แบกเป้ตะลอนทัวร์จากกรุงเทพฯ ถึง จ.น่าน

   เพื่อความทรงจำ ที่ได้มีโอกาศเดินทางไปท่องเที่ยว ชมวิถีชีวิตประเพณีวัฒนธรรม ความเป็นอยู่และชมบรรยากาศช่วงเข้าสู่หน้าหนาวของปีนี้  ที่ จ.น่าน จึงนำเอาเรื่องราวตั้งแต่การเดินทางจากกรุงเทพฯ จนถึงปลายทางมาบันทึกไว้เป็นความทรงจำดี ๆ ที่ได้ไปเที่ยว มาบันทึกไว้เป็นเรื่องราวความทรงจำตลอดไป..

( ปล.  ... ในการใช้บริการรถทัวร์ ขนส่งเอกชน ในครั้งนี้ ได้ซื้อตั๋ว ด้วยเงินตนเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรับจ้างรีวิว บริษัทขนส่งนี้แต่อย่างใด ทั้งสิ้น  )

ในเวลาช่วงบ่าย สี่โมงเย็นของเย็นวันศุกร์ ต้นเดือน พฤศจิกายน  16.45 น. ได้เดินทางจากที่พักด้วยรถ taxy มายังบริษัทขนส่งเอกชน ริมถนนวิภาวดี ในเวลา 17.30 น. ก่อนเวลารถทัวร์ออก เกือบ ชม.

ซึ่งในการเดินทางเราครั้งนี้  คณะเรามีทั้งหมด 5 คน ได้จองตั่ว รถทัวร์ไว้ก่อนแล้ว พร้อมต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน ป้องกันโควิต 19 ด้วย ตามมาตรการป้องกันโรค ของรัฐด้วย  ซึ่งราคาตั๋วต่อเที่ยว ของรถโดยสารปรับอากาศ จาก กทม. จุดหมายปลายทางยัง จ.น่าน ราคาค่าตั๋ว 592 บาท ต่อเที่ยว ออกเดินทางในช่วงเวลา 18.20 น.  แต่กว่าจะได้เดินทางก็ เป็นเวลา เกือบ 19.00 น. ซึ่งถนนวิภาวดีรังสิต ตลอดออกนอกเมือง มีการจราจรหนาแน่นพอสมควร

..นั่งในรถทัวร์ปรับอากาศ หลับ ๆ ตื่น ๆ มาถึงสถานีจุดพักรถ ที่ จ.พิษณุโลก ในเวลา เที่ยงคืนกว่า 00.30 น. น้องพนักงานต้อนรับคนสวย ของรถทัวร์เปิดไฟในห้องโดยสารพร้อมแจ้ง พักทานอาหารและได้พักอริยาบท เข้าห้องน้ำล้างหน้าตา เป็นเวลา 20 นาที ซึ่งหางตั๋วโดยสาร สามารถนำมาแลกฟรี เป็นข้าวแกง หรือก๋วยเตี๋ยว ได้ 1 ชาม และน้ำเปล่า 1 ถ้วย ที่จุดพักรถของบริษัทนี้

หลังรถทัวร์ ได้แวะจุดพักรถที่ จ.พิษณุโลก เป็นที่เรียบร้อยต่อจากนี้ รถวิ่งยาวรวดเดียว ถึง จ.น่าน มาถึงเวลาปาเข้าไป 04.50 น. เกือบเช้าเลยทีเดียว

ในสถานีขนส่ง จ.น่าน บรรยากาศยามเช้า ๆ กำลังเย็นสบาย ที่ขนส่งยังไร้ผู้คนของที่นี่ ดูเงียบเหงา ยังไร้ผู้คนไม่พลุกพล่าน ดูแล้วไม่เร่งรีบวุ่นวายยุ่งเหยิงมาก เหมือนอยู่ในเมืองกรุง.

   นี่ละชีวิตของคน ตจว.อยู่แบบ สโลว์ไลฟ์ สบาย ๆ เนิบ ๆ แบบ น่านนะสิน่ะ  ..สบายกาย สบายใจ ตั้งแต่มาถึงเยียบย่าง ยังเมืองน่านแห่งนี้..

