บทความนี้เป็นบทความแรกของสโรซ่าใน README.ME และเป็นการรีโพสต์บทความที่เคยถูกเขียนไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องราวการไปแลกเปลี่ยนระดับมหาวิทยาลัย สามารถดูบทความต้นตำรับได้ที่ เล่าประสบการณ์ 10 เดือนใน "ลัตเวีย" ประเทศนี้อยู่ตรงไหนกันนะ?
สวัสดีค่ะ เราชื่อ "แพรว" เป็นนักศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ เอกอังกฤษ อเมริกันศึกษา มหาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ปีที่แล้วไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศลัตเวีย ที่มหาวิทยาลัตลัตเวีย เป็นเวลา ๑๐ เดือน เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์
ประเทศสาธารณรัฐลัตเวียยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยและคนต่างชาติเท่าไรนัก “ลัตเวียคือรัสเซียใช่ไหม” “ลัตเวียอยู่ที่ไหน” นี่เป็นคำถามที่พบบ่อยเมื่อบอกว่าไปแลกเปลี่ยนที่ลัตเวีย ในปี ๒๕๕๘ เราไปอยู่เมืองริก้า ประเทศลัตเวียเป็นเวลา ๑๐ เดือนในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยลัตเวีย อีกหนึ่งคำถามยอดนิยม “ทำไมเลือกไปประเทศนี้” เราอยากไปประเทศแปลกๆ ในยุโรปที่คนไม่ค่อยรู้จัก ทางมหาลัยธรรมศาสตร์มีทุนจูงใจให้สำหรับประเทศลัตเวีย และมีคนแนะนำธรรมชาติและความสงบของประเทศนี้ นี่คือเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกลัตเวียเป็นลำดับแรก
สาธารณรัฐลัตเวีย เป็นประเทศเล็กๆ ในกลุ่มรัฐบอลติก อยู่ติดกับประเทศสาธารณรัฐลิทัวเนีย สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐเบลารุส และสหพันธรัฐรัสเซีย เมืองหลวงคือริก้า ใช้ภาษาลัตเวียเป็นภาษาราชการ คนลัตเวียส่วนมากมีความรู้ภาษารัสเซียเนื่องจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ คนรุ่นใหม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ลัตเวียมีประชากรประมาณสองล้านคน ส่วนมากเป็นชนชาติลัตเวียและรัสเซีย ลัตเวียมี ๔ ฤดู ช่วงหน้าหนาวมีโอกาสถึง -๓๐ องศาเซลเซียส ลัตเวียไม่ค่อยมีแดด ตลอดปีจะมีแดดแค่ในฤดูร้อน ประมาณ ๒-๓ เดือนเท่านั้น
มหาวิทยาลัยลัตเวียไม่มีวิทยาเขตเหมือนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ละคณะอยู่ไกลกัน วิชาที่เปิดสอนมีหลากหลายและส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงมีนักศึกษาต่างชาติอยู่มาก เกรดของมหาลัยลัตเวียคือ ๑-๑๐ ใน ๑ คาบเรียน ๑.๕ ชั่วโมง มีเวลาพัก ๓๐ นาทีระหว่างคาบ นักศึกษาลัตเวียรวมตัวกันภายใต้กลุ่ม ESN Riga เพื่อดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนในเมืองริก้า สัปดาห์แรกก่อนเปิดเทอมจะมีกิจกรรมต้อนรับนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกวัน หลังจากเปิดเทอมจะมีกิจกรรมนอกสถานที่อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง บางกิจกรรมต้องจ่ายเงินเพิ่ม
.
เราแชร์ห้องพักกับเพื่อนต่างชาติ ๑ คน เพื่อนเป็นคนนิสัยดีแต่เป็นเพราะตัวเองไม่ชินกับการอยู่ร่วมห้องกับคนอื่น ในช่วงแรกเราอึดอัดมาก บางวันเรากลับหอดึกๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ในห้องนานๆ เราสามารถย้ายไปอยู่คนเดียวและจ่ายเงินเพิ่มได้ แต่เป็นเพราะเราอยากลองใช้ชีวิตแบบเพื่อนร่วมห้อง เราเลยนึกถึงความตั้งใจนี้เสมอ หลังๆ เราเริ่มปรับตัวได้และการมีเพื่อนร่วมห้องก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เราทำอาหารไม่ค่อยเป็นและไม่ชอบทำอาหารแต่เราเป็นคนกินง่าย ในสัปดาห์หนึ่งเราจะออกไปกินข้างนอกอย่างน้อย ๓ มื้อ เวลาทำอาหารเราจะทำอาหารง่ายๆ ที่โดยต้องครบหมู่กิน อย่างเช่น ไข่ต้ม สลัด ข้าว สปาเก็ตตี้ และเมนูผัดเนื้อสัตว์ที่คิดค้นเอง ณ ตอนนั้น.
