เมื่อปลายปี 2020 มีโอกาสได้ไปเยือนเทศกาลงานดนตรีที่ใหญ่มากๆ คือ
BMMF11 หรือ Big Moutain Music Festival ครั้งที่ 11 : 2020 จังหวัดโคราช
โดยเราไปกันในราคาบัตร 35,000 บาท สำหรับ 4 คน เรียกสั้นๆว่า "VVIP"
แพงมั้ย!!?? เออแพงอ่ะ ตกคนละ 8,750 บาท เออก็ดูแพงจริงๆ 55555
แต่เพราะทั้ง 4 คนก็ไม่เคยมางานนี้ บวกกับเอาความขี้เกียจและความง่ายเข้าแลก
เออๆ ครั้งแรกขอลงทุนดูดีดี ง่ายๆสบายๆล่ะกัน
ตัดจบที่สรุปเอาบัตร VVIP กัน เปิดจองปั๊ป เฝ้าหน้า web จองบัตรทันใน 5 นาที
งานปีนี้จัดวันที่ 12-13 ธันวาคม 2020 ที่ The Ocean เขาใหญ่ จุดเด่นคือรวบรวมศิลปินไม่จำกัดค่ายและแนวเพลงมารวมกันเป็นจำนวนมาก สลับกันขึ้นโชว์บนเวทีต่างๆ (6 เวที) ตลอด 2 วัน จนได้ชื่อว่าเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยทั้งในด้านศิลปิน ผู้ร่วมงาน และขนาดพื้นที่จัดงาน
เราจะข้ามดราม่าทั้งหลายที่เกิดขึ้นในงานไปนะคะ
เพราะมันเยอะมากๆ และหลายคนคงทราบจากข่าวที่ออกมาแล้ว
รวมถึงสื่อเสนอออกไปเยอะแยะ ไปหาอ่านทีอื่นเด้อ 5555
ม่ะ!!! ทีนี้เรามาดูกัน ไอ่ที่ว่ามันแพงเนี่ย เราได้อะไรบ้าง คุ้มมั้ย!!??
โดยเฉพาะการไปในช่วง COVID-19 ด้วย
"ที่จอดรถพิเศษ"
เพราะว่าเป็น VVIP เราจะมีที่จอดรถพิเศษ และทางเข้างานพิเศษแยกจากบัตรทั่วไป
ที่จอดรถเป็นลานกว้างๆ แต่ทางค่อนข้างขรุขระหน่อย โดยก่อนจะถึงวันงานเราจะได้ซองจดหมายที่มีเอกสารต่างๆ แผนที่งาน และบัตรเข้างาน 4 ชุด รวมถึงสติ๊กเกอร์ที่จอดรถ 2 ใบ
นี่คือสติ๊กเกอร์ที่จอดรถ อันใหญ่เบอเริ่ม จากถนนหลักเข้ามาจะมีจุดตรวจ VVIP 2 จุด เราก็ต้องเอาป้ายให้พี่เจ้าหน้าที่ดู เค้าจะบอกทางเรา (เป็นลานกว้างๆ ไม่มีที่บังแดด)
จากนั้นมีพื้นที่เฉพาะสำหรับการตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจสอบบัตรเข้างาน ตอนนั้นไปถึงประมาณ เกือบเที่ยง คนไม่เยอะ แปปเดียว
เอาบัตรที่ได้มาก่อนหน้านี้ เราจะได้สายรัดข้อมือ 2 สี สีน้ำเงินคืออายุมากกว่า 20 ปี (ในงานมีแอลกอฮอล์) และสีดำคือ VVIP พร้อมกับแผนที่คล้องคอ อ้อ!! มีเสื่อขนาด 1x1 เมตร ไว้ปูนั่งให้ด้วย หลังจากนั้น เดินไปสัก 200 เมตร จะเข้าโซนที่พัก
"โซนที่พัก รถบ้าน 1 คัน"
มาที่โซนที่พักกันบ้าง VVIP ให้รถบ้านเรามา 1 คัน นอนได้ 2 คืน ซึ่งโซนรถบ้านนี้มีแค่ 50 คันเท่านั้น
ไม่พลุกพล่าน เป็นส่วนต้ว และติดกับเวทีหลัก ชิงช้าสวรรค์ (ได้ยินเสียง Soundcheck ด้วย)
เปิดประตูเข้าไป ถือว่าอุปกรณ์ครบครันนะ เปิดประตูเข้าไปเจอเตียง 2 ชั้น และเตียงเดี่ยว
มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ กับอุปกรณ์ตามที่พักทั่วไป
ข้อแนะนำคือ การนอนรถบ้านควรเอาปลั๊กสามตามาด้วย
ส่วนห้องน้ำมีแบ่งโซนห้องอาบน้ำ อ้อ!!!มีน้ำอุ่นด้วยนาจา มันดีตรงนี้!!!
