ช่วงเย็นวันนี้ผมวางแผนจะย้อนอดีตเมืองซีบูที่ถนนโคลอน อดีตถนนการค้าที่เคยเจริญรุ่งเรือง โดยเริ่มย้อนอดีตกันที่บ้านแยบแซนดิเอโก้ (Yap – Sandiego Ancestral House) หนึ่งในบ้านของพ่อค้าชาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดของฟิลิปปินส์ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนปัจจุบันได้ปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตในอดีตของพ่อค้าในเมืองซีบู

svcvrphzh0qs

mjivl6zu5xfi

ด้านหน้าบ้านแยบแซนดิเอโก้ประดับด้วยโคมแดงจำนวนมากอย่างสวยงามเชื้อเชิญให้เข้าไปเยือน ตัวบ้านมีความสูง 2 ชั้น ด้านล่างก่อด้วยอิฐแบบโบราณ ภายในโปร่งพื้นโรยด้วยหินในลักษณะเป็นใต้ถุน ใช้เป็นที่ทำครัวและกินอาหาร โดยยังคงมีโต๊ะกินข้าวพร้อมถ้วยชามจัดแสดงให้ได้เห็น แต่ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างมืด ประกอบกับมีตุ๊กตาโบราณตั้งอยู่ตามมุมต่างๆ ทำให้บรรยากาศดูลึกลับน่ากลัวอยู่ไม่น้อย

8pp6ojdkarkl

3ch0dm5k6cav

ph7hnxnr1nzg

alcx5p8i9zx7

ส่วนที่ใช้อยู่อาศัยจริงๆอยู่ที่ชั้น 2 สร้างด้วยไม้ แบ่งเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่นัก 3 ห้อง ภายในยังคงมีเตียงและข้าวของเครื่องใช้ในอดีตจัดแสดง ซึ่งถือว่าหรูหรามากในอดีต มองสูงขึ้นไปเห็นแผ่นกระเบื้องมุงหลังคาโดยไม่มีฝ้า

o25id90ic5ms

8w2d6s64ezaq

or8luwecbyo4

4tcx32we4k6w

ที่ผมถูกใจคือที่คว่ำจาน ซึ่งทำยื่นออกไปจากหน้าต่าง นอกจากประหยัดพื้นที่ภายในบ้านแล้ว หยดน้ำจากจานที่ล้างก็ไม่ทำให้บ้านเปียกด้วย แถมยังได้แสงแดดฆ่าเชื้อไปในตัว

sxlkym0dv0hk

vsk6vq7jjesy

fhyfo34lhbxd

dz6403mjwy9c

ฝั่งตรงข้ามบ้านแยบแซนดิเอโก้เป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ Heritage of Cebu โครงสร้างอนุสาวรีย์สร้างด้วยวัสดุที่หลากหลาย ฐานเป็นคอนกรีต ส่วนตัวอนุสาวรีย์มีทั้งทองเหลือง ทองแดง และเหล็ก ดูเป็นอนุสาวรีย์ที่แปลกมาก เพราะนอกจากจะมีรูปปั้นของคนหลากเชื้อชาติ ทั้งสเปน จีน และชนเผ่าดั้งเดิมที่มีส่วนในการสร้างความเจริญให้กับซีบูแล้ว ยังมีการสร้างเรือสำเภา ไม้กางเขน และโบสถ์คริสต์ขนาดใหญ่ไว้บนนั้น ซึ่งสะท้อนภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีตของซีบู สร้างแล้วเสร็จเมื่อปีค.ศ.2000

xxy94wg03j3n

oywi8s292dos

83rkri93mek6

อนุสาวรีย์ Heritage of Cebu ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดบรรจบของถนนหลายสาย หนึ่งในถนนเหล่านั้นคือถนนโคลอน (Colon) ถนนสายเศรษฐกิจสายแรกของซีบูตั้งแต่ปีค.ศ.1565 ในอดีตถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงาน ร้านค้า ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น และโรงภาพยนตร์ จึงเป็นเสมือนหัวใจของซีบูในอดีต แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตัวเมืองเริ่มขยายตัว ถนนที่เคยเป็นหัวใจแห่งธุรกิจจึงเริ่มคับแคบ ไม่สามารถสร้างอาคารทันสมัยได้ ศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจจึงย้ายออกไปยังตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดคาร์บอน หรือย่านฟูเอนเต้

9jcgnelsh1c5

mfze95perlv2

qkt3kjmm05d4

ถนนโคลอนในวันนี้ แม้จะยังคงเห็นอาคารร้านค้าสมัยเก่า ที่นิยมสร้างชั้น 2 ให้ยื่นออกมาเป็นเหมือนหลังคาคุมทางเดินหน้าร้าน ตามแบบคาโลเนียน แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเงียบเหงา ร้านค้าเกือบทั้งหมดปิดประตูอย่างเงียบเชียบเหมือนจะเก็บงำความรุ่งเรืองของอดีตไว้ไม่ให้ใครรู้

