คนเดียวกับการขี่ CT125 ไปภูกระดึง-เชียงคาน จ.เลย
การเดินทางวันที่ 23-25 ตุลาคม 2563
#ภูกระดึง #เชียงคาน #CT125 #ไปแหล่นเชียงคานนำเด้อ
*ระยะเวลา 3 วันกับอีกเกือบ 3 คืนกับการเดินทาง
*ระยะทางรถ 1247 กม. (กทม. - ภูกระดึง - เชียงคาน - กทม.)
*ระยะทางเดินเท้า 22 กม. (ขึ้น - ลงภูกระดึง - ผานกแอ่น)
*ระยะทางวิ่งมาราธอน 42.195 กม. (วิ่งมาราธอนแรกในชีวิตในงานไปแหล่นเชียงคานนำเด้อ)
#คนสุดท้ายของการขึ้นภูกระดึงวันที่23ตุลาคม63
- ภูกระดึงครั้งที่ 3 ในบริบทที่ต่างไป ปกติมาในนามการวิ่งขึ้น แต่ปีนี้ไม่ได้จัด พอมาก็ได้บรรยากาศเหมือนเดิม ภูกระดึงกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ทีแรกกะว่ามาให้หายคิดถึง ที่ไหนได้ พอมาแล้วคิดถึงบรรยากาศมากกว่าเดิมอีก
- เป็นการเที่ยวที่ทรหดอดทนสุด สนุกสุด เมื่อยสุด อ่อนล้าสุด เพลียร่างสุด เลยก็ว่าได้ แต่บรรยากาศและวิวมันก็โคตรดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่ฟังใครเค้าเล่ามันก็ไม่เท่ากับออกไปสัมผัสเองจริงจริง
- ไม่รู้จะบรรยายความเหนื่อยออกมาจากรูปถ่ายได้ยังไง แต่จะบรรยายบรรยากาศและความประทับใจออกทางรูปถ่ายที่สามารถเก็บมาได้เพียงเท่านี้มาให้ชมกัน อิอิ (เป็นคนถ่ายรูปไม่สวยต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะ :)
การเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์และเดินเท้า
▪︎ จากกทม.ไปภูกระดึงใช้เส้นทางหมายเลข 1 สระบุรี นครราชสีมาแล้ววิ่งตามเส้นทางหมายเลข 201 ชัยภูมิ ขอนแก่น จากนั้นไปตัดเข้าเส้นภูกระดึง 2019 ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 8 ชั่วโมง เริ่มเดินทาง ตีห้ากว่าๆถึงอุทยานประมาณ บ่ายโมงหน่อยๆ ทันเวลาพอดี อุทยานปิด 14:00 น.
▪︎ เดินภูกระดึงก็ใช้เวลาประมาณ 4 -5 ชั่วโมงด้วยระยะทาง 9 กม. จนถึงลานกางเต็นท์วังกวาง ตลอดระยะทางมีของกินมากมายก่ายกอง (ขึ้นถงภูมีลูกหาบนะแต่เราไม่ได้ใช้ แบกเองและนำเต็นท์ขึ้นไปกางเอง)
▪︎ จากภูกระดึงไปเชียงคานใช้เส้นทางหมาย 201 ยาวๆ ใช้เวลาไม่นาน น่าจะสองชั่วโมงได้
▪︎ ขากลับจากเชียงคานมากทม.ใช้เส้นทางเดิมหมายเลข 201 เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ มาตัดลงถนนหมายเลข 2 นครราชสีมาไปสระบุรี กลับกทม. โดยมาทางหนองแค ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง เริ่มออกจากเชียงคาน สิบเอ็ด โมงถึงกทม.ประมาณ ห้าทุ่ม~ สวัสดิภาพ ~
มาชมภาพบรรยากาศกันเลยจ้า ><"
เริ่มจากกรุงเทพเวลา 05.00 น. (มั้ง)
ระหว่างทางสว่างคาตามันเป็นแบบนี้นี่เอง
เดินทางมาประมาณ 8 ชม.เราก็มาถึงภูกระดึงก่อนเวลาปิดเพียงครึ่งชม.
