แผนการเที่ยวอียิปต์ครับ ตอนที่ 3 คือ ทะเลแดง (Red Sea) ดำน้ำที่ Blue Hole ครับ (ตอนที่ 2/3)
ตามที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้วในภาคที่1 ตลอด 16 วันอันแสนยาวนาน รวมระยะทางกว่า1,500 กม. เริ่มต้นที่ Cairo เดินทางลงใต้โดยรถไฟนอน เสร็จแล้วก็เดินทางกลับขึ้นเหนืออีกเส้นทาง แวะสถานที่สำคัญๆ ครบ และอีก 5 วันสุดท้ายที่แสนพิเศษ คือ Red Sea
Day 1 ไคโร
Day 2-3 Egypt Museum and Great Pyramid in Giza
Day 4 Aswan-Philae temple
Day 5 Abu Simbel
Day 6 ล่องเรือ Felucca
Day 7-8 Luxor's West Bank
Day 8 VALLEY OF THE KINGS
Day 10 Cairo - city tour visiting Islamic Cairo, the Citadel and Mosque of Salladin, the Coptic area and Hanging Church.
Day 11 – 15ainai of Dahab by bus to the popular Red Sea resort of Dahab.
Day 16 Cairo
23. Day 11 เดินทางจากไคโร ไป ทะเลแดง (ชาร์ม มา ชีค)
ดังนั้น สถานที่ที่ผมเลือกไปเที่ยวต่อจากโบราณสถานคือ ฝั่งทะเลแดง ซึ่งอยู่ทางด้นตะวันออกของอียิปต์ติดกับประเทศซาอุดิอาระเบีย สถานที่นี้มีชื่อว่า "ชาร์ม เอล-ชีค" (Sharm el-Sheikh) เมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะเรื่องการดำน้า เนื่องจากเมืองชาร์ม เอล-ชีคค่อนข้างมีสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และน้ำในทะเลแดงก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 21-28 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี นั่นจึงส่งผลให้เมืองชาร์ม เอล-ชีคกลายเป็นสวรรค์แห่งการท่องเที่ยวทะเลที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งในเขตทวีปแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเราเดินทางออกจากไคโรตั้งแต่เช้าโดยรถบัสเหมาขนาดเล็กนั่งพอดี 15 คน ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงไปทางคาบสมุทรไซไนล์ ไม่แนะนำให้นั่งรถเมล์เพราะไม่ปลอดภัยและรถมีน้อย และไม่สะดวก ระหว่างทางสังเกตภูมิประเทศเป็นทะเลทราย เนินดิน แปลกตาดี สภาพแห้งแล้งดีจริงๆ พอเริ่มเข้าเขต "ชาร์ม เอล-ชีค" (Sharm el-Sheikh) ก็จะเห็นท่าอากาศยานนานาชาติ ชาร์ม เอล ชีคอยู่ฝั่งซ้ายมือ ทำให้เพิ่มความสะดวกในการคมนาคนของนั่กท่องเที่ยวระดับไฮคลาส ใช้เวลาอยู่บนรถบัสเกือบ 6 ชม. ก็ถึงโรงแรมที่พัก ที่ดาฮับ Red Sea ติดกับดินแดนซาอุดิอาระเบีย ครับ แต่โชคดีที่ผมไปเที่ยวเมื่อปี 2008 ขณะนั้นสถานการณ์อยู่ในระดับเตรียมพร้อม มีการตรวจพาสปอร์ต ตรวจกระเป๋า ตรวจเอกสารอย่างละเอียดก่อนจะผ่านด่านตรวจ ถึง 2 ด่าน แต่ในปัจจุบันตั้งแต่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ และความขัดแย้งระหว่างกลุ่มไอซีส