อีกไม่กี่เดือนแล้วซินะ ที่ฤดูหนาวจะเดินทางมาเยือน ให้หนาวกันถึงขั้วหัวใจอีกครั้ง



แต่ก็ชั่งแปลก ที่ฤดูหนาวกลับทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกอบอุ่นเพียงเพราะมีใครบางคนอยู่เคียงข้าง

และในขณะเดียวกัน

กลับมีใครบางคนที่รู้สึกหนาวเหน็บมากกว่าที่เคยเป็นเพียงเพราะไม่มีใครคนเดิม ยืนอยู่ข้างๆ เหมือนแต่ก่อน



.......



เมื่อฤดูหนาวเดินทางมาถึงนุ้ยเชื่อว่า... ป า ย....เป็นสถานที่นึง ทีใครหลายคนคิดถึง

เป็นสถานที่ ที่ใครหลายคน อยากกลับไปอีกครั้ง

เป็นสถานที่ ที่ใครหลายคน ขอสักครั้งเถอะ ให้ได้ไปเยือน



สำหรับนุ้ยแล้ว "ปาย" เป็นเพียงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่กว่าจะไปถึง อ๊วกไปหลายรอบแวะจอดระหว่างทางไปหลายหนพร้อมบ่นไปตลอดทาง

.

.

.

แต่

เมื่อได้สัมผัส บอกได้เลยว่า" ปาย....ฉันรักเธอ"แม้จะต้องอ๊วก อีกกี่รอบ จะต้องผ่านอีกสักกี่โค้ง ฉันจะกลับมาหาเธออีก



เพราะปาย เป็นเมืองเล็กๆ ที่ ปกคลุมด้วยสายหมอกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาอากาศเย็นสบายตลอดปี

นั่งจิบกาแฟยามเช้า แสงแดดอุ่นที่สาดส่องลงมากระทบท้องทุ่งนาเขียวขจี ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเหลือเกิน



และในอีกมุมนึงปายเป็นเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วย ที่พักราคาประหยัดร้านค้า เล็กๆ น่ารักๆ ที่ตกแต่งร้านเพื่อเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวสีสันถนนคนเดินเพื่อเติมเต็ม ไม่ให้ยามค่ำคืนเงียบเหงา มากจนเกินไป



การเดินทางเข้าสู่ ปาย สามารถ ไปได้หลายเส้นทาง แต่สำหรับนุ้ย เลือกเส้นทางนี้ค่ะ


จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงเส้น 108 เข้าสู่อำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาเข้าเส้น 1263มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่แจ่ม

แวะชมบรรยากาศนาขั้นบันได และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย โดยพักค้างคืนที่อำเภอแม่แจ่ม

http://pantip.com/topic/13076149

ออกเดินทางต่อไปทางอำเภอขุนยวมเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้น 108 มุ่งหน้าสู่ อำเภอเมืองแม่ฮองสอน เพื่อชื่นชม มนต์เสนห์ ที่หลายๆ คนหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นบ้านเมือง วัฒนธรรม และปางอุ๋ง ดินแดนแห่งความรัก


http://pantip.com/topic/30000406

และมาถึงการเดินทางสำหรับ รีวิวนี้ปาย – ห้วยน้ำดัง ฉันรักเธอออกเดินทางโดยใช้เส้นทาง 1095 มุ่งหน้าสู่อำเภอปาย



และหากต้องการพูดคุยทักทาย สอบถาม เม้าท์มอย มีอีกนึงช่องทางในการติดต่อค่ะ https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels

ตลอดระยะทางจากอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเข้าสู่อำเภอปาย มีสถานที่ให้เราสามารถแวะท่องเที่ยวหลายจุด แต่นุ้ยไม่ได้เลี้ยวซ้าย แล้วขวาเลย แวะเฉพาะเส้นทางที่รถวิ่งผ่านเท่านั้น

ซึ่งเป็นโชคดีเพราะตลอดเส้นทางอากาศดีมาก ท้องฟ้าสวย ทุ่งนาก็เขียวขจี ทำให้การเดินทางในวันนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเดินทางมาถึงปายเรามุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักกันก่อนเป็นอย่างแรก อย่างที่บอกกว่าจะถึงปายได้ อ๊วกไปหลายรอบ สมาชิกเป็นอันสลบ ไม่มีใครได้ชื่นชมปายกันในวันนั้น


