บ่นทึก : #หลังเดาะDiary ภาคทัศนศึกษา ตอน #SingdaminSingapore2019
3 วัน ข้อ 90 แมวอ้วนขอเล่าหน่อยยยยยยย
- สวัสดีมิตรรักแฟนเพลง คนอ่านคนดีของแมวอ้วนจ้ะ
- ครบรอบหนึ่งเดือน หลังจากกลับมาจากทริป สิงค์โปร์ ดองเค็มจนได้ที่แล้ว น่าจะลงให้อ่านกันได้แล้วค่ะ
- งานบ่นมาอีกแล้วจ้ะ ยาวๆ จ้ะแม่
- วันนี้เราจะไปประเทศสิงค์โปร์กัน
- ซึ่ง..เท่าที่แมวอ้วนหาข้อมูลมา ก็คือ มี Universal มี ของกิน มีสิงโตพ่นน้ำ และ Marina Bay Sand ที่เป็นโรงแรมแห่งแรก (รึเปล่า) ที่มี Infinity Pool บนดาดฟ้า เป็นเมืองมีข้าวมันไก่ กะลอดช่อง (เอ่อ ไม่ใช่ละไหมละแมวอ้วน)
- ละก็ ขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูลหลังไมค์มาทุกคนด้วย ไม่เคยไปจริงๆ จ้ะ
- ออกเดินทางกันเลย ที่เวลาดี ตีสี่ ครับ คุณอ่านไม่ผิด ตีสี่
- มาที่ท่าอวกาศยานสนามบินสุวรรณบะฮูมิ และเอาไวไฟ มีเงินในกระเป๋า พร้อมบ้านสองหลังในกระเป๋าใหญ่ ก็ออกเดินทางกันเลย
- เดินไป Lounge ทุกครั้ง ก็ยอมใจคนที่นอนทุกครั้ง คือแบบ เอาอะไรมามั่นใจว่าแกจะตื่นและไม่ตกเครื่อง เสียงประกาศก็ไม่มี เกิดนาฬิกาไม่ปลุกไรงี้ วัดใจสุดๆ
- อาหารการกินยังอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม มีไข่ต้ม ไข่ลวก ไข่ดาว แต่ไม่มีเดนิชชชช เดนิชของน้องง
- วอแวกะของกินตลอดอ่ะแมวอ้วน..
- ครั้งนี้ เลขที่ออกคือ ประตู C7 ไกลมากแม่ ไกลแบบไม่ต้องสืบเลยยยย นี่ Flag Carrier นะ แถม C Wings นะคะ ไม่มีซึ่งสิ่งใด กาแฟนางเงือก เบอร์เกอร์ เออ มันช่างอ้างว้างและหว่าเว้มาก
- ไหว้เครื่องบินแล้วก็นั่ง ลูกเรือน่ารักมาก แม่ถ่ายรูปเรา เราถ่ายรูปแม่ ชนแชมเปญสองที
- บนเครื่องไม่มีอะไรมาก ดู Bigbang แบบไม่มีเสียง กินข้าวออมเล็ตใบบัวที่แบ่งกับแม่คนละครึ่ง ละก็ไหว้พี่แอร์จนพี่เค้าบอกว่า ไม่ต้องไหว้แล้วลูกขาา ฮ่าๆ
- เข้าห้องน้ำสองที ตกหลุมอากาศอีกสองหน แต่งหน้าอีกหน่อยก็กรอกใบ ต.ม. กัน ซึ่ง ความไม่รอบคอบของเราก็คือ ลืมก๊อปที่อยู่เอาไว้ ไม่พอ กรอกผิดอีก กรอกใหม่กันอีกรอบบบบ
- ลงเครื่องมา สวัสดีประเทศสิงค์โปร์ค่าาาาา เจอด่านแรก ต.ม. ก็ You here alone ah? ของแท้เลย โหดมาก ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มมม กลัวแล้วเว้ยยยยย
- ลงมาเดินๆ ๆ ๆๆ ๆ ผ่านสนามบินแบบเร็ว ๆ รัวๆ มีสตาร์บัคส์นี่ดีใจประหนึ่งได้พบญาติ ไหนจะเจอแมคโดนัล์ดอีก มันช่างอบอุ่นใจจริงๆเล้ยยยย