ทำให้สถานการณ์แย่ลง ทำให้ต้องเปลี่ยนจุดหมายการไปเที่ยวแน่นอน หากติดตามข่าวสาร พบว่า แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างปิรามิดในเมืองกีซ่าของอียิปต์กลายเป็นพื้นที่ร้าง เพราะสถานการณ์ความรุนแรงภายในประเทศ ที่ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางไปเที่ยวอียิปต์ในช่วงที่ผ่านมา เหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี กับกองกำลังของกองทัพ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตพุ่งเกือบ 900 คน ทำให้หลายประเทศ เช่น สหรัฐ เยอรมนี และอังกฤษ ประกาศเตือนพลเมืองของตนให้งดเดินทางท่องเที่ยวในอียิปต์ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและร้านค้าในอียิปต์ โดยเฉพาะที่เมืองกีซ่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก อย่างไรก็ตามสถานที่พักตากอากาศแถบชายฝั่งทะเลแดงยังคงปลอดภัยต่อการเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว แนะนำนักเดินทางว่าควรเลือกใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวที่ให้คำแนะนำการท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย เพราะที่นี่มีสนามบินในพื้นที่ ไม่ต้องบินลงที่ไคโรสามารถบินตรงได้เลย ระหว่างทางได้แวะพักที่จุดพักรถจุดที่ 1 ทำเป็นสถานที่พักผ่อนสวยงามมาก ตามรูป สัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือนกน้ำตามรูป ไม่รู้ว่าชื่ออะไรแต่เชื่องมาก ไม่กลัวคน มักจะเข้ามาเล่นและขออาหารคนกินเสมอ จุดพักรถจุดที่ 2 ตกแต่งเป็นรูปเรือ ทำเป็นร้านอาหาร สวยงามเช่นกัน ชุมชนตรงข้ามสนามบินนานาชาติ ชาร์ม มาชีค ซึ่งทริปแอดไวซ์เซอร์ (TripAdvisor) เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของอังกฤษจัดอับดับ 10 เมืองน่าเที่ยวระยะสั้นที่ประหยัดที่สุดในโลกในปีนี้ กรุงเทพฯ ติด 1 ใน 5 ดังนี้ 1. กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 2. นครวอร์ซอง ประเทศโปแลนด์ 3. ชาร์ม เอล ชีค ประเทศอียิปต์ 4. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 5. นครมุมไบ ประเทศอินเดีย ซึงเมืองชาร์ม เอล-ชีค ซึ่งในบางครั้งถูกเรียกว่า "เมืองแห่งสันติภาพ" ( City of Peace) เป็นเมืองชายทะเลในเขตทะเลแดง ( Red Sea) ที่ตั้งอยู่บนปลายด้านใต้ของคาบสมุทรไซนาย (Sinai Peninsula) ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของเขตเซาท์ไซไน (South Sinai) หรือเขตจะนุบซินะ (Janub Sina') ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตปกครองที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอียิปต์ ผ่านไป 7 ชั่วโทงพวกเราก็ถึง Dahab เมืองท่องเที่ยวสำคัญ พวกเราได้พักที่โรงแรม 3 ดาว มีสระว่ายน้ำด้วย ดูดีมากๆ ซึ่งราคาหาก Walk in ตามป้ายเขียนไว้ที่ 50 us.dollar/คืน ซึ่งเราพักที่นี่ 4 คืน ก็รวมๆ 200 us.dollar ยังไม่รวมค่ารถเหมา ค่านำเที่ยว ค่าไกด์ รวมๆราว 300 us.dollar แต่พวกเราจ่ายเพียง 100 us.dollar เองซึ่งถือว่าถูกมากๆ