(กลางคืนมีหอยทากด้วย 55555)
พอเข้าไปเช็คอุปกรณ์แล้วเรียบร้อย
(จ่ายมัดจำกุญแจด้วย 1,000 บาท ถ้าไม่มีอะไรเสียหายก็ได้คืน)
ถือว่ามีมุมถ่ายรูปเล่นเยอะอยู่ อาจจะดูแคบไปนิดแต่ถ้าเพื่อความสะดวกสบาย และใกล้งาน เดินแค่ 100 เมตรเข้างานเลย อันนี้ถือว่าคุ้ม
อ่ะ จัดไป 3-4 รูป ในบ้าน หน้าบ้าน สนามหญ้า ได้หมด (แต่ถ่ายจริงเป็น 100 นะคะ 55555) แถมรูปตอนกลางคืนให้ด้วย ฟิลดีอยู่นะ ไม่มืดและไม่สว่างจ้าจนเกินไป
เมื่อเราพร้อมแล้ว ไปดูสิ่งที่ VVIP ได้ในงานกันบ้าง
"สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ"
ถือว่ามีหลายอย่างที่พิเศษ แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก
1."ประตูทางเข้างาน"
เป็นประตูที่ 4 ประตูวากิว เดินจากที่พักมาไม่ถึง 200 เมตร เข้างานเลย โดยจะมีพี่ๆการ์ด ตรวจสายรัดข้อมือทุกครั้งที่มีการเดินเข้า-ออก
2."พื้นที่ดูคอนเสิร์ตพิเศษ"
พื้นที่นี้จะให้สำหรับ VIP และ VVIP เป็นพื้นที่พิเศษ มีที่นั่ง ส่วนใหญ่อยู่ด้านข้างของแต่ละเวที มีอยู่ 3 เวทีใหญ่ ก็ถือว่าดีนะ มีพื้นที่ส่วนตัวแยกออกมา ไม่เบียดกันมาก แต่ที่ไม่ค่อยดีคือต้องเข้า-ออกผ่านประตูรวมอยู่ดี T^T รอไปจ้า 5555
อันนี้เป็นมุมมองจากหลากหลายเวที
เวทีหลัก จะเป็น Stand ให้นั่งเลยทีเดียว เราก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง แล้วแต่เวที
บางพื้นที่มีที่ให้ชาร์จแบตไปในตัวด้วยเช่นกัน
3."ห้องน้ำ"
อันนี้ยอมรับว่าไม่ได้เข้า 55555 เพราะบางจังหวะไม่ได้มีวงที่อยากดู เราเดินกลับมาชาร์จแบต นั่งพัก นอนเล่น เข้าห้องน้ำที่รถบ้านแทน มันใกล้อ่ะ 55555 แต่เป็นห้องน้ำติดแอร์นา ไม่ใช่เล่นๆไป
อันนี้คือสิ่งที่ VVIP ได้ในงาน ซึ่งสำหรับเรา คิดว่ามันไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก แต่ไม่ถึงกับแย่ซะทีเดียว อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ หรือเราเป็นคนไม่คิดมาก 55555
ขยับมาดูบรรยากาศงานกันบ้าง ถือว่าโอเคกับเรานะ
เป็นเรื่องปกติเพราะเป็นการจัดงานช่วงโควิด งานจึงไม่อนุญาตให้นำของกินเข้าไปในบริเวณดูคอนเสิร์ต (น้ำสามารถเอาเข้าได้) จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบก่อนเข้า
ระหว่างที่เราอยู่ในงาน สิ่งที่ทุกคนห้ามขาดคือ หน้ากาก ต้องใส่ตลอดเวลา
พื้นที่ในงานจะมีโซนที่นั่งจากฟางตลอด สามารถนั่งพักได้ อันนี้เรามองว่าดี
แต่ปริมาณอาจจะไม่พอ เพราะคนหลายหมื่นอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
มัน Festival อ่ะเน๊าะ ก็ไม่ได้แปลกอะไร โดยที่จะมีพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่แยกออกไปด้วย
อีกอันที่ป็นจุดขายของปีนี้คือ จุดบูชาวัวจุดนี้ 555555
ตอนกลางคืนงานจะเลิกจริงๆประมาณตี 3
ทำให้เราสามารถเดินตะลอนในงานได้แทบตลอดทั้งคืน
เลยได้แวะมาถ่ายกับพี่วัวตัวโตตัวนี้!!!!
