เมื่อคนเมืองอย่างผมต้องการจะบำบัดปอด หลังจากรับมลพิษทางอากาศมากมาย กับอากาศที่แสนจะร้อนละอุ ร่างกายจึงส่งสัญญานเรียกร้องโหยหาธรรมชาติที่พอจะบำบัดปอดอันน้อยๆของผมได้ ความอยากจึงนำพาให้ผมได้มาพบกับรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ลายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี มีวิวเป็นภูเขาอยู่เบื้องหลัง ผมไม่รอช้าจึงพาตัวเองไป ณ ที่แห่งนี้ทันที "ชัชนาถวู๊ดแลนด์ " ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย
ย่างก้าวแรกที่ไปถึงรีสอร์ท สิ่งแรกที่ผมสำผัสได้เลยคือ อากาศที่บริสุทธิ์ ธรรมชาติที่ยืนรอต้อนรับผมอยู่ข้างหน้ามากมาย ผมได้แต่อมยิ้มแล้วบอกกับตัวเองว่า "นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ"
ก่อนอื่นผมเองต้องขอขอบคุณ "ชัชนาถวู๊ดแลนด์ " และพี่จอยรวมถึงพนักงานทุกคนที่ดูแลให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และเอื้อเฟื้อห้องพักให้กับผม1คืน สำหรับการมาพักผ่อนและรีวิวไปด้วยในครั้งนี้ ขอบอกว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาสัมผัสมากๆ บรรยากาศในภาพอาจจะบอกอะไรได้ไม่มากมาย ลองให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเองดู แล้วจะร้องว่า "อู้ฮู้.."
ที่สำคัญของฝากเพจการเดินทางอันน้อยๆของผมไว้ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/wanderaroundthailand
การรีวิวในครั้งนี้ผมใช้ Fuji X-M1 + Len Kit เท่านั้นฮ่ะผมเดินทางโดยรถส่วนตัวตามเส้นทางหมายเลข 203 เลย - ภูเรือ รัดเลาะเขาตลอดเส้นทาง ก่อนถึง อ.ภูเรือ 10 กม. เราก็จะพบกับหมู่บ้านสานตม แล้วเลี้ยวซ้ายเส้นทางข้างโรงเรียนสานตมมาประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ซ้ายมือ
วันที่ผมเดินทางมาถึงนั้น มีสายฝนมาต้อนรับพอดี ป่าที่ดูสดชื่นอยู่แล้ว ยิ่งทวีคูณความงดงามของธรรมขาติขึ้นไปอีก
บ้านพักที่สวนชัชนาถนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่มาพักอาศัย ได้สัมผัสกลิ่นไอธรรมชาติแบบใกล้ชิด มองไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียว สิ่งที่ผมรู้สึกว่าชอบที่สุด คือ ความรู้สึกเหมือนราวกับว่าผมอยู่บ้านส่วนตัว เพราะที่นี่นอกจากจะทำเป็นรีสอร์ทแล้ว ยังมีการปลูกผัก ทำสวนต่างๆมากมาย จึงไม่แปลกที่หลายๆคนที่เคยมาพักผ่อน จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เมื่อมีโอกาสจะกลับมาอีก"
จริงๆแล้วที่นี่พึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ เพราะก่อนหน้านี้จะเป็นเพียงบ้านสวนธรรมดาที่เจ้าของสวนใช้เป็นที่ทำสวน ปลูกผัก แบบวิถีชีวิตของคนชอบธรรมชาติทั่วๆไป โดยมีพื้นที่มากกว่า 200ไร่ แต่เดิมเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งมาก ไม่มีต้นไม้สักต้น ที่นี่จึงถูกบูรณาการให้มีสีเขียวโดย นายคำภู และแม่คำภา ที่อาสาที่จะพัฒนาและดูแลต้นไม้เหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปัจจุบัน ครับ
ระหว่างที่ผมเดินชมบรรยากาศธรรมชาติไปรอบๆ ฝนก็ตกๆหยุดๆ ราวกับท้องฟ้ารู้ว่าผมชอบบรรยากาศเช่นนี้
บ้านพักมีให้เลือกหลายแบบครับ แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นบนเนิน ริมน้ำ ซึ่งผมเองได้ที่พักเกือบๆติดน้ำ บรรยากาศใช้ได้เลยทีเดียว แต่ละหลังจะมีเปลให้เราได้ทิ้งกายลงนอน เสพธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราลืมวิถีคนเมืองไปได้ชั่วขณะเลย
หลังจากที่ผมเดินชมวิวรอบๆที่พัก ร่างกายก็เริ่มเหนื่อย เวลาตอนนี้ก็เกือบๆจะค่ำแล้ว เลยตัดสินใจเข้าห้องพักเพื่อพักผ่อนสักหน่อย เพื่อที่จะได้รีบตื่นมาดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าๆกัน อ้อ..ลืมบอกว่าที่นี่มีบริการอาหารเย็นให้ด้วยนะครับ ถึงประมาณ 20.00น. ไม่ต้องกลัวว่าจะหากินลำบาก ฮ่าๆ สำหรับใครที่คิดว่าป่าเยอะขนาดนี้ ยุงเล่นงานฉันทั้งคืนแน่ๆ อย่ากังวลครับ เพราะที่นี่มี....กันยายน15 ไว้ให้เราแล้ว!!!