- อ้อ ลืมบอก อากาศที่เช็คมาคือ 30 กว่าๆ ร้อนมาก ค่าเงินประมาณ 22 บาท ที่ดีที่สุดก็คือควรตีมึนว่ามันราคาตามป้ายนั่นแหละ คำนวนกลับก็ปวดหัวปวดตับเปล่า ๆ เวลาเร็วกว่าประเทศไทยหนึ่งชั่วโมง คนพูดทุกภาษา อยู่ที่ว่าจะจั่วไพ่เจอภาษาอะไร
- เจอคณะแล้ว ก็ไหว้ กอด ถ่ายรูป ขึ้นรถทัวร์ เปิดไวไฟ อู๊ยย บันเทิงมาพร้อมกฏต่างๆร้อยพัน ห้ามเดินในรถ ห้ามเอาของกินมากินในรถ และอื่นๆ โอเค เล่นบทตีมึนเลยจ้ะ
- บ้านเมือง..สะอาดมาก สะอาดจนเครียด บวกกับอากาศร้อน มันเลยดูเหมือนพลาสติกไปท้งหมดเลย
- ร้านแรกที่เราไปถล่มก็คือ Roland Restaurant ซึ่ง..ทุกคนลงมาด้วยสภาพ “หิวโซมากพอที่จะไม่พูดอะไร กินอย่างเดียว” คือ คีบเข้าปากไปก่อน แต่ไม่รู้ว่าไอ้ที่กินเข้าไปอ่ะ คืออะไร..แบบว่า กินเข้าไป เคี้ยวก่อน แล้วก็มาถามในโต๊ะว่า เออ มันคืออะไรนิ
- กินกับไวน์ ก็แงะปูจนภูมิแพ้ผิวหนังบอกว่า ไม่เกรงใจพี่ปูที่สละชีวิต ก็ช่วยเกรงใจข้าพเจ้าด้วยเถอะหนา ได้สั่งโค้กแล้วได้โค้กไลท์มา อืม เราคงออกเสียงผิดจริตเค้า
- ออกมาจากร้าน เจอทุเรียนเป็นจำนวนมาก มากขนาดที่ว่า คนที่ชอบอาจจะไม่ชอบได้เลย คนไม่้ชอบนี่ก็ไม่ต้องว่ากันเลย ลมจะใส่กันได้ง่ายๆเลยทีเดียวอ่ะ
- ต่อมา (ก็ต้องหลบ) น่ะ มุกเดิมๆ ก็ยังเล่นอยู่ รถทัวร์พาเราไปที่วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ติดกับวัดแขก ไปถงบ้านใดต้องไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน วิธีไหว้งงๆ แต่ว่าเซียมซีดีมาก น่าเสียดายที่ในวัดห้ามถ่ายรูป เพราะจำนวนเซียมซีน่าจะเยอะมากที่สุดในรอบโลกที่เคยพบมาแล้ว และวัดแขกนั้นปิดเพราะทำพิธี เลยยกมือไหว้ด้านหน้า ออกเดินทางไปต่อ
- ไปที่วงกลมแห่งเงินทอง ที่ตึกเทมาเซค ก็มีถ่ายรูปบนบันไดชิค ตามประสาแมวอ้วนบ้าชอบถ่ายกะบันได ละก็หาหนมกินเล็กๆน้อยๆ ก่อนไป Marina Bay Sand ดินแดน Casino และห้างร้านต่างๆ
- Casino เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก ไม่เคยเจอเลย และก็เหมืนบุหรี่มาก ขออนุญาตวิ่งออก ไปหาอย่างอื่นดูดีกว่า
- ออกมาก็เดินจนแม่เริ่มแบตหมด เลยหาที่นั่งพักก่อน ก่อนจะกลับมาที่รถ และไปหาอะไรกินกันเถอะ ไม่ไหวแล้วแม่จ๋า หมดแรงข้าวต้มเด้ออออ
- มาที่ร้านบักกุเต๋ ที่แบบ ต่อคิวยาวมากแม่ ยาวแบบว่า มี เซเว่นข้างๆ ไว้เป็นทางเลือกว่า เอาไหมยู เชิญทางนี้นะ แถมร้านข้าวมันไก่ให้ด้วยน่ะ ก็รอๆ ๆ ๆ ๆ เดินเล่นเซเว่นรอบนึง ได้โค้กมาขวด ก็ถือเป็นการชุบชีวิตมากแล้วววววว และถามแคชเชียร์ว่า ร้านนี้เป็นไง? โอเคไหม? นางก็พยักหน้าใส่แบบ เออ ก็โอเคแหละ คุ้มค่าการรอคอย เชื่อไอ ดูตาไอ น้องควรไปพักนะลูกนะ
