หากเราพูดถึงตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมโบราณและของโบราณแล้ว แน่นอนว่าชื่อของตลาดบน "เกาะเกร็ด" ต้องติดอยู่ในลิสต์หรือคุ้นหูทุกคนอย่างแน่นอน ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวชมบนเกาะเกร็ด และแน่นอนเราจะพาไปดูสินค้าหัตถกรรมของชุมชนบนเกาะเกร็ดที่สายช็อปไม่ควรพลาดกัน สินค้านี้ยังถือเป็นไฮไลท์ที่เราอยากแนะนำมาก ๆ
"เกาะเกร็ด" เป็นเกาะที่อยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เป็นหนึ่งในชุมชนที่เก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี เกาะเกร็ดเป็นย่านชุมชนที่มีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นทั้งชุมชนค้าขายและเป็นที่ตั้งด่านตรวจเรือต่าง ๆ ที่จะเดินทางผ่านไปยังอยุธยา นอกจากนั้นยังเป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผา ส่งผลให้หนึ่งในสินค้าที่ขึ้นชื่อของเกาะเกร็ดคือ เครื่องปั้นดินเผา
เสน่ห์ของเกาะเกร็ดอยู่ตรงที่ วิธีการเดินทางไป เนื่องจากเกาะเกร็ดตั้งอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา เราจึงต้องนั่งเรือข้ามไป โดยวันนี้ผมจะพาทุกคนไปขึ้นเรื่อที่ "วัดบางจาก" กัน
ค่าโดยสารจากวัดบางจาก ไปเกาะเกร็ด อยู่ที่ 5 บาท ถือว่าถูกมาก ๆ กับประสบการณ์ที่หาได้ยากในแถบกรุงเทพฯ ตอนอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวะที่ลมพัดปะทะหน้าเป็นอารมณ์ที่รู้สึกดีสุดๆ และ ความเป็นธรรมชาติที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากขนาดนี้
เมื่อเรามาถึงเกาะเกร็ดกันแล้ว สิ่งแรกที่ผมแนะนำก่อนที่ทุกคนจะไปช็อปปิ้งกัน คือ การทำบุญ ไหว้พระ และลอยเทียนดอกบัว เพื่อเสริมมงคลแก่ทุกท่าน
การทำบุญแล้วแต่ความศรัทธาของทุกท่านนะครับ
เรามาเรื่อช็อปปิ้งร้านแรกบนเกาะเกร็ดกันเลยดีกว่า
ร้านนั้นคือ "ร้านเครื่องปั้นดินเผา" เนื่องจากเกาะเกร็ดเป็นที่อยู่ของชาวไทยเชื้อสายมอญที่มีอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผา คนในชุมชนส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผากัน ไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นร้านเครื่องปั้นดินเผาหลายร้านบนเกาะเกร็ด เครื่องปั้นดินเผาที่นี่มีความสวยงามมาก ทั้งรูปร่างและสีสัน ถ้าใครอยากแต่งบ้านสไตล์ย้อนยุค ต้องห้ามพลาด
เรามาต่อกันที่ร้านสองกันดีกว่าครับ และผมคิดว่าร้านนี้แหละคือไฮไลท์ของเกาะเกร็ด ที่ผมยากให้ทุกท่านมาช็อปกัน
ร้านนั้นคือ "ร้านกระเป๋าสาน" ร้านกระเป๋าสานที่นี่มีความแตกต่างจากร้านกระเป๋าสานที่อื่นอย่างมาก เพราะได้มีการนำแฟชั่นสมัยใหม่ มาผสมผสานกับศิลปะกานสานกระเป๋ายุคโบราณ ส่งผลให้เกิดสินค้าที่ดูหรูหรา ตามเทรนยุคใหม่ ราคาไม่แพง แถมยังรักษาวัฒนธรรมของไทยไว้ด้วย
ทุกคนดูกระเป๋าพวกนี้สิ!!! เหมือนสินค้าแบรนด์เนมเลย ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือสินค้าจากฝีมือคนไทย ไม่ซื้อไม่ได้แล้วแบบนี้ 5555
เราช็อปปิ้งสินค้ามากันสองร้านแล้ว ทุกท่านน่าจะหิวกันแล้วแน่ๆ เดี๋ยวผมจะพาทุกท่านไปช็อปของกินขึ้นชื่อบนเกาะเกร็ดกัน
ร้านแรกเลยคือร้าน "ขนมถ้วย"
ร้านขนมถ้วยคันทรี เป็นร้านขนมถ้วยชื่อดังบนเกาะเกร็ดที่เปิดมานานกว่า 30 ปี รับประกันเรื่องรสชาติได้เลย แถมราคาก็ยังถูกมาก ๆ ถาดละ 25 บาท เพียงเงินเท่านี้คุณก็จะได้รับ ความอร่อยแบบกลมกล่อม หอมมัน ดังเดิม ซึ่งบอกเลยทุกคนที่มาเกาะเกร็ด ไม่ควรพลาด!!!
