ความฝันเป็นจริง เมื่อเรามีความศรัทธา
ทางหน่วยงาน อุทยานภูลังกาได้มีการประกาศเปิดถ้ำนาคาแล้ว หลังจากปิดถ้ำไปเมื่อเดือน ก.ย เป็นเวลาประมาณเกือบ 1 เดือน เนื่องจาก มีนักท่องเที่ยวกลุ่มนึง ที่ได้ขึ้นไป บนถ้ำนาคาในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ในช่วงต้นเดือน ก.ย. 63 ซึ่งเป็นวันที่ทางรัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดสงกรานต์ #ยุคโควิท
ทำให้มีผู้คนแห่ไปกันอย่างมากมาย และสร้างความเสียหาย ด้วยความไร้สามัญสำนึก ขูดขีดเขียน และ ไร้การดูแลรักษาความสะอาดไม่เคารพสถานที่ ซึ่งถ้ำนาคาเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ ไม่เพียงแค่นั้น พวกคนกลุ่มนี้ยังทำให้ผู้อื่นเสียโอกาสในครั้งนั้น ด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้กลุ่มเราเกือบไม่ได้ขึ้นถ้ำนาคา
สำหรับกลุ่มเราเป็นกลุ่มที่ได้จองไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทั้งโรงแรมที่พัก รถตู้ และได้ลงทะเบียน วางแผนอะไรไว้หมดแล้ว รวมถึงได้ลางานไว้แล้วด้วย เพราะเราก็ไม่สามารถลางานได้พร่ำเพรือ ทางหน่วยงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ สำหรับผู้ที่จองไว้ล่วงหน้า จึงทำให้กลุ่มพวกเราได้มีโอกาสขึ้นไป ณ.ถ้ำนาคา ทางกลุ่มเรา กราบขอบพระคุณหัวหน้าหน่วยงานอุทยานแห่งชาติภูลังกาเป็นอย่างมากค่ะ
ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
จากการเดินครั้งนี้ เราเริ่มออกเดินทางคืนวันที่ 11 ก.ย 63 ไปถึง จ.บึงกาฬ เวลา 8.30 น.
เมื่อเราเดินทางมาถึง จ.บึงกาฬ ก็แวะรับประทานอาหารเช้า แถวริมบึงโขงหลง
และะจากนั้นทางหัวหน้าหน่วยงานอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้มาให้คำ ชี้แจงรายละเอียด
กฏระเบียบต่างๆให้นักท่องเที่ยวทราบกันก่อน
พร้อมเตรียมตัวเดินทางขึ้น โดยจุดทางขึ้นจะมี 2 ทาง คือ
จุดที่ 1.ขึ้นทางวัดถ้ำชัยมงคล โดยต้องเดินขึ้นบันไดสูงชัน ที่ทางอุทยานได้จัดสร้างไว้ ประมาณ 1,400 ขั้น ใช้เวลาราว 1.30 ชม. ซึ่งในวันนั้นวัดเค้าปิดทางค่ะ
จุดที่ 2 น้ำตกตาดวิมานทิพย์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถขึ้นชมถ้ำนาคาได้ ระยะทางใกล้เคียงกันกับจุดขึ้นวัดถ้ำชัยมงคล...ระยะทางขึ้นราว 2 กม ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. โดยทางเดินเป็นทางเดินดินสลับกับบันได และมีบางช่วงต้องไต่ปีนเชือกด้วย กลุ่มเราก็จะใช้เส้นทางนี้ขึ้นถ้ำกันค่ะ
*หากมีฝนตกหนักทางอุทยานจะปิดทางขึ้นเขาทันทีค่ะ*
เส้นทางเดินป่าชัดเจนมีป้ายบอกทางตลอด
ภายในถ้ำมีหินรูปร่างคล้ายลำตัวของพญานาค ด้วยลวดลายที่คล้ายเกล็ดและดูเหมือนพญานาคขดตัว อีกทั้งยังมีหินรูปร่างคล้ายส่วนหัวพญานาคที่ถูกค้นพบอยู่บริเวณไม่ไกลจากถ้ำนาคาเท่าไรนัก รวมไปถึง ป่าบังบด ที่ดูลึกลับใกล้ๆ บริเวณนั้นอีกด้วย
เมื่อเราขึ้นทางน้ำตกตาดวิมานทิพย์ จุดนี้เราจะพบหัวนาคาหัวที่ 3 ก่อน
และเมื่อเดินขึ้นไปถึงบนยอดเขา เราจะพบหัวนาคาหัวที่ 2 ค่ะ
ภายในถ้ำมีหินรูปร่างคล้ายลำตัวของพญานาค ด้วยลวดลายที่คล้ายเกล็ดและดูเหมือนพญานาคขดตัว อีกทั้งยังมีหินรูปร่างคล้ายส่วนหัวพญานาคที่ถูกค้นพบอยู่บริเวณไม่ไกลจากถ้ำนาคาเท่าไรนัก รวมไปถึง ป่าบังบด ที่ดูลึกลับใกล้ๆ บริเวณนั้นอีกด้วย