จากสถานีขนส่งของ จ.น่าน เรารับรถเช่าที่ได้ติดต่อไว้แล้ว นำมาส่งเราถึงที่  เมื่อได้รถแล้วจุดหมายปลายทางเช้านี้ ที่หมาย อ.บ่อเกลือ ลองขับรถแวะเข้าในตัวเมืองดูก็ยังเงียบสงบ ผู้คนทั้งหลาย คงพักกายหลับสบายกันอยู่ จึงได้มุ่งหน้าออก นอกเมืองมา

เมื่อขับรถมานอกเมือง ผ่านหลายหมู่บ้านเริ่มจะเช้าแล้ว หลายหมู่บ้าน มีตลาดขายกับข้าว ตอนเช้า ๆ เลยแวะจอดซื้ออาหาร พื้นบ้าน พร้อมทั้งทำบุญใส่บาตร ในตอนเช้า ๆ ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่อไป

เราใช้เส้นทาง น่าน- สันติสุข- บ่อเกลือ ตลอดสองข้างทางยามเช้าอากาศเย็นสบาย มีสายหมอกปกคลุมตลอดสองฟากถนน ทั้งยังมีป่าไม้ยังสีเขียวขจี สลับไม้ดอกสีเหลืองข้างทางเป็นระยะสวยงามสบายตา

ที่จ.น่าน เขาว่า กาแฟที่นี่รสชาดดี ไม่เป็นรอง ที่ใดในโลก จุดแรกที่เรา แวะมาชิมกาแฟและชมวิวสวย กับบรรยากาศดีมาก ๆ ติดริมทางไหล่เขา
มีที่จอดรถกว้างขวางสดวกดี  นั่นคือร้าน" กิ่วม่วงฮิลล์ " บ้านกิ่วม่วง ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข ร้านนี้ ร้านเป็นไม้สองชั้น โล่งโปร่ง เดินลงมาด้านล่างมีมุมนั่งเล่นจิบกาแฟ ชมวิว ดูทะเลหมอกและ แสงแดดยามเช้า

ทางเข้าร้านมีภาพโปสการ์ดขนาดใหญ่ ชาวน่านเรียก" ปู่ม่าน ย่าม่าน "หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภาพ กระซิบรักบรรลือโลก ที่ชาวไทยและทั่วโลกรู้จักดี ด้านหน้าร้านก็สวย 

                   ( บรรยากาศด้านบนของร้าน)

             ( บรรยากาศ เดินลงมาด้านล่าง ของร้าน )

หลังจิบกาแฟสด รสชาดดีของทางร้าน เลยอาศัย ที่นั่งจิบกาแฟสวย ๆ บรรยากาศดี เติมพลังงานกับอาหารเช้า ไปด้วยเลย ที่เราซื้อหาเตรียมมาเองจากตลาดชุมชน อาศัยสถานที่ด้วย ชมวิว ทะเลหมอก แสงแดดยามเช้าสวย ๆ ไปด้วย

อาหารพื้นบ้าน ของชาวบ้าน ตลอดหมูปิ้ง ข้าวเหนี่ยว ได้ เติมแรงพลังงาน ที่เดินทางมาตลอดทั้งคืน ให้เช้านี้ได้มีแรงและความสดชื่นตลอดการท่องเที่ยวน่าน ในทริปครั้งนี้ตลอดทั้งวัน

เส้นทางสาย อ.บ่อเกลือ ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ เราอดแวะไม่ได้ เข้าชมและชิมกาแฟ กับทางร้านอีกจุดหนึ่ง ไม่รู้ว่าร้านอะไรแต่ กะต๊อบคลาสสิคมากและจุดนั่งจิบกาแฟ ชมวิวของทางร้านก็สวยงามแบบ 360 องศา

จาก กรุงเทพฯ ถึง จ.น่าน โดยเช้าของวันนี้ เรามีจุดหมายท่องเที่ยว น่าน แบบ slow life ไปแบบ  เนิบ เนิบ แบบน่านนะสิ  เพื่อความทรงจำ ดีๆ ที่ได้มาเยือน 

ทริปแรกนี้  จากกรุงเทพ ฯ สู่เมืองน่าน ถึงที่หมาย เรียบร้อย รอติดตาม จุดหมายที่สวยๆ ต่อไป..