ไม่ไกลจากพระนอนกลางแจ้ง เป็นวิหารขนาดใหญ่ ที่ยอดหลังคาแหลมสูงถึง 7 ชั้น อีกทั้งยังประดับประดาด้วยลวดลายสีทองอย่างวิจิตรงดงาม ดึงดูดให้เราเดินผ่านซุ้มประตูรูปปั้นสิงโตคู่ เข้าสู่วิหารหลังใหญ่อย่างไม่รู้ตัว

8euftdon3kp0

bivvd3uou2ex

ภายในวิหารเรียงรายไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก จนสุดทางเป็นที่ประดิษฐานพระนอนที่ใหญ่มาก จนต้องสร้างหลังคาขนาดใหญ่คลุมส่วนลำตัวท่อนบน และขา ที่ยาวล้นออกไปนอกวิหาร ใช่แล้ว นี่คือ ชเวตาเลียว องค์จริง ไม่ใช่องค์จำลองที่เราหลงเข้าใจผิดเมื่อครู่ เพราะนอกจากความงดงามของพระพุทธรูปแล้ว ภายในวิหารขนาดใหญ่ ที่สร้างคลุมองค์พระพุทธรูปนั้น เนื่องแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนที่มานมัสการตั้งแต่เช้า

loczo2x841ie

ชเวตาเลียว (Shwe Thalyaung) นั้นเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ที่มีความยาวถึง 180 ฟุต หรือ 54 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.1537 หรือเมื่อกว่าพันปีก่อน โดยพระเจ้าเมงกะติปะ (Miga Depa) กษัตริย์มอญที่เคยครองกรุงหงสาวดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป พระพุทธรูปองค์นี้ก็ถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง จนจมอยู่ในกองดิน จวบจนปีพ.ศ.2424 เมื่อมีการสร้างทางรถไฟสายย่างกุ้ง – มัณฑะเลย์ พระพุทธปางไสยาสน์องค์นี้จึงเผยโฉมให้เห็นอีกครั้ง และได้ผ่านการบูรณะจนงดงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

qbhutigi7j6m

s66tkpptqdkj

Advertisementshopee

แม้ชเวตาเลียวจะเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่มีในเมืองไทย เพราะพระบาทนั้นวางเลื่อมกัน ต่างจากไทยที่มักสร้างพระบาทเสมอกัน โดยพระบาทนั้นประดับด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ตรงกลางทำเป็นรูปธรรมจักร ส่วนพระเศียรมีหมอนที่ประดับลวดลายอย่างสวยงามหนุนรองอยู่ร่วมสิบใบ

pi3cjb9bhguv

o24flzrzlohl

นอกจากนี้ด้านหลังพระพุทธรูปยังมีภาพแสดงเรื่องราวการสร้างพระพุทธรูป แต่ที่น่าสังเกตคือทิศทางการนอนของพระพุทธรูปในภาพ นั้นตรงข้ามกับทิศทางการนอนของพระพุทธรูปองค์จริง

Advertisementkkday

ylz0il1lat05

การเดินทางด้วยเท้ายังไม่สิ้นสุด เราเดินมุ่งสู่มหาเจดีย์ (Mahazedi) ใช่แล้ว ชื่อเจดีย์สีทององค์โตที่อยู่ปลายทางนี้ ชื่อว่ามหาเจดีย์เฉยๆ โดยไม่มีชื่อใดๆต่อท้าย เพราะพม่าเรียกเจดีย์ ว่า เจดีย์ (สำเนียงพม่า คือ เซดี) เหมือนกับที่ไทยเรียก ทำให้เจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ จึงมีชื่อว่ามหาเจดีย์

etsta6ean41g

ลักษณะเด่นของเจดีย์องค์นี้อยู่ที่ฐาน ซึ่งสร้างด้วยศิลปะมอญ มีลักษณะเป็นทรงเหลี่ยม ซ้อนกันสูงหลายชั้น โดยเมื่อแรกเห็นองค์เจดีย์ ความทรงจำก็ทำให้ผมนึกไปถึงเจดีย์ภูเขาทอง เจดีย์องค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทุ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะลักษณะการสร้างโดยเฉพาะส่วนฐานนั้นมีความเหมือนกัน จนเรียกว่าเกือบจะถอดมาจากพิมพ์เดียวกัน สาเหตุเป็นเพราะเจดีย์ทั้งสององค์นี้สร้างโดยมหากษัตริย์คนเดียวกัน นั่นคือ พระเจ้าบุเรงนอง หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในฐานะ ผู้ชนะสิบทิศ

Advertisement

u86havk5vdc1

ea0av2alxps1

หนึ่งในทิศทั้งสิบรวมกรุงศรีอยุธยาเข้าไว้ด้วย เจดีย์ภูเขาทองจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่พระองค์มีเหนือกรุงศรีอยุธยา แต่มหาเจดีย์องค์นี้ คือ เจดีย์ที่ทรงมานมัสการและอธิฐานทุกครั้งที่จะออกรบ ทำให้เจดีย์องค์นี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า เจดีย์บุเรงนอง

gvm3yh0f6bqe

Advertisementklook

co5rq7m5g7tc

ซึ่ง ณ มุมหนึ่งขององค์เจดีย์ มีรูปปั้นพระเจ้าบุเรงนอง กำลังยืนอธิษฐาน แล้วเราก็ลืมตัว ว่าเราเป็นชาวโยเดีย ไม่ใช่ชาวพม่า โดยเข้าไปยืนในตำแหน่งที่พระองค์ทรงยืนอธิษฐานบ้าง แต่คำอธิษฐานของเราคงไม่อาจสัมฤทธิ์ผล เพราะถูกขัดจังหวะโดยคุณลุงชาวพม่าที่เฝ้าเจดีย์ ไม่ใช่คุณลุงมาเตือนเราว่า เป็นชาวโยเดียได้อย่างไง ถึงมาอธิษฐานในตำแหน่งที่กษัตริย์พม่าอธิษฐาน แต่คุณลุงมาเตือนว่า เราสองคนยังไม่ได้จ่ายเงินค่ากล้องถ่ายรูปคนละ 100 จ๊าต !

nv30ekf3s2s5

ความคิดเห็น