- เข้ามาในร้าน ต่างคนต่างกิน ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น กินกันท่าเดียว เราว่าอร่อยดีนะ เหมือนแกงจืดใส่กระดูกหมูที่ล่อนออกมาง่ายๆเลยงี้ แล้วก็ต้องรีบกินรีบออก เพราะว่า ก็ยังมีอีกหลายคณะที่อยากกินเหมือนกัน
- เครื่องเคียงเยอะดี เหมือนอาหารเกาหลีเลย แต่คนเยอะไปนิด นั่งแล้วหลังชนหลังเลย
- ต่อกันที่การล่องเรือกลางคืน ผ่านย่านการต้า และ Clarke Quay อ่านว่า เค ไม่ต้องพยายามออกให้เป็นคำอื่นจ้ะ น่าสนุกดี อากาศเย็นสบายมีลม เรือก็แล่นผ่านย่านสำคัญ ตึกรามสูงล้อมไว้ และการถ่ายรูปที่ดำเนินไปอย่างไม่มีทีสิ้นสุด แม้แสงจะน้อยยังไงก็มีการส่องแสงให้ สุดยอดไปเลยจ้ะแม่
- เสร็จก็เข้าโรงแรมเถอะหนา เข้าห้องนอน งงกับระบบน้ำนิดหน่อย ดูทีวีอีกหน่อย แงะเครื่องสำอางค์ สวดมนต์ไหว้พระ นอน เถอะหนา ภาพตัดฉับ สวัสดี
- อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่สอง วันนี้เราจะไปสักการะ สวัสดี พี่ Merlion กันนนนนนนนน
- ห้องอาหารโรงแรม ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ และ สร้า้งประโยค อิหยังวะ มาก มีหมี่งงๆ มีไจ่ต้มงงๆ คือพางงทุกอย่าง หนักสุดก็คนในห้องอาหารนั่นแหละ เอาเป็นว่า ข้ามไปละกันนะ
- บนรถก็มีการแจ้งกำหนดการคร่าวๆ ว่าจะไป Merlion ขึ้น Singapore Flyer กินข้าวมันไก่ ปล่อยตามอัธยาศัยและไปบ้านท่านทูตในตอนเย็น
- ดูเป็นวันที่อัดแน่น เอาละ ทัวร์ชะโงกขาจุ่มดุ่มสิงค์โปร์ก็เริ่มขึ้นนนนนน
- มาถึง Merlion ก็แบบ เอ้อ ตัวเล็กตัวน้อยดีจัง นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด มีทุกชาติเลย แล้วก็ทุกคนจะต้องมาอาบน้ำสระผมกับน้อง Merlion เนี่ยยย และก็ไปถ่ายรูปกับ Marina Bay Sands ถ่ายรูปออกมาตาหยีมากแม่ เพราะแดดร้อนแบบกันแดดเอาไม่อยู่อ่ะ
- ช่วงตอนรอรถมารับก็ถ่ายรูปรุมน้าต้อมกัน ดูน้าลิงโดดก็สนุกดีค่ะ ละก็โดดบ้าง ไม่ต้องห่วง พื้นสิงค์โปร์ยังมั่นคงแข็งแรง คอนเฟิร์มมมม
- ถ่ายจนได้ Photobook น่าจะหลายสิบเล่มแล้วก็เดินทางกันต่อ ไปที่ Singapore Flyer ที่สูง ติดแอร์ แอ๊มากก วนลูปเดิมครับผม ถ่ายรูปจนไม่เหลือเมมกล้องแล้ว ท้องร้องพอดี ไปกินข้าวมันไก่กันดีกว่า
- วิวจากที่สูงนี่สวยมาก ดีกับใจมาก ชอบมองที่สุด จริงๆ เค้ามีบรรยายด้วย แต่ ณ จุดนั้นก็ไม่มีใครฟังใครแล้ว ถ่ายรูปกันท่าเดียวเลย มิ้งก็ถ่าย ถ่ายหมู่เดี่ยวกลุ่มวนไปเรื่อยๆ เลยยย
- เวลาดีเที่ยงแล้ว ไปค่ะ กองทัพเราต้องเดินด้วยท้อง กินข้าวกันค่ะ