การเดินทางที่นี่เน้นใช้การขนส่งสาธารณะในลัตเวียคือ รถบัส (Bus, Trolley bus, Mini bus) รถราง และรถไฟ รถประจำทางมีประสิทธิภาพทั้งตรงเวลา วิ่งตามเส้นทาง และเคารพกฎจราจร รถบัสของลัตเวียมีที่และปุ่มกดขึ้นลงรถสำหรับคนพิการและรถเข็นเด็ก ที่ป้ายจอดรถบัสมีตารางเวลาและรายละเอียดจุดจอดรถบัสอื่นๆ เริ่มบริการตั้งแต่ตี ๕ ถึงประมาณเที่ยงคืน จะมีพนักงานขึ้นมาสุ่มตรวจบัตรหรือตั๋วรถ ถ้าไม่มีตั๋วจะถูกปรับครั้งละ ๒๐ ยูโร ค่าโดยสารเที่ยวละ ๒ ยูโร ส่วนบัตรรายเดือน ๑๖ ยูโรต่อเดือน ขึ้นได้ไม่จำกัดรอบ ไม่จำกัดชนิดของรถโดยสาร
ค่าใช้จ่ายทั่วไปที่เราใช้ประมาณ ๔๐๐ ยูโรต่อเดือน ที่ลัตเวียของต่างๆ แพงในระดับนึง แต่ถูกกกว่านิดหน่อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ทางมหาลัยลัตเวียเปิดบัญชีธนาคารให้ฟรี บัตรเครดิตและเดบิตจะเป็นแบบมี chip ซึ่งเครื่องรูดบัตรบางเครื่องไม่รับบัตรไทยที่ไม่มี chip ที่ลัตเวียมีการโอนเงินข้ามประเทศทั้ง Western Union และ Money Gram
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องไปเที่ยวประเทศในทวีปยุโรปอยู่ใกล้ๆกัน แล้วยิ่งมีวีซ่าเชงเก้นแล้วด้วยการเดินทางระหว่างประเทศในเขต European Union ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ระหว่างที่อยู่ลัตเวีย เราเดินทางท่องเที่ยวรวม ๒๐ ประเทศ บางครั้งไปกับเพื่อน บางครั้งไปคนเดียว เพื่อนบางคนถามว่าเรามาแลกเปลี่ยนหรือมาเที่ยวกันแน่ เราชอบทุกประเทศที่ไป เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างและความสวยงามเฉพาะตัว ถึงประเทศในยุโรปจะมีความปลอดภัย แต่เราควรระวังตัวเองให้มากเพราะคนนิสัยไม่ดีมีอยู่ทุกที่ เราโชคดีที่ไม่เจอเรื่องร้ายๆระหว่างการท่องเที่ยวเลย เพื่อประหยัดเงินในการท่องเที่ยวเราใช้สายการบินราคาถูกหรือรถบัสในการเดินทาง ส่วนที่พักก็จะมีโฮสเทล couchsufing และบ้านเพื่อน
ทัศนคติทั่วไปที่คนต่างชาติมีต่อคนลัตเวียนั้น โดยทั่วไปรู้สึกว่าคนลัตเวียไร้ความรู้สึกหรือเย็นชา ยิ้มยาก บางคนบอกว่าเพราะอากาศที่หนาวทำให้พวกเขาต้องรีบก้มหน้าก้มตาเดินกลับบ้าน ไม่ผิดถ้าใครจะบอกว่าคนลัตเวียมองโลกในแง่ลบ เพราะสิ่งที่พวกเขาเจอหลังสงครามโลกและสงครามเย็นมันโหดร้ายและหดหู่ และนั่นอาจทำให้คนลัตเวียบางคนเป็นชาตินิยม เรารู้สึกว่าคนลัตเวียบางคนไม่ต้อนรับคนต่างชาติอย่างคนเอเชียและคนสีผิว ในทางกลับกันระหว่างเราอยู่ลัตเวีย เราเจอเพื่อนและคนลัตเวียที่นิสัยดีและน่ารักมากมาย เพื่อนชาวลัตเวียสงสัยมากว่าทำไมเราถึงอยากมาประเทศเขา และคนลัตเวียจะเอ็นดูเราทุกครั้งเวลาเราพยายามพูดภาษาลัตเวีย
ข้อแนะนำ/ข้อควรระวัง
- ควรหาข้อมูลของประเทศที่จะไปแลกเปลี่ยนอย่างดี เพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและเพือเช็คตัวเองว่าเราสนใจประเทศนี้จริงๆ หรือเปล่า
