Go See Write เล่าเรื่องเที่ยว
อ่าวมาหยา มนตร์เสน่ห์แห่งท้องทะเลอันดามัน
l กระบี่ 3 วัน 2 คืน
สวัสดีครับ ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่ จ.กระบี่ ซึ่งถือโอกาสนี้ไปเที่ยวเกาะที่กระบี่ซะด้วยเลยประกอบกับได้ยินข่าวมาว่าอ่าวมาหยาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว อ่าวมาหยานั้นเป็นสถานที่ที่ผมอยากไปเที่ยวมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว ซึ่งอ่าวมาหยาปิดงดการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเล และในที่สุดอ่าวมาหยาก็ได้ให้เข้าเที่ยวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา แล้วผมจะพลาดไปท่องเที่ยวที่อ่าวมาหยาได้อย่างไรละ ไปกันเลยจ้า
วันที่ 1 เริ่มต้นการเดินทาง
ผมเริ่มต้นการเดินทางตอนเช้าโดยขับรถยนต์ส่วนตัวและแน่นอนหากใครมากระบี่จะต้องผ่านนถนนโอโซนนั่นก็คือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษมนั่นเองซึงจะมีอยู่ช่วงหนึ่งของถนนก่อนที่จะถึงตัวเมืองกระบี่ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นสูงตระหง่าไปตามถนนทำให้ความรู้สึกสดชื่นไปตลอดทาง
ผมขับรถมาเรื่อย ๆ จนถึงแยกปลาลัง เมื่อมาถึงแยกนี้แล้วหากเลี้ยวซ้ายจะไปสนามบินกระบี่หรือจังหวัดตรังแต่ผมต้องขับรถตรงเพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4200 ขับรถไปประมาณ 2.5 กิโลเมตรจนถึงสี่แยกไฟแดงเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 4034 (ปากน้ำกระบี่ - เขาทอง) จากแยกนี้ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 4204 (ไสไทย - สุสานหอย 75 ล้านปี) ไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตรก็จะถึงทางแยกเข้าสู่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา ซึ่งจะมีป้ายเด่นชัดไม่หลงแน่นอน
ตรงท่าเรืออ่าวน้ำเมามี่ที่จอดรถโดยมีค่าบริการ 100 บาท/คืน แต่หากใครจองที่พักไว้ที่หาดไร่เลย์ให้ติดต่อที่พักที่จองมาเพราะส่วนใหญ่ทางโรงแรมจะมีที่จอดรถฟรีให้บริการตรงท่าเรือน้ำเมา สำหรับผมแล้วได้จองห้องพักไว้ที่ ไร่เลย์ การ์เด้นวิว รีสอร์ต ทางรีสอร์ตได้แจ้งผมมาว่ามีลานจอดรถฟรีที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา เราสามารถแจ้ง รปภ. ว่าพักที่ไร่เลย์ การ์เด้นวิว รีสอร์ต ได้เลย ซึ่งลานจอดรถก็อยู่ไม่ไกลจากจุดซื้อตั๋วเรือ
การเดินทางไปที่หาดไร่เลย์จะต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าเป็น "เกาะ" แต่ที่จริงแล้วหาดไร่เลย์ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ แต่ที่ต้องเดินทางด้วยเรือเพราะหาดไร่เลย์ถูกภูเขาล้อมรอบทุกด้าน ทำให้ผู้คนที่จะเดินทางมาเที่ยวหาดไร่เลย์ต้องนั่งเรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้นจึงทำให้มีความรู้สึกว่าเหมือนอยู่บนเกาะ
ค่าเรือ หากเป็นเรือคิวจะมีบริการตลอดที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา ซึ่งค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาท ต่อคน ต่อเที่ยว เรือจะออกจากฝั่งเมื่อมีผู้โดยสาร 6-10 ท่าน แนะนำขึ้นเรือก่อน 5 โมงเย็น
หากไม่ต้องการรอคิวสามารถจองเรือแบบเหมาลำได้ราคาอยู่ที่ประมาณ 600 บาทต่อเที่ยว (ราคาก่อน 6 โมงเย็นและจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 5 คน) แนะนำจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ชม.
เนื่องจากสถารการณ์โควิด-19 ตรงท่าเรือจะมีการตรวจใบฉีดวัคซีน หรือผลตรวจโควิด-19 (ไม่เกิน 72 ชม.)