- ข้าวมันไก่ บุญ ตง กี่ ที่อร่อยจริง ไม่รู้เพราะหิวหรือว่าหิวมาก ต่างคนกินกันไม่พูดไม่จา เคล้าดนตรีและไวน์สีชมพูๆ จากพี่จอร์จ อร่อยมาก กินเพลิน เปิดเพลงรอรถกันอีก ปลื้มปริ่มมากค่ะ ต่อยหอยเรดิโอโดยพี่จอร์จ ไม่จอดไม่หยุดเปิดนี่ดีกับใจมากจริงๆ
- เสร็จจากข้าวมันไก่ ก็เป็นเวลาตามอัธยาศัย จริงๆ จะอยู่ในห้างก็ได้ แต่ไหน ๆ ได้มาแล้วทั้งที ห้าง ที่ไหนก็มี แต่ Garden by the Bay เนี่ย ไม่ได้หาเข้าง่ายๆ ก็ไปเที่ยวสิคะรออะไร
- เรียก Taxi ไปเลย มองมิเตอร์ขึ้นตาปริบๆ แท๊กซี่ที่นี่ส่วนใหญ่รู้จักประเทศไทย เคยไปพัทยา อยากมีบ้านที่ประเทศเรา และ พูด สวัสดีข่าบบบ กันแบบชัดเจนมากเลย
- คณะที่ไปมี น้าอ้อย น้าหนึ่ง น้าจ๊ะ พี่เอื้อ พี่จุ๊ก น้าแป๊ะ น้าสา น้าแก้ว แม่ และ แมวอ้วน
- ช่วง แมวอ้วนมีสมอง ซะหน่อยๆ
- Garden by the Bay เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของสิงคโปร์ด้วย เป็นสวนที่ได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้าของประเทศสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากที่เกิดจากการถมทะเลสร้างขึ้นมา ทั้งหมด 600 กว่าไร่ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 โซน คือ Bay Center Garden, Bay East Garden และ Bay South Garden ซึ่งโซนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักจะรวมกันอยู่บริเวณ South Garden ที่มีขนาดใหญ่ถึง 330 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 2 โซนจะเป็นเหมือนที่ออกกำลังกายของชาวสิงคโปร์ ซึ่งการใช้บริการเกือบทุกโซนจะฟรีหมด ยกเว้น Super Tree และ Dome เรือนกระจกอีก 2 แห่งที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- นะ มาถึงก็พุ่งเข้าโดมก่อน และ photoshoot ถ่ายภาพก็เริ่มอีกครั้ง ดอกไม้เยอะมาก เยอะขนาดที่ว่า สวัสดีวันต่างๆ น่าจะใช้ได้ถึงศตวรรษหน้าอ่ะ ไหนจะรูป Profile สีส้มอีก ขอบคุณตากล้องทุกคนที่ถ่ายรูปให้แมวอ้วนมา ณ ที่นี้
- Taxi ขากลับนี่แพงมหาโหด เพราะพาขับอ้อมโลก รถติดเลย จบ คติ Don’t Mess with the Driver ยังใช้ได้อยู่นะ
- สองโดมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ออกมากินแมคแล้วกระโดดขึ้น Taxi กลับมาที่ห้าง Takashimaya แล้วก็ได้เข้า Super นิดหน่อย
- ได้ Doritos Vitamin Water ลืมอีกหลายอย่างมากกก เช่น Dry Shampoo และ Jergens หรือเหล่ายาแก้ปวดต่างๆ
- สำหรับเรานะ เรารู้สึกเหมือนประเทศมันไปไม่สุดอ่ะ แบบ สินค้าต่างๆ ของทั้งอังกฤษหรืออเมริกาก็มาไม่หมด ยา หรือ ขนมโค้กอะไรงี้ มันแปลกๆ อ่ะ แล้วก็ค่าเงินแพง
