"อยากไปเกาหลีๆ" บอกประโยคนี้กับตัวเองมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว สมัยติดซีรีส์เกาหลีงอมแงม เราไปประเทศอื่นมาก็เยอะนะ แต่ญี่ปุ่น กับ เกาหลี กลับไม่ได้ไปสักที เค้าไปกันค่อนประเทศแล้วมั้ง
แล้ววันดีคืนดีก็ทนรอไม่ไหวแล้ว บอกกับแฟน ไปกันเถอะ แต่ไปทัวร์ละกันนะ ราคาทัวร์เกาหลีดีกว่าไปเองเยอะมาก ราคาทัวร์ทั้งทริป พอๆ กับแค่ค่าตั๋วเครื่องบินเลยอ่ะ และดูโปรแกรมก็ครบอยู่นา ตอนเลือกโปรแกรมทัวร์ คือ ต้องไปเกาะนามิ ต้องไปนอนสกีรีสอร์ท นอกนั้นอะไรก็ได้
ก็เลยได้เริ่มต้นซื้อทริปเกาหลีของเรากัน เป็นครั้งแรกที่ไปเกาหลี เป็นครั้งแรกที่ซื้อทัวร์ ก่อนไปก็ทำใจไว้แล้วว่าไม่เหมือนไปเองแน่นอน เพราะปกติจะจัดทริปเที่ยวเองตลอด แต่ๆๆ ดีกว่าที่คิดอ่ะเธอ ดีงาม เอาละ ออกเดินทางไปเกาหลีกับทัวร์กันเลย
จากดอนเมือง สู่ อินชอน
เริ่มต้นนัดกันที่สนามบินดอนเมือง ไปถึงปุ๊บ บริษัททัวร์ก็จะให้เราจ่ายทิปก่อนเลย จะจ่ายเป็นเงินวอน หรือ เงินไทยก็ได้ จากนั้นก็ไปเช็คอิน รอขึ้นเครื่องตามปกติ ครั้งนี้ใช้บริการหางแดงจ้า ทัวร์ซื้ออาหารล่วงหน้าไว้ให้ เลยมีอาหารเช้าเสิร์ฟบนเครื่อง ก็โอเคอยู่นะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเอง ^^
เมื่อถึงสนามบินอินชอน ก็นะ กว่าจะผ่าน ตม. ออกมาจนครบกรุ๊ปก็นานอยู่ ระหว่างนั้นก็จะเห็นคนที่โดนพาเข้าห้องเย็น เอาเป็นว่า ขอไม่พูดถึงกรณีนี้ แต่มองปุ๊บเราก็ดูออกเหมือนกัน ไม่แปลกที่ ตม.เกาหลี จะดูไม่ออก แต่ไกด์บอกว่า ทัวร์เราออกมากันครบเลย เย้ ยินดีกับทุกคนจริงๆ ทั้งกรุ๊ปเรา มีทั้งหมด 20 คนค่ะ อายุของคนทั้งทริปก็พอๆ กะเรา ไม่ต่างกันมาก ห่างกันประมาณ บวกลบ 10 ปี ไม่เกินนี้ ดีงาม เหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนๆ เลยอ่ะ ^^
ทัวร์ก็ชิลล์ๆ นะคะ ไม่ได้เร่ง ปล่อยให้เราเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเต็มที่ เตรียมรับอากาศหนาวต้นเดือนธันวาคม อุณหภูมิทริปนี้ก็ประมาณ 0 ถึงไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส อากาศแบบนี้ เตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อม เราชอบ พร็อพกำลังดี สวยๆ ไม่หนาวเกิน
เราจะได้ไปเที่ยวแล้ว เริ่มต้นจากการไปกินมื้อกลางวันกันก่อน มื้อนี้เป็นชาบูค่ะ โต๊ะละ 4 คน รสชาติโอเคนะ ใช้ได้อยู่ เติมกิมจิได้ไม่อั้น ของโปรดเราเลย แฟนเราเนี่ยสิ ไปขอเติมหมูด้วย ได้ด้วยนะ 555 ทั้งที่ไม่ใช่บุฟเฟต์ ... ลืมบอกว่าเรากับแฟนกินจุมากกกก เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ ฟาดเรียบ