24. มาถึงพวกเราก็เริ่มออกเดินสำรวจเมืองดาฮับ หาอาหารค่ำทานกัน ซึ่งต่างคนต่างแยกย้ายไปหามุมสงบ มุมบันเทิงของแต่ละคน สำหรับผมคงไม่ไปกับพวกเขา ไม่อยากดื่ม ขอไปทานอาหารพื้นเมือง ซึ่งเป็นแป้ง โรตี มีไส้ผักและเนื้อด้านใน อร่อยมากและไม่แพงเลย ราคาไม่เกิน 30 บาทเอง แต่ชิ้นเล็กไม่อิ่มหรอก ผมก็เดินสำรวจพื้นที่ไปเรื่อยๆ พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากยุโรปทั้งสิ้น ไม่พบคนเอเชีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่นเลย อาหารประจำของผมคือ พิซซ่า เพราะหาท่านง่าย ราคาไม่แพงwไม่เกิน 200 บาท ร้านอยู่มาไกลจากโรงแรม วันนี้เพื่อนๆบางส่วนก็ออกไปผจญภัยตามประสาวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไปนั่งอาบแดดริมทะเล
25. Day 12 วันนี้สำรวจสถานที่โดยการเช่าเหมาอูฐ ครึ่งวัน ณ เมืองดาฮับ
102. วันนี้ช่วงเช้าพักผ่อนที่โรงแรม ว่ายน้ำ นั่งชิวๆ คุยกับเพื่อนใหม่เป็นชาวซูดานใต้ด้วย มาทำงานเป็นผู้จัดการโซนสระน้ำที่โรงแรมนี้ อยู่รัฐจูบ้าซึ่งติดกับรัฐรุมเบ็คที่ผมทำงานอยู่ ก็เลยคุยกันสนิท อยู่โรงแรมเหมือนอยู่บ้านเพราะมีกลุ่มเรากลุ่มเดียวพักที่นี่
ดาฮับอยู่บริเวณทางเหนือของเมืองชอาร์ม เอล ชีค ประมาณ 85 กิโลเมตรหรือ 53 ไมล์ ตั้งอยู่บนช่องแคบอัลคาบา ปลายสุดของคาบสมุทรไซไนล์ มีหมู่บ้านโดดเดี่ยวเป็นเอกเทศจากเมืองต่างๆ ยังคงความเป็นยุคสมัยดั้งเดิมสไตล์ฮิปปี้ หรือยุค80 และมีรีสอร์ทแนวใหม่ซึ่งรวมเอาที่พักราคาถูกและการพักผ่อนที่แสนสบายเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุค สมัยใหม่ มีกิจกรรมต่างๆเช่น วินเซิร์ฟ ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ขี่อูฐ หรือทัวร์รถจี๊ปไปตามชายฝั่งทะเลแดง กิจกรรมวันนี้ ผมและบัดดี้ ได้ตกลงเช่าอูฐจำนวน 4 ตัว ขี่สำรวจพื้นที่ตามชายหาด ซึ่งเราเหาเลยครึ่งวัน ตั้งแต่บ่ายยันค่ำ เหมือนมีอูฐเป็นเพื่อน แรกๆขี่ก็เจ็บๆ กระแทกๆ หลังๆเริ่งชิน รู้เทคนิคการถ่ายน้ำหนัก ไปด้านหลัง รู้จังหวะก่อนการกระแทกว่าต้องโน้มตัว ยกตัวอย่างไรไม่ให้จุก จนชินและบังคับได้สบายมาก ราคาค่าเช่าน่าจะประมาณพันบาท อูฐมันเชื่องมาก สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ลุก นั่ง เดิน หยุด .แต่ถึงอูฐมันเชื่องอย่างไร เพื่อนผมคนนี้ก็ยังกลัวๆอยู่ดี ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้มากเกินไปนั่งชมวิวกับเพื่อนใหม่จนค่ำ พระอาทิตย์ตกดินที่นี่สวยงามมาก โรแมนติกจริงๆ กับน้องอูฐ