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 10 นาทีก็ถึงท่าเรือหาดไร่เลย์ฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นท่าเรือสะพานยาง ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นท่าเรือหลักของหาดไร่เลย์ก็ว่าได้เนื่องจากเรือรับส่งผู้โดยสารและสินค้าส่วนใหญ่จะมาเทียบท่าที่ท่าเรือแห่งนี้
จากท่าเรือไร่เลย์ฝั่งตะวันเมื่อเดินขึ้นฝั่งแล้วผมเดินลี้ยวขวาแล้วเดินต่อไปที่รีสอร์ตอีกประมาณ 10 นาที ทางเดินไปรีสอร์ตที่ผมจองไว้จะเป็นทางเดินแคบ ๆ เรียบชายฝั่งทะเล ช่วงที่ผมมาเป็นเวลาน้ำลงพอดีจึงทำให้เห็นหาดทรายกว้างขวาง
หาดไร่เลย์ฝั่งตะวันออกจะไม่นิยมเล่นน้ำกันเนื่องจากเป็นหาดโคลนและมีหินกรวด นักท่องเที่ยวจะนิยมไปเล่นน้ำกันที่หาดไร่เลย์ฝั่งตะวันตกมากกว่าเนื่องจากเป็นหาดทรายขาวละเอียด
ผมเดินผ่านร้านอาหารและโรงแรมต่าง ๆ ได้สักพักก็มาถึงจุดนี้ซึ่งเป็นอุโมงค์ธรรมชาติจากต้นไม้ ระหว่างทางเดินมีต้นไม้ปกคลุมให้ความร่มรื่นมาตลอด
ถัดจากจุดอุโมงค์ต้นไม้คือทางขึ้นไปที่รีสอร์ต เป็นบันไดคอนกรีตทอดยาวขึ้นไปบนภูเขา
ด่านแรกที่เราจะมาเจอคือล็อบบี้และจุดเช็คอินของรีสอร์ต ผมพักที่ ไร่เลย์ การ์เด้นวิว รีสอร์ต (Railay Garden View Resort) เป็นรีสอร์ตที่ตั้งอยู่เชิงเขาท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีริมทะเล ผมนั่งพักสักครู่หนึ่งเพราะเหนื่อยจากการเดินขึ้นมา 555 พนักงานขอบัตรประชาชนและใบฉีดวัคซีนซึ่งสามารถเปิดให้เขาดูได้เลยในแอพหมอพร้อม เช็คอินใช้เวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจห้องให้พร้อมกับมีพี่พนักงานอีกคนหนึ่งเดินนำพาผมไปที่ห้องพัก
ภัตตาคารของรีสอร์ต พนักงานเช็คอินแจ้งว่าช่วงที่เกิดโรคระบาดทางรีสอร์ตงดให้บริการอาหารเช้าชั่วคราว แต่ที่ห้องอาหารแห่งนี้มีชา กาแฟ น้ำผลไม้ ให้บริการตลอดทั้งวัน ในตอนเช้าจะมีขนมทานคู่กับกาแฟให้ด้วย ซึ่งตรงห้องอาหารนี้จะมีลมทะเลพัดอยู่ตลอดเวลาและเราสามารถชมวิวทะเลได้จากที่นี่อีกเช่นกัน
เดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นผมก็มาถึงบ้านพักของผมแล้ว ซึ่งผมจองเป็นห้องโอเชี่ยนวิว
ห้องพักเป็นวิลล่า เตียงนั้นนุ่มสบายสุดๆ ห้องพักและห้องน้ำตกแต่งได้ตามสไตล์บ้านเรือนไทย หากเปิดหน้าต่างจะได้รับลมธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์จากทะเล
เปิดประตูมาที่ตรงระเบียงพบกับวิวทะเลและสวนต้นไม้ นับว่าเป็นที่พักที่ให้ความร่มรื่น รู้สึกสดชื่นสมกับเป็นที่พักใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ
นอกจากวิวทะเลแล้วเรายังสามารถชื่นชมต้นไม้นานาพรรณ หากวันไหนโชคดีเราอาจจะเจอกับค่าง สัตว์ประจำถิ่นหาดไร่เลย์มาอวดอวยความน่ารักให้กับเราได้ชื่นชม ความร่มรื่นของธรรมชาติสมกับเป็นชื่อที่พัก การ์เด้นวิว รีสอร์ตจริง ๆ
หลังจากพักผ่อนหย่อนใจเรียบร้อยแล้ว ในตอนเย็นของวันผมไปเที่ยวที่หาดไร่เลย์ฝั่งตะวันตกและหาดถ้ำพระนาง
ผมเดินจากรีสอร์ตไปที่หาดไร่เลย์ฝั่งตะวันตกซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที
หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีลักษณะเป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมหน้าผาสูง ซึ่งหาดไร่เลย์เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา โดยหาดไร่เลย์แบ่งออกเป็นหาดไร่เลย์ตะวันออกและหาดไร่เลย์ตะวันตก มีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่คั่นระหว่างหาดทั้งสอง บริเวณหาดมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวหลายที่ด้วยกัน