ตำนานพญานาค ชาวบ้านมีความเชื่อที่ว่า ถ้ำนาคา คือ พญานาค ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหินนั่นเอง ด้วยสาเหตุที่ว่า บริวารของพญานาค ผู้ครองเมืองบาดาล ไปมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์ และเมืองบาดาลที่พญานาคและบริวาร อาศัยอยู่ก็คือ บึงโขงหลง ในจังหวัดบึงกาฬปัจจุบันค่ะ
ป่าบังบด ยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นประตูมิติสู่โลกคู่ขนาน และเชื่อว่าถ้ำนาคาและป่าแห่งนี้คือเมืองลับแล ที่เล่ากันว่าเคยมีคนหายตัวไปในนั้น แล้วกลับออกมา บ้างก็เล่าว่าเป็นเมืองลับแลที่มีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่
ทั้งหมดนี้เป็นตำนานเล่าขาน เมืองลับแล แห่งบึงโขงหลง
จ.บึงกาฬ ยังมีแหล่งท่องเที่ยว Unseen อีกหลายแห่ง
สถานที่ต่อไป คือ หินสามวาฬ
ก้อนหิน มีลักษณะเหมือนปลาวาฬ ยื่นออกมาจากภูเขา อยู่ที่ จ.บึงกาฬ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอันซีนอีกแห่งหนึ่ง ที่สร้างโดยธรรมชาติ
และสถานที่ Unseen อีกแห่งที่เราเคยใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวที่นี่มาก เมื่อหลายปีก่อน นั่นก็คือ
ภูทอก เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร
ภูทอกเป็นภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อยส่วนที่นักแสวงบุญและ นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม
จุดเด่นของภูทอกก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ใช้เพียงแรงงานคนสร้างบันได เวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม
ชั้นที่ 6 จะเป็นจุดชมวิวิที่สวยที่สุด ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผายื่นออกมา โดยแต่ละจุดก็จะมีชื่อของหน้าผาที่แตกต่างกัน เช่น ผาเทพนิมิตร เป็นต้น
สถานที่ Unseen สุดท้าย คือ น้ำตกถ้ำพระ หรือน้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
สวนน้ำกลางป่า ไฮไลท์ของ น้ำตกถ้ำพระ สไลเดอร์ธรรมชาติ คือ แนวร่องน้ำที่ไหลไปตามโขดหิน สามารถสไลด์ตัวลงมาตามร่องน้ำได้ การเดินทางเข้าไปที่ น้ำตกถ้ำพระ นั้น จะมีเรือให้บริการค่ะ ค่าโดยสารแค่เพียงคนละ 20 บาท เท่านั้น นั่งเรือประมาณ 10 นาที พอถึงก็เดินเท้าเข้าไปต่ออีก 500 เมตร ก็จะเจอกับสวนน้ำกลางป่าแห่งนี้ค่ะ น้ำตกถ้ำพระ จะมีน้ำเยอะตลอดทั้งปีเลย มีเพียงแค่ เดือนมีนาคมและเดือนเมษายนเท่านั้น ที่น้ำจะน้อยหน่อยค่ะ ส่วนตัวเรานั้นไปถึงก็ช่วงเวลาเย็นที่ใกล้จะปิด ซึ่งเค้าจะปิดเวลา 17.00น. และช่วงเวลานั้นที่เราเห็น น้ำไม่เยอะเท่าไรนักนะคะ
"ธรรมชาติสร้างมาดีแล้ว ขอร้องมนุษย์อย่าทำร้าย"
#ผาใจขาด #ถ้ำนาคา "ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำชัยมงคล
อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ " #แห่งภูลังกา #ตำนานเมืองลี้ลับ #ปู่อือลือพญานาคผู้ถูกสาปไว้
#หินสามวาฬ #ภูทอก #น้ำตกถ้ำพระ #สวนน้ำกลางป่า #อันซีนแห่งภาคอีสาน #น้ำตกถ้ำพระ #บึงกาฬ
ครั้งหนึ่ง
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.18 น.