26. Day 12 ยังคงพักผ่อนริมทะเล
108. ทะเลที่นี่ไม่มีหาดทรายเหมือนบ้านเรา มีเขื่อนเกือบตลอดแนว ถ้าส่วนไหนไม่มีเขื่อนก็จะเป็นหิน บางพื้นที่เป็นหน้าผาลึกดิ่งลงไปเลย ก็เลยเป็นที่นิยมในการดำน้ำมาก ผมเลือกเรียนดำน้ำกับสถาบันสอนดำน้ำหลักสูตร PADI ซึ่ง PADI สอนตั้งแต่ ระดับเริ่มต้น จนถึงระดับสูงเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับทุกเพศง่ายต่อการเรียนรู้ และให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยสูง โดยที่นักเรียนจะได้รับการเน้นหนักไปที่ทางด้านปฏิบัติ เพื่อสร้างเสริมประสบ-การณ์ ก่อนที่จะไปดำน้ำจริง นักดำน้ำของ PADI สามารถใช้บัตรดำน้ำไปใช้บริการได้จากร้านดำน้ำ PADI Dive Center ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก ราคาที่ผมเลือกเป็นหลักสูตร 1 วัน ราคาประมาณ 4 พันบาท ต่อคน
ซึ่งวันนี้ผมมากัน 3 คน เริ่มจากภาคทฤษฎี รู้จักเครื่องมือ อุปกรณ์ ลักษณะท่าทาง ลัญลักษณ์กับคู่บัดดี้ ผมได้ครูฝึกรูปหล่อเป็นคู่บัดดี้ จากนั้นก็ทดลองลงในสระว่ายน้ำ ฝึกหารหายใจ Sharm El-Sheikh สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ติดโผ 10 อันดับ แหล่งดำน้ำดีที่สุดในโลก “ชาร์ม เอล-ชีค” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตรงปลายสุดของแหลมไซไน ในประเทศอียิปต์ บางคนอาจแย้งว่าแหล่งดำน้ำดีที่สุดในในทะเลแดงอยู่ที่หมู่เกาะบราเธอร์ (อียิปต์) หรือไม่ก็ท้องทะเลที่ซูดาน แต่ที่ชาร์ม เอล-ชีค นักดำน้ำจะได้พบกับปะการังนานาชนิด และปลาหลากสายพันธุ์ชนิดที่เรียกว่าน้องๆ แนวปะการังใหญ่ของประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว ตามรูปเป็นเพื่อนผมที่ไปดำด้วยกันรูปนี้ผมเป็นคนถ่ายให้เอง ครูฝึกถามผมว่าทำไมไม่เรียนที่ไทย เขารู้ว่าที่ไทยติดอันดับโลก ผมตอบไปว่าคนไทยสอนแต่นักท่องเที่ยว คนไทยด้วยกันไม่ค่อยสนใจ ผมเลยต้องมาเรียนดำน้ำที่นี่ เขาก็หัวเราะ ทำให้การเรียนดำน้ำเราสนุกมากขึ้น
27. Day 13 กิจกรรมวันนี้ ดำน้ำที่ Blue Hole
111. เมืองชาร์ม เอล-ชีค เป็นจุดดำน้ำที่นักดำน้ำจากทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ที่ใดๆอีกด้วย ในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก โดย Red Sea Reef ปะการังแห่งทะเลแดง