จากหาดไร่เลย์ (ฝั่งตะวันตก) ผมเดินต่อไปที่หาดถ้ำพระนางซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินถึงกันได้ ซึ่งทางเดินไปหาดถ้ำพระนางจะเรียบติดริมหน้าผา ระหว่างทางจะพบกับศิวลึงค์ตั้งตระหง่ากลางทางเดิน มีน้ำหยดใส่อยู่ตลอดเวลา
เมื่อเดินออกมาจากทางเดินริมหน้าผาเราก็เจอหาดถ้ำพระนางอยู่ตรงหน้า ที่นี่มีชายหาดที่ขาว สวยงาม มีวิวภูเขาหินปูนและหน้าผา เดินไปสุดทางซ้ายจะเจอกับถ้ำ มีศาลพระนางตั้งอยู่ ที่ล้อมรอบไปด้วยทรายขาวและน้ำทะเลใส
ทางด้านขวามือเป็นเกาะรังนก หรือ เกาะเหลาลาดิง เป็นเกาะตั้งอยู่ใกล้ริมหาดถ้ำพระนาง บนเกาะมีรังนกอยู่จำนวนมาก เกาะรังนกเปรียบเสมือนจุดเด่นหรือแลนมาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปควบคู่ไปกับหาดถ้ำพระนางแห่งนี้
หากเดินไปสุดทางขวาของหาดถ้ำพระนางก็พบกับถ้ำค้างคาว
ผมใช้เวลาอยู่ที่หาดถ้ำพระนางจนถึงตอนเย็นเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกขอบฟ้าซึ่งเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและพระอาทิตย์ตกสวยงามมาก ๆ
ช่างเป็นบรรยากาศที่ดีพร้อมได้เก็บภาพความงดงามของพระอาทิตย์ตกยามเย็นมาอวดโฉฒกัน
วันที่ 2 เที่ยวเกาะวันเดย์ทริป
ผมตื่นมาตั้งแต่เช้า ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ และรับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารริมทางเดินไปท่าเรือ วันนี้ผมมีนัดกับไกด์ท่านหนึ่ง ผมได้จองทัวร์เที่ยวเกาะแบบวันเดย์ทริปจากทางเพจเฟจบุ๊คที่ชื่อเพจว่า ไกด์พาเที่ยวกระบี่ โดยไกด์ได้นัดผมให้มารอเรือประมาณ 08:30 น. ที่ท่าเรือหาดไร่เลย์ฝั่งตะวันออก ไม่นานนักมีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ผมรับสายปลายทางเป็นเสียงผู้หญิงแจ้งว่าอีกประมาณ 20 นาทีเรือจะมาถึง ผมก็รับทราบตามที่เขาแจ้ง รอได้ไม่นานก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาอีก แต่ครั้งนี้เป็นเสียงผู้ชายแจ้งว่าเป็นไกด์นำเที่ยวของผมวันนี้ และแจ้งกับผมอีกว่าอีกประมาณ 10 นาทีเรือจะมาถึง
เรือมารับผมและออกจากท่าเรือในเวลาประมาณ 09:00 น. โดยทัวร์ที่ผมจองนั้นเป็นทัวร์แบบ join trip ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆมาร่วมทริปกับผมด้วยในครั้งนี้
และด้านล่างนี้คือแผนที่ที่ผมไปเที่ยวในวันนี้
ผมเดินทางจากท่าเรือไร่เลย์ฝั่งตะวันออกมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางแรกนั่นก็คือเกาะพีพีเล ในโปรแกรมเราจะไปแวะชมอ่าวมาหยาเป็นที่แรก โดยใช้เวลาเดินทางด้วยเรือสปีดโบ้ทจากท่าเรือที่อ่าวไร่เลย์ประมาณ 40 นาที
เรือได้มาส่งพวกเราที่ท่าเรืออ่าวโล๊ะซามะ เมื่อเรือแวะจอดส่งเราแล้วจะไปลอยลำอยู่กลางอ่าว จากจุดนี้เราต้องเดินเท้าเพื่อไปที่อ่าวมาหยา
นับว่าเป็นความโชคดีมากๆในชีวิตของผมกับการเดินทางมาที่นี่ ภาพแรกที่เห็นด้วยตาของผมคือภาพอ่าวมาหยาที่มีน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ภูเขาสูงตระหง่าที่โอบล้อมจนกลายเป็นอ่าว หาดทรายขาวละเอียดมาก ๆ น้ำใสจนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำ มันสวยจนผมบรรยายไม่ถูก เอาเป็นว่าสวรรค์บนดินนั้นมีอยู่จริง เกาะสวาทหาดสวรรค์คำนี้ใช้ได้กับที่นี่จริง ๆ
