2 วัน 1 คืน ที่ดอยหลวงดอยหนอก จ.พะเยา
ดอยหลวงดอยหนอกพะเยา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง
- ยอดดอยหลวงเป็นจุดสูงสุดของสันเขาดอยหลวง มีความสูง 1,694 เมตรจากระดับน้ำทะเล
- ยอดดอยหนอกเป็นเขาหินปูนที่มีความสูงและชันมาก ตั้งอยู่บนสันเขาดอยหลวง มีความสูง 1,077 เมตรจากระดับน้ำทะเล
- เหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างไกล้ชิด เป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา สามารถมองเห็นกว๊านพะเยา ตัวเมืองพะเยา ตัวอำเภอวังทอง และผืนป่าที่อยู่รอบด้าน
- ในฤดูหนาวบนดอยหนอกสามารถมองเห็นทะเลหมอกที่สวยงามมาก
- การเดินจะต้องเดินป่าและพักแรมในป่า เส้นทางเดินจะผ่านป่าดึกดำบรรพ์ ป่าสนเขา ทุ่งหญ้า ซึ่งมีความสวยงามเป็นสถานที่ท้าทายสำหรับผู้รักการผจญภัย
- ในการเดินทางสู่ยอดดอยหลวงดอยหนอกจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง การเดินทางสามารถขึ้นได้ 2 ทาง
1.เส้นทางแรกขึ้นจากบ้านปากบอก อำเภองาว จังหวัดลำปาง ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
2.เส้นทางที่สอง ขึ้นจากบ้านห้วยหม้อ ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร แต่เส้นทางค่อนข้างลาดชัน
(ขอบคุณที่มา : http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=3308)
เบอร์ติดต่อ
* เจ้าหน้าที่การขึ้นดอยหลวงดอยหนอกโทร 086-136-8389 (โดยต้องจองลูกหาบ วันเวลาที่เราต้องการขึ้นด้วยนะ
การเดินทาง
- เดินทางโดยรถยนต์ของพี่ที่เคยร่วมทริป นับถือใจในการขับรถ กราบ
- การปักหมุดปักหมุดไปน้ำตกจำปาทอง ก่อนถึงน้ำตกจะพบ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดล.6 (จำปาทอง)
วันที่ 1 : 9 ตุลาคม 2563
- เดินทางจากกทม.ไปยังหน่วยหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดล.6
วันที่ 2 : 10 ตุลาคม 2563
- เดินทางจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดล.6 ไปยังจุดรวมพลเดินเท้า และเดินไปยังจุดกางเต็นท์ดอยหลวง ระยะทางประมาณ 9 กม. ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.
วันที่ 3 : 11 ตุลาคม 2563
- เดินทางจากจุดกางเต็นท์ไปดอยหนอกจากนั้นเดินทางต่อไปยังน้ำตกผาเกล็ดนาคและไปต่อยังจุดขึ้นรถอีแต๊กเพื่อหมู่บ้าน รอขึ้นรถไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดล.6 ระยะทางประมาณ 5.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 5 ชม.
