“ภูฟ้าซาเจ๊ะ”ที่พักโฮมสเตย์แห่งบ้านผาหมีเราตั้งใจมาที่นี่เพราะมีประวัติศาสตร์เพราะเจ้าของที่พักแห่งนี้คือบุคคลในภาพที่ประคองแขนในหลวงขณะประทับบนหลังม้า
และเหตุการณ์ช่วยชีวิตเด็กทีมหมู่ป่าอะคาเมี13ชีวิตทริปนี้เราตั้งต้นจากสนามบินเชียงใหม่ เช่ารถขับจากสนามบินไปยังหมู่บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำอ.แม่สายจ.เชียงราย เราใช้เส้นทางหมายเลข 107เพื่อแวะเที่ยวรายทาง เข้าสู่ถนนหมายเลข 1089 เช่น ฮิโนกิแลนด์ อ.ไชยปราการ ติดตามได้ลิ้งค์ https://th.readme.me/p/29237 จุดชมวิววัดท่าตอนอ.แม่อายจ.เชียงใหม่จนถึง อ.แม่จัน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ไปทางอำเภอแม่สายถึงร้านจันกะผัก เลี้ยวซ้ายตามถนนทางหลวงชนบทอีกประมาณ 4 กม. เลี้ยวขวา ไปยังที่พักภูฟ้าซาเจ๊ะอีกประมาณ 1กม. เราไปถึงประมาณ 17.45 น. เกือบมืดแล้ว พอมีแสงให้ได้ถ่ายรูปบ้างนิดหน่อย
รูปภาพในอดีต ถือเป็นประวัติศาสตร์ และมีความมงคลเป็นอย่างยิ่งในชีวิตของพ่อหลวงซาเจ๊ะที่พักเป็นแบบเรียบง่ายเราใช้วิธีจองข้ามปี เพราะกลัวเต็มเนื่องจากที่พักมีจำนวนห้องไม่มากนัก เพราะมีแค่ 4 ห้องให้เลือก ในอนาคตน่าจะมีการต่อเติมห้องพักเพิ่มขึ้น เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงมากมาย และบ้านผาหมีเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นจากเหตุการณ์ช่วยเหลือเด็ก13ชีวิต ที่ติดถ้ำหลวงถือเป็นข่าวดังและปฏิบัติการระดับโลก ที่พักห่างจากถ้ำหลวงประมาณ5กม. ถือว่าสะดวกสบายมาก
เรื่องอาหารการกิน ขอแนะนำให้ติดต่อที่พักล่วงหน้าว่าจะทานที่รีสอร์ท หรือทานมาจากข้างนอก ถ้าไม่สั่งอาหารล่วงหน้า อดเลยนะครับ หรือต้องเสียเวลาขับรถหาร้านอาหารในตัวเมือง555555 ส่วนของเราได้ติดต่อทานที่รีสอร์ทเมนูบ้าน ๆ พร้อมอาหารเมนูของชนเผ่า
ตื่นเช้ามาสัมผัสอากาศหนาวกำลังพอดี มารู้จักที่พักภูฟ้าซาเจ๊ะ ผู้เป็นเจ้าของคือ พ่อหลวงซาเจ๊ะ อดีตผู้ใหญ่บ้านผาหมี
ชุมชนบ้านผาหมี เป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ปัจจุบันบ้านผาหมีถนนหนทางเชื่อมกับตัวเมืองแม่สาย หรือระหว่างหมู่บ้านไปมาสะดวกมากขึ้น
บรรยากาศยามเช้าที่พักภูฟ้าซาเจ๊ะโฮมสเตย์
ภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้นที่เสด็จมาเยี่ยมราษฎรที่ดอยผาหมียังคงอยู่ในความทรงจำของพ่อหลวงซาเจ๊ะไม่ลืม ในฐานะผู้ถวายการรับใช้อย่างใกล้ชิด ภาพเหล่านี้ถูกติดไว้ทั่วผนังบ้าน พ่อหลวงเล่าว่า หลังจากที่พระองค์เสด็จมาพระราชทานความช่วยเหลือ สร้างอาชีพ สร้างถนนหนทาง จนชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระองค์ทรงตรัสกับพ่อหลวงว่า ขอให้เลิกปลูกฝิ่นและให้รักษาป่าไม้ ต้นน้ำ ซึ่งพ่อหลวงและชาวผาหมีทุกคนได้ปฎิบัติตามและรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์จวบจนทุกวันนี้