- เตรียมของฝากไปฝากเพื่อนๆ ช่วงแรกที่ไปถึงอย่าพึ่งให้ ค่อยให้เพื่อนก่อนกลับเพราะถึงเวลานั้นเราจะรู้ว่าใครคือเพื่อนจริงๆ กันแน่
- ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นการดื่มถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งของเด็กแลกเปลี่ยนต่างชาติ พวกเขาดื่มนิดหน่อยระหว่างบทสนทนา ไม่ได้ดื่มจนเมามายไม่ได้สติ ยกเว้นมีงานเลี้ยง เราคิดว่าการดื่มเป็นอีกหนึ่งทางที่ทำให้มีเพื่อนมากขึ้นและสนิทกันเร็ว
- ทำอาหารเองจะถูกกว่าซื้อกินข้างนอกหรือตามร้านอาหาร ถ้าใครทำอาหารเป็นก็สามารถแบ่งเพื่อนต่างชาติเป็นอีกกิจกรรมที่ทำให้ได้เพื่อนใหม่
- เปลี่ยนใบขับขี่เป็นแบบนานาชาติ การไปเที่ยวแบบเช่ารถขับกับเพื่อนก็สนุกไปอีกแบบ บางประเทศขับรถคนละด้านกับบ้านเรา อาจทำให้เราไม่ชิน
- จะดีไม่น้อยถ้าเลือกประเทศที่มีสถานทูตไทยประจำอยู่ เพื่อนของเราเป็นคนไต้หวัน ท่านทูตไต้หวันที่ประจำอยู่ในลัตเวียจะนัดพบปะกับคนใต้หวันในลัตเวียอยู่บ่อยๆ
- หากลุ่มคนไทยที่อยู่ประเทศนั้นๆ ทำความรู้จักเล็กๆน้อยๆ เผื่อมีปัญหา อย่างน้อยก็ยังมีคนที่พูดภาษาเดียวกัน อย่างไรก็ตามไม่ควรเกาะกลุ่มอยู่กับคนไทยตลอดเวลา เพราะนอกจากจะไม่ได้ฝึกการใช้ภาษา ยังเป็นการปิดกันโอกาสที่จะพบเจอเพื่อนต่างชาติใหม่ๆ
- เปลี่ยนความคิดและทัศนคติ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราไปอยู่ต่างประเทศ บางสิ่งขึ้นอยู่กับความโชคดี บาางสิ่งขึ้นอยู่กับการปรับตัวและเอาตัวรอดขอแต่ละคน เพราะฉะนั้น เตรียมใจไว้ดีๆ และอย่าคาดหวังมากจนเกินไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยิ้มสู้และหาทางแก้ไข
ลัตเวียไม่ใช่ประเทศที่เราอยากใช้ชีวิตอยู่ไปตลอดชีวิต แต่เราไม่เคยเสียดายเวลา ๑ ปีที่อยู่ที่นั่น เราได้เจอเพื่อนดีๆ เรียนรู้มุมมองชีวิตจากคนอื่นและตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่แค่ไหน” ได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ มากมาย การที่มีโอกาสได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องปรับตัว แล้วเราเชื่อว่า เราพัฒนาไปในทางที่ดี ถึงตรงนี้แล้วเราหวังว่า ลัตเวียจะเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ หรืออย่างน้อยก็ทำให้คุณกล้าที่จะเดินทางมากขึ้น สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นมันจริงนะ :) ป. ล. เราเคยมีความรู้สึกทางลบกับประเทศไทย เคยคิดว่าอยากอยู่ต่างประเทศตลอดไป แต่หลังจากการไปอยู่ลัตเวียและการเดินทางไปเที่ยวประเทศต่างๆ เห็นข้อดีข้อเสียของประเทศนั้นๆ มันทำให้รู้ว่าประเทศไทยของเราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ประเทศไทยมีเกือบทุกอย่าง ทะเลงาม ธรรมชาติสวย ผู้คนเป็นมิตร ข้าวของไม่แพง อาหารอร่อย
สโรซ่า
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.49 น.