เราก็ไปชำระค่าบริการเรียบร้อยจากนั้นก็ขึ้นภูกันเลย และนั่นแหละฮะเราขึ้นทัน 14:00น. พอดี เป็นคนสุดท้ายของวันนี้แล้ว
ระยะทางและป้ายบอกทาง
ซำแฮกก็คือของกินเยอะ แหล่งช็อปปิ้งที่ดีที่สุด 5555
มาภูต้องกินแตงโม เป็นแตงโมที่อร่อยที่สุดดดด เส้นทางของการเดินค่อนข้างลื่นและแฉะมากกนะตอนที่ไป
มาถึงหลังแปทันพระอาทิตย์ตกพอดี ได้เจอแสงสวยๆงามๆ หายเหนื่อย
สวยงาม
และก็ออกเดินทางต่อด้วยระยะทางตามป้าย 5555
ลุยยยยยยย
ระหว่างทางไปลานกางเต็นท์แสงโคตรดี สวยมากกกกกก
มาถึงลานกางเต็นท์ก็หาสถานที่ในการกางเต็นท์และออกไปหาอะไรกิน "ที่พักหรู"
ระหว่างเดินหาอะไรกินแถวที่ขายของ เจอน้องงกวางมาทักทายด้วย
หลังจากนอนหลับด้วยอากาศหนาวเย็นก็ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เวลาประมาณ ตี 5.00 ได้ (ฟังประกาศจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่พาเราเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานางแอ่น)
เส้นทางไปผานกแอ่น ประมาณ 1-2 โล เดินไม่ยาก ไม่นานก็ถึง
วิวยามเช้าจากผานกแอ่นวันที่ 24/10/63
แสงยามเช้าก็โคตรจะดี มีทะเลหมอกปังๆ สวยสุดๆ
ผู้คนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นมากมายก่ายกอง
และก็เดินกลับมาทางด้านลานพระแก้ว
เส้นทางการเดินยังคงมีน้ำขังและแฉะอยู่ ต้องระมัดระวังในการเดินสักหน่อย
ดอกสนระหว่างทางไปชมน้ำตกวังกวางที่เดินไปคนเดียว วังเวงมากเลยย้อนกลับมานอนดีกว่า 5555
บรรยากาศลานกางเต็นท์และเพื่อนบ้าน
และเมื่อเราชมธรรมชาติเสร็จก็เตรียมตัวเดินทางลงไปด้านล่างเพื่อไปเชียงคานต่อ เนื่องจากมีวิ่งต่อต้องไปรับบิบให้ทันเวลา
ในส่วนของทางลงนั้นนนนนนน
ลูกหาบที่ภูกระดึงโคตรโหด แบกอย่างเยอะ ยอมใจ กราบบบ
คำคม ก่อนกลับ
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าได้ก็เดินทางมาถึงเชียงคาน และไปจัดแจงรับบิบ หาที่กางเต็นท์ และเราก็ได้ไปกางเต็นท์นอนแถวๆสถานีตำรวจภูธรเชียงคาน ที่เค้ามีจัดงานวิ่ง "มาแหล่นเชียงคานนำเด้อ"
และบรรยากาศที่เชียงคานก็ดีมากช่วงที่ไป อากาศเย็นสบาย แสงพระอาทิตย์ก็ดี ทุกอย่างดูชิวไปหมด
ก่อนจะนอนพักผ่อนก็เดินเล่นถนนคนเดินเชียงคาน หาอะไรกินไปเรื่อย ชมวิว
และสิ่งนี้คือมาเชียงคานก็ต้องกิน
หลังจากพักผ่อนกายา ก็ตื่นประมาณ ตี 02.30 น. เพื่อมาเตรียมตัววิ่งมาราธอนในงานไปแหล่นเชียงคานนำกันเด้อต่อ
ระหว่างทางวิ่งนอกจากบรรยากาศ ผู้จัดงานที่โคตรจะดีเยี่ยมแล้ว ผู้คน เสียงเชียร์ สู้ๆ มันทำให้มีกำลังใจ และแม่งโคตรดีต่อใจมากๆ
และเมื่อเราวิ่งเสร็จก็เก็บของ ทำธุระส่วนตัว เก็บเต็นท์ ออกเดินทางจากเชียงคาน 11:00 น.และมาถึงกทม. 23:05 น. อย่างสวัสดิภาพ และอย่างสนุก ถึงจะเมื่อย เหนื่อย อ่อนล้า โคตรง่วง รถโคตรติดแต่มันก็โคตรจะมีความสุขที่ได้ทำอะไรที่ใจเราต้องการจะทำ : )
ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 1417 บาท (ไม่รวมค่าวิ่ง)
☆น้ำมัน 1247 กม. 558 บาท
☆ค่าเข้าอุทยาน 40
☆ค่ารถเข้าอุทยาน 20
☆ค่าประกันในอุทยาน 10
☆ค่าเช่าพื้นที่ กางเต็นท์อุทยาน 30
☆ค่ากินตลอดทริป 759 (เป็นคนกินเยอะค่ะ กินทุกซำ แวะทุกที่)
#CT125ประหยัดน้ำมันสุดสุด #CT125ขี่โคตรสนุก #ขอบคุณ:)
พลอย.
เที่ยวเหมือนเหงา
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 12.41 น.