พื้นที่ในงานกว้างมากกกกกกกกก !!!!
เดินแค่วันแรกคือล้า ฝุ่นเยอะแต่เพราะใส่หน้ากาก ชิลไป 55555
รวมถึงขยะก็เยอะมากเช่นกัน แต่เราว่านี่คือเสน่ห์ของ Festival ^^
อ่ะขยับไปดูของกินกัน
"อาหารในงาน"
สำหรับเรามันมีตั้งแต่ราคา 40 บาท ยันเป็น 100 บาท
มีทั้งอร่อยและแบบตักกินคำเดียวแล้ว อืม..พอเลยก็มี 555 อ่ะลองไปดู
ร้านอาหารมีเกือบทุกมุมของพื้นที่ เรียงรายกันให้เลือกเยอะ
ที่ชอบจะมีหนังไก่อันนี้อ่ะ 555
กินตอนเกือบๆตีสาม โอ้โห!!!! ได้เลย ได้พุง 5555
อ่ะ ของดีของปีนี้ ของโปรดของเราเอง บูธ KFC มาตั้งเลยจ้า
และของนี่คือของที่งานขายมากๆ พรีเซนต์มาก คือโซนข้าวไข่เจียว
มีให้เลือกเป็น 10 กว่าร้าน แต่ร้านที่เราเลือก ข้าวไข่เจียว น้ำจิ้มแจ่ว อร่อย
พอเอาจริงๆ ไม่ค่อยได้กินอะไรในงาน 5555 เพราะเดินเพลินจนลืมกิน
พวกเครื่องดื่มมีไซส์เดียวทั้งหมด คิดที่ขวดละ 20 บาท ราคาเดียว
ส่วนแอลกอฮอล์ว่าจะกินวันที่ 2 แต่เจอดราม่าซะก่อน เลิกขายตั้งแต่ 3 ทุ่ม
จบปิ้ง อดจ้าาาาา เพราะฉะนั้น อยากจะทำอะไร กินอะไร จงทำเลย T^T
เอาจริงๆงานนี้ ถือว่าเป็นมิติใหม่ของการดูคอนเสิร์ตจริงๆ
โดยเฉพาะวันที่สองที่มีข่าวจะปิดงาน ที่สุดท้ายแล้วงานจบในเวลา 4 ทุ่ม
เว้นพื้นที่ 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตร มีเชือกฟางตีเส้น
และห้ามยืนเต้นด้วย นั่งได้อย่างเดียว 55555 โอ้ย ได้หรอ แต่ได้อ่ะ
อาจจะเพราะทุกคนอยากให้งานจัดจนจบ แต่มันก็ไม่จบไง 5555
สรุปเลยล่ะกัน สำหรับเราไปครั้งแรกใน VVIP เราโอเค
ความคุ้มค่าที่ได้ ยกให้เรื่องรถบ้าน มันสบายและใกล้มากกกกก
ส่วนอื่นๆ เราเฉยๆ เพราะมันคือ Festival
ถ้าถามว่าจะไปอีกมั้ย??
อยากไปอีกสักครั้งที่เป็นสถานการณ์ปกติ ไม่เอาโควิดอ่ะ 5555
สุดท้ายแล้ว ขอบคุณคนร่วมทริปค่าา
ไว้ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวไหนกันอีก
ฝากติดตามที่ Readme #AnywhereIGobyThita #ฐิตา
Twitter: @AnywhereIGo2
ฐิตา
วันพฤหัสที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.45 น.