อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อนเดินทางมาท่องเที่ยวป่าเขาที่ภูกระดึง นักท่องเที่ยวควรสำรวจสุขภาพความพร้อมของร่างกายก่อนเดินทางเพราะต้องใช้เวลาเดินและปีนป่ายเขาที่มีระยะทางร่วม 9 กิโลเมตร (ขึ้นเขา 5 กิโลเมตร ทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร) อุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นภูกระดึง ตั้งแต่เวลา 07.00 – 14.00 น.

ช่วงเวลาเที่ยว : เดือนตุลาคม – พฤษภาคม
ค่าเข้าอุทยานฯ
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ค่าบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 30 บาท

เริ่มออกเดินทาง 4 โมงเย็นวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562 ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตี1 นอนรอหน้า อช.อากาศช่วงนี้หนาวมากปีนี้ถือว่าหน้าหนาวไทยทำได้สมศักดิ์ศรี 555

DAY 1

ทริปนี้มีทั้งหมด 6 คน มาจาก กทม. 4 คน และรอเพื่อนอีก 2 คนจากพิษณุโลก กับขอนแก่น รอจน 9 โมงกว่าๆ กว่าจะเตรียมตัวเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบ 11 โมง

มาถึงก็ลงทะเบียน ทำประกันชีวิตกับ อช.คนละ10 บาท

เสียค่ากางเต้นคืนละ 30 บาท 2 คืน (เต้นท์เตรียมมาเอง) ถ้าใครไม่มีทาง อช.มีให้เช่า มีบริการลูกหาบ แต่แก้งเราแบกเองทุกคนเลยไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

มีค่าประกันขยะกลุ่มละ 100 บาท ถ้านำขยะลงมาจะได้เงินคืนเต็มจำนวน

เริ่มเดินจริงๆ 11 โมงกว่าๆ อากาศดีคนเยอะมาก วันที่เราขึ้นมีคนขึ้นทั้งหมด 1,326 คน OMG!!!! ภูแทบแตก+

เมื่อเห็นป้ายนี้ อยากบอกว่าหนีไป อย่ามา


เดินเรื่อยๆจนถึงซำแรก ซำแฮก ที่ทำเอาหอบแฮกๆ เรื่องของกินคงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก ของกินเยอะมาก มีแทบทุกซำ แตงโมหวานๆของขึ้นชื่อภูกระดึงที่ใครมาก็ต้องกินชิ้นละ 10 บาท กินทุกซำเหมือนเดิม


ปีนี้มีคนนอนขึ้นแบบสยายๆเลยจ้าาาา อิจฉาเลย

เลยซัมแฮกมาสักพัก เจอสองพ่อลูกแบกกันมาเองน่ารักมากๆ น้องพึ่งจะ ขวบกว่าๆเอง ได้มาภูกระดึงแล้วอ่ะ...ขุ่นพ่อเก่งมากเลยค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอ คู่รักคู่หนึ่งขี่หลังกันลงมา คือตอนนั้น จากอากาศหนาวๆ ก็ตาร้อนมาทันที ทำไมรักกันขนาดนี้...เนี่ยแหละนะเสน่ห์ของภูกระดึงมีเรื่องราวน่ารักๆ ตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเสียงทักทายจากคนแปลกหน้า เสียงที่บอกให้กำลังใจสู้ๆนะ อีกนิดเดียว จะถึงแล้ว แม่ค้าที่ทักทายตลอดเส้นทาง


เดินแปปเดียวก็ถึงซำกกโดนแล้วอีกแค่ 1 ซำก็ถึงหลังแปลแล้ว

ช่วงจากซำแคร่ไปถึงหลังแป คือ จะชันไปไหนนนนนนน บันไดเยอะมากหลายช่วงบางช่วงเกือบ 90 องศา

(ภาพฟีล์ม Nikon FE2+50 1.4D Kodakcolorplus200 )



ถึงหลังแปแล้วโว้ยยยยยยย นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มาถ่ายรูปกับป้ายนี้ก็ยังคงเหนื่อยเหมือนเดิม ป้ายเปลี่ยนไปจาก 6 ปีที่แล้ว ป้ายสวยขึ้น...มีตรา อช.เพิ่มเข้ามา สีของป้ายที่เข้มขึ้น

เข้าแถวถ่ายรูปอย่างมีระเบียบ (ภาพฟีล์ม Nikon FE2+50 1.4D Kodakcolorplus200 )

จากนี้ไปคือทางราบยาวๆไปอีก 3.5 กิโลเมตร แสงเย็นวันนี้คือดีงามมาก

ระหว่างทางคือสวยทุกมุม สวนสนสองข้างทาง หยุดถ่ายรูปไม่ได้เลยจ้าาาาาา


โคตรชอบภาพนี้เท่เกิ้นนนนน


ถึงจุดกางเต้นท์อากาศหนาวมากตอนนี้ 10 องศา

วางของแล้วกางเต้นท์เย็นมากแล้ว หิวมากด้วยยยยยย

หมู่บ้าน NatureHike

กางเต้นท์เสร็จก็สัดหมูกะทะเลย ชุดละ 500 ราคาเดิม ร้านนี้ไม่ค่อยอร่อยแต่แม่ค้าพุดจาดีมากหลงแม่ค้า แม่ค้าสวยไม่ขอเอ่ยชื่อร้านนะแต่ร้านอยู่ทางขวาร้านแรกตรงที่เรากางเต้นท์เลย ^ ^

