รีวิวทริป ตกหมึกกลางทะเล ชิมซาชิมิหมึกสดๆ ดำน้ำดูปลาที่เกาะกูด จ.ตราด
ทริปตกหมึกกลางทะเลนี้เราซื้อทัวร์แบบ Private Trip จาก Travellogboat ไปกัน 6 คน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,900 บาทค่ะ ตามโปรแกรมด้านล่างนี้เล้ย
(ขอบคุณภาพจากเพจ ดำน้ำ ตกหมึก เกาะกูด เกาะช้าง travellogboat)
โปรแกรมของเราก็คือดำน้ำและตกหมึกในช่วงเช้า 9.00 น. - 12.30 น. จากเดิมทัวร์ตั้งใจจะพาไปที่เกาะแรด แต่พวกเราได้ไปมาก่อนหน้านี้แล้ว เลยปรึกษากับทางทัวร์ และทางทัวร์ก็พาเราไปจุดอื่นค่ะ ซึ่งคือหน้าโรงแรม Soneva เกาะกูดรอบนี้เราพักกันที่กัปตันฮุค รีสอร์ท ซึ่งสปีดโบ๊ทของทางทัวร์มารับเราในเวลา 9.00 น. และเริ่มจากไปดำน้ำก่อน
เรือสปีดโบ๊ทแบบนี้ค่ะ เค้ารับได้สูงสุด 8 คนนะ
ไกด์ที่พาเราไป นอกจากจะคอยดูแล แนะนำ ให้ความรู้เกี่ยวกับปะการังต่างๆ ที่เราเห็นแล้ว ยังมีห่วงยางให้เราเกาะด้วยนะคะ ถ้าว่ายน้ำไม่เป็น หรือรู้สึกไม่ไหว เราเพียงใส่ชูชีพ แว่นสน็อคเกิล แล้วเกาะห่วงยางไว้ ให้คุณน้าไกด์ลากเราดูวิวใต้น้ำไปแบบชิลๆ ได้เลยค่ะ
ถ่ายรูปใต้น้ำให้เราด้วย ใครจะไป ซ้อมท่าสวยๆ ไว้รอเลยนะ ^^
ดำน้ำไม่นานเราก็กลับขึ้นเรือ และทางไกด์ก็พาเราไปกลางทะเลอีกจุดเพื่อตกหมึก ซึ่งเป็นจุดที่ทางไกด์แจ้งว่าเป็นบริเวณที่มักจะตกได้กันเป็นประจำ หลังจากนั้นทางไกด์ก็จัดการเตรียมเบ็ดให้
ตกปลาตกหมึกไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะอุปกรณ์ทางทัวร์เตรียมให้หมดแล้วค่ะ
ขั้นตอนก็คือ เปิดหน้ารอก - ตีเบ็ดออกไป - ปิดหน้ารอก หลังจากนั้นรอให้เหยื่อจมไปนิดนึง แล้วค่อยๆ หมุนสายเบ็ดกลับมา อย่าหมุนเร็วเกิน และอย่าช้าเกิน เพราะสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ เหยื่อลากพื้นแล้วก็ไปติดกับหินใต้น้ำ ดึงไม่ออกจ้า 555+
เช่นเคยค่ะ ถึงแม้เราจะไม่เคยตกสัตว์น้ำใดๆ มาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะคุณไกด์ทำให้เราได้ทุกอย่าง ช่วงแรกๆ เราก็ทำไม่เป็น ได้แต่ยืนอยู่บนหัวเรืองงๆไกด์ตีเบ็ดให้เราเลยค่ะ เราแค่ถือเบ็ดไว้ หมุนๆ สายเบ็ด แล้วก็คอยสังเกตดีๆ ว่าปลายเบ็ดกระตุกรึเปล่า ถ้ากระตุกแปลว่ามีหมึกมากินเบ็ดแล้ว ให้รีบหมุนสายเบ็ดกลับมา แต่มันยากตรงที่จังหวะต้องพอดี ถ้าหมุนช้าไปหรือเร็วไป หมึกจะหลุดจ้า เราจะไม่ได้หมึก และหมึกตัวนั้นก็จะไม่กินเบ็ดอีกแล้ว เพราะว่าหนวดขาด หรือไม่ก็เจ็บหนวด มันจะไม่กินซ้ำแล้วค่ะ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเรารู้สึกว่าเบ็ดกระตุกแต่เราเอากลับไม่ได้ คุณไกด์ก็จะช่วยเราดึงกลับมาได้เช่นกัน ด้วยประสบการณ์ของเค้าจะรู้ค่ะว่ามันคือหมึกหรือที่จริงเบ็ดแค่ติดโขดหินเฉยๆ