จึงทำให้นุ้ยเลยมีเวลามากพอสมควรที่เก็บจะบรรยกาศที่พัก มาฝาก เผื่อเป็นทางเลือกนะค่ะแต่เอาไว้พบกันรีวิวหน้านะค่ะก๊อกๆ ๆ ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นตอนตี 5 พร้อมเสียงเรียกพี่ ๆ ตื่นกันได้แล้ว

สะดุ้งตื่น ล้างหน้าล้างตา (น้ำไม่อาบก็มันหนาว)

เพราะจุดหมายของเราในวันนี้ คือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังซึ่งระยะทางห่างจากปาย ไม่มากนัก

เมื่อมาถึง


นุ้ยขอให้คำว่าทึ่ง ทำตาโต เพราะเที่ยวมาก็เยอะ แต่ ณ จุดนี้ ขอบอก ไม่เคยเจอทะเลหมอกเจ้าค่ะ



ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า คือ ทะเลหมอกขาวนวล อวดโฉมให้ทุกคนได้ชื่นชมท่ามกลางสายลมหนาว ที่พัดโชยมากระทบผิวกาย จนทำให้ต้องคว้ามือคนข้างๆ มากุมไว้ .....พร้อมได้ยินเสียงตอบกลับมาตะเอง ปล่อยได้แล้ว เค้าจะถ่ายรูป .....



และแล้วหมอกหนาก็โดยแย่งซีน



เมื่อเริ่มมีแสงสีทองโผล่พ้นขอบฟ้า



ท้องฟ้ายามนี้ ช่างสวยเหลือเกิน



เมื่อแสงตกกระทบยังหมอกหนา ทำให้ทะเลหมอก ดูเปลี่ยนสีตามแสงของอาทิตย์



นุ้ยทอดสายตา เฝ้ามองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อย่างไม่ลดละ ท่ามกลางผู้คนมากมาย



เมฆหมอก ที่พริ้วไหวไปตามแรงลม



นุ้ยได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย จากการเดินทาง



ความสุข สมหวัง ผิดหวัง หรือแม้แต่การรอคอย


และการเดินทางครั้งนี้ ได้สอนให้นุ้ยเรียนรู้ที่จะไม่กลัวความผิดหวัง



เพราะครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน นุ้ยเคยมายืนอยู่ ณ จุดนี้แต่ ณ วันนั้น นุ้ยรู้สึกผิดหวัง



เพราะแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย นุ้ยยืนอยู่ท่ามกลางสายหมอกไม่มีทะเลหมอก ไม่มีพระอาทิตย์ มีแต่ผู้คนมากมาย ที่นั่งรอใจจดจ่อ รอแล้วรออีก ทุกคนได้แต่หวังแต่แล้วก็.....ต้องพาลพบกับความผิดหวัง



แต่ ณ วันนี้เหมือนฝันเป็นจริง



เพราะหลายครั้งหลายครา ที่นุ้ยพยายามออกเดินทางตามหา หลายสถานที่เพียงเพื่อได้เจอกับทะเลหมอก


แต่ฝันของนุ้ยมาเป็นจริง ที่นี้ณ ที่แห่งนี้ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง



เวลาผ่านไปไม่นาน มองซ้าย มองขวา เหลือเพียงแค่เราแต่นุ้ยขออยู่ตรงนี้นาน ๆนานเท่าที่จะพอมีเวลา



เพื่อจะกอบเก็บรอยยิ้ม ความสุข ความหวัง และพลัง ใส่ให้เต็มกระเป๋า

.

.

.

แล้วกระซิบบอก



ฉันรักเธอ – ห้วยน้ำดัง –หลังจากที่ใช้เวลา อิ่มเอม กับเมฆหมอก พอสมควร ได้เวลาขับรถกลับเข้าปาย



ปาย มีสถานทีท่องเที่ยวมากมาย



ไม่ว่าจะเป็นสถานทางธรรมชาติ อย่างโป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกหมอแปง ล่องแพแม่น้ำปายปายแคนยอน จุดชมวิวหยุนไหล



วัดวาอาราม ก็มากหลาย อย่างเจดีย์พระธาตุแม่เย็นวัดหลวงปาย วัดกลาง วัดน้ำฮู



และสามารถรู้จักกับวัฒนธรรมของชาวจีนยูนาน ที่หมู่บ้านสันติชล



.

.

.