เอ๊ก..อี..เอ๊กก..เอ๊กกก (เสียงไก่ขันยามเช้า) หลังจากมื้อเย็นเสร็จ ก็เผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว อีกเรื่องๆที่อยากจะบอก ที่นี่ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ แต่มีเน็ตความเร็วสูงให้นะคร๊าฟฟ แต่เผอิญผมเอาโน๊ตบุคติดตัวไปด้วย เลยไม่พลาดละครหลังข่าว
บรรยากาศเช้าๆมันดีจริงๆ แฮะๆ ชักจะชอบที่นี่เข้าแล้วสิ ตื่นมาไม่ต้องได้ยินเสียงแตร์รถยนต์ เสียงผู้คนโหวกเหวก เพราะที่นี่ได้ยินแต่เสียงไก่ เสียงนก เสียงลม เสียงเป็ดเสียงห่าน อิอิ
นี่คือบ้านพักหลังใหญ่ครับ มีอยู่2หลังติดกันอยู่บนเนิน เหมาะสำหรับมาเป็นกลุ่มใหญ่ๆหรือครอบครัวครับ
ก่อนจะเดินขึ้นไปรับประทานอาหารเช้า ขอเดินรอบๆเพื่อเก็บภาพและสูดอากาศอีกครั้ง ชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ เนิบๆ ช้าๆ ชมนกดูไม้ไปเรื่อยๆ นี่สินะธรรมชาติที่แท้จริง
นอกจากนั้น รีสอร์ทยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับคนรักสุขภาพและชอบปั่นจักยานศึกษาเส้นทางของป่าเขียวๆอีกด้วย รู้สึกได้เลยว่ามันช่างต่างจากการปั่นในเมืองจริงๆ ผมเองปั่นได้แค่ในบริเวณแคบๆเท่านั้น เำพราะรู้สึกว่าถ้าปั่นในระยะทางจริงๆแล้วคงจะไม่ไหว ไม่ใช่เพราะว่าไม่ชอบ เพียงแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย ฮ่าๆๆ (แต่ยังไม่แก่นะ)
หลังจากนั้นท้องเริ่มหิว ได้เวลาอาหารเช้าแล้วสินะ เรามาดูกันว่าอาหารเช้าที่นี่มีอะไรบ้างเอ๋ย
ไข่กระทะ หนมปัง ข้าวต้ม ผลไม้ กาแฟ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับสำหรับอาหารเช้าของผม รสชาติข้าวต้มเยี่ยมมาก จนผมต้องขอเบิ้ลสอง ^^ นั่งกินไป ชมวิวเขียวๆไป แทบจะไม่อยากอิ่มเลยหละ
หลังจากอิ่มท้อง ก็ได้เวลาที่จะต้องเดินทางต่อ หนึ่งวันที่นี่ผ่านไปเร็วมากๆ ที่นี่ผมว่าเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่รักษ์ธรรมชาติและอยากจะพักผ่อนจริงๆ ตอบโจทย์ได้ดีครับ ธรรมชาติดีดีในประเทศของเรายังมีอีกหลายที่ ที่รอให้เราได้ไปสัมผัส
"ชัชนาถวู๊ดแลนด์ "ก็คือหนึ่งในนั้นที่ผมอยากให้ลองมาครับ เปลี่ยนจากบรรยากาศรอบๆที่เต็มไปด้วยป่าปูน มาเป็นป่าจริงๆ มันจะทำให้คุณหลงรักเหมือนกับผมแน่นอน
สุดท้ายนี้ก่อนจะปิดกระทู้ หากมีข้อผิดพลาดในส่วนไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ เป็นรีวิวในแบบฉบับของผมเอง ไม่มีเรื่องราวในการเดินทาง ไม่มีรายละเอียดในค่าใช้จ่าย ไม่มีบทกวีหรือคำคมใดๆให้ลึกซึ้ง^^ เพราะในภาพมันก็บอกทุกอย่างในตัวของมันเองอยู่แล้ว
ขอบคุณที่ติดตามรีวิวนะครับ
ปล.หากใครอยากจะไปสัมผัสธรรมชาติเหมือนผม ติดต่อไปที่ "ชัชนาถวู๊ดแลนด์ " ได้เลยนะครับ บริการดี เป็นกันเอง ดูแลเหมือนลูกหลาน
https://www.facebook.com/chachanat/
Freelance บ้าเที่ยว
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.26 น.