สวัสดีครับ หลังจากที่ผมเฝ้าดูกระทู้รีวิวแม่กำปองในห้องบลูอยู่นาน เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาคนที่ได้ไปเป็นที่สุด สักวันผมจะต้องไปเยือนที่แห่งนี้ให้ได้ ตั้งเป้าหมายพร้อมหาวันเวลา ในเมื่อใจมันWant ก็ยากที่จะลด ละ เลิก เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมเองเป็นคนที่ชอบเดินทางไปชมอะไรๆที่เป็นธรรมชาติสีเขียวๆ โดยเฉพาะเที่ยวภูเขา ใครที่ติดตามกระทู้รีวิวของผมหรือเป็นแฟนเพจก็จะสั่งเกตุได้ชัดเจนว่าผมชอบเที่ยวโซนสีเขียวซะส่วนใหญ่ เวลาจะเดินทางไปไหนก็มาหาข้อมูลในพันทิป


การเดินทางครั้งนี้ผมใช้ระยะทางมากกว่า700โล จากขอนแก่น ผ่านเพรชบูรณ์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง-เชียงใหม่ โอววว ช่างไกลแต้ๆ แต่มันกลายเป็นเรื่องปกติของผมไปเสียแล้ว เฮ้ย..ทำไมไม่นั่งเครื่องหละ? หลายๆคนคงอาจจะสงสัย แต่เพราะผมเองเป็นคนชอบแวะนู้นแวะนี่ในระหว่างเส้นทาง เลยคิดว่าขับรถไปเองน่าจะสะดวกกว่า ฮ่าๆ

เอาหละๆเข้าเรื่อง.. ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำราญชนโฮมสเตย์ที่เอื้อเฟื้อห้องพักให้กับผมเพื่อทำการรีวิว ณ แม่กำปอง ขอบคุณ GPS ที่ทำให้ผมมาถึง จริงๆแล้วใครที่จะมาแม่กำปองไม่จำเป็นต้องใช้GPSก็ได้นะครับ เพราะหาไม่ยากเลย วิ่งไปทาง อ.สันกำแพง เมื่อไปถึง อ.แม่ออน ก็ตรงไปเรื่อยๆจนขึ้นเขาเลยครับ เส้นทางคดเคี้ยว แคบ ชันบ้างเล็กน้อย อ้อ..ช่วงนี้มีการปรับปรุงเส้นทางขึ้นแม่กำปองเป็นจุดๆ บางจุดวิ่งได้เลนเดียว ใช้ความระมัดระวังด้วยครับ

ขอฝากเพจการเดินทางอันน้อยๆของผมด้วยนะฮ่ะ
https://www.facebook.com/wanderaroundthailand

หลังใช้เวลาเดินทาง 8-9 ชม. ก็มาถึงหน้าหมู่บ้าน เป็นจุดมหาชนที่ใครมาแม่กำปองจะต้องลงมาถ่ายภาพ วันนี้แดดค่อนข้างจะแรงสักหน่อย แต่คิดว่าถ้าเข้าไปลึกกว่านี้คงจะเย็นสบาย ผมยืนมองภาพมุมนี้อยู่นาน แอบอึ้งหน่อยๆกับหมู่บ้านที่เรียงกันไปด้านบนเป็นเลเยอร์เหมือนขั้นบันได อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยจะเห็นภาพแบบนี้บ่อยนัก


เท่าที่ผมทราบข้อมูล แม่กำปองจะแบ่งโซนเป็น2โซน คือ กำปองนอก กำปองใน แต่เป้าหมายของผมคือแม่กำปองใน เพราะโฮมสเตย์ส่วนมากจะอยู่แถวๆนั้น จึงต้องขับรถเข้าไปอีกสักระยะครับ ที่นี่มีเสน่ห์ตั้งแต่ทางเข้าอย่างบอกไม่ถูก ดึงดูดให้ชวนมองและหลงใหล


ก่อนจะขึ้นไปถึงแม่กำปองใน ร่างกายส่งสัญญานว่าต้องการกาแฟ เคยอ่านรีวิวว่าในแม่กำปองมีร้านกาแฟที่น่าสนใจอยู่มากมาย ร้านที่ผมอยากจะมาสัมผัสร้านแรกเมื่อมาถึงคือ "ร้านกาแฟลุงปุ๊ดป้าเป็ง" เป็นไฮไล้ท์ของแม่กำปองเลยก็ว่าได้ครับ ใครๆก็จะต้องแวะ ไม่ว่าจะเป็นการแชะภาพหรือการลองรสชาติกาแฟ จุดเด่นของร้านนี้คือ วิวน้ำตกเล็กๆที่ไหลผ่านหลังร้าน บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ


เพราะความเป็นธรรมชาตินั้นเอง เลยทำให้ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควรเลยครับ กินกาแฟไปนั่งฟังเสียงลำธารไป มันใช่สุดๆ อากาศเย็นสบาย ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมคนรักธรรมชาติและรสชาติกาแฟครับ คุ้มค่ากับการเดินทางนานๆ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลยฮ่ะ


หลังจากนั่งอยู่ร้านกาแฟลุงปุ๊ดป้าเป็งได้สักพัก ก็นึกขึ้นได้ว่ามีร้านกาแฟอีกร้านที่บรรยากาศดีไม่แพ้กัน และก็เป็นอีก1ร้านในลิสการเดินทางมาแม่กำปองของผมว่าจะต้องไปลองให้ได้ คือ "ร้านกาแฟชมนกชมไม้" ที่เห็นแทบจะทุกรีวิว วันนี้เป็นวันหยุด คนค่อนข้างจะเยอะหน่อย จะเก็บภาพมุมมหาชนก็ต้องต่อแถวรอ ฮ่าๆๆ บรรยากาศครึกครื้น มีแดดบางๆ แต่อากาศเย็นใช้ได้เลยครับ*0*


ร้านชมนกชมไม้เป็นร้านกาแฟที่อยู่สูงสุดในส่วนของแม่กำปองใน จนทำให้เราสามารถมองเห็นหมู่บ้านเล็กๆที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติผืนใหญ่ รู้สึกอิจฉาคนที่นี่จริงๆครับ ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์


หลังจากจากอิ่มท้องเสร็จ ก็พร้อมจะตระเวณต่อ อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาแม่กำปองที่เราจะต้องไป คือ "น้ำตกแม่กำปอง" อยู่ไม่ไกลจากร้านชมนกชมไม้ครับ สามารถเดินไปได้ แต่ต้องอึดหน่อยนะ เพราะทางมันชันเหลือเกิน ตัดกำลังเราได้ดีเลยทีเดียว หรือใครจะขับรถไปก็ไม่มีปัญหา แป๊บเดียวก็ถึง เสียงน้ำตกเริ่มดังขึ้น และแล้วก็มาถึง น้ำเยอะพอสมควรครับ คนยังไม่เยอะ เก็บภาพสบายเฉิ่มม...^^


จริงๆแล้วน้ำตกแม่กำปองมีหลายชั้นครับ แต่วันนี้ทางเจ้าหน้าที่เปิดให้เดินขึ้นแค่3ชั้น ส่วนผมเองเดินขึ้นได้แค่2ชั้นครับ ไม่ไหว เหนื่อยๆ


เสร็จจากน้ำตก ก็เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย ก่อนจะไปยังเป้าหมายต่อไปคือไหว้พระที่วัดคันธาพฤกษา ที่มีโบสถ์กลางน้ำตก ระหว่างทางเดินชมธรรมชาติ สิ่งที่ผมได้ยินตลอดเลยก็คือเสียงลำธาร เสียงนก บอกเลยว่ามันสุดยอดมากๆ


เดินมาได้สักระยะก็มาถึงวัดคันธาพฤกษา วัดศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับบ้านแม่กำปอง อยู่ท่ามกลางป่าเขียวที่อุดมสมบูรณ์ อยู่ติดกับถนนเลยครับ หาไม่ยาก ซึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ จะมีโบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำตก แต่วันที่ผมเดินทางมา น้ำไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เลยได้ตามภาพที่เห็นครับ ใครมาแม่กำปอง อย่าลืมแวะมาสักการะนะครับ สวยงามจริงๆ


แม่กำปองผมมองไปทางไหนก็เขียวสบายตาไปหมด เป็นสถานที่Unseenอีกแห่งหนึ่งที่ผมหลงใหล ชาวบ้านบอกว่าอากาศที่นี่เย็นตลอดทั้งปี มีความชื้นสูง จึงไม่แปลกที่ผมจะเห็นทุกบริเวณทุกซอกหลืบในแม่กำปองเต็มไปด้วยมอสและเฟริ์นขึ้นมากมาย บางคนบอกไม่ชอบ แต่ผมกับชอบมันแฮะ^^


เดินเยอะ ร่างกายเริ่มเหนื่อย แวะเข้าที่พักดีกว่า ที่พักเป็นโฮมสเตย์ครับ ชื่อว่า"สำราญชนโฮมสเตย์" ใครเคยดูหนังเรื่อง Lost In Thailand ก็คงจะคุ้นๆตา บ้านพักไม้สไตล์ล้านนา ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว กลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ ด้านหลังมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน แค่เดินลงระเบียงก็สามารถลงเล่นน้ำได้แล้วฮ่ะ น้ำใส เย็นมาก ต้องขอขอบคุณสำราญชนโฮมสเตย์ ที่เอื้อเฟื้อห้องพักให้ผมได้มาทิ้งกายดื่มด่ำธรรมชาติและนอนฟังเสียงลำธารครับ ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้อีกแล้ว