.แต่การเดินทางมาปายของนุ้ยครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2นุ้ยเลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับที่พัก เรื่อยๆ เอื่อยๆ ชิล ไม่รีบร้อน



ด้วยรีสอร์ที่นุ้ยพักอยู่ใกล้กับสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายนุ้ยเลยได้เดินเล่นออกมาถ่ายรูป



แม้แสงแดด จะค่อนข้างแรง แต่ไม่ได้รู้สึกร้อน เพราะมีลมพัดโชยมาตลอด



กว่าจะกลับห้วยน้ำดัง กว่าจะถ่ายรูปเล่นกันจนเสร็จ ก็แยกย้าย กันไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าหลังจากที่เมื่อเช้าไม่ได้อาบ



มื้อเที่ยง เลยเข้ารถเข้าในตัวเมืองปาย เอาไงละที่นี้ คิดไรไม่ออก บอกไม่ถูก ข้อมูลก็ไม่มี รู้แค่ว่า เคยมาแล้วครั้งนึง



งั้นไปร้านที่เคยกินละกันตามเสียงเรียกร้องของคนข้างๆ ที่ชอบกินอาหารอีสาน



นั่นก็คือร้านส้มตำหน้าอำเภอนั่นเองค่ะ

ก่อนอื่นต้องแลกคูปองก่อนนะค่ะเชิญแลกได้ที่คุณป้าคนนี้เลยค่ะ


เมนูนี้นุ้ยชอบนะก็แถวบ้านนุ้ยไม่มีแบบนี้อร่อยดี


จานนี้ส้มตำหมูย่าง


ของหวานก็มีนะค่ะ แต่นุ้ยไม่ได้ลอง อิ่มซะก่อน


โดยรวมนุ้ยว่า รสชาดอาหารโอเคนะ ไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็เกลี้ยงหมดทุกจานนะ(ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ)



รวมค่าเสียหายมื้อนี้ อาหารทุกจาน + ข้าวเหนีย + เครื่องดื่ม = 295 บาทเมื่ออิ่มแล้วก็ไปหามุม ชิคๆ ในปายถ่ายรูปกันค่ะ



พร้อมเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ให้ coffee in love



แค่เห็นบ้าน หลังนี้ หลายๆ คน ก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี้คือที่ไหน


สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป เป็นอันรู้กันค่ะ ว่าที่นี้มีมุมให้เลือกถ่ายเยอะมาก น่ารักๆ ทั้งนั้น


ร้านนี้ก็น่ารักนะค่ะตอนนี้ นุ้ยไปพี่งจะเริ่มปลูกสตอเบอรี่ ถ้าไปช่วงหน้าหนาว มกรา กุมภาพันธ์ ต้องได้หม่ำสตอเบอรี่สดๆ กันแน่นอนเลย


อย่างที่บอกว่าปายสำหรับนุ้ยทริปนี้ เรื่อยๆ เอื่อยๆ ชิลๆ และขอเถียง ใครบอกมาปาย แล้วเวลาจะเดินช้าลง



เผลอแปบๆ เวลาผ่านไปวันนึงละนุ้ยแนะนำที่นี้เลยค่ะสำหรับตอนบ่ายแก่ จึงเย็น หลังจากที่เรา เหนื่อยกับการถ่ายรูป แน่นท้องจากการกินอิ่ม

โป่งน้ำท่าปาย มานั่งพัก เอาขาแช่น้ำ สบายสุดๆ เลยค่ะ แถมที่นี้อากาศดีมากต้นไม้เยอะ



มีกิจกรรมให้ทำอย่างเช่นเอาไข่ไปต้ม ถ่ายรูปกับบ่อน้ำพุ แต่นุ้ยขอเลือกและหยุดอยู่ตรงนี้นะ นั่งเอาขาแช่น้ำสบายสุด

ปาย เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบ สงบ เหมาะกับการพักผ่อนมาก


แต่ในยามค่ำคืนยังมีถนนคนเดิน เพื่อสร้างความคึกครื้น ให้เลือกซื้อของฝาก หาซื้ออาหารทานกัน

นุ้ยว่า ถนนคนเดิน เป็นเสน่ห์ อย่างหนึ่งของปาย นะ


ความน่ารัก ของสถานที่รัก


ความน่ารักของร้านค้า


และของฝากๆ น่ารักๆ เอาไปฝากคนที่เรารัก


นุ้ยเชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องเป็นเหมือนกัน ทุกครั้งที่ออกเดินทางจะส่งโปสการ์ดหาตัวเอง และเขียนความทรงจำดีๆ ลงไปในนั้น


