วันนี้เราจะพานั่งเรือข้ามแม่เจ้าพระยา มาที่โรงแรมสุด boutique ที่มีอายุร่วม 100 ปี (ซึ่งก่อนนี้เป็นคฤหาสถ์ และเป็นโรงเรียนมาก่อน) นั่นก็คือ Praya Palazzo ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 

หากใครเคยนั่งอยู่ท่าพระอาทิตย์ อาจสงสัยกับอาคารเก่าแก่สีเหลือง สไตล์พาลาดิโอ (Palladio) ริมแม่น้ำแห่งนี้ เดิมที่คือ "บ้านบางยี่ขัน" ที่เป็นคฤหาสถ์หรูริมแม่น้ำ แต่ด้วยการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป รวมถึงความเจริญต่าง ๆ สถานที่แห่งนี้จึงต้องเปลี่ยนบริบทตัวเองไปเป็นโรงเรียนได้ซักระยะหนึ่ง ก่อนถูกปิดไป..

แต่เสนห์ของที่แห่งนี้ฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง เมื่อ "ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิชัย พิทักษ์วรรัตน์" สถาปนิกและกลุ่มเพื่อน ได้เข้าไปบูรณะบ้านหลังให้เป็นโรงแรมสุดโรแมนติคและมีเอกลักษณ์

การเดินทางมายังที่แห่งนี้ มีพาหนะเดียวคือ "เรือ" โดยสามารถจอดรถไว้ที่วัดราชาธิวาส หรือจะรอขึ้นเรือจากท่าพระอาทิตย์ก็ได้ จากนั้นโทรแจ้งทางโรงแรม รอไม่กี่อึดใจจะมีเรือแล่นมารับเราที่ท่า ซึ่งเป็นเรือกว้างขวาง แล่นรับลมและวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้น่ากลัวแต่อันใด.. และใช้เวลาอีกราว 15 นาที
เราก็มาถึงท่าเรือของ Praya Palazzo 

และแล้วเมื่อเรามาถึง ก็จะมี "resort host" พาเราไปยังห้องที่เราจองไว้ ระหว่างนั้น จิบอัญชันมะนาวที่เป็น welcome drink ให้ชื่นใจซะก่อน..

เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ภาพที่เห็นคืออาคารสีเหลืองอ่อน ตัดกับสีท้องฟ้าในวันนั้น และแดดที่จ้า ทำให้บรรยากาศดูสดใส.. ซ้ายมือเป็นสระว่ายน้ำขนาดย่อม ที่ขอบสระมีเตียงอาบแดด และเฉลียงที่เป็น pool bar สามารถนั่งจิบอะไรเย็น ๆ และดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย พื้นที่ภายในถูกตกแต่งด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ ให้ความรู้สึกสบายยยยย เป็นธรรมชาติ และอบอุ่นสุด ๆ

..และก็เดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง ห้องของเราอยู่ทางปีกขวาตรงนี้เอง
อาคารแห่งนี้ (ในบริบทของโรงแรม) โถงกลางชั้น 1 เป็นห้องอาหาร praya dining และชั้น 2 เป็นห้องจัดเลี้ยง Rompho ปีกซ้ายและขวา ของทั้งสองชั้น ถูกจัดเป็นห้องพักสำหรับแขก ซึ่งมีห้องหลาย ๆ ชนิดแตกต่างกันไป

ไขกุญแจเปิดประตูบานไม้เข้าไป เจอไอเย็นของแอร์กระทบหน้า เพราะ resort host รู้ว่าเราจะมา จึงเตรียมเปิดแอร์ เปิดไฟไว้ให้ ห้องนี้เป็นห้องเพดานสูง หน้าต่างก็สูงเช่นกัน ประดับด้วยม่านสีแดงเข้ม มีแสงอ่อน ๆ ลอดผ่านม่านโปร่งแสงเข้ามาอีกชั้นนึง มีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ขวามือที่บนโต๊ะมีโคมไฟและมีกระดาษโน๊ต ดินสอ และจดหมายถึงแขก และอีกโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับวางผลไม้ (สำหรับแขกที่มาพัก) น้ำดื่ม และ mini bar (มีราคาบอกไว้) 