คลิปที่พักภูฟ้าซาเจ๊ะ
เสร็จภารกิจเช้านี้เราเช็คเอาท์และเดินทางไปยังบ้านผาฮี้ ที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟอีกแห่งหนึ่งมีแบรนด์เป็นของตนเองเราขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นทางหลวงที่แคบและชันสุด ๆ แห่งหนึ่งเลยห่างจากที่พักประมาณเกือบ3กม.จะพบจุดชมวิวน้องใหม่ ที่น้อง ๆ ทีมหมู่ป่าได้มาแวะถ่ายภาพ
ขับต่อไปอีก 5กม. ถึงจุดหมายปลายบ้านผาฮี้ มีลานจอดรถฟรี ไม่แนะนำให้เอารถลงไปในหมู่บ้านเพราะถนนแคบ ชัน และลื่นบางจุด เรามาในหน้าหนาว เจอวันที่อุฯหภูมิลดลงฮวบเลย ปากสั่นกันเลยทีเดียวแลนมาร์คแห่งบ้านผาหมี เสียดายไม่มีน้องหมอกมาให้เชยชม
มองจากจุดจอดรถสาธารณะ ถ้ามาน่าฝนน่าจะฟินกว่านี้ นึกเสียดาย555 ใกล้ ๆ ลานจอดรถเดินลงไปประมาณ 50 เมตร เป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูปรอรับแขกผู้มาเยือน เอ่อ ป้ายเอียงนั่น ไม่ใช้ศิลปะนะ คุณลุงท่านหนึ่งบอกว่ามันขาด หลังเราถ่ายรูปเสร็จ ท่านก็เดินมาจับผูกมัดให้เรียบร้อย555
จากจุดนี้ลงไปสามารถเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านชาวเขาเผ่าอาข่า เริ่มจากประตู เดินลงไปเรื่อยๆ
ถึงร้านกาแฟ เขาแนะนำให้ไปถ่ายรูปเช็คอินได้ ผู้คนอัธยาศัยดีมาก
มาถึงจุดที่เราตามหา เห็นหลาย ๆ รีวิวเขามากัน ตามหาจนเจอ555 ร้านกาแฟภูผาฮี้ ที่นั่งห้อยขากันทุกคน555
สะพานไม้ไผ่ มีที่เที่ยวน้องใหม่ เราสามารถติดต่อจากร้านค้าใดก็ได้ ให้รถมารับค่าบริการคนละ 60 บาท เด็กไม่เสียค่าใช้จ่าย 60 บาทนี่คุ้มมากเลย เพราะรวมค่าเข้าชมสวนกาแฟ ถ่ายรูป ยกเว้นค่ากาแฟ จ่ายเองนะฮะท่านผู้ชม555
ไหนๆ ก็มาแล้ว อุทยานแห่งชาติล่าสุดขุนน้ำนางนอน ไม่แวะเสียเที่ยวแย่เลย ถ้ำหลวงห่างจากบ้านผาหมีประมาณ 5 กม. ขับรถไม่ถึง 10 นาที ปัจจุบันเอกชนเปิดที่ให้จอดรถและค่าบริการนำเที่ยวสระมรกตและถ้ำหลวง ค่าบริการจำไม่ได้5555 เพราะไม่ได้เป็นคนถือตังค์ รถจะพาเราไปที่สระมรกตก่อนแล้วค่อยวกกลับมาที่ถ้ำหลวง
คลิปชมวิถีชีวิตบ้านผาฮี้
จากป้ายนี้ เราต้องเดินเข้าไปอีกราว ๆ 200 เมตรเพื่อชมสระมรกต ที่เกิดจากเปิดปากถ้ำทรายทอง แล้วสูบน้ำออกมาเพื่อช่วยชีวิตน้องๆทีมหมูป่า
จากนั้นก็วกมาที่ถ้ำหลวงนางนอน รถจะจอดให้เราลงบริเวณสามแยก ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้จับจ่ายใช้สอย ปกติจะมีรถรางให้บริการ แต่วันที่เราไปกำลังมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้า เราจึงต้องเดินไป โชคดีที่เราไปช่วงที่เขาเปิดให้เข้าชมถึงปากถ้ำ มองเห็นโถง 1 อลังการ ใหญ่มาก แต่ด้วยกำลังปรับปรุงระบบไฟ ภาพที่ออกมาไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร บริเวณข้างทางเดิมเป็นป่าธรรมชาติ ตอนนี้เป็นป้ายใหญ่อลังการ555