*** เส้นทางการเดินค่อนข้างชัน ตะปีนตะป่าย ขึ้นเขาลงเขา ควรมีไม้โพลจะช่วยได้เยอะมาก รองเท้าต้องกันลื่นและเซฟเท้าเรา ไม่งั้นจะพอง และสุดท้ายมีสติและใช้วิจารณญาณในการเดินด้วยนะ ไม่งั้นจะหลงได้ 5555
***ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้า แต่มีสัญญาณ AIS เด้ออ เริ่ดดดด
ไปจ่ะไปดูการเดินทางและภาพบรรยากาศกันเลย ^^
บรรยากาศตอนอยู่บนดอยหนอก มองออกไปจะเจอกับหนอกน้อยที่ถูกปกคลุมด้วยหมอก ณ จุดนั้นสามารถขึ้นไปได้และกางเต็นท์ได้ ถ้ามีเวลาและร่างกายแข็งแกร่งมากพอ *และที่สำคัญคือรอเปิดให้ขึ้น*
บรรยากาศยามเย็นพระอาทิตย์ตกที่ดอยหลวง แสงพระอาทิตย์ วิว เป็นอะไรที่สวยมาก ถึง มากที่สุด
วิวยามเช้าที่หมอกปลิวปะทะภูเขา แสงพระอาทิตย์กำลังขึ้น ท้องฟ้าที่กำลังสว่าง ณ ดอยหลวง
วิวยามค่ำคืน ณ ลานกางเต็นท์ที่ดอยหลวง มองลงไปเจอแสงดาวบนดิน(แสงไฟ) จากตัวเมืองพะเยา สลับกับดาวบนท้องฟ้า และ วันนี้เป็นวันที่ฟ้าเปิดยังไม่เจอฝน เนื่องจากตอนนั้นที่ไปพายุไม่ได้เข้าภาคเหนือ สวยอีกแหละ ^^
แบบนี้หรือป่าวที่เรียกว่าทะเลหมอก ณ จุดนี้ เดินจากจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นดอยหลวง เดินมาทางดอยหนอกก่อนเพื่อมาเข้าใกล้หมอกมากที่สุด ในช่วงเช้าของวันที่ 11 กันยายน 2563 : )
จุดเริ่มต้นและจุดแวะพักซื้อข้าวเช้า-ซื้ออาหารสำหรับขึ้นไปทำกินกันบนดอย ณ ตลาดสด 4 แยก ก่อนถึงเขตพื้นที่ที่เราต้องไปขึ้นรถเจ้าหน้าที่
▪︎หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ดล.6 (จำปาทอง) เป็นจุดรวมพลก่อนขึ้นดอยหลวงดอยหนอก โดยเราต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ เตรียมตัว และจอดรถไว้ตรงนี้
*เราใช้บริการรถเจ้าหน้าที่ในการไปรับ-ส่งเพื่อไปจุดรวมพลเริ่มเดินก่อนขึ้นอีกทีหนึ่ง ห่างจากจุดนี้น่าจะ 40 กม. ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1 ชม
*ราคาค่ารถจากจุดนี้ไปจุดรวมพลสำหรับเดิน เท้า 1600 บาท
♡ เบอร์โทรติดต่อเจ้าหน้าที่สำหรับขึ้นดอยหลวงดอยหนอก 086-1368389 ต้องทำการจองทุกอย่างก่อนนะ หน้างานเหมือนจะไม่มีนะคะ♡
▪︎จุดนี้เป็นจุดที่รวมพลสำหรับเดินเท้า
▪︎จุดที่ขนสัมภาระสำหรับให้ลูกหาบ
▪︎จุดที่พบเจ้าหน้าที่นำทาง
ค่าใช้จ่าย
*ลูกหาบ 600 บาทต่อคน/วัน แบกน้ำหนักได้ 15 กิโลเกินนั้นกิโลละ 50 บาท
*เจ้าหน้าที่นำทาง 600 บาทต่อคน/วัน
*ค่าเข้าอุทยาน 20 บาทต่อคน
*ค่าพักแรม 30 บาทต่อคน/วัน
*ค่าบริการจัดเก็บขยะ 20 บาทต่อคน
▪︎เริ่มเดินโดยมีระยะทางจากจุดเดินถึงลานกางเต็นท์ประมาณ 9 กม.
▪︎ใช้เวลาเดินไปถึงลานกางเต็นท์ประมาณ 6 ชม.