เราเลือกโลเคชั่นบนเรือได้ จะอยู่หัวเรือหรือท้ายเรือก็ได้ แค่ระวังอย่าอยู่ใกล้กันมากเกิน เดี๋ยวเบ็ดพันกัน และก็ระวังตอนตีเบ็ดด้วย เพราะถ้าเราเหวี่ยงแรงไปหรือลืมจับสายเบ็ดไว้ เหยื่อที่มีเหล็กแหลมมันจะไปเกี่ยวคนข้างหลังบาดเจ็บได้เด้ออออ
เราตกเองไม่ได้เลย แต่ไกด์ตกได้ค่ะ 555+ เค้ายังบอกด้วยว่าที่จริงหมึกแบบนี้ ตายง่ายมากเลยนะ เอาขึ้นมาแป๊บเดียวก็ตายแล้ว จากตัวสีดำๆ ถ้าตกใจปุ๊บมันจะพ่นหมึกออกมา และพอตายแล้วตัวจะเปลี่ยนเป็นสีขาว
ถ้าใครคนใดคนหนึ่งตกหมึกได้ ทางไกด์ก็จะทำหมึกซาชิมิสดๆ ให้ทานบนเรือเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าหมึกตายง่าย ต้องรีบทานไม่งั้นจะไม่สด ไม่อร่อย ไกด์จัดการล้างทำความสะอาดและแล่หมึกให้ บนเรือมีโชยุ วาซาบิพร้อม ตะเกียบคนละคู่ เนื้อกรุบมาก หวาน ไม่คาวเลย และถ้าเรากินตรงหนวด จะรู้สึกว่าหนวดมันยังมีแรงดูดอยู่ ตอนเรากินส่วนหนวดหมึก พอเข้าปากไปแล้ว หนวดหมึกดูดติดกับเพดานปากเลยค่ะ 5555+ ส่วนหนวดนี่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะ
หลังจากนั้นได้เวลาอันสมควร เราตกหมึกจนถึงเกือบ 12.30 น. สปีดโบ๊ทก็พาเรากลับมาที่กัปตันฮุครีสอร์ท ที่พักของเรา ซึ่งอันที่จริงตามโปรแกรมจะมีไปขึ้นหาดด้วย แต่เราคุยกันแล้วว่าจะไม่ไป ก็เลยใช้เวลาบนเรือไปกับการตกหมึกค่ะ
โดยสรุปก็คือ ไปกัน 6 คน ค่าใช้จ่ายทริปดำน้ำตกหมึกทั้งหมด 5,900 บาท
ได้ทั้งดำน้ำตื้น และตกหมึก รวมอุปกรณ์ทั้งหมด ผลไม้และน้ำดื่ม เป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
อุปกรณ์ที่ควรเตรียมไป :
1. ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ (ไว้เช็ดตัวหรือห่มตอนขึ้นจากดำน้ำ เผื่อหนาว)
2. ครีมกันแดด (ไว้ทาซ้ำค่ะ ตอนตกหมึกแดดแรง ผิวไหม้ได้นะ)
3. ถุงกันน้ำ (ไว้ใส่โทรศัพท์มือถือ กล้อง แว่นตา หรืออื่นๆ ที่ไม่ต้องการให้เปียก)
4. แว่นกันแดด (ย้ำอีกที เพราะตอนตกหมึกแดดแรง เรามองไปรอบตัวยังไงก็แสบตาค่ะ)
ที่เหลือถ้าเราชอบใช้ฟินตอนดำน้ำ หรือมีอุปกรณ์ดำน้ำส่วนตัวที่ชอบใช้ เอาติดไปด้วยก็ดีค่ะ
เป็นทริปที่ดีมาก ประทับใจ สนุก สบาย ไม่เหนื่อย ทางทัวร์บริการดี ไกด์ทั้งสองคนก็เต็มที่มาก นอกจากจะดูแลและอำนวยความสะดวกทุกอย่างแล้ว ยังเป็นกันเองมากๆ เลย ใครมีโอกาสไปเที่ยวเกาะกูด ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปตกหมึกกลางทะเลกันนะคะ
สำหรับ Private Trip ที่เราไป สนใจติดต่อสอบถาม Travellogboat ได้เลยค่า ^_^
Kaewta :)
วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16.09 น.