บริเวณชายฝั่งอียิปต์ หนึ่งในสถานที่สำหรับดำน้ำชมปะการังที่งดงามที่สุดในโลก น้ำทะเลบริเวณนี้ใสราวกับกระจกสะท้อนทัศนียภาพใต้ท้องทะเลอย่างชัดเจน อีกทั้งกลุ่มปะการังที่ขยายวงกว้างไกลสุดสายตา เป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตแปลกตากว่าพันชนิด มีรีสอร์ทใหญ่น้อยตั้งเรียงรายรอบๆชายฝั่งทะเลทั้งสองด้าน ในส่วนของด้านตะวันออกและคาบสมุทรซีนายเป็นที่ตั้งของชาร์ม เอล ชีคและดาฮับ ส่วนทางตะวันตกของทะเลแดงเป็นเมืองเก่าฮูร์กาดาและเมืองรีสอร์ทสมัยใหม่ เที่ยวอียิปต์ พร้อมแล้วครับ เสียดายช่วงนั้นก้อง โกโปรกันน้ำยังไม่มี มิงั้นจะถ่ายรูปใต้น้ำให้ดู ปะการังสวยมาก น้ำลึกมาก คือ Blue Hole แปลตามตัว ช่องสีฟ้า ตามลักษณะหินปูน เป็นปล่องใต้น้ำ นักดำน้ำจากทั่วโลกมาที่นี่ดำลึกลงไป 200 ม. บางคนหลงสภาพน้ำ ตายกันหลายคนแล้ว ผมเลือกพื้นที่ไม่ลึกมากประมาณ 5-10 ม. มีครูประกบไปด้วย ได้เห็นปลาสิงโตทะเลครั้งแรกตัวเป็นๆ ที่นี่สวยงามมาก
สถานที่นั้นก็คือ Blue hole รวมทั้งสัตว์ทะเลที่หลากหลายและแนวปะการังนับร้อยในทะเลแดงส่งให้ชาร์ม เอล ชิคห์เป็นดั่งแม่แหล็กดึงดูดนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เข้ามาในพื้นที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมืองบนคาบสมุทรไซนายนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้รีสอร์ทระดับเฟิร์สคลาสและไนท์ไลฟ์และกิจกรรมยามค่ำคืนอันหรูหราผุดขึ้นมามากมาย กิจกรรมกลางคืนก็มีดินเนอร์กัน ที่ร้านมีสนามวอลเลย์บอลชายหาดให้เล่นกันอย่างสนุกสนาน มีกิจกรรมตามรูปที่สนุกมากคือต่อตัวเป็นปิระมิด โดย ผู้ชายเป็นฐานอยู่ด้านล่าง ให้ผู้หญิงปีนต่อกันไปเรื่อยๆจนล้ม หนักน้อ แต่สนุกดี
28. Day 14 วันนี้ดำผิวน้ำครับ Snuggle at Blue Hole
120. วันนี้สายๆ พวกเราทั้งหมดก็ได้มาดำผิวน้ำ สน็อกเกิ้นกัน รอบๆปากทางบลูโฮล ลักษณะเป็นหินปูน มีปะการังเกาะอยู่เป็นพื้นที่วงกลมใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 200 ม. บอกเลย เหนื่อยมาก พวกเราต้องว่ายไปรอบๆ เนินหินในน้ำนี้เพื่อชมปะการัง ยอมรับว่าเหนื่อยมาก ไม่ไหว ขนาดใส่ชูชีพ เลยต้องไปแอบเกาะปะการังเพื่อพยุงตัว แต่ก็โดนดุ เพราะจะทำให้ปะการังหัก ชักไม่สนุกแล้ว ไกลจากฝั่งจัง ค่อยๆกระดึ๊บๆกลับเข้าฝั่ง น้ำทะเลที่นี่เข้มข้นมาก คือ Red Sea จะติดๆกับ Dead Sea ที่มีหาดเป็นเกลือ น้ำเข้มข้นจนลอยน้ำได้สบายๆ นักท่องเที่ยวยุโรปเยอะมาก แต่ไม่เท่าภูเก็ตบ้านเรา
29. Day 15-16 เดินทางกลับและพักไคโร 2 คืนเพื่อเดินทางกลับ
126. ถึงไคโร ประมาณเย็นๆ ก็เข้พักที่โรงแรมเดิมซึ่งคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายตามรายการ เพื่อนๆเริ่มทยอยกลับแต่ผมพักเพิ่มอีก 1 คืนเพราะจองตั๋วกลับไว้พรุ่งอีก 2 วัน เลยต้องหาที่พักเออีก 1 คืน ก็ให้ไกด์หาให้เพราะเขาต้องพาเราไปส่งสนามบินวันสุดท้าย โรงแรมใหม่เป็นโรงแรม 4 ดาว ติดถนนใหญ่ ราคาแพงต้องจ่ายเงินสด ไกด์บอกประมาณ 3 พัน ผมก็ตกลงเพราะไม่อยากไปหาที่พักเอง 3 พันไม่รู้โดนมันหลอกป่าว แพงจัง แต่ห้องก็หรูหรา ดีครับ วันนี้ผมได้พักผ่อนเต็มที่ ได้เดินเล่นชมเมืองอย่างสบายใจ เดินช็อปปิ้งอย่างมีความสุข ช่วงที่ไปวันที่ 16 พ.ย. เป็นฤดูหนาวอากาศค่อนข้างหนาว และวันที่ 17 พ.ย. ก็ได้เดินทางกลับซูดานไปทำงานตามปกติครับ สรุปทริปนี้ 17 วัน 16 คืน เที่ยวทั่งตั้งแต่ เหนือจดใต้ ตะวันออก ครบทุกรสชาติ .... One time in my life