ระหว่างทางการเดินเริ่มต้นก็เหนื่อยแล้ว
ระหว่างทางจะมีบรรยากาศ มีสิ่งต่างๆให้เราเพลิดเพลินตลอดระยะทาง
จุดแวะพักก่อนจะพบเจอความโอ้โหววว เหนื่อยฉิบหาย
▪︎ป่าสนเขา เราจะเจอป่าสนก่อนเป็นจุดเริ่มต้นเดินขึ้นแบบชันๆเรื่อยๆเมื่อยๆ
▪︎นี่แค่เริ่มต้นนะ 55555
มาถึงยอดก็พักก่อนน และรูปนี้ได้จากผู้ร่วมชะตากรรมที่เจอกันบนดอย ส่งรูปมาให้
*ลูกแรกผ่านไปลูกสองลูกสามค่อยๆผ่านไป (หมายถึงลูกภูเขานะ)
ดอกไม้ใบหญ้า สัตว์น้อย ระหว่างทาง
เริ่มเดินลงเขาต่อ ลูกข้างหน้ารอเราอยู่ อะเฮือกกกก
ใช่ค่ะนี่คือเป็นเขาที่ทำให้เราปวดเข่าอีกลูก สันหมูอูด้งง (ชื่อที่ผิดเรียกชื่อนี้มันตลอดทาง)
แต่จริงๆแล้วนางมีชื่อว่าสันหมูแม่ด้อง ได้ความว่าเป็นลักษณะของหมูที่มีตัวผอม การเดินค่อนข้างชันและลำบากหน่อยเพราะต้องปีนป่าย หวาดเสียวขึ้น
ได้แต่คิดในใจว่า ฮึบบบบบ อีกนิดเดียว แต่ยังค่ะนี่ยังไม่ถึงครึ่งของเส้นทางเลย มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ 2 ฮึบบบบบบบบบ
และเมื่อเรามันถึงธงนี้ เราได้มาถึงยอดแล้ว และนั่นแหละ มีขึ้นก็ต้องมีลง
ถ่ายรูปหน่อย วิวคือดีมากกกก สวยแบบต้องมาเห็นเอง อธิบายก็อธิบายไม่หมด
นี่ก็น่าจะเป็นจุดยอดดอยอีกจุดที่แวะพักเหนื่อยก่อนเดินทางลงเขาต่อ จุดนี้มองไปเราจะเริ่มเห็นยอดเขา สลับกัน และเส้นทางเดิน ซึ่งเราต้องเลาะสันเขาไปทางขวามือ ไม่ได้ขึ้นเขาไปนะ เลาะไปเรื่อยๆจะไปเจอกับทุ่งหญ้าเด่นสแกง
▪︎และแล้วเราก็มาถึงทุ่งหญ้าเด่นสแกง จุดนี้น่าจะถึงครึ่งทางได้ (มั้ง) และหลังจากนี้ก็จะเดินง่ายขึ้น (หรออ)
▪︎จุดนี้เป็นจุดพักเหนื่อยได้ดีมาก กินข้าวได้ก็กินอ่ะ มีต้นไม้ให้หลบ อากาศดี ลมเย็นสบาย มุมถ่ายรูปก็สวยนะ เก๋เก๋
ของมันต้องมี ความสมุนไพร
ถ่ายรูปหน่อยยย
และก็เดินทางต่อจนมาเจอป้ายนี้คือใจชื้นนะ แต่ยังหรอก มันไม่ได้ใกล้ถึง แต่มันก็เกือบแล้วแหละ ฮึบบ
▪︎นี่เป็นจุดที่เป็นสัญญาณที่ดี เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้ามาถึงบันไดนี้ลงไปอีกไม่นานก็ถึงแล้วว (หร๊ออออออ)
▪︎บันไดก่ายฟ้า เป็นจุดที่เดินยากหน่อย เพราะเป็นหิน ต้องตะปีนตะป่ายระมัดระหว่าง ต้องมีสติหน่อย และมันเป็นจุดอีกมุมที่สวยมากเลยแหละ ต้นหญ้าเขียวๆท้องฟ้า และ มุมหินให้ถ่ายรูป เก็บภาพบรรยากาศความสวยงาม
เอาหน่อยย
และเดินมาเรื่อยเรื่อยจนมาเห็นดอยหนอกที่วันรถ่งขึ้นเราต้องขึ้นไปแบบไกลไกล แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว
ระหว่างทาง ก่อนถึงจุดกางเต็นท์
ก็คือใกล้แล้วแหละ ลงเขาไปเราก็จะเจอจุดกางเต็นท์ ดอยหลวง โดยจะมีมุมน้อยๆน่ารักๆให้เรากางและพักอาศัย โดยลมแรงมากกกกก อากาศก็หนาวมากเช่นกัน แต่บรรยากาศโคตรดีมากกที่สุด