Nami Island
แล้วก็มาถึงท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะนามิกัน เกาะนามิอยู่เมืองชุนชอน (Chuncheon) จังหวัดคังวอน (Gangwon) เราจะต้องนั่งเรือข้ามไปกันค่ะ กรี๊ด เราจะได้เจอ เบยองจุน แล้วสินะ Winter Love Song เนี่ย ซีรีส์เรื่องโปรดเราเลย คนในทัวร์ที่เด็กกว่าเราสัก 10 ปี ไม่รู้จักแฮะ ต้องบอกว่า กวนมึนโฮ ไง ถึงจะรู้จัก เฮ้อ น้องพลาดแล้วล่ะ
ถึงแล้วจ้าาา ขอไปตามรอย Location ในซีรีส์ก่อนนะ รูปรัวๆ ค่ะ เสียดาย หิมะไม่ตก เลยไม่ได้พื้นขาวๆ แบบในซีรีส์ ทัวร์ก็ให้เวลานานอยู่น้าา เราถ่ายรูปได้จุใจอ่ะ ไม่ได้รีบถ่าย รีบไปแต่อย่างใด สบายๆ เลยแหละ
ไร่สตรอเบอรี่
หลังจากเกาะนามิ ก็แวะไร่สตรอเบอรี่กันก่อน คือ หวานฉ่ำมากมาย แต่เฮ้ย นี่เหรอ ไร่สตรอเบอรี่ มันไม่ได้เป็น outdoor แบบไร่องุ่นบ้านเราเหรอ จินตนาการภาพมาแบบนั้น 555 นี่คือ ไร่สตรอเบอรี่ ส่วนสตรอเบอรี่ที่อยู่บนตั้นนั้น ยังไม่ออกผลค่าาา ส่วนที่ให้ชิม ไม่รู้มาจากต้นไหน หาไม่เจอ
หลังจากนั้น ก็ไปกิน Dakgakbi ไก่บาร์บีคิวผัดซอส และนำข้าวลงไปคลุกด้วย เวลาทานก้อห่อผักอีกทีนึง เราชอบเมนูนี้นะ เหมือนร้านเกาหลีที่ไทยแหละ แต่ไปกินที่นั่น ก็ได้รสชาติอีกแบบ โต๊ะละ 4 คนเหมือนเดิม พอดีเรากับแฟนใส่เสื้อขาว เค้าจะมีผ้ากันเปื้อนสีแดงให้คลุมทับ น่ารัก ได้ฟีลไปเลย คนใส่เสื้อสีๆ อดไปจ้า มองตามกันเป็นแถว ^^
สกีรีสอร์ท
ได้เวลาของสกีรีสอร์ทแล้ว ทัวร์จะถามว่า ใครจะเล่นสกี จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เรากับแฟนไม่เล่นจ้า เพราะเคยเล่นที่สวิสแล้ว เราไม่เก่งด้านนี้ ขอบาย 55 และกว่าจะไปถึง มันก้อดึก อยากถ่ายรูปชิลล์ๆ พักผ่อนมากกว่า
สกีรีสอร์ทที่เราพัก คือ Phoenix Park Ski Resort อยู่ที่เมืองพย็องชัง (Pyeongchang) จังหวัดคังวอน (Gangwon) คือ ใหม่ ดี สวยงาม เป็นที่ถ่ายทำซีรีส์ Autumn in My Heart และจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว 2018 ด้วย ห้องพักดี วิวสวย อาหารเช้าโอเค ทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ยังมีเวลาถ่ายรูปอีกน้าา
โรงเรียนสอนทำกิมจิ
ออกจากสกีรีสอร์ท ก็ตรงไปทำกิมจิ และใส่ชุดฮันบกตามโปรแกรมทัวร์ปกติจ้า ถ้าเรามาเอง ก็ตัดโปรแกรมนี้ออกแน่นอน แต่มาทัวร์ก็ต้องมาอ่านะ ก็ขำๆ สนุกดี มีกิจกรรมให้ทำ ไม่รู้สึกเสียเวลานะ ชุดฮันบกเค้าให้เราเลือกเอง ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันไป สมมติว่าเป็น แดจังกึม นิดนึงเนอะ