-----------------------------

DAY 2

นอนตื่นสายตลาดแทบวอดวายกว่าจะเยื้องย่างออกจากเต้นท์ได้ก็ 10 โมงเข้าไปแล้ว เมื่อคืนเกือบเอาชีวิตไม่รอด หนาวสุด 5 องศาจะแข็งตายให้ได้

เส้นทางของวันนี้คือไปทางน้ำตกวังกวาง แล้วไปผาหล่มสัก ระยะทางรวมทั้งหมด 23 กิโลเมตร เราไม่ได้เช่าจักรยานเดินเอาเน้นกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ

ฟ้าเปิดดีมากวันนี้

มาถึงน้ำตกเพ็ญพบอย่างแล้งๆน้ำไม่มีสักหยด

จุดชมวิวระหว่างทาง

จุดน้ำตกถ้ำใหญ่เมเปิ้ลกำลังโรยแต่ถือว่ายังมีอยู่มาก สวยมากด้วย


จาก น้ำตกถ้ำใหญ่ไปถึงทุ่งหญ้าแห้งคือสวยมาก อารมณ์เหมือนแอฟริกาแม่เอ้ยยย

สถานีต่อไป สระอโนดาต

จากนั้นเดินยาวๆไปอีก 5.5 กิโล ถึงผาหล่มสัก คือเคว้งมาก 4 โมงกว่าแล้ว ยังอีกไกลมาก พระอาทิตย์ก็ตกตามตูด ลุ้นมาก จะทันแสงเย็นที่ผาหล่มสักมั้ย

ถึงทันแสงสุดท้ายพอดี 10นาทีสุดท้ายได้ภาพมาแค่นี้แหละคนก็เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ

โกโก้ร้านนี้ดีมากกกก ชื่อร้าน KEEP CALM AND DRINK COFFEE

เย็นตาโฟร้านที่สองถัดจากร้านนี้ก็แซบมากเว่อร์ อร่อยจนลืมถ่ายมา

เจอน้องๆแก้งนี้ตั้งแต่ขาขึ้น แล้วมาเจอกันที่ผาหล่มสักอีก เลยชวนน้องๆกลับด้วยกัน ไหนๆก็มึดแล้ว จะได้มีเพื่อนเดินเยอะๆ


อิ่มท้องแล้วอีก 9 กิโลเมตรถึงจุดกางเต้นท์ สู้ๆวะ

หนาวโคตรๆ ตอนนี้ 6 องศา เดินไปสั่นไป

มื้อเย็นฝากท้องที่ร้านเจ้บัวไล ชาบูอร่อยโคตรๆ มีทั้งน้ำใสและน้ำต้มยำ คือแซบมากทั้งสองน้ำ แบบกินชุดเดียวไม่พออะ หมูต้องเพิ่มและจังหวะนี้ กินอยู่โต๊ะเดียวยันทุกร้านปิดหมดแล้ว จนคนข้างๆต้องมาแซวว่าเจ้บัวไลโต้รุ่ง 55555 เจ้าของร้านก็ใจดีให้น้ำจิ้มสูตรพิเศษมาเพิ่มอีก...โอ้ยยยรักตายเลยร้านนี้


-----------------------------

DAY 3

ตื่นนอน 9 โมง พระอาทิตย์คืออะไร มา 2 ครั้ง ไม่เคยตื่นไปดูสักครั้ง 55555

วันนี้ลงเขาแล้ว เก็บของ กินข้าว แล้วรีบๆลงเลย สายมากเพื่อน ด้วยความรีราของแก้งเรา ก็โน้นนน เกือบเที่ยงได้มั้งกว่าจะเริ่มเดินลงอ่ะ

โบกมือลาภูกระดึงของจริง.....ไม่มาแล้วจ้า

ขาเปรี้ยมากแม่เอ้ยยยยยย

ค่าเสียหายทริปภูกระดึง

- ค่าน้ำมันไปกลับ 2100 / 5 คน

- ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท

- ค่ากางเต้นท์ 2 คืน คนละ 60 บาท

- ค่ากิน จำไม่ได้เลยกินแหลกเหลือเกินทริปนี้แล้วแต่เพื่อนๆเลยค่ะว่ากินแค่ไหนก็เตรียมงบไปแค่นั้น

- ค่าลูกหาบ - (ไม่เสีย แบกเอง)


กลับแล้วเจอกันป่าหน้า









สุพรทิพย์ คำอาษา

Mint Septidkhao

 วันพฤหัสที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.23 น.

ความคิดเห็น