30. สรุป 10 อันดับสถานที่เที่ยว ในประเทศอียิปต์ ทริปนี้ไปเกือบทุกที่ยกเว้น 8 กับ 10
อียิปต์เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาช้านานในเรื่องอารยธรรมโบราณ และสถาปัตยกรรมแบบโบราณอย่างพิระมิดเมืองกีซ่า สฟิงซ์และมหาวิหารลักซอร์อายุนับพันปี แม้ว่านักท่องเที่ยวจะนิยมไปชมโบราณสถานแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ แต่การท่องเที่ยวสไตล์อียิปต์ยังรวมไปถึงการดำน้ำชมปะการังชายฝั่งทะเลแดง และการขี่อูฐเดินทางสู่เทือกเขาซีนายเพื่อเยี่ยมชมสถานที่อื่นๆในอียิปต์ ผ่านโอเอซิสใหญ่น้อยและโบราณสถานต่างๆของราชวงศ์แห่งดินแดนทะเลทรายตะวันออกอีกด้วย ใครอยากไปเที่ยวอียิปต์มาดู 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวอียิปต์ยอดฮิตกัน
10. Mosque of Ibn Tulun มัสยิดอิบันตูลูน
9. Dahab ดาฮับ ดาฮับอยู่บริเวณทางเหนือของเมืองชอาร์ม เอล ชีค ประมาณ 85 กิโลเมตรหรือ 53 ไมล์ ตั้งอยู่บนช่องแคบอัลคาบา ปลายสุดของคาบสมุทรซีนาย มีหมู่บ้านโดดเดี่ยวเป็นเอกเทศจากเมืองต่างๆ ยังคงความเป็นยุคสมัยดั้งเดิมสไตล์ฮิปปี้ หรือยุค80 และมีรีสอร์ทแนวใหม่ซึ่งรวมเอาที่พักราคาถูกและการพักผ่อนที่แสนสบายเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุค สมัยใหม่ มีกิจกรรมต่างๆเช่น วินเซิร์ฟ ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ขี่อูฐ หรือทัวร์รถจี๊ปไปตามชายฝั่งทะเลแดง
8. Siwa Oasis โอเอซิสซีวา – เที่ยวอียิปต์ โอเอซิสแห่งนี้อยู่กลางทะเลทรายลิเบีย เป็นชุมชนโอเอซิสขนาดใหญ่แห่งหนึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวเป็นเอกเทศ มีผู้คนอาศัยประมาณ 230,00 คน ส่วนใหญ่มีเชื้อสายเบอร์เบอร์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าในทะเลทรายมาตั้งแต่ครั้งโบราณ และมีความสำคัญมากเพราะเป็นแหล่งน้ำพุธรรมชาติ และร่มเงาจากต้นปาล์มสำหรับนักเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางกลางทะเลทราย หลังจากสมัยอาณาจักรโรมันล่มลสายลง โอเอซิสแห่งนี้ก็เริ่มมีบทบาทน้อยลง เพราะระยะหลังๆธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มกลายเป็นรายได้หลักของอียิปต์ ทำให้มีการสร้างโรงแรมสไตล์เฉพาะของท้องถิ่นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
