวล เอ๊า! อิหยังวะไปอีก ซึ่งอาจจะด้วยชื่อที่ดูย้อนแย้งชวนฉงนสนเท่ห์ หรือด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว บางปูก็ยังคงเป็นสถานตากอากาศสไตล์วินเทจสุดฮอต ที่ฮิตมาตั้งแต่รุ่นย่า เก๋าขนาดนี้มีดีอะไร ปะไปดูกัน
บางปูตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ การเดินทางจะเรียกว่า ไม่มีรถก็ไปได้ แต่ไม่ถึงกับสะดวกสบาย หรือเพราะเราเด๋อเองอันนี้ไม่ชัวร์ เพราะการเดินทางเริ่มต้นแบบแมสๆ ได้จาก BTS เลยค่ะ แล้วลงสถานีแบริ่ง ต่อรถเมล์ได้ทุกสายที่เขียนว่า ไปปากน้ำ กำชับกระเป๋ารถเมล์ให้มั่นเหมาะว่าลงศาลหลักเมือง ถึงแล้วบอกด้วยนะเพ่! ไม่งั้นถ้าไม่เคยมา มีหลงค่ะ พอถึงศาลหลักเมืองปุ๊บ ลงรถมาสอดส่ายสายตาหารถคอกหมู หรือรถ 6 ล้อคันใหญ่ๆ ที่เขียนว่าไป บางตำหรุ ถามคนแถวนั้นเอาได้เลย แต่อย่าชะล่าใจไป เห็นปุ๊บบอกคนขับเลยว่าลงบางปู เพราะอย่างเรานี่คือเข้าใจไปเองว่าเดี๋ยวเขาจะมาเก็บเงินก่อนรถออก พร้อมถามว่าลงตรงไหน ไม่จ้า ตังค์เติงไม่เก็บขับยาวเลย แล้วที่หวังไว้ว่าบางปูต้องเป็นแลนด์มาร์คที่ใหญ่โต ฝูงชนพลุกพล่านก็คือคิดผิดไปอีก เพราะมองไม่ทันเลยจ้า แถมจากทางเข้าต้องขับรถเข้าไปอีกประมาณนึงอยู่ เด๋อนัก เลยป้ายไปสิ ข้ามสะพานลอยเรียกแท็กซี่กลับมาค่ะ ดีว่าไม่ไกล อย่าทำตัวแบบเรานะคะ5555 แล้วตอนนั้นคือร้อนมาก แดด 4 โมงเย็นกับความเด๋อของตัวเอง อารมณ์นี่หงิดมาก แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราต้องสู้!
ในที่สุด เราก็มาถึงแล้ววว คนเป็นล้านค่ะคุณผู้โช้มมม แต่ลมเย็น ผมปลิวสยาย คลายความหงิดไปได้เยอะเลย น้องนกก็คือไม่ทำให้ผิดหวังบินกับพึ่บพั่บๆ ฉวัดเฉวียนเปลี่ยนเลนส์ปาดหน้าเราระยะประชิดกันเลย แต่ช่วงที่จะเจอน้องนกนางนวลอย่างหนาแน่นแบบนี้ควรมาช่วงหน้าหนาว (ทางทฤษฎี) คือ พ.ย. - มี.ค. ค่ะเพราะนกจะมีการอพยพย้ายถิ่นฐานตั่งต่าง เลยได้ยลโฉมกันอย่างจุใจ
จากนั้นความสนใจทั้งหมดก็ย้ายไปโฟกัสที่การถ่ายนกบินอย่างเป็นบ้าเป็นหลังค่ะ คือ ต้องยอมรับว่าเป็นสถานที่นกเยอะจริง คนเยอะจริง และถ่ายรูปสวยจริง แต่สกิลงอกง่อยอย่างแอดคือถ่ายได้แค่นี้แหละค่ะทุกคน น้องๆ บินกันไวมาก ฟ้าใสมาก ได้ฟีลญี่ปุ่นเบาๆ อยู่นะว่าไม่ได้
