ผมชอบอ่านเจอบ่อยๆ มีคนชอบตั้งกระทู้ถามว่า
ระหว่าง Disney Land กับ Disney Sea เราควรจะไปที่ไหนดี
ผมเองก็ให้คำตอบไม่ได้ครับ555555
แต่ผมเลือก Disney sea เพราะผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีที่นี่ด้วยหรอ
หาข้อมูลจากกระทู้ในเว็บนี่แหละครับ
ผมก็ได้คำตอบ ว่า
.
“ ผมต้องไป Tokyo DisneySea "
.......................................ฝากกระทู้เก่าด้วยนะครับ......................................
16 : 9 -- เ ข า ค้ อ เ ข า ง้ อ -- https://th.readme.me/p/2322
16 : 9 -- นั่ ง ห น า ว น อ น ดู ด า ว ที่ -- "ด อ ย เ ส ม อ ด า ว" --
https://th.readme.me/p/2258
16 : 9 -- เดินขาสั่น ฟังนิทาน ในหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ--
https://th.readme.me/p/2381
......................................................
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ ฝากกดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook :
https://www.facebook.com/Workingdaysareover
..........................................................
-- เราเริ่มต้นกันที่โตเกียวครับ ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า แต่ก็มีเรื่องให้ปวดหัวนิดหน่อย
คือ ตัวที่เราซื้อไว้ล่วงหน้าจากประเทศ ดันหาไม่เจอ (แย่แน่ๆเพราะราคามันรวมๆแล้วตั้ง 4 พันบาท)
แต่สุดท้ายก็หาเจอครับ เล่นรื้อทุกอย่างในห้องกันเลยทีเดียว
เราออกเดินทางจากสถานีโตเกียว ไปตามสาย Ginza line ไปจนสถานีสุดท้ายครับ
เราแวะฝากกระเป๋ากันที่นี่เพราะกลัวที่ Disney sea จะไม่มีที่ฝาก (แต่จริงๆแล้วมีนะครับ เยอะด้วยย5555555)
แล้วนั่งรถไฟสาย JR Line ไปต่ออีกสัก 2 – 3 สถานีก็ถึงแล้วครับ --
-- พอถึงที่สถานีปลายทาง เราก็เดินลงตามๆกันไปครับ ต้องบอกเลยว่า หน้าประตูก็ดูไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
(เพราะผมคิดว่า มันน่าจะอลังการกว่านี้ ไหนๆก็มีแค่ที่นี่ที่เดียว)
เข้าไปแล้วก็ต้องไปซื้อบัตรรถไฟภายใน Disney ครับ ใบละ 260 เยน จะมีให้ลงคือ Disney Land และ Disney Sea --
-- บรรยากาศในรถไฟมีแต่ความฟรุ๊งฟริ๊ง เด็กๆดูตื่นเต้นกันใหญ่ คนญี่ปุ่นเองก็ดูจะแต่งตัวเข้ากับบรรยากาศ
ที่นี่มี ที่จอดรถกว้างขวางครับ ใครเช่ารถมาขับ หาที่จอดได้สบาย รวมทั้งที่พักภายใน Disney Resort (แต่แพงมาก555) --
-- พอถึงสถานี Disney Sea เราก็เดินตามเจ้าถิ่นไปครับ ไปเจอเคาเตอร์ขายตั๋ว คนเยอะพอสมควร
แต่เราโชคดีที่ซื้อมาเรียบร้อยแล้ว เลยไม่ต้องต่อแถวซื้อ เราตรงไปทางเข้าทันทีครับ
มีพนังงานรอรับ รวมถึง Mascot ที่เป็นตัวการ์ตูน Disney รอถ่ายรูปกับพวกเราอยู่ --
-- ก่อนทางเข้าก็มีที่ให้เสียเงินเลยครับ (ใครพาลูกๆมาเดินห่างไว้จะดีกว่า) มีคนเดินเต็มไปหมดครับ
เด็กๆ ผู้หญิง ต่างนำของที่แขวนอยู่ มาสวม มาลองใส่
ที่นี่มีของที่จะพาให้เราเสียเงินได้เรื่อยๆเลยครับ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเล่น
จนแล้วจนรอด พวกเราก็เสียเงินให้มันจนได้ --
-- ตอนแรกผมคิดว่า ที่นี่ก็คงเหมือนสวนสนุกทั่วไป (เคยเที่ยวแค่ในประเทศไทยนะ55555)
แต่หลังจากเดินพ้นทางเข้า ก็พบกับภูเขาไฟ ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะใหญ่โตขนาดนั้น (55555 บ้านนอกของแท้)
ผมได้แต่ตื่นเต้นอยู่ในใจ ไม่กล้าแสดงออกมากนัก --
-- ที่นี่จะแบ่งพื้นที่เป็นโซนๆครับ ตามplotหนัง หรือการ์ตูนต่างๆ ตามแผนที่ข้างบนเลย
เริ่มเดินๆแรกๆ ก็งงๆนิดนึงครับ เพราะจะมีร้านขายของมาล่อตาล่อใจตลอดเวลา
แต่สุดท้าย ไหนๆมาแล้ว ยังไงก็ต้องเดินจนครบอยู่ดี
เราเดินวนไปทางซ้ายมือครับ อาคารแถบนี้ตกแต่งคล้ายอิตาลีครับ --
-- เดินถ่ายรูปมาสักพัก ก็จะเห็นคนรอต่อแถวกันยาวมาก
มาที่นี่ต้องทำใจครับ ถ้าอยากเล่นเครื่องเล่น ต้องอดทนรอหน่อย