ใครหลายๆ คนได้ไปย้อนวันวานกันที่นี้ มีสิ่งของที่คอยบอกเล่าเรื่องราวความเป็นเด็ก


และถนนคนเดิน ทำให้นุ้ยรู้ว่า มีใคร หลายๆ คน ที่กลับมาที่นี้อีกครั้งเหมือนนุ้ย


นี่เลยค่ะ ร้นเช่ามอเตอร์ไซค์ ถ้าให้แนะนำนะ สำหรับการเที่ยวปาย นุ้ยชอบ มอเตอร์ไซค์ มากกว่ารถยนต์นะ ได้บรรยากาศมากกว่าเยอะ ได้สัมผัส ความเป็นปายจริงๆ



มาถึงอาหารการกินกันบ้างจะไทย จี ฝรั่ง อินเดีย หรือพื้นเมืองมีครบ ค่ะ


เมนูนี้ รสชาดคล้ายๆ ไข่ตุ่น ต่างกันตรงที่เอาใส่ใบตองไปย่าง ทำให้มีกลิ่นหอม


เมนูนี้อร่อยดีนะนะ หนึบๆ หนับๆ


และร้านนี้ เป็นร้านที่เล็งไว้ตั้งแต่จอดรถ


รสชาดอาหารกลางๆ ค่ะรวม 4 จาน บวกเครื่องดื่ม 225 บาทเช้าวันถัดมาตั้งใจกันว่าจะไปหยุนไหล



แต่ก่อนไป ได้มีโอกาสแวะไปตักบาตร รับพรกันแต่เช้า



หลังจากนั้นก็วิ่งตรงดิ่ง ไปจุดชมวิวหยุนไหลกันเลย


จะมีรถนำเที่ยวคอยให้บริการอยู่บริเวณ หน้าหมู่บ้านสันติชลแต่วันนี้นุ้ยเลือกที่จะขับรถขึ้นไปเองเลยถ่ายเส้นทางมาฝากๆ ค่ะ

ถนนแคบหากมีรถสวนทางค่อนข้างที่จะลำบากเมื่อมาถึง จะมีค่าเข้าชม คนละ 20 บาท


จะมีเพียงหมอกบางๆ พริ้ว ไหวตามแรงลม


มองดู พระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขา


อากาศค่อนข้างเย็นสบายไม่ถึงกับหนาวมาก


ทิ้งท้ายหยุนไหลไว้ด้วยรูปนี้แล้วันนะ



ขากลับจากหยุนไหลแวะถ่ายรูปที่หมู่บ้านสันติชลมาฝาก



เนื่องจากยังเช้ามาก ร้านค้าส่วนใหญ่ ยังไม่เปิดให้บริการ



มีเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น



ระหว่างทางผ่านหน้า ปายหวาน อันที่จริงแอบปลื้มที่นี้เป็นพิเศษเพราะชอบคิตติ้มาก ในห้องพักตกแต่งด้วยคิตตี้


แต่คนข้างๆ บอกว่า หวานเกินเดี่ยวนอนไม่หลับ



ก่อนกลับนุ้ยแวะมาหาเครื่อง ที่ Coffee in love


แนะนำเลยค่ะ ว่าตอนเช้าอากาศดีมาก ๆ ที่สำคัญ คนไม่เยอะ


นั่งจิบกาแฟ ในบรรยากาศแบบนี้ สุขสุดๆ


และขอบอกตอนเช้าวิวสวยจริงๆ


แสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบกับนาข้าว มีหมอกบางๆ ลอยผ่าน



และขอทิ้งท้ายทริปนี้ไว้ด้วยรูปนี้



แม้เราจะได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ปายเปลี่ยนไป ปายไม่เหมือนเดิม



แต่นุ้ยกลับมองว่าปาย ก็คือปายปายไม่เคยเปลี่ยนไปหรอกค่ะแต่ใจของเรา และมุมมองของเราตังหากละที่เปลี่ยนไป



อยู่ที่ตัวเราว่าเราจะเลือกจดจำ อะไรจากเมืองเล็กๆ แห่งนี้



เพราะ



ในการออกเดินทางแต่ละครั้ง ตลอดเส้นทาง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าระหว่างทางจะเจอกับอะไร และปลายทางที่เราวาดฝันไว้ จะเป็นจริงอย่างที่หวังหรือไม่



ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทาง และรักในการท่องโลกกว้างเหมือนนุ้ยนะค่ะ

ความคิดเห็น