บรรดามนุษย์ก็พยายามเรียบกร้องความสนใจกันอย่างสุดพลัง ซื้ออาหารให้น้องนกกันอย่างคับคั่ง และเป็นธรรมดาค่ะ กินเยอะก็ต้องอึอึ๊เป็นธรรมดา ซึ่งผู้โชคดีไม่ใช่ใครที่ไหน เรานั่นเอง แป๊ะ! เข้าให้ทั้งบ่า หมวก กระเป๋า สแครชแปดเปื้อนกันถ้วนหน้า ตบบ่าที่เลอะขี้นก ปลอบใจตัวเองเบาๆ ว่า เอาวะ ไม่โดนขี้นกบางปูถือว่ามาไม่ถึง (อันนี้ใครบอก5555)
หลังถ่ายรูปวืดๆ กันอย่างหนำใจ สไตล์ถ่ายเป็นร้อย ใช้ได้ไม่ถึงสิบแล้ว คนอย่างเราจะไปคิดอะไรต่อได้นอกจากเรื่องของกิน5555 เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีภาพการเต้นลีลาศที่บางปู งานราตรีสโมสรอินเนอร์ปริศนา ท่านชายพจน์อยู่ไม่มากก็น้อย นิยายในหัวกับสถานที่นี่จับคู่กันถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ไม่เป็นไร เป้าหมายของเราคือการตามรอยไปสัมผัสความวินเทจที่ร้านอาหารและลานลีลาศสุดสะพานบางปูนั่นเองค่ะ
พอเข้าไปแล้ว เหยยย มีลานลีลาศจริงจัง แต่ไม่มีใครเต้น มีแต่คนมากินข้าวทั้งนั้นจ้ะ เลือกได้เลยว่าจะนั่งแบบอินดอร์ตากแอร์เย็นๆ หรือจะเอ้าท์ดอร์รับลมชมพระอาทิตย์ตก เราก็เลือกอย่างหลังเพราะอยากดูพระอาทิตย์ตกแบบใกล้ๆ คราแรกมีความลังเล เอ..ฉันจะเลือกร้านไหนดี แต่จากการสังเกตแล้ว คิดว่าร้านเดียวกันหมด เลิกคิด นั่งเลยเพราะเมนูหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ได้โต๊ะแล้วไม่รอช้าสั่งทันทีค่ะ วันนี้มาแค่ 2 คนจัดไปเบาๆ สัก 3 อย่าง บอกเลยว่าอาหารที่นี่ราคาไม่แรงนะจ๊ะ ที่เราสั่งคือราคาต่ำกว่า 100 – 100 ต้นๆ เท่านั้น แต่ถ้าวัตถุดิบแบบปลาเป็นตัวก็ประมาณ 300 – 400 บาท เลยรู้สึกสบายใจในราคามิตรภาพ อาหารก็มาปริมาณไม่ได้จานใหญ่เว่อร์อะไร ก็ราคาเท่านี้เรียกว่าอิ่มพอดี รสชาติกลางๆ ค่ะ ไม่ถึงกับอร่อยวู้วว้าว แต่กินแล้วก็ไม่ได้หัวเสียอะไร แถมบรรยากาศคือชนะ
ต่อไป ได้ชมพระอาทิตย์ตกสมใจจ้ะ โต๊ะข้างๆ เริ่มลุกไปในมุมที่ดีที่สุดแล้ว เราก็ไม่รอช้าตามไปทันใด แล้วแชะๆๆๆ รูปพระอาทติย์ตก ปิดท้ายวันแบบโรแมนติกกันประมาณนี้เลย ทริปนี้ก็คือว่ามาเก็บสถานที่ท่องเที่ยวสุดวินเทจในตำนาน รู้สึกคลาสสิกดีน้า แล้วก็อารมณ์ดี ไม่หงิดแล้ว ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ บ๊าย บาย~
Passion Foot
วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 17.51 น.