หลังจากซึมซับเรื่องราวแห่งอดีตกันจนชุ่มปอด เราก็ชักชวนกันเดินกลับไปยังโบสถ์มะนิลา ไม่ใช่จะชมความงามของโบสถ์กันอีกครั้ง แต่อย่างที่บอกว่าบริเวณหน้าโบสถ์นั้นเป็นจัตุรัสกลางเมือง จึงน่าจะเรียกแท็กซี่ได้ง่ายกว่าหน้าป้อมแซนติเอโก้
เราให้แท็กซี่พาเราไปเที่ยวกันต่อที่มะนิลาโอเชียนปาร์ค (Manila Ocean Park) ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวมะนิลา บริเวณหลักกิโลเมตรที่ศูนย์
มะนิลาโอเชียนปาร์คมีแพ็คเกจให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่ 580 – 990 เปโซ แต่ละแบบมีการเข้าชมโชว์ที่แตกต่างกันไป น่าสังเกตว่าทุกแพ็คเกจเป็นราคาลดกระหน่ำตั้งแต่ 50 – 80 % จึงไม่รู้ว่าราคาเดิมที่ขึ้นป้ายนี้เป็นราคาเดิมจริงๆ หรือเป็นแค่เทคนิคทางการตลาดที่ทำให้ผู้ซื้อคิดว่าราคาที่ซื้อนี้ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาเดิม เห็นเช่นนี้แล้วชวนให้คิดถึงโฆษณากระทะนำเข้าของประเทศหนึ่งที่เรารู้จักกันดี ราคาเป็นหมื่นเราไม่ขาย ขายเพียง 3 พันบาท ซื้อ 1 แถม 1 หนึ่งอันสำหรับตัวคุณเอง อีกอันสำหรับคนที่คุณรัก นอกจากจะโฆษณาชวนเชื่อว่าขายกระทะเคลือบ 7 ชั้นคุณภาพล้ำในราคาแสนถูกแล้ว แทนที่จะซื้ออันเดียว กลับถูกบังคับให้ต้องซื้อทีเดียว 2 อันเลย
เนื่องจากเรามาถึงในเวลาบ่ายแก่ที่เกือบจะเป็นเวลาเย็น โปรแกรมโชว์ต่างๆก็ผ่านไปจนเกือบหมดแล้ว จึงเหลือแค่แพ็คเกจ Deep Sea Rush ราคา 580 เปโซที่ถูกสุดเท่านั้น ซึ่งฟังชื่อแล้วก็เหมาะสมเพราะเป็นการดำดิ่งลึกลงไปในทะเลแบบเร่งด่วนตามเวลาที่เราพอมีอยู่ โดยยังพอมีโชว์เหลือให้ดูที่พอคุ้มกับเงินจ่ายไป
แทบจะไม่ต้องคิดทำอะไร เพระอีกไม่กี่นาที Sea Lion Show ก็จะเริ่มแสดงในเวลา 5 โมงเย็นแล้ว เราจึงเดินไปต่อแถวเพื่อเข้าไปนั่งในอัฒจันทร์เพื่อรอชมการแสดง โดยเป็นการแสดงของชายอวบ 2 คนท่าทางอารมณ์ดี มาหยอกเย้ากับสิงโตทะเล 2 ตัว ให้รับลูกบอล กระโดดรอดห่วง แม้จะเป็นการแสดงพื้นๆที่เห็นได้ทั่วๆไป แต่บรรยากาศที่มีการโต้ตอบกับคนดู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ก็ทำให้เป็นการชมที่เพลิดเพลินดี
จบการแสดงด้วยเวลาประมาณ 30 นาที เราจึงเข้าไปในอาคารหลักของมะนิลาโอเชียนปาร์ค ภายในแบ่งเป็นห้องจัดแสดงหลายห้อง และมากไปด้วยร้านค้าร้านอาหาร เราเริ่มจาก Jellies Exhibit โดยเป็นการจัดแสดงเหล่าแมงกระพรุนที่ตัวนุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ตามชื่อห้องจัดแสดง เจ้าแมงกระพรุนเหล่านี้ตัวโปร่งแสง เมื่อนำมาจัดแสดงในตู้ที่ให้แสงสีต่างๆทั้งสีแดง สีม่วง สีส้ม แมงกระพรุนจึงเปลี่ยนสีตามไปด้วย ดูแล้วงดงามเหมือนอยู่ในโลกอีกใบหนึ่งที่มีเหล่าแมงกระพรุนล่องลอยด้วยสีสันสดใส
อีกห้องจัดแสดงที่เราสามารถเข้าไปชมได้ตามแพ็ตเกจและเวลาที่ยังมีอยู่ นั่นคือ Oceanarium ห้องนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาห้องจัดแสดงทั้งหมด จัดแสดงเหล่าปลาที่อาศัยอยู่ในอ่าวมะนิลา ทั้งแบบอยู่ในตู้ปลาใบใหญ่ และแบบให้เราเดินรอดอุโมงค์ที่มีฝูงปลาแวกว่ายอยู่เหนือศีรษะ
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอหลายรูปแบบ ทั้งเดินอยู่ในป่าดิบชื้น และโซน Lost Atlantis ที่มีฝูงปลาแหวกว่ายท่ามกลางเสาของเหล่าวิหารโบราณในจินตนาการของทวีปแอตแลนติสที่จมหายไปในมหาสมุทร
แล้วก็ได้เวลาชมการแสดงที่เป็นไฮไลน์ของมะนิลาโอเชียนปาร์ค นั่นคือ Symphony Evening Show เป็นการแสดงแสงสีที่ยิงไปบนม่านน้ำพุ ประกอบเสียงเพลงซิมโฟนี่อย่างสวยงามและน่าตื่นใจ อีกทั้งยังสะท้อนศิลปวัฒนธรรมการละเล่นของแต่ละชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท้องฟ้ายิ่งมืด ความสวยงามก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นการจบความทรงจำจากมะนิลาโอเชียนปาร์คได้อย่างน่าประทับใจ
กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.34 น.