ทางเข้า - ออก จัดเป็นสัดส่วน
บริเวณปากถ้ำมีจุดสำคัญหลาย ๆ จุดที่บ่งบอกถึงภารกิจต่าง ๆ ขณะปฏิบัติการช่วยเหลือน้องทีมหมูป่า เช่น จุดจอดจักรยานของน้องๆ
รูปปั้นนางนอน
ฮีโร่ "จ่าแซม"
คลิปบรรยากาศเที่ยวชมขุนน้ำนางนอน - ถ้ำหลวง (บันทึกคลิปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562)
เราใช้เวลาที่นี่ถึงเที่ยง อากาศยังหนาวเย็นตลอดวัน ทำภารกิจให้เสร็จสิ้นปลายทางยังอีกยาวไกล ที่ดอยผาตั้งเราจองที่พักผาตั้งฮิลล์รีอร์ท ใช้เส้นทางเชียงแสน – เชียงของ – เวียงแก่น – จนถึงที่พัก เดินทางประมาณ 5ชั่วโมง แต่วิวข้างทางสวยมาก ลืมความเหนื่อยไปได้เลย เราไปถึงที่พักประมาณทุ่มเศษ ๆ อากาศเย็นมากกกกกไม่อยากถอดถุงเท้าไม่อยากนั่งชักโครก มันทรมานนนน555 เราอาหารที่กินง่ายอยู่ง่าย พักผ่อนเอาแรงเราให้ที่พักนัดหมายรถนำเที่ยวดอยผาตั้ง เราเริ่มที่เนิน 104 เนินที่เที่ยวน้องใหม่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2562ค่าบริการ 600 บาท เที่ยวทุกจุด จะไปกี่คนก็ 600 บาท เส้นทางต้องบอกว่า ต้องรถโฟร์วีลเท่านั้นครับท่านผู้ชม จากลานจอดรถเดินขึ้นไปตามไหล่เขาอีก 200 - 300 เมตร ครับ เหนื่อยเอาการ
ตะวันยังไม่โผลพ้นขอบฟ้าเลยครับ นี่หกโมงกว่าแล้วนะ หนาวก็หนาว อุณหภูมิ 2-4 องศา หนาวจนปวดมือ ปวดทั่วทั้งตัวเลย ลมแรงมาก
แสงแรกมาแว้ววว
แม้แสงแรกจะมาแล้ว แต่ความหนาวเย็นยังไม่ลด มาสัมผัสอากาศหนาวที่แท้จริง
บรรยากาศทางลงไปลานจอดรถ สงสารเจ้าตัวเล็ก หนาวจนซนไม่ออก555
คลิปจุดชมวิวเนิน 104 ดอยผาตั้ง
จากเนิน 104มุ่งหน้าสู่ เนิน 102 ถึงลานจอดรถก่อนเดินขึ้นเนิน เริ่มหิวล่ะ หาของรองท้องก่อนดีกว่า
ไปที่ลานจอดรถแล้วเดินต่ออีก 300 – 500 เมตร โดยประมาณครับถ้าไม่ไหว ก็ขี่ม้าครับค่าบริการ 150 บาท จำกัดน้ำหนักตัวด้วยสงสารม้า จุดแรกที่ต้องผ่านคือ "ผาบ่อง"
ติดต่อม้าก่อน ตัวเล็กเดินไม่ไหว
เราเดินคนละทาง ตัวใครตัวมัน555
เราก็ลัดเลาะตามไหล่เขาอีกฝั่งหนึ่ง
ประมาณว่าถึงหลังแปแล้ว เนิน 102
ณ จุดชมวิวเนิน 102 ดอยผาตั้ง เชิญชมครับ
แล้วเดินย้อนลงไปที่ช่องเขาขาด สลับที่กันถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวกรุ๊ปอื่นๆ555
ช่องเขาขาด เป็นจุดเช็คอินเล็กๆ
ลาด้วยภาพความสดใสเจ้าตัวเล็กครับ
ขาดตกบกพร่องประการใดขออภัยด้วยนะครับ ข้อมูลอาจจะน้อยแต่มากด้วยภาพ
คลิปการเดินทางจากเนิน 104 ถึง เนิน 102 ดอยผาตั้ง
Khundet
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.00 น.