บรรยากาศของแสงอาทิตย์กำลังจะตกดิน เป็นอะไรที่ดี ดีมากก เกินบรรยาย สวย สวยจริงๆ
และเราช่างโชคดีจริงๆ เจอทางช้างเผือกด้วยนะ แต่ด้วยอากาศที่หนาว ลมที่แรง ไม่สามารถต้านการหลบอยู่ในเต็นท์ของเราได้ ก็จะได้รูปเพียงเท่านี้ รูปที่ดีที่สุด อิอิ
หลังจากสลบไปเมื่อคืน ตื่นเช้ามาด้วยดูพระอาทิตย์ เจอแสงแรกของวันก็คือหายเหนื่อย โคตรคุ้มแล้วแหละ
จุดนี้คือเปิดเต็นท์มาก็เจอมุมดีดีเลยนะ
เดินขึ้นดอยหลวง ดูพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอก
เรามาถึงดอยหลวงแล้ว สาธุ
ณ ดอยหลวง ที่มีทะเลหมอกคลุมดอยหนอกอยู่
หมอกโคตรปัง จุดนี้เป็นจุดตรงดอยหลวงที่มีพระอยู่
โคตรดี หมอกดีมากก สวยมาก สบายตาสบายใจไปหมด จุดนี้เป็นจุดที่เดินข้ามเขาอีกลูกจากดอยหลวงมาและเป็นเขาที่เราต้องผ่านไปดอยหนอก
เมื่อได้เวลาก็เดินกลับไปลานกางเต็นท์ คือมันดีแบบ 360 จริงๆ สวยทุกมุม สวยแบบสวย
▪︎ณ ลานกางเต็นท์ บรรยากาศระหว่างเก็บเต็นท์เพื่อไปดอยหนอก มีอากาศ หมอก และลมปะทะร่างกายตลอดเวลา
▪︎จากจุดกางเต็นท์ไปดอยหนอก ประมาณ 2 กม ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
▪︎เส้นทางแรกๆไม่ได้เดินยากอะไรแต่พอใกล้ถึงดอยหนอกจะเดินยากหน่อย หินเยอะ ต้องตะปีนตะป่าย เหนื่อยเลยแหละ
อ่ะเริ่มเดินไปดอยหนอกได้ !
ระหว่างทางจากดอยหลวงไปดอยหนอก
ก่อนถึงดอยหนอกเส้นทางก็จะประมาณนี้
และแล้วเราก็มาถึงด้านล่างของดอยหนอกแล้วโดยการขึ้นดอยหนอกเราจะไม่เอากระเป๋าขึ้นไปจะทิ้งไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นตัวเปล่า พร้อมใจและถุงมือเพื่อโหนสลิงขึ้นไปด้านบน
มีคนบอกว่า "ดอยหนอกคือขุนเขาแห่งศรัทธา"
ต้องโหนสลิงมันก็จะประมาณนี้
บรรยากาศเมื่อมองลงมา วิวโคตรดี ทั้งหมอก ทั้งเขา
▪︎บนดอยหนอกจะมีเจดีย์พระธาตุดอยหนอกเป็นที่สักการะของชาวบ้าน
▪︎การประดิษฐานใช้การเดินเท้าขึ้นมา ซึ่งมันเดินค่อนข้างยากมากเลย
▪︎บนดอยหนอก ด้านหน้าเจดีย์จะเจอกับมุมสวยงามที่เราสามารถเห็นดอยหลวงได้
▪︎ข้างหน้าเราคือดอยหลวง วิวโคตรดี
วิวก่อนลงจากดอยหนอก
บรรยากาศคือดีมากก
▪︎รูปนี้เป็นรูปที่ได้จากผู้ร่วมชะตากรรมที่เจอกันบนดอย ส่งรูปมาให้
ระหว่างทางลงจากดอยหนอก ก็คือหวาดเสียว
▪︎รูปนี้เป็นรูปที่ได้จากผู้ร่วมชะตากรรมที่เจอกันบนดอย ส่งรูปมาให้
ระหว่างทางลงจากดอยหนอก ก็จะเห็นวิวมุมสูง และด้านล่างคือจุดที่เราโยนกระเป๋าทิ้งเอาไว้ก่อนขึ้นมา
▪︎หลังจากลงจากดอยหนอกต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 2 กม.เพื่อไปน้ำตกผาเกล็ดนาค เป็นจุดที่แวะกินข้าวและพักเหนื่อย
▪︎ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