7. Egyptian Museum พิพิธภัณฑ์อียิปต์ – สถานที่ท่องเที่ยวอียิปต์ เป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุล้ำค่าไม่ต่ำกว่า 120000 ชิ้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวระดับต้นๆในกรุงไคโร พิพิธภัณฑ์นี้มีสองชั้น ชั้นล่างเป็นแหล่งรวมบันทึกเหตุการณในกระดาษปาปิรัสและเหรียญตราต่างๆที่มีใช้ในยุคอียิปต์โบราณ ส่วนชั้นบนมีข้าวของเครื่องใช้ของกษัตริย์สองราชวงศ์สุดท้ายของยุคอียิปต์โบราณและสิ่งของล่ำค่าอื่นๆจากหุบเขากษัตริย์ ไฮไลต์รวมไปถึงวัตถุโบราณจากสุสานของฟาโรต์ตุตันคาเมนและมัมมี่ราชวงศ์ทั้งหมดในยุคนั้น
6. Abu Simbel อาบูซิมเบล อาบูซิมเบลเป็นวิหารคู่ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ทำด้วยอิฐขนาดมหึมาสองก้อนแกะสลักอย่างวิจิตรปราณีต ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ ริมฝั่งตะวันตกของทะเลสาบนาสเซอร์ วิหารทั้งสองแห่งนี้แต่แรกเริ่มนั้นเป็นการแกะสลักภูเขาทั้งลูกในรัชสมัยของฟาโรห์รามเสส เมื่อศตวรรษ 13 ก่อนคริสตกาล เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของพระองค์และองค์ราชินีเนเฟอร์ทาริ หลังจากนั้น มีการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่ในปี 1960-1969 เนื่องจากการสร้างเขื่อนอัสวานทำให้พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดถูกน้ำจากทะเลสาบนาสเซอร์ท่วม อาบูซิมเบลจึงเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างชนิดพลาดไม่ได้ทีเดียว
5. Valley of the Kings หุบเขากษัตริย์
เที่ยวอียิปต์ กันที่ หุบเขากษัตริย์ เป็นหุบเขาใหญ่แห่งหนึ่งใกล้ๆเมืองลักซอร์ ด้วยระยะเวลาอันยาวนานเกือบ ๕๐๐ ปีตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๖ ถึง ๑๑ ก่อนคริสตกาล สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระศพของเหล่าราชวงศ์กษัตริย์ในยุคราชอาณาจักรใหม่ หุบเขาแห่งนี้เป็นที่รวมของหีบพระศพจำนวน ๖๓ ใบ และห้องที่มีความซับซ้อนขนาดต่างๆถึง ๑๒๐ ห้อง ห้องที่บรรจุพระศพจะมีการตกแต่งด้วยภาพเขียนฝาผนังเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเป็นหลักฐานสำคัญในการสะท้อนความเชื่อและพิธีกรรมในยุคนั้น ทุกห้องถูกบุกรุกและขโมยสิ่งของมีค่าไปสิ้นแล้วอย่างน่าเสียดาย ยกเว้นห้องเดียว ซึ่งเป็นที่มาของคำสาปฟาโรห์ คือ ห้องขององค์ฟาโรห์ตุตันคามุนนั่นเอง
4. River Nile Cruise ล่องเรือแม่น้ำไนล์
