สวัสดีครับ วันนี้ผมมีที่พักอีกหนึ่งที่จะมาบอกต่อ อยู่ที่กาญจนบุรีนี่เอง ที่พักสไตล์บาหลีผสมผสานกับความทันสมัยและคงไว้ซึ่งธรรมชาติ เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และลายล้อมไปด้วยต้นไม้ สายน้ำ ภูเขา เปลี่ยนจากการมาเที่ยวกาญน์เพื่อที่จะนอนแพ มานอนบนบก แต่ได้บรรยากาศแบบปังๆกันบ้างก็ดีนะ และน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบหนีกรุงแบบผม

รีสอร์ทนี้เกิดจากความบังเอิญที่ผมเห็นผ่านเฟสบุค "เฮ้ยย..มันเจ๋งมาก ริมน้ำด้วย..." เกิดแรงผลักดันทันที หาข้อมูลและเตรียมพร้อมที่จะไปเยือน ถึงรีสอร์ทจะไม่ได้หรูหราระดับ5ดาวเหมือนรีสอร์ทอื่นๆ แต่ที่นี่บอกเลยว่าอบอุ่นและธรรมชาติสุดๆ ลองมาดู...ถ้าคุณไม่เชื่อ

ฝากติดตามการเดินทาง สอบถาม ได้ที่เพจ "freelanceบ้าเที่ยว"

https://www.facebook.com/wanderaroundthailand

ผมเดินทางจาก กทม. โดยใช้เส้นทาง นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา กาญจนบุรี โดยพิกัดของรีสอร์ทอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญน์ประมาณ 40 กม. ไปทาง อ.ไทรโยค รีสอร์ทอาจจะหายากนะครับ เพราะอยู่เข้าไปในซอยลึกๆ แต่ถ้าเดินทางตาม GPS รับรองว่าไปถึงแน่นอน (รีสอร์ทจะอยู่ภายในแควน้อยริเวอร์ปาร์ค) ตามแผนที่ด้านล่างเลยนะครับ

ความประทับใจแรกที่ผมเดินทางมาถึงรีสอร์ท คือ การต้อนรับด้วยขนมและน้ำเย็นๆ ถึงแม้ผมจะเดินทางมาถึงค่ำไปหน่อย แต่พี่ลี(เจ้าของรีสอร์ท) ก็ยังคงรอต้อนรับอยู่

หลังจากกินอาหาร Welcome เสร็จ ก็ได้เวลาขึ้นไปดูห้องพักแล้วครับ ห้องที่ผมได้เป็นห้องที่พึ่งจะสร้างเสร็จไม่นาน ห้องกว้างและเป็นห้องที่สูงที่สุด จัดเต็มให้เห็นวิวสวยๆยามเช้ากันไปเลย ความรู้สึกแรกที่เห็นที่นอน บอกเลยว่าอยากจะทิ้งตัวลงจริงๆ

หลังจากขึ้นชมห้อง อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วครับ ค่ำคืนนี้เสริฟด้วยสเต็กที่ทำเองโดยเจ้าของรีสอร์ท แค่เห็นยังไม่ได้ลงมือทานก็รู้เลยครับว่าต้องอร่อยเหาะแน่ๆ เพราะจัดว่าเป็นอีกหนึ่งของโปรดของผมเลยฮ่ะ

นั่งทานอาหารเย็นในบรรยากาศริมสระน้ำเล็กๆ บรรยากาศเงียบมาก ลมพัดเอื่อยๆ

ที่รีสอร์ทแห่งนี้เงียบสงบก็เพราะว่า ที่นี่ไม่อนุญาตให้สังสรรค์และมีกิจกรรมบันเทิงใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ที่นี่เป็นที่แห่งการพักผ่อนจริงๆ ใครที่ชอบความเงียบสงบคงจะถูกใจแน่ๆ นอกจากนั้นแล้วพนักงานทุกคนรวมถึงเจ้าของรีสอร์ท บริการดีมาก เป็นกันเองสุดๆ บวกกับอาหารเย็นรสชาติอร่อย แค่นี้ก็อารมณ์ดีก่อนนอนแล้ว ^^