▪︎เส้นทางการเดินคือขอใช้คำว่า เหี้- มากกกกกก ทั้งลื่น ทั้งชัน ทั้งปีนหิน ลุยน้ำ ทั้งลื่นโคลน เกิน มันเกินไปมาก 55555
▪︎คือเป็นจุดที่ไม่สามารถบันทึกภาพได้มาก ต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน 1
▪︎น้ำตกเป็นจุดที่กางเต็นท์สำหรับใครที่พัก 3 วัน 2 คืน
ภาพดอยหนอกจากอีกมุม ก่อนเดินไปน้ำตกผาเกล็ดนาค
ส่วนหนึ่งของทางไปน้ำตกผาเกล็ดนาค
ระหว่างทางไปน้ำตกผาเกล็ดนาคก็คือทางก็จะประมาณนี้ อย่างโหดเหี้ยมมาก
▪︎เส้นทางนี้จะมีน้ำตลอดหลังจากจุดตรงนี้ และจุดตรงนี้เป็นจุดที่เติมน้ำเพื่อดำรงชีพต่อ
▪︎เป็นจุดที่แวะพัก เติมน้ำ ล้างหน้าล้างตา หลังจากนี้จะเดินค่อนข้างง่ายขึ้นกว่าเดิมมานิดนึงง (หราาาาาาาาาาาาาาาาาา)
▪︎14:19 และแล้ว เราก็เดินมาถึงน้ำตกผาเกล็ดนาคแล้วโว้ยยยยย มาถึงคือโยนเป้ทิ้งก่อน เดินไปหาน้ำ ถอดรองเท้า นั่งพักผ่อน
▪︎จุดนี้มีน้ำให้เติม และแวะกินข้าวเที่ยงก่อน เป็นจุดที่เค้ากางเต็นท์กัน บรรยากาศก็ชิวววดีมาก
▪︎จากจุดนี้ไปจุดขึ้นรถอีแต๊ก อีกประมาณ 1.4 กม. เป็นเส้นที่เดินง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะมากมาก แต่จะมีลื่นหินบ้างเล็กน้อย
▪︎ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชม. น่าจะได้
ภาพถ่ายที่น้ำตกผาเกล็ดนาค
▪︎15:31 น. เราเดินมาถึงจุดขึ้นรถอีแต๊กแบบงงๆ เหมือนกำลัง งงอยู่ว่าถึงแล้วใช่ไหม เพราะที่ผ่านมาเหมือนเจอมรสุม การเดินแบบสับแหลก เท้าพองเอย นิ้วแตกเอย อ่ะแต่เราก็รอดมาได้
▪︎ใช้เวลารวมทั้งสิ้นจากจุดลานกางเต็นท์มาถึงจุดขึ้นรถอีแต๊ก ประมาณ 5 ชม.
▪︎ระยะทางรวมประมาณ 5.4 กม
พี่ลูกหาบและนำทางเรา ทำหน้าให้มันมันส์มันส์โหน่ยยยยยย
▪︎รถอีแต๊กจากจุดขึ้นรถไปยังหมู่บ้านด้วยระยะทางประมาณ 5 กม. ใช้เวลารวมๆแล้วเกือบๆ 1 ชม.
▪︎ค่าใช้จ่าย 600 บาท ซึ่งการนั่งรถนั้นก็สนุกและเมื่อยไปอีกแบบเพราะว่าเกร็ง 55555
บ้ายบายยยนะดอยหลวงดอยหนอก นายมันแน่มาตลอด ยอมม
ค่าใช้จ่ายสำหรับขึ้นดอยหนอก (หารเฉลี่ยทั้งหมด 5 คนจำนวน 2 วัน 1 คืน)
- ค่ารถจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดล.6 (จำปาทอง) ไปจุดรวมพลที่เดินเท้า 1,600 บาท (ไป-กลับ)
- ค่ารถอีแต๊ก 600 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน 20 บาทต่อคน
- ค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาทต่อคนต่อวัน
- ค่าบริการเก็บขยะ 20 บาทต่อคน
- ค่าลูกหาบ 1,200 บาท (วันละ 600 บาท แบกได้ไม่เกิน 15 กิโลถ้าเกินกิโลละ 50 บาท)
- ค่าเจ้าหน้าที่ 1,200 บาท (วันละ 600 บาท)
พลอย.
เที่ยวเหมือนเหงา
วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.06 น.