- อ้อ คนเยอะมาก เยอะจนงง งงไปหมด
- พอถึงเวลานัด ก็เดินหลงแบบหาทางออกไม่เจอ การหลงทำให้ได้เจอร้านหลายอย่างมาก แต่ก็ได้แค่มองเท่านั้นแหละ เพราะว่าเสียเวลามากกะการหลงอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง วนอยู่ในห้าง หาทางออกไม่ได้จ้ะ
- ร้านที่ได้แต่มองคือ LUSH TYPO MUJI UNIQLO BEN’S COOKIES FAMOUS AMOS KRISPY KREME และอีกหลายอย่างมาก
- พอมาถึง สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ เห็นธงชาติไทยเด่นสง่า ตึกสวยมาก เราก็ภูมิใจนะ ด้านในสวยงามมาก เสียดายที่เรามาไม่ทันท่านทูตพาชม แอบเฟลหน่อยๆ
- มีการถ่ายรูปย้อนรำลึก 40 ปี เชื่อแล้วว่า “เราเก็บความรักและความทรงจำไว้ในรูปถ่าย” นี่เกิดขึ้นจริง กว่าจะรวมตัวกันได้ก็นานอยู่
- โต๊ะ 27 ต้อนรับสมาชิกเพิ่มคือ น้าตั้ม และน้าช้าง ชนแก้วกันโครมๆ กินไวน์เหมือนน้ำเปล่าเลยทีเดียว อาหารอร่อยมาก อย่างที่บอก เติมแล้ว เติมอีก วนไปค่า
- ด้านในแอร์เย็นฉ่ำมากกกกกกก อาหารอร่อยมาก ไวน์อร่อยสุดๆ มีเป่าเค้กให้พี่เงาะด้วย และ ดีเจพี่จอร์จกับลำโพงคู่ใจ ทำให้ค่ำคืนที่สนุกสนานผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
- แมวอ้วนโดนพี่บอยจัดเต้นเพลงงานวัด กระโปรงฟมุนควงฟิ้วๆ กันเลย ไหนจะพี่ลิง พี่หลี น้าหนึ่ง ลีลาศกันม่วนซื่น ไม่เกรงใจข้อขา ข้อสะโพกกันเลยทีเดียว
- เพลงนี้เต้นกันมันส์หยด เฮกัน เฮกัน เวลาล่วงเลยไปไม่มีใครหยุดเต้นเลย
- ครั้นถึงสามทุ่มครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่นัดรถบัสมารับ ท่านฑูตบอกทดเวลาเจ็บออกไปอีก 15 นาที เพราะเพลงกำลังมัน ดีกรีและอารมณ์แต่ละคนกำลังได้ที่ จนใกล้สี่ทุ่มจึงต้องขอลาจริงๆ ท่านฑูตออกมาส่งพวกเราถึงรถบัสด้วยความอบอุ่น แม่ลงไปคลานที่พื้นรถบัสด้วยเอ้า และกลับมาถล่มร้านหน้าโรงแรมต่อค่ะ
- เริ่มต้นด้วยพี่บอย สั่งเบียร์ก่อนหนึ่งโหล หอยสามจาน เนื้อสะเต๊ะ บะหมี่เป็ด เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ค่ะพี่น้อง แมวอ้วนก็ไม่พูดไม่จา กินบะหมี่สบายใจเลย บะหมี่อร่อย คล้ายๆกับ noodle garden สมัยก่อน (แหม พูดชื่อร้านมานี่ไม่บอกอายุเลยนะคะ)
- หมวยเชียร์เบียร์โหดมาก เหมือนเป็นเมนส์ไม่ก็หมดเมนส์ จะตีบวกกะเราหลายครั้ง ไปๆมาๆนางดีกะพี่จอร์จซะงั้น งง เลย
- พอกินบะหมี่หมดแล้วก็ขึ้นมานอนเถิดหนา ไม่ไหวตาจะปิดแล้วเด้อ ขึ้นมาอาบน้ำจัดกระเป๋า นัดหมายกันแล้วก็นอนเลยจ้ะ