จากนั้นก็ไปทานมื้อทีี่รอคอย บุฟเฟต์ปิ้งย่่างกันสักที หรือที่เรียกว่า Pork Calbi มีเวลาให้ทานประมาณ 1 ชั่วโมง ถือว่าโอเคนะ คนอื่นเค้าก็อิ่มกัน แต่ปกติเรากับแฟนกินบุฟเฟต์ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ให้เวลาเท่านี้ น้อยไปหน่อยนึง
Everland
แล้วก็ได้เวลากลับไปเป็นเด็ก กับสวนสนุก Everland ละจ้า สนุกสุดแสนเที่ยว Everland แน่นอนว่ามาถึง อย่างแรกที่เราไปก็คือ T-Express รถไฟเหาะรางไม้ ต้องนั่งกระเช้าไปเล่น เนื่องจากเป็นวันธรรมดา คนน้อยจริงๆ เรานั่งกันคนละกระเช้าเลย และรอแถวเครื่องเล่นนี้แค่ 30 นาทีเองจ้า ก็ได้เล่นละ สนุกมาก เสียวใช้ได้ ใช้เวลาอยู่ที่ Everland ไม่นานค่ะ ตอนแรก เราก็คิดนะ ทำไมทัวร์ให้เวลาครึ่งวัน เพราะเอาเข้าจริง ก็ไม่มีอะไรให้อยู่นานขนาดนั้น ไม่ใช่ Disney หรือ Universal อยู่ทั้งวันยังเล่นไม่ครบ
Seoul Tower
จาก Everland ก็ได้เข้ากรุงโซลกันแล้ว ไปหอคอย Seoul Tower กันที่แรก ทัวร์น่ารักมาก อยากให้ไปทันทั้งตอนยังไม่เปิดไฟ และเปิดไฟ ควบช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกกันเลย ได้ 2 บรรยากาศ ดี๊ดีย์ ไหนๆ มาละ ก็มาคล้องกุญแจกันหน่อยนึง
มื้อเย็นวันนีี้ เป็นบุฟเฟต์ขาปู Seafood ที่เมียงดง เราเฉยๆ นะมื้อนี้ แต่ก็กินไปเยอะอยู ^^ ลงรูปให้ดูนิดนึง
คืนนี้มานอนใน Seoul จ้า เป็นโรงแรม 3 ดาว น่าจะเป็นโรงแรมสำหรับกรุ๊ปทัวร์โดยเฉพาะ เพราะเห็นแต่กรุ๊ปทัวร์เพียบ เรื่องโรงแรมที่นี่แหละที่แย่ที่สุดสำหรับเราในการมาทัวร์ครั้งนี้ นอกนั้นดีงามจริงๆ คือ ห้องพักธรรมดา Heater ไม่ค่อยอุ่น และที่สำคัญ อาหารเช้ามาเป็นโรงอาหารเลยจ้า ทานเสร็จยกถาดไปเก็บด้วยนะ เรากินได้แค่ไข่ต้ม เอาน่า 2 คืน ทนไป T T
ช่วงเช้าสำหรับวันนี้ เป็นโปรแกรมเยี่ยมชมศูนย์ต่างๆ ทั้ง โสม สมุนไพร พลอย เครื่องสำอาง หลายๆ คนไม่อยากไปทัวร์เกาหลี ก็เพราะโปรแกรมเหล่านี้ บอกเลยว่า ไม่ได้แย่แบบที่คุณคิดนะค้าา เค้าจะให้เราฟังก็จริง แต่ฟังเสร็จปุ๊บ จะเป็นช่วงขายของ เค้าไม่บังคับนะ เราไม่ต้องไปรู้สึกอึดอัดจ้า ถ้าไม่อยากซื้อ ก็แค่เดินออกประตู ไปรอข้างนอก หรือรอบนรถเลย ง่ายๆ กรุ๊ปทัวร์เราก็ช่างพร้อมใจกันเดินออก ดีจริงๆ ไม่เสียเวลา ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย ^^
มื้อเที่ยง Samgyetang หรือ ไก่ตุ๋นโสม ภายในไก่จะยัดไส้สมุนไพรต่างๆ เช่น ข้าวเหนียว รากโสม พริกไทยแดง เกาลัด พุทราจีน กินพร้อมกับเครื่องเคียง เป็นเส้นคล้ายเส้นขนมจีน เหล้าโสม พริกไทยดำ เกลือ กิมจิิ ซึ่งรสชาติอาจจะไม่ถูกปากคนไทยที่ชอบรสจัดจ้านสักเท่าไร แต่อากาศหนาวๆ กินอะไรอุ่นๆ ก็ดีเหมือนกัน