03bz2x6bhibf

wr8l7dfvkzbb

wzr7efir8dfr

จากถนนโคลอนไม่ไกล เป็นที่ตั้งของโบสถ์ซีบูเมโทรโปลิแตน (Cebu Metropolitan Cathedral) หนึ่งในโบสถ์เก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยตกอยู่ในอาณานิคมสเปน ตั้งแต่ปีค.ศ.1595 โดยนักบุญ Vitales เป็นอาคารสองชั้น ด้านซ้ายเป็นหอระฆังขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วเป็นการออกแบบอย่างเรียบๆ ยิ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะโดยทาสีขาวทั้งหลัง จึงให้ความรู้สึกสะอาดตา

oo73x464ogg7

83hrdxazi6lz

5h8ensduy7nc

แล้วในที่สุดผมก็สามารถชักชวนให้คุณชายจุ๋ยกินอาหารริมถนนสำเร็จอีกครั้ง โดยที่หน้าโบสถ์มีร้านรถเข็นขายขนมที่แม้หน้าตาจะแสนธรรมดา แต่ด้วยมีไฟลุกจากเตาเผาเคลื่อนที่ที่ติดตั้งบนรถสามล้อถีบ เราจึงตรงเข้าไปดู ขนมนี้มีชื่อเรียกว่าอะไรไม่รู้ เพราะสื่อสารกับคนขายไม่รู้เรื่อง โดยทำจากแป้งผสมมะพร้าวและน้ำตาล วางเป็นชิ้นๆบนถาด แล้วใช้วิธีการอบด้วยความร้อนจากไฟที่ลุกโชนจนเกือบจะเรียกว่าย่าง ราคาชิ้นละ 5 เปโซ ถือเป็นอาหารข้างทางที่อร่อยและถูกใจคุณชายจุ๋ยยิ่งนัก

jbvszswbflch

a337ivna7ltn

หากมาซีบูโดยมีโบสถ์เก่าแก่เป็นจุดหมายปลายทางแล้วไม่มาเยือนโบสถ์บาสิลิกา มินาเร เดล แซนโต นิโน (Basilica Minore Del Santo Nino) อาจถือว่ามาไม่ถึงซีบู เพราะโบสถ์ใจกลางเมืองแห่งนี้มีคริสต์ศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด ทุกวันบริเวณหน้าโบสถ์จะมากไปด้วยผู้คน และหญิงสูงวัยที่ใส่เสื้อเหลือง กระโปรงแดงที่นำเทียนหลากสีมาขายเพื่อนำไปจุดบูชาภายในโบสถ์

wjph83nfczks

7su9yc8pwwod

ex1djzysljwv

สาเหตุที่โบสถ์แห่งนี้มีคนมาเยือนจำนวนมาก เพราะเป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1565 สำหรับตัวโบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันนี้ ได้รับการบูรณะหลายครั้งจากเหตุเพลิงไหม้ ครั้งล่าสุดบูรณะเมื่อปีค.ศ.1735 หรือเกือบ 3 ร้อยปีก่อน ตัวโบสถ์ภายนอกเป็นสีขาวเรียบๆ ลวยลายมีเฉพาะบริเวณด้านข้างกับหน้าบันเหนือบานประตู

8yxa8gd3pspk

จุดเด่นของโบสถ์อยู่ที่ภายใน ซึ่งมีทั้งภาพวาดและกระจกสีที่ช่องหน้าต่างที่สวยงาม และที่สำคัญคือผนังด้านในสุดซึ่งใช้เป็นที่ประกอบพิธี เป็นรูปนักบุญหลายคนยืนกันเป็น 3 แถว ภายในกรอบสีทองอร่าม

rfxfzx4tzg5g

p592yn6stddw

เราปิดท้ายวันนี้กันที่ป้อมแซนเปโดร (Fort San Pedro) ป้อมปราการโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบระหว่างเกาะซีบูกับเกาะแมคตัน ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือซีบู มีทั้งเรือพาณิชย์และเรือเฟอร์รี่สำหรับเดินทางไปยังเกาะต่างๆ

nmzosrh6i9oy

u1t4vvbtm7d5

ภายนอกป้อมปราการแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับป้อมแซนติเอโก้ในกรุงมะนิลา เหนือซุ้มประตูมีตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์สเปนปรากฏอยู่เช่นกัน แต่ป้อมแซนเปโดรนั้นมีความเก่าแก่กว่า เพราะเมืองซีบูเป็นเมืองที่สเปนก้าวขึ้นแผ่นดินฟิลิปปินส์เป็นเมืองแรก และสร้างป้อมแห่งนี้เป็นป้อมแรกในปีค.ศ.1565 แต่เดิมสร้างด้วยไม้และดินเหนียว จนเมื่อปีค.ศ.1738 จึงมีการบูณระครั้งใหญ่ พร้อมเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

yitx7j629uza

lflmdj96z7e3

te0wkhtr5qgl

นอกจากเป็นป้อมปราการสำหรับป้องกันข้าศึกในสมัยที่ปกครองโดยสเปนแล้ว ป้อมแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นคุกจองจำชาวฟิลิปิโนที่คิดการปฏิวัติ และยังใช้เป็นที่จองจำทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันถูกปรับปรุงให้มีลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพถ่ายเก่าแก่ของเมืองซีบู และภาพวาดแสดงเรื่องราวการต่อสู้ของลาปูลาปู หัวหน้าเผ่าที่ปกครองเกาะแมคตันกับทัพเรือของแมเจลแลนส์

qadwdgsrjs69

l173hv3v2itb

o4e6dvmn4z2b

w93ohrvvf63y

แต่ดูจากสภาพภายนอกที่มีโคมไฟติดประดับตามต้นไม้และป้อมปราการแล้ว ทำให้อาจหลงคิดว่าสถานที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์นี้ คือร้านกินดื่มก็เป็นได้

j2atpxrcxxqp

ความคิดเห็น