เรามาร้านของกินขึ้นชื่อร้านที่สองกันเลยดีกว่า ก่อนที่เราจะกลับไปช็อปกันต่อ
ร้านนี้ถือเป็นร้านของกินไฮไลท์ของเกาะเกร็ดเลย ร้านนั้นคือ "ร้านดอกไม้ทอด"
ใช่แล้วครับ ร้านดอกไม้ทอด ผมเชื่อว่าทุกท่านคงสงสัยว่า ดอกไม้ทันกินได้หรอ แต่มันกินได้จริง ๆ ครับแถมอร่อยด้วย ดอกไม้ทอดกรอบ ผสานกับน้ำจิ้มรสชาติหวานหอม เคี้ยวได้เพลินๆแถมราคาแค่ถ้วยละ 30 บาท มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ๆ ทุกท่านต้องลอง
หลังจากเราพาไปทานของอร่อย ๆ กันแล้ว เรากลับมาช็อปกันต่อดีกว่า
ร้านต่อมานะครับ เราจะพาทุกท่านไปดูร้าน "ผลิตภัณฑ์จากไม้"
หลาย ๆ คนอาจไม่อินกับผลิตภัณฑ์จากไม้ แต่ผมเป็นคนนึงที่ชอบผลิตภัณฑ์จากไม้มาก ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากไม้จากชุมชนบนเกาะเกร็ด ทุกผลิตภัณฑ์ทำด้วยความประณีต และมีความสวยงาม ราคาก็สามารถจับต้องได้
ร้านต่อไป เราจะพาทุกท่านไปดู "ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว"
ทุกท่านอาจเคยเห็นผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวไปทำเป็นถ้วยขนมหรือของเล่นจากกะลามะพร้าว แต่ผลิตภัณฑ์พวกนั้นมันเก่าไปแล้ว บนเกาะเกร็ดมีการนำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ไปแปรรูปเป็นโคมไฟ ที่ใส่ของ และผลิตภัณฑ์แปลก ๆ อีกมากมาย
เรามาถึงร้านสุดท้ายกันแล้ว ร้านนั้นคือ "ร้านขนมโบราณ"
เด็กสมัยใหม่อาจไม่ชินกับขนมพวกนี้เนื่องจากหาซื้อได้ยาก แต่ไม่ใช่สำผมที่เป็นเด็กยุค 90s ขนมพวกนี้ทำให้ผมคิดถึงอดีต ทุกท่านที่เกิดยุค 90s จะเข้าใจความรู้สึกนี้ดีถึงความหอมหวาน และความอร่อยของขนมโบราณ
นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาหารก็อร่อย สิ่งที่สัมผัสได้อีกอย่างนึงคือ พ่อค้า แม่ค้า ที่นี่มีความน่ารักเอาใจใส่ลูกค้าและอัธยาศัยดีมาก ๆ ทุกร้านเลย ถ้ามีโอกาสหน้าจะกลับมาอีกแน่ ๆ
ก็จบไปแล้วนะครับสำหลับ "ช็อปแหลก แหกกระเป๋าตัง ณ เกาะเกร็ด" สมชื่อทริปจริง ๆ กับกระเป๋าตังผมเนี่ย 5555 ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามการรีวิวครั้งนี้ วันนี้ผมต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันโอกาสหน้านะครับ
Nuttavut Boonprasom
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 23.39 น.