- อรุณสวัสดิ์วันที่สามในสิงคะปุระคันทรี่เด้ออออ
- เนื่องจากอาหารเช้าโรงแรมพาเราให้เกิดอาการ อิหยังวะ อย่างแรงกล้า น้าหนึ่งคนดีเลยเสนอให้เราไปกินข้าวเช้าที่สตาร์บัคส์ ไชโยยยย
- เข้าสตาร์บัคส์ที่ใด ดีใจประหนึ่งพบญาติผู้ใหญ่ อุ่นใจมากกกก กาแฟของน้องงงง น้องหมีเมอร์ไลอ้อนของน้อองงงงงงงง เย้ รอดชีวิตแล้วเว้ยยยย
- ของกินมีเยอะกว่าที่ไทยนะ แล้วก็ กาแฟอร่อยดี กลับขึ้นมาเก็บของ ก็ ถ่ายรูปหมู่เล็กใหญ่ แล้วก็ไปย่าน Chinatown กัน
- อาหารการกินวันนี้ คือ ติ่มซำ ร้านโอเคมาก แต่มีเรื่องแอร์นิดหน่อย อากาศไม่มีหายใจ เสร็จก็..ไปวัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งภายในงดงามมากๆ สวยจนกดถ่ายรูปไม่ถูกอ่ะ แล้วก็มีฝนตกลงมานิดหน่อย เลยไม่ได้ดูซื้อของอะไร ขึ้นรถมาอย่างเดียว
- จริงๆ ตามโปรแกรมยังมีต่อนะ มี Shopping ต่อ แต่ว่าแม่กับแมวอ้วนต้องไปแล้ว กลับก่อนไง
- ก็เรียกแท๊กซี่ ลาน้าๆ กอดทุกคน แล้วก็ขึ้นแท๊กซี่มา ขอบคุณน้าๆ ทที่น่ารักทุกคนที่รอส่งแมวอ้วนขึ้นรถ แท๊กซี่คุยเยอะมาก ที่หลักๆ ก็คือเราบอกเค้าว่า เราอยากไปดู The Jewel นางก็หัวเราะหึๆ แล้วบอกว่า That’s my Tax money ฟังแล้วหดหู่พิลึก เพราะนางไม่ได้พูดหนเดียว พูดวนไปวนมา
- มาถึงสนามบิน ไป Check in ก่อนนะ Staff บอกว่า รอ seat นะจ๊ะ ก็โอเคไม่ว่าอะไร ตามใจแม่เลยจ้ะ ข้ามไป terminal the jewel ก่อนก็ได้
- The Jewel เป็นอาคารใหม่ภายในสนามบินสิงคโปร์ ที่เปิดตัวในรูปแบบศูนย์การค้า ไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 135,700 ตารางเมตร ผสานความงามของธรรมชาติ เทคโนโลยี ความทันสมัย และสถานที่ช้อปปิ้งสุดครบครัน ทั้งแบรนด์ดังจากต่างประเทศ และแบรนด์ดังในสิงคโปร์ มาไว้ในที่เดียว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พร้อมรองรับผู้โดยสาร ทั้งจุดฝากกระเป๋า, เคาน์เตอร์เช็คอินล่วงหน้า, เลานจ์, ห้องอาบน้ำ ฯลฯ รวมถึงยังเชื่อมต่อกับทุกเทอมินอล ทั้งอาคาร T1, T2, T3 และ T4 พร้อมบริการรับส่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย
- สำหรับเรา นี่เป็น Check point สุดท้ายก่อนกลับบ้าน ที่มีทั้ง Shake Shack ได้แต่มองเท่านั้นแหละแก ละก็มี Tokyu Hand ก็ได้แต่มองเหมือนกัน เอาจริงๆ ก็..สามารถมาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันอะ เพราะมันก็คือห้างอันนึงเลย
- ถ่ายรูปเสร็จก็เข้าไปเดินข้างในดีกว่าค่ะ Duty Free ซะหน่อย และก็ได้เก้าอี้นะ แต่เก้าอี้พัง ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้กลับเนอะ