พอถึงหัวค่ำ อาหารอร่อยๆพร้อมขันโตกก็มาเสริฟให้ถึงที่ แค่เห็นก็น้ำลายไหล เพราะท้องเริ่มหิว ทั้งวันไม่ได้กินอะไรเลยฮ่ะ นอกจากกาแฟ ฮ่าๆ บรรยากาศโฮมสเตย์แบบนี้แนะนำให้เพื่อนๆต้องมาลองด้วยตัวเองครับ พอค่ำอากาศก็เริ่มหนาว หลังจากทานขันโตกเสร็จ หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนทันทีครัช


morninggg เช้าแล้วว..ไวปานโกหก อิอิ อากาศหนาวสุดๆ ตื่นเช้ามาสูดอากาศสักหน่อย อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็ต้องจากแม่กำปองไปแล้วสินะ ขอหยุดเวลาไว้ตรงนี้แป๊บ อยากจะบอกว่าเมื่อคืนนอนฟังเสียงลำธารจนเผลอหลับไปเลยฮ่ะ ^^


อากาศตอนเช้าขอบอกว่าดีมากๆครับ ระหว่างนี้ก็เก็บภาพเพื่อรออาหารเช้าครับ


มาแล้วววววอาหารเช้า ข้าวต้มร้อนๆกับกล้วยไข่หอมๆ บร๊ะ..ได้บรรยากาศจริงๆครับ สำราญชนโฮมสเตย์เป็นที่พักที่เหมาะอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตแบบ Slow Life เพื่อที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งกินอาหารเช้าแล้วมองดูสีเขียวไปรอบๆพร้อมๆกับเสียงลำธาร


และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องเดินทางต่อครับ ต้องจากแม่กำปองไปแล้วฮ่ะ 1วันมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน ใครมีแพลนจะมาเที่ยวแม่กำปอง แล้วอยากสัมผัสวิถีชีวิต ทั้งอาหารการกิน ธรรมชาติสีเขียวแบบให้คุ้ม แนะนำ "สำราญชนโฮมสเตย์" เลยครับ มาเป็นคู่ก็นอนได้ มาเป็นหมู่คณะที่นี่ก็มีห้องแบบนอนรวมครับ


สุดท้ายนี้ขอบคุณเส้นทางสีเขียว ขอบคุณบ้านแม่กำปอง ขอบคุณสำราญชนโฮมสเตย์ ขอบคุณน้องเบนซ์ที่บริการเป็นอย่างดี มีโอกาสจะกลับมาดื่มด่ำธรรมชาติที่นี่อีกแน่นอนครับ อ่อ..อีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะบอก คือ สัญญานโทรศัพท์ที่นี่ไม่ค่อยจะมีนะครับ ถ่ายรูปเพลินๆอยากจะอัฟรูปโชว์เพื่อน ขึ้นNo Service ซะงั้นT-T เอาเป็นว่าผมชอบที่นี่มาก วิถีชีวิตที่นี่ทำให้ผมจดจ่อที่จะเรียนรู้ มองๆไปก็เพลินดี แอบมีอมยิ้มบ้างเมื่อเห็นผู้คนมีความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ


สำหรับใครที่อยากจะเดินทางมายังแม่กำปอง บอกได้เลยว่ามาไม่ยากครับ อาจจะมีโค้งหักศอกบ้าง ทางชันบ้าง แต่ไม่ถึงกับยากจนเกินไป จุดหมายนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 50 ก.ม สามารถเดินทางไป-กลับได้ โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.สันกำแพง ไปทาง อ.แม่ออน และอีกเส้นทางคือ ผ่าน อ.ดอยสะเก็ด แล้วเลี้ยวขวาตรงสามแยกโป่งดิน ส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางสลับกับคอนกรีต รถทุกชนิดสามารถเดินทางมาได้แบบชิวๆครับ แต่ช่วงนี้อาจจะต้องระวังหน่อยเพราะมีการซ่อมแซมทางระหว่างขึ้นไปแม่กำปองครับ



**ปล. แนะนำให้มาวันธรรมดานะครับ ชาวบ้านบอกว่าถ้ามาช่วงหยุดยาว อาจจะมีเงิบได้ รถติด ต้องลงเดินระหว่างทาง เพราะเส้นทางขึ้นเขาและก็แคบครับ ที่จอดรถมีจำกัด^^

ความคิดเห็น