Changdeokgung
มาเยี่ยมชมพระราชวังชางด็อกกุง เป็น 1 ใน 5 พระราชวังที่สำคัญของเกาหลี และได้ขึ้นเป็นมรดกด้วย มาวันธรรมดา ไม่มีคนเลยจ้า อย่างกับปิดวังถ่ายรูป เสียดายที่ทัวร์นี้ไม่มีให้ใส่ชุดฮันบก อดเป็นจอมนางแห่งวังหลวงเลย คริคริ
Cheonggyecheon
สถานที่นี้ ตามโปรแกรมทัวร์ไม่มีนะค้าาา เค้าจะพาเราไป Duty Free จ้า ให้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เราไม่มีอะไรจะซื้อ เลยหาข้อมูลมาว่าด้านหน้า Duty Free คือ คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon) อันโด่งดังที่จะเห็นในซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ พอนัดแนะเวลา และจุดนัดพบเรียบร้อย เรากับแฟนก็เดินออกจาก Duty Free มุ่งหน้าสู่จุดหมายของเรา ถ้าคลองแสนแสบบ้านเราปรับปรุงได้แบบนี้จะดีแค่ไหนนะ ^^
Myeong Dong
เย็นวันนี้ เดินเล่น เดินกินที่ตลาดเมียงดง มื้ออิสระค่าา ของกินเพียบ แต่ราคาแอบแรงอยู่นะ เราสองคนก็กินไม่หยุดเลยทีเดียว
พอกลับถึงที่พัก เรากับแฟนอยากออกไปตามหาเต็นท์ผ้าใบแดง แบบซีรีส์เกาหลี ที่นางเอกชอบไปเมา แล้วพระเอกต้องแบกขึ้นหลังกลับบ้านอ่ะ ฟิน 555 หรือถ้านึกไม่ออก ก็เรื่องกวนมึนโฮ ที่ปลาหมึกสดกัดปากพระเอกอ่าจ้า
เดินกันออกไปจนถึงแหล่งขายของเยอะๆ แต่ก็ไม่เจอแบบที่เป็นร้านนั่งให้สั่งต๊อกปกกิ ปลาหมึก โซจู มีแต่เต็นท์ผ้าใบที่ซื้อแล้วยืนกิน โซจูก็ไม่มี ฮือๆๆ เสียใจ แถวเขตที่พักไม่มีแบบนั้น ครั้งหน้าไปเกาหลีอีก จะไปใหม่
เช้าวันกลับ เราไม่ต้องกินอาหารเช้าโรงอาหารแล้ว เย้ๆๆๆ ดีใจเหมือนเด็กได้ไอติมเลย ทัวร์พาไปกินอูด้ง แล้วก็ช้อปปิ้งร้านละลายเงินวอน จากนั้นก็ไปสนามบิน มีอาหารบนเครื่องอีกรอบ และถึงดอนเมืองโดยปลอดภัยค่าา
สรุปการไปเกาหลีกับทัวร์ เราโอเคมาก เทียบกับสิิ่งที่ได้กับเงินที่จ่าย คุ้มมากค่ะ แต่ถ้าประเทศอื่น เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น สำหรับเราคิดว่า ไปเองดีกว่า เพราะเราดูโปรแกรมทัวร์แล้วไม่ถูกใจ แฮร่ๆ
ทริปนี้ของเรา ราคาทัวร์ คนละ 19,900 บาท (ไม่รวมทิปที่สนามบินคนละ 40,000 วอน คือ พันกว่าบาท) แต่เราจองแบบไฟไหม้ ก่อนบิน 4 วัน ได้ลดไปอีกคนละ 5,000 บาท เหลือ 14,900 บาทจ้า ได้นอนสกีรีสอร์ทด้วย คุ้มมั้ยล่ะ ^^ หวังว่า Blog นี้น่าจะเป็นประโยชน์กับคนคิดจะไปเกาหลีกับทัวร์นะค้าาา
Travelholic
วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 20.26 น.