แต่ผมรับรอง ถ้าคุยได้ลองเล่นมันแล้ว คุยจะต้องชอบมันแน่ๆ
ผมได้ลองเล่นอันเดียวครับ มันน่าจะเรียกบ้านผีสิง บรรยากาศดูน่ากลัวไปหมด ทั้งๆที่คนก็เยอะ
เทคโนโลยีนี่ไม่ต้องพูดถึง ผมนี่ขี้กลัวอยู่แล้ว ก็ยิ่งกลัวขึ้นไปอีก(แต่มันส์มากครับ ต้องไปลอง) --
-- พอออกมาจากบ้านผีสิง เราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆครับ
สถานที่แถบนี้ ตกแต่งเป็นแบบเมืองชายฝั่ง มีเรือลำขนาดต่างๆ แม่น้ำไหลผ่านอย่างสมจริง
และร้านขายของที่ระลึก ตามเคยยย --
-- เมืองต่อมา ถ้าผมเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเมืองในหลังเรื่อง tomorrowland ครับ
ทุกอย่างดูแต่งแต่งอย่างล้ำสมัย --
-- ผมก็ไม่รอช้าครับ รีบไปต่อแถวเล่นเลยทันที(เครื่องเล่นชิ้นนี้รอไม่นานครับ)
มีคนรอต่อแถวอยุ่ก่อนหน้าผมหลายสิบคน แต่ละคนต่างตื่นเต้นที่จะได้เล่นเครื่องมากๆๆ
เพราะโอกาสที่จะได้เล่นมีน้อย(ก็อย่างอื่นมันรอนานนิ5555555555) --
-- โซนถัดมา จะเป็นลักษณะแบบอียิปครับ
ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ แม่น้ำ มีรถไฟเหาะให้ต่อแถวเล่นด้วยครับ
ผมก็ไปยืนรออยู่พักนึง แต่ไม่ไหวจริงๆ แถวไม่ขยับ ก็เลยยอมแพ้ดีกว่า --
-- เมืองต่อมาตกแต่งแบบอินเดียครับ
มีมาสคอตของการ์ตูนอาราดินมาให้ถ่ายรูปด้วย(ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร)
พรมวิเศษก็ลองเล่นได้ครับ ต่อแถวแป๊บเดียวก็ได้เล่นกันแล้ว --
-- เมืองถัดมาเป็นเมืองแบบแฟนตาซี แบบใต้น้ำ มีนางเงือก (ผมก็เรียกไม่ค่อยถูก55555)
แต่ที่นี่สวยมากครับ ตื่นตาตื่นใจดี แสงไฟสวย
แต่ถ่ายรูปยากนิดนึงครับ เพราะมันค่อยข้างมิด --
-- ภายในจะตกแต่งให้เรารู้สึกว่า เราอยู่ใต้น้ำจริงๆ
มีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นหลายอย่างครับ แต่ผมของบายดีกว่า --
-- แล้วเราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆครับ
ไปแบบชิวๆ แต่อากาศหนาวมาก วันที่ผมไปอากาศเย็นมากครับ
ไม่มีแสงแดดเลย ภาพที่ออกมาเลยมืดไปนิดนึง --
-- เมืองต่อมาเป็นคล้ายๆเกาะครับ ภายในมีภูเขาไฟ อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าตกแต่งแบบไหน
แต่ถ้าให้เดา น่าจะ Peter pan กับ Pompeii รวมกัน(55555555มั่วสุดๆ) --
-- เราเริ่มมานานครับ เริ่มหิวนิดหน่อย เลยไปเสียตังซื้อของกินมากินเล่น
ของกินก็ราคาไม่แพงมากครับ จะมีแพงก็แพคเกจที่ใส่มันนี่แหละครับ
ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ซื้อไปเถอะครับ (นานๆจะได้มาสักครั้ง) --
-- หลังจากนั้นเราเดินกลับมาถึงด้านหน้าแล้วครับ
มีลักษณะเป็นท่าเรือของเกาะ เราเดินออกมาตอนใกล้มืดแล้ว ก็สวยไปอีกแบบครับ --
-- พอเดินมาถึงด้านหน้าทางเข้า ก็พบกับท่าเรือในยามค่ำคืนครับ
ต้องบอกว่าสวยๆมากๆ แต่น่าเสียดายที่รูปไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ --
-- สุดท้ายก็เจอทางออกครับ
แต่ทางDisney ก็ไม่ลืมที่จะมีร้านขายของที่ระลึกตั้งกันไว้เผื่อเงินพวกเราเหลือด้วยครับ --
จบแค่นี้นะครับสำหรับ Tokyo DisneySea สถานที่ที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะลองไปสัมผัสสักครั้ง
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางนะครับ ไม่มีคุณคงไม่มีการเดินทางแบบนี้
ขอบคุณกระทู้ที่ถามว่า ระหว่าง Disney Land กับ Disney Sea เราควรจะไปที่ไหนดี
เพราะผมรู้แล้วครับ
.
.
.
.
" ที่นี่คือที่ที่ผมต้องไปจริงๆ "
......................................................
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook :
https://www.facebook.com/Workingdaysareover
..........................................................
ปล.ติชมได้นะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
Hexagon169
วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.08 น.