8 ชั่วโมงผ่านไป.... ไวปานโกหก กับกาแฟหนึ่งแก้วที่ขาดไม่ได้เลยกับการเริ่มต้นของวันใหม่ แค่เห็นบรรยากาศ รสชาติกาแฟก็อร่อยโดยที่ไม่ต้องใส่อะไรมากมาย ฮ่าๆ

ออกมานั่งสูดอากาศเย็นๆยามเช้าที่กระท่อมน้อยริมน้ำ ไร้ผู้คนมารบกวน ฟินอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นไปได้อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆเลยฮ่ะ

นอกจากนั้นยังมีระเบียงที่ยื่นออกไปให้ใกล้ธรรมชาติที่สุด เอาไว้ให้นั่งสโลไลฟ์อีกด้วย

นั่งๆเดินๆสักพัก ก็ได้ยินเสียงพนักงานเรียกไปทานอาหารเช้า รีบสิครับรออะไร ตื่นเช้าทีไรหิวทุกที ถึงจะเป็นอาหารเช้าที่ธรรมดา เห็นได้ทั่วไป แต่บอกเลยว่าต่างกันที่บรรยากาศครับ นั่งกินชิวๆ มองลงไปเห็นสายน้ำ ลมพักเย็นๆ แค่นี้อาหารเช้าก็เป็นอาหารที่แสนพิเศษแล้วครับ

หลังจากอิ่มท้องเสร็จ ก็ได้เวลาเดินย่อย เก็บภาพบรรยากาศรอบรีสอร์ท มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด เห็นแล้วสดชื่นจริงๆครับ นี่สินะที่เขาบอกว่า "สีเขียว เป็นสีที่ทำให้คนเรารู้สึกดีมากที่สุด" ตามผมไปดูบรรยากาศรอบๆกันเลยครับ

ที่นี่มีสระน้ำเล็กๆให้เล่นด้วยนะครับ และในทุกๆจุดสิ่งที่ผมชอบก็คือ จะมีต้นไม้ในกระถางอันน้อยๆประดับอยู่ ดูน่ารักจริงๆ

อ้อ..ลืมบอกว่า "ปิงปาลีย์" มีบริการห้องพักหลายแบบ แบบที่มีสระน้ำส่วนตัวก็มีนะครับ แต่ผมเองไม่ได้เข้าไปเก็บภาพ และแบบวิวแม่น้ำ(ที่ผมพัก) เพียงแต่ของผมจะอยู่สูงกว่าห้องอื่นๆ

บริเวณทั่วๆไปภายในรีสอร์ท

ส่วนห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ติดน้ำมากที่สุดครับ เป็นระเบียงหลังห้อง ตื่นเช้ามา ก้าวขาแค่2-3ก้าว ก็ได้สัมผัสธรรมชาติแล้ว

บริเวณหลังรีสอร์ท วิวภูเขาและสายน้ำ

เก้าอี้เหงาๆริมน้ำ รอใครสักคนมานั่ง ฮ่าๆ

สุดท้ายนี้...ต้องขอบคุณทางรีสอร์ทและคุณลีที่ดูแลและบริการเป็นอย่างดี บอกเลยว่าคุ้มค่ามากครับกับการเลือกมาพักผ่อนที่นี่ ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาพัก บรรยากาศก็เงียบสงบ ซึ่งตัวผมเองก็ชอบอยู่แล้ว ใครที่กำลังมองหารีสอร์ทที่เน้นความเป็นธรรมชาติและเป็นส่วนตัว ที่นี่ตอบโจทย์ได้แน่นอนครับ ส่วนเรื่องของราคาที่พัก สามารถติดต่อกับทางรีสอร์ทโดยตรงได้เลย

website : http://www.pingplaleeresort.com หรือ http://www.pingplalee.com