สวัสดีครับ ฟรีแล้นซ์บ้าเที่ยวกับทริป1วันแบบไปกลับ เป็นอะไรที่ผมชอบมาก ส่วนมากทริปแบบนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเห็นใครโพสรูปสถานที่สวยๆ ผมก็จะรีบตามรอยทันที แต่มันก็เหนื่อยใช่เล่นเลยฮ่ะ วันนี้ผมเดินทางมายังสถานที่ที่ผมเห็นบ่อยๆในเพจท่องเที่ยวดังๆ แต่ไม่เคยได้ลองมาเห็นด้วยตาสักที โรงเรียนการเมืองการทหารที่ภูหินร่องกล้าจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาเยือน ซึ่งจริงๆแล้วการมาดูใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีหรือร่วงลงกับพื้น หลายๆคนอาจจะมองว่ามันเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆ แต่สำหรับช่างภาพแล้ว การที่จะได้ไปเก็บภาพสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน1ปี มันก็เป็นอะไรที่จะฉุดกระชากพาตัวเองมาให้ได้
ภายในภูหินร่องกล้ามีจุดชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีหลายจุด แต่ครั้งนี้ผมมาได้เพียงจุดเดียว จริงๆมันก็อยู่ห่างกันไม่มากนักในแต่ละจุด เพราะเวลาที่จำกัดของผมจึงทำให้พลาดอีกหลายๆที่
ฝากติดตามเพจการเดินทางของผม https://www.facebook.com/wanderaroundthailand/อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนๆสามารถเดินทางมาได้2ทาง คือ ขึ้นทางภูทับเบิก และทาง อ.นครไทย ซึ่งในทริปนี้ผมขึ้นมาทางภูทับเบิกครับ เป็นเส้นทางที่ขึ้นยากสักหน่อย แต่ก็ได้เห็นวิวสวยๆระหว่างทาง ระยะทางจากด่านเก็บเงินจนถึงตัวอุทยานประมาณ21 กม ครับ ก่อนถึงจุดชมเมเปิ้ลที่โรงเรียนการเมืองการทหาร2กม. จะเจอ3แยก ถ้าเลี้ยวขวาจะไปหมู่บ้านร่องกล้าและภูลมโล แต่ถ้าเลี้ยวซ้าย จะมาที่ทำการอุทยานครับ ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปสามแยกที่ว่านั้นไว้ T-T
พอมาถึงก็สามารถหาที่จอดรถริมถนนและเดินเข้ามาประมาณ 60เมตร ก็จะเจอต้นเมเปิ้ลใหญ่ๆ2ต้น และต้นเล็กๆ1ต้น รวมไปถึงกระท่อมเล็กๆเป็นที่พักของทหารในสมัยก่อน มองภาพรวมแล้วก็เข้ากันดีแฮ่ะ
ถ้าผมเดินทางมาก่อนหน้านี้สัก3-4วัน ใบเมเปิ้ลที่ร่วงอยู่บนพื้นจะสีสดกว่านี้ครับ พอถึงวันนี้ก็เริ่มที่จะแห้งและเหี่ยว บวกกับวันนี้เป็นวันเสาร์นักท่องเที่ยวเยอะมาก ทำให้น้องเมเปิ้ลของผมถูกเหยียบย่ำบ่อยๆเลยหมดสภาพเร็ว ฮ่าๆ แต่มันก็เป็นอะไรที่ห้ามไม่ได้ ก็เลยได้ภาพตามในรูปเลยครับ
สถานที่แห่งนี้มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี เพราะที่เมืองไทยก็มี" มองๆไปมันก็คล้ายๆกับการมาตามรอยละครเกาหลีเลยแฮ่ะ หรือว่าผมคิดไปเอง เพราะวันนี้อากาศหนาวและลม เลยมโนไปไกล^^
อ้อ..ลืมๆ ต้องขออภัยหากมีรูปใครที่ติดกล้องผมมานะครับ เพราะจริงๆแล้วผมเป็นชอบแอบถ่าย เฮ้ยย..ชอบแคนดิทบรรยากาศรอบๆ^^
ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าวันนี้อากาศหนาวมากทั้งมีลมอีกด้วย มือไม้สั่นไปหมด ถ่ายรูปไปกล้องก็สั่นตาม บางรูปเลยอาจจะดูเบลอๆต้องขออภัยครับ
หลังคาของที่พักทหารที่เต็มไปด้วยมอสหรือตะใคร่สีเขียวๆ พอใบเมเปิ้ลสีแดงมันร่วงหล่นลงมา ยิ่งทำให้มันดูโดดเด่นขึ้นและสวยไปอีกแบบครับ
พอเริ่มสาย นักท่องเที่ยวก็เริ่มเยอะครับ ก็แหงสิ จุดตรงนี้เป็นไฮไลท์ใครๆก็ต้องอยากจะมาเก็บภาพ บรรยากาศเริ่มดูครึกคัก มุมถ่ายรูปก็เริ่มน้อยลง^^ รูปของผมก็เลยติดคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย ฮ่าๆๆ
ผมใช้เวลาเก็บภาพอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ มาถึงที่นี่ประมาณ11โมง เนื่องจากวันนี้คนเยอะอย่างที่บอกครับ เลยใช้เวลาค่อนข้างจะนานสำหรับจุดนี้ one day trip ทั้งที ไหนๆก่อนจะกลับ ก็ขอเสพธรรมชาติที่นี่ให้เต็มอิ่มก่อนละกัน ^^
สำหรับใครที่เดินๆถ่ายรูปแล้วหิว บริเวณริมถนนที่เราจอดรถก็มีอาหารขายนะครับ ลองเดินไปดูได้ คุณจะเจอพ่อค้าที่น่าเอ็นดูที่สุดใน3โลก ฮ่าๆ
เอาหละ..ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เฮ้ยย..มาแค่นี้เหรอ มาเพื่อ??? หลายๆคนคงอยากจะถาม ^^ ใช่แล้วครับ..ผมมาแค่นี้แหละ แค่มาให้ได้เห็นกับตาตัวเอง ได้มาเก็บภาพ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วฮ่ะ เพราะความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาตินับวันในประเทศไทยเริ่มน้อยลงทุกที เลยขอมาดูก่อนที่ในอนาคตมันอาจจะไม่มีให้ดูอีก เหมือนกับหลายๆที่ที่ผมไปมา บางที่ก็อวสาน บางที่ก็ใกล้จะอวสาน...
เอาเป็นว่าใครอยากจะเดินทางมาสัมผัสเมเปิ้ลเปลี่ยนสีและร่วงโรย อาทิตย์นี้ก็น่าจะทันนะครับ เพราะยังมีอีกบางส่วนที่ใบยังไม่ร่วง แค่1วันก็สามารถมาใช้ชีวิตแบบHipHipที่นี่ได้ แนะนำให้มาวันธรรมดานะครับ หาใครอยากจะเก็บภาพแบบสบายๆ (ถ้ามาได้) ส่วนเสาอาทิตย์ก็อาจจะเจอนักท่องเที่ยวเยอะหน่อย ก็ต้องทำใจนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ
Freelance บ้าเที่ยว
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.54 น.