ซึ่งระหว่างสองโต๊ะนี้ ก็คือประตูห้องน้ำ เปิดประตูไม้เข้าไปเจอห้องน้ำที่มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กจนอึดอัดและให้ความรู้สึกโปร่งๆ ด้วยกระจกสีและความสว่างจากหน้าต่างรอบทิศ จะเปิดหน้าต่างแล้วแช่น้ำอุ่นก็พอไหว (ถ้าคนข้างนอกไม่เห็น อิอิ) มี dryer แชมพู สบู่ โลชั่น และแก้วน้ำ ถูกจัดวางในที่ที่ควรจะอยู่ แอบบอกว่าที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Erb ที่มีกลิ่นความเป็นไทย ๆ แบบหอมสะอาดและสดชื่นในเวลาเดียวกัน 

เดินมาสำรวจในห้องอีกครั้ง..
ที่นี่ถูก renovate และ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความรู้สึกที่ได้คืออบอุ่น ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และมีบรรยากาศโรแมนติกเจือ ๆ อยู่ มีตู้ไม้ ซึ่งข้างในมีชุดคลุมและรองเท้า slippers ไว้ให้ใช้ด้วย 

สำรวจในห้องแล้ว แดดก็ยังจ้าอยู่ แต่เราก็ยังตื่นเต้นอยู่เช่นกัน..
เดินสำรวจส่วนอิ่น ๆ กันบ้างดีกว่า
อย่างที่บอกว่าโถงกลางชั้น 1 เป็นห้องอาหาร "Praya Dining" ซึ่งช่วงเช้าเราจะทานอาหารกันที่นี่ มื้อเช้าของที่นี่ ช่วงที่ไปจะสั่งเป็น set (อาจจะเพราะว่าไปในวันปกติ) ซึ่งบางครั้งมีการจัดเป็น buffet ด้วย (แล้วแต่กรณี) ที่เราสั่งมาและเห็นในภาพข้างล่างคือ omlette เสริฟพร้อมกับขนมปังปิ้งและครัวซองต์ จิบลาเต้ร้อน ๆ อีกแก้ว และตบท้ายด้วยผลไม้อีกซักหน่อย อิ่มมมมมมมมมมแหละ ส่วนช่วงเย็นก็เป็นส่วนที่เป็นร้านอาหารไทยเดิม ๆ ซึ่งมีเมนูหาทานได้ยากจากข้างนอก 

ส่วนโถงกลางชั้น 2 เป็นห้อง "RomPho" ห้องขนาดใหญ่ สามารถจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนาเล็ก ๆ บรรจุคนได้จำนวนหนึ่ง กว้างขวาง และภายในห้องแบ่งเป็นสองชั้น มีหนังสือและสิ่งของให้ดู ให้อ่านประมาณหนึ่ง ซึ่งแขกที่พักสามารถอ่านหนังสือในนี้ได้ 

ว่าแล้วก็เดินสำรวจโดยรอบดีกว่า..
อย่างที่บอกว่าปีกซ้ายและขวา จะจัดเป็นส่วนของ Guest room ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 17 ห้อง มีตั้งแต่ Superior room, Deluxe room, Junior suite, และ Chao Praya suite ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปในรายละเอียด อีกทั้งมี facilities ครบครันไม่แพ้โรงแรมใหญ่เลย 

เอาเป็นว่าอยากรู้มากกว่านี้ ก็ควรมาลองนอนเองหรือจะมาแค่ทานมื้อเย็นที่ Praya dining ก็ได้
ซึ่งโทรจองโดยตรงกับทางโรงแรมผ่านเบอร์ 081-4028118 
หรืออยากมาลองนอนในบรรยากาศแบบนี้ก็สามารถจองตรงผ่านโรงแรมที่ https://www.prayapalazzo.com/ จองได้ผ่านเว็บไซต์ที่พักต่าง ๆ เช่น agoda, booking, หรือ expedia ก็ได้เช่นกัน

• เดินทางโดยเรือเท่านั้น และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางมาโรงแรม (สามารถขึ้นได้ที่ท่าพระอาทิตย์ วัดราชาธิวาส และอื่นๆ สอบถามจากทางโรงแรมได้เลย)
• มีอาหารเช้า
• ราคาที่พักต่อคืน 2,ุ6XX-5,1XX (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของโรงแรม และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงวันที่เข้าพัก)
• การเดินทางโดยเรือ ช่วงเวลา 07.00-22.00 (หากต้องการเดินทางนอกเหนือจากเวลาดังกล่าว โปรดสอบถามกับทางโรงแรมอีกครั้ง)

JOURNEYMEJOURNEYYOU on Facebook

JOURNEYMEJOURNEYYOU on Instagram