- Duty free ไม่มีอะไรมาก ก็คล้ายๆบ้านเรา คนไทยรุมของ เลยเบื่อๆ ว่าจะหาร้านซื้อ Chocolate ก็ไม่ทันแล้ว เลยไปนั่งรอหน้าเกตดีกว่า
- ปั๊บๆ ขึ้นเครื่อง บนเครื่องแม่นั่งคุยกะคนข้างๆ ตลอดไฟลต์ ในขณะที่ทางเรานั้น จอพังไม่สามารถทำอะไรได้ ดีว่ายังเอนนอนได้ เลยหลับไปนิดหน่อย ถ่ายรูปหน้าต่างนิดหน่อยและกินไวน์ไปให้หลับหนักขึ้นอีก
- หลับๆ ตื่นๆ อากาศร้อนเหงื่อแตก ก็ลดระดับลงแล้ว ทริปร้อนระอุแต่สนุกและอบอุ่นหัวใจ ก็มาจบที่ Duty Free ที่ประเทศไทย และ Burger King ส่งท้ายโดยสวัสดิภาพค่ะ
- สำหรับทริปนี้ แมวอ้วนขอกราบขอบพระคุณ ท่านเอกอัครราชฑูต มานพชัย วงศ์ภักดี และครอบครัวที่เชิญพวกเรามา (นึกไม่ออก)
- ที่ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษคือท่านฑูตตุ่ยและครอบครัว ที่ท่านมีน้ำใจและความเป็นกันเองต่อพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น อาหารที่ทำเนียบอร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะแกงเขียวหวานและยำสามเหม็น ตลอดจนยังเปิดที่พักที่ทำเนียบให้พวกเราบางส่วนเข้าพักกันหลายคน ทริปนี้พิเศษขอขอบคุณท่านอธิบดีอ๊อดและครอบครัวให้เกียรติมาร่วมสนุกสนานด้วย
- กราบขอบพระคุณ น้า ๆ พี่ ๆ ที่น่ารักของแมวอ้วน ที่เอ็นดู เป็นห่วง รักใคร่ กอด ถ่ายรูป ฟัด หาขนมให้กิน หาน้ำให้ดื่ม เต้นกันม่วนซื่น หัวเราะกับมุกห้าบาทสิบบาทของแมวอ้วน และเป็นกำลังใจในการโพสท่า ไม่ว่าจะออกมาฮาขนาดไหนก็ขำก๊ากก
- ขอบคุณสาวสวยรุ่น 27 น้าที่น่ารักที่สุดของแมวอ้วน ที่รักและเอ็นดูแมวอ้วนเสมอ รักน้าๆ มากมายก่ายกองนะคะ
- ขอบคุณแม่เปี่ยม ที่ลากแมวอ้วนไปด้วยทุกที่ และสอนให้รู้ว่า “สีดำเลือดไม่จาง” เป็นอย่างไร
- ขอบคุณชมิ้งน้อยเด็กดี เด็กน่ารักลูกชายของเรา ที่ออกมาทุกครั้งที่มีอาหาร และขนมให้ถ่ายรูป
- ทริปนี้ อย่างเช่นเคย เป็นการเปิดประสบการ์ณการไปประเทศใหม่นี้อย่างมาก เป็นประเทศที่ไม่เคยมามาก่อนเลย
- และ เช่นเดิม “โลกประกอบด้วยคนหลายแบบจึงประกอบเป็นโลกขึ้นมา” นั้น ยังใช้ได้ดีเสมอ
- ครั้งหน้า ไปไหนอีกดี ติดตามชมกันได้นะคะ
- ขอบคุณที่อดทนอ่านมาจนถึงข้อนี้
- และข้าพเจ้าคือ VanillaTK ขอบคุณตัวเองและสองขา ที่ไม่โดดลงมาจากยอดของ Singapore Flyer ไปซะก่อน
แมวอ้วนตัวนั้นที่โพสเยอะ กินดุ มุกง่อย แต่รักทุกคนนะคะ จุ๊บๆ
Tatida Kungvarlvongse
วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 02.38 น.