การล่องเรือในแม่น้ำไนล์เป็นวิธีการท่องอียิปต์บนที่เป็นที่นิยมมาก แม่น้ำไนล์เป็นเสมือนชีวิตของชาวอียิปต์มาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล และไม่มีวิธีอื่นใดอีกแล้วที่จะสามารถตามรอยประวัติศาสตร์อียิปต์ได้ดีไปกว่าการล่องไปตามแม่น้ำไนล์ เรือสำราญเกือบทุกลำจะล่องไปตามเส้นทางลักซอร์-อัสวานนี้ มีความปลอดภัย ทัศนียภาพอันงดงาม และไปสิ้นสุดที่เมืองสำคัญที่สุดของอียิปต์สองเมือง เราขอแนะนำให้ล่องเรือเฟลุกกะ ไปทางใต้ของแม่น้ำไนล์หากคุณชื่นชอบการผจญภัย เรือเฟลุกกะ แม้จะไม่ได้ให้ความสะดวกสบายเหมือนเรือสำราญ แต่การล่องเรือใบที่ดัดแปลงมาจากเรืออียิปต์โบราณก็น่าประทับใจไม่แพ้การท่องเที่ยววิธีอื่นแน่นอน
3. Red Sea Reef ปะการังแห่งทะเลแดง ทะเลแดงบริเวณชายฝั่งอียิปต์ หนึ่งในสถานที่สำหรับดำน้ำชมปะการังที่งดงามที่สุดในโลก น้ำทะเลบริเวณนี้ใสราวกับกระจกสะท้อนทัศนียภาพใต้ท้องทะเลอย่างชัดเจน อีกทั้งกลุ่มปะการังที่ขยายวงกว้างไกลสุดสายตา เป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตแปลกตากว่าพันชนิด มีรีสอร์ทใหญ่น้อยตั้งเรียงรายรอบๆชายฝั่งทะเลทั้งสองด้าน ในส่วนของด้านตะวันออกและคาบสมุทรซีนายเป็นที่ตั้งของชาร์ม เอล ชีคและดาฮับ ส่วนทางตะวันตกของทะเลแดงเป็นเมืองเก่าฮูร์กาดาและเมืองรีสอร์ทสมัยใหม่ เที่ยวอียิปต์
2. Karnak มหาวิหารคาร์นัค แม้จะถูกทำลายไปมาก. แต่มีโบราณสถานเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่น่าประทับใจไปกว่ามหาวิหารคาร์นัค ซึ่งเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุด และยังเป็นการผสมผสานผลงานของช่างหลายสมัยด้วยระยะเวลาก่อสร้างครอบคลุมหลายรัชกาล วิหารคาร์นัคประกอบด้วยวิหารหลักสามแห่ง วิหารขนาดเล็กในบริเวณใกล้เคียง และวิหารอื่นๆกระจายห่างไปประมาณสองกิโมตรครึ่งทางเหนือของลักซอร์ ส่วนที่เป็นที่เลื่องลือขึ้นชื่อที่สุดของมหาวิหารคาร์นัคคือ ห้องโถงแบบ Hypostyle ขนาดห้าพันตารางเมตร คือ ประกอบด้วยเสาหินขนาดใหญ่ 134 ต้น เรียงกัน 16 แถว สำหรับค้ำหลังคาแบบอียิปต์
1. Giza Necropolis มหาสุสานกีซ่า ประเทศอียิปต์ มหาพีระมิดแห่งกีซ่า ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองด้านตะวันตกของกรุงไคโร เป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ประกอบด้วย พีระมิดของฟาโรห์คูฟู พีระมิดของคาเฟร (พระราชโอรส) และพิระมิดของเมนคูเร (พระราชนัดดา) มหาพีระมิดคูฟูมีความสูงถึง 139 เมตร (455 ฟุต) เป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในอียิปต์ แม้ว่าพีระมิดคาเฟรที่อยู่ใกล้ๆดูจะใหญ่กว่าก็ตาม นั่นเป็นเพราะพีระมิดคาเฟรสร้างในพื้นที่ที่สูงกว่านั่นเอง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ และผมก็จะเดินทางต่อไป สำหรับประ้ทศที่ 26 ของผมครับ
สรุป คะแนนเต็ม 10 ให้ 8 เลย (ได้คะแนนจากความสวยงาม แปลกตา แนะนำว่าต้องไปครับ)
Chai smile
วันพฤหัสที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.12 น.