รีวิวนี้ ดองไว้นานมาก ตั้งแต่หยุดยาวช่วงเดือนตุลาที่ผ่านมา แต่กว่าจะได้มาเล่าให้ทุกคนฟัง ก็ปาเข้าไปปีใหม่แล้ว ทริปนี้ผมเดินทางไปเที่ยวจังหวัดลพบุรีด้วยรถไฟครับ บอกเลยว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกมาก ๆ สามารถเที่ยวแบบไปเช้า เย็นกลับได้เลยเราเริ่มต้นกันที่หัวลำโพงจัดการซื้อตั๋วเสร็จสรรพ ได้รถเที่ยว 7 โมง ไปถึงลพบุรี 9 โมงกว่า ตามที่ระบุในตั๋ว มีเวลานิดหน่อยเลยหาข้าวกินที่สถานี วันนี้เป็นวันหยุดที่หัวลำโพงคนเลยเยอะเป็นพิเศษ
ได้เวลาก็กระโดดขึ้นรถไฟเตรียมตัวออกเที่ยวกันเลยครับ อย่างที่บอกว่าวันนี้คนเยอะมาก ทำให้ผมได้ตั๋วยืนแต่ก็ยังพอหาที่นั่งได้ จนกว่าเจ้าของที่เขาจะมาไล่นั้นแหละครับ 555 ขบวนที่ผมนั่งเป็นขบวนรถเร็วไปสุดทางที่เด่นชัยทำให้ผู้โดยสารค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว
รถเร็วจะจอดที่สถานีต่าง ๆ เยอะหน่อยแต่ที่คนขึ้นลงกันเยอะ ๆ ก็สถานีดอนเมือง บ้านภาชี อยุธยา แล้วก็ลพบุรีนี้แหละครับ เกือบ 10 โมงรถไฟก็พาผมมาถึงสถานีลพบุรีโดยสวัสดิภาพ
มาถึงแล้วไม่ชักช้าให้เสียเวลา เราก็เริ่มเที่ยวกันเลยครับ ไม่ต้องไปไหนไกลแค่เดินออกมาจากสถานีก็ถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกแล้วครับคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟนี่เอง ค่าเสียหายทั้งสิ้น 30 บาท
ตั๋วเข้าชมถ่ายรวมกับของสถานที่อื่น ๆ
วัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยใด ภายในประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างมากมายทั้ง ศาลาเปลื้องเครื่อง วิหารหลวง พระปรางค์ประธาน ขณะที่สถาปัตยกรรมภายในยังมีความหลากหลายที่ผสมผสานอย่างลงตัว ทั้งซุ้มประตูของวิหารหลวงแบบในพระพุทธศาสนา ปรางค์ประธานทรงขอมศิลปะละโว้ และซุ้มประตูและระเบียงลักษณะโค้งหัวแหลมที่ได้รับอิทธิพลมาจากเปอร์เซีย
ซุ้มประตูด้านหน้าวิหารหลวง
ภายในวิหารหลวง
พระปรางค์ประธานศิลปะขอม
ซุ้มโค้งสไตล์เปอร์เซีย
สิ่งปลูกสร้างงอื่น ๆ
วันนี้อากาศดีมาก แต่นักท่องเที่ยวออกจะบางตาไปหน่อย สำหรับวันหยุดแบบนี้ เดินชมวัดจนทั่วก็ได้เวลาไปสถานที่ถัดไปแล้วครับ ผมเดินไปตามถนนหน้าศาลพระกาฬ เลี้ยวเข้าถนนพระยากำจัดเพื่อเดินไป
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ทำให้ได้รู้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มารวมตัวกันที่นี้ หลายกลุ่มยังคงมาตามรอยละครดังอย่างบุพเพสันนิวาส แต่งชุดไทยกันสวยงามทีเดียว
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ สร้างขึ้นในสมัยพระนารายณ์มหาราชและบูรณะอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 ประกอบด้วยพระราชฐานชั้นนอก ชั้นกลางและชั้นใน
ด้านหน้าบริเวณเขตพระราชฐานชั้นนอก
หมู่ตึกสิบสองท้องพระคลัง ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บสินค้าก่อนส่งขาย
เดินเข้าไปถึงส่วนของเขตพระราชฐานชั้นใน ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุจากหลากหลายสมัยทั้งจากของจังหวัดลพบุรีและจังหวัดข้างเคียง
ออกจากพระนารายน์ราชนิเวศน์ ผมเดินไปทางซอยราชดำเนินตัดเข้าซอยฝรั่งเศสเพื่อไป
ยังที่เที่ยวแห่งถัดไป นั้นคือบ้านออกญาวิชาเยนทร์ หรือบ้านหลวงรับราชทูตนั้นเอง ภายในประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 4 กลุ่ม เสียดายวันที่ผมไป ฝั่งขวาทั้งหมดกำลังบูรณะ ทำให้มีพื้นที่เที่ยวชมไม่เยอะมากแต่ยังคงสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
จากนั้นเดินไปตามถนนวิชาเยนทร์เพื่อตรงไปพระปรางค์สามยอด ระหว่างทางแวะปรางค์แขกกันหน่อย ปรางค์แขก หรือเทวสถานปรางค์แขก เป็นโบราณสถานศิลปะขอมที่เก่าแก่ของจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางถนน จะไปเที่ยวต้องระวังรถกันนิดนึงนะครับ
เสร็จแล้วก็เดินตรงไปยังพระปรางค์สามยอด โบราณสถานที่เรียกได้ว่าคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลพบุรีคู่กันกับเจ้าลิงที่อาศัยกันอยู่เต็มพื้นที่ของพระปรางค์สามยอดและพื้นที่โดยรอบ
พระปรางค์สามยอดเป็นโบราณสถานศิลปะขอมแบบบายนขนาดใหญ่ในภาคกลาง สร้างในสมัยละโว้โน่นเลยครับ ตอนผมไปเที่ยวเป็นช่วงใกล้เที่ยงแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไม่ขาดสาย
ออกจากพระปรางค์สามยอดข้ามถนนไปไหว้ขอพรเจ้าพ่อพระกาฬกันที่ศาลพระกาฬ ที่นี่มีกฎว่าห้ามถอดรองเท้าด้านล่างศาลให้ขึ้นไปถอดด้านบนเพราะเดี๋ยวเจ้าถิ่นจะมาซิวไปซะ เพราะจุดนี้เป็นแหล่งใหญ่ของลิงลพบุรีเลยก็ว่าได้
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ออกจากศาลพระกาฬเราก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟเพื่อซื้อตั๋วกลับ ระหว่างทางก็แวะอีกซักหน่อยกับ วัดนครโกษา วัดโบราณใกล้กับสถานีรถไฟ
ตัวเมืองลพบุรีเรียกได้ว่าใครที่เป็นสายโบราณสถาน เมืองโบราณมาที่นี้ต้องถูกใจแน่นอน มีเวลาแค่วันเดียวก็มาเที่ยวกันได้ ยิ่งช่วงนี้เที่ยวไกล ๆ ไม่ได้ก็เที่ยวใกล้ ๆ กันไปก่อน บ้านเราก็มีสถานที่สวย ๆ อีกเยอะเลยครับ
ณัฐ นรินทร์
วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.46 น.