One day ในสุราษฎร์ ไปไหนได้บ้าง ??
วันเดย์ทริปที่สุราษฎร์เริ่มต้นของวันด้วยร้านกาแฟ R ซึ่งน่าจะมีประมาณ 2 สาขา
ร้านนี้คนสุราษฎร์แนะนำมาเองเลย อร่อยจริง
เมนูก็มีให้เลือกหลากหลายเป็นเมนู signature ของทางร้านชื่อแปลกๆส่วนฉันได้ลอง shadow และเพื่อนๆลองดับเบิ้ลช็อค กินแล้วอยากจะกินอีก อร่อยมาก
มากันต่อที่ร้านอาหาร มาลองชิม หอยนางรมจากต้นกำเนิดที่เขาว่าหอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ
กินไปคนละตัวราคาหลักสิบ ว้าวจริงๆ
สถานที่ต่อมาก็ขับรถออกมาเที่ยวป่าต้นน้ําบ้านน้ําราด เปิดทุกวันตั้งแต่ 9.00 - 17.00 ถึง
จะมีค่าเข้าชมและค่าห้องน้ำสำหรับผู้ใหญ่คนละ 25 บาทและเด็กคนละ 15 บาท
ขับรถมาก็ค่อนข้างที่จะไกลออกจากตัวเมืองสักเล็กน้อย
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมพาเด็กเล็กเด็กน้อยมาเพราะว่าที่นี่สามารถเล่นน้ำได้
น้ำที่นี่จะมีความใสเพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล มีการจัดการที่ดี ไม่ให้นำน้ำหรืออาหารเข้ามาภายใน
หากใครไม่ต้องการเล่นน้ำผู้ใหญ่อย่างเราก็สามารถพายเรือเล่นได้ก็จะมีค่าพายเรือเสียต่างหากอีก 40 บาท
ก็พายเรือเล่นกันไปไปกลับประมาณซัก 45 นาทีเมื่อยแขนกันเลยทีเดียว น้ำไม่ลึกมาก ถ้าเรือล่มก็คือสามารถยืนได้ 5555
สถานที่ต่อมาก็คือ สะพานแขวน วัดเขาพัง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ขับรถมาไม่เท่าไหร่ก็ถึง
เป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ทอดตัวยาวกว่า 120 เมตรตัดข้ามคลองสระแพง
บรรยากาศรอบๆเป็นทิวเขาเทพพิทักษ์ ถ้าหากมองผ่านสะพานแขวนแล้วจะเห็นเป็นรูปร่างคล้ายๆหัวใจ
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้คนจะต้องมา สถานที่นี้เปิดทุกวันไม่เสียค่าเข้าชม
สถานที่ต่อไปก่อนที่จะกลับเข้าเมืองกันก็คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นอีกหนึ่งเขื่อนที่สวยที่สุดในประเทศไทย
ที่เขาเรียกกันว่ากุ้ยหลินเมืองไทย แวะถ่ายรูปบนสันเขื่อนสักนิด ไหนๆก็ผ่านมาทางนี้แล้ว
เอามากลับเข้าเมืองมาหาอะไรทานแถวๆตลาดแม่น้ำตาปีเดินเล่นชมสะพานข้ามแม่น้ำตาปี
เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของสุราษฎร์ธานี ยามค่ำคืนก็จะเปิดไฟบนสะพานในช่วงเวลา 19:00 - 22:00 ของทุกวัน ให้นักท่องเที่ยวได้ชมสีสันอันสวยงามของแสงไฟ
และชมพระอาทิตย์ตก ริมแม่น้ำตาปี
เดินเลยมาอีกหน่อยจะเป็นศาลหลักเมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองก็ถือเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองของชาวสุราษฎร์ แวะสักการะศาลหลักเมืองก่อนไปต่อกันที่ตลาดศาลเจ้า
อีกหนึ่งที่ต้องมาของสุราษฎร์ธานีก็คือตลาดศาลเจ้า แหล่งช้อปปิ้งของชาวสุราษฎร์เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมีทั้งของกินและของใช้ส่วนมากจะเห็นว่าเป็นของกินซะมากกว่า ของกินเยอะแยะมากมายมีทั้งของคาวของหวานอาหารสด นู่นก็น่ากินนี่ก็น่ากินเลือกไม่ถูกเลย
ยำปูม้าร้านนี้ก็ท่าจะเด็ด ดูจากคนที่ต่อคิวกันเยอะมาก
ร้านขนมจีนป้าอ้อยก็ไม่แพ้กัน คนนั่งเต็มกันทุกโต๊ะ
ทั้งหมดนี้ก็คือ One Day ที่เราจะสามารถไปได้หากใครได้ไปสุราษฎร์แล้วมีวันเหลือก่อนขึ้นเครื่องบินกลับก็สามารถตามรอยกันได้ แต่อาจจะแวะแต่ละสถานที่ได้ไม่นานนัก ก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆทำเวลาของแต่ละสถานที่กันเอาเอง
อาทิตย์หน้าไม่ว่าง
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 21.50 น.