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเลซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับสองในหมู่เกาะพีพี อ่าวมาหยาเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติจากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อมแหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน ประกอบกับน้ำทะเลสีเขียวสดใสจนมองเห็นพื้นทราย และมีหาดทรายขาวสะอาด ทรายละเอียด ทำให้มีทิวทัศน์สวยงามเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อ่าวมาหยามีชื่อเสียงในระดับโลก หลังจากถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach (พ.ศ. 2543) นำแสดงโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ วันไหนโชคดีเราอาจจะได้เจอปลาฉลามมาแหวกว่ายให้เราได้รับชมกัน
ปัจจุบันอ่าวมาหยาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมแล้วหลังจากปิดไปหลายปี อ่าวมาหยายังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ รวมถึงการนำเรือเข้ามาในอ่าว
จากอ่าวมาหยาไกด์ได้นำเราเดินทางต่อไปที่อ่าวปิเละ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอ่าวมาหยามากนัก
อ่าวปิเละ ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล มีลักษณะคล้ายกับ Lagoon หรือ ทะเลใน น้ำทะเลใสสะอาดสีเขียวมรกต พื้นน้ำนิ่งและตื้นจนมองเห็นฝูงปลามากมาย และมีปะการังอุดมสมบูรณ์ รอบด้านถูกโอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชัน
ผมเชื่อว่าใครมาเที่ยวนอกจากจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ และท้องทะเลแล้ว จะต้องได้ภาพงามๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกแน่นอน
ต่อจากนั้นไกด์ได้พาไปเที่ยวชมถ้ำไวกิ้งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอ่าวปิเละ
ถ้ำไวกิ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิงผาถ้ำมุมทางทิศใต้ของเกาะพีพีเล ไกด์ได้เล่าว่า พบภาพบนผนังถ้ำมีภาพเรือใบสามเสา หัวงอน อันเป็นที่มาของชื่อ " ไวกิ้ง " เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหญ่ว่า ถ้ำพญานาค ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค โดยปัจจุบันบริษัท สก๊อต ได้เป็นผู้ถือครองสัมปทานในการเก็บรังนก ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปข้างในถ้ำได้ ทำได้เพียงชมจากเรือภายนอกเท่านั้น
หลังจากเยี่ยมชมความงามของถ้ำไวกิ้งแล้ว ไกด์ได้พาไปดำน้ำซึ่งจุดดำน้ำก็อยู่บริเวณเกาะพีพเล โดยจุดดำน้ำดูปะการังทางไกด์และกัปตันเรือจะเป็นผู้กำหนดว่าจุดไหนที่สามารถดำน้ำได้บ้าง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กระแสน้ำ น้ำขึ้น-น้ำลงและกระแสลมในเวลานั้นเป็นหลัก การมาเที่ยววันเดย์ทริปในครั้งนี้จะมีการดำน้ำ 2 จุด ช่วงเช้า 1 จุด และช่วงบ่ายอีก 1 จุด โดยการดำน้ำในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีในแต่ละจุด หากใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นสามารถคลายกังวลไปได้เลย ทางไกด์จะมีทีมเรือหรือสตาฟพาลงเล่นน้ำได้ โดยการเกาะห่วงชูชีพไปกับทีมไกด์ได้เลย
เนื่องจากผมไม่มีกล้องถ่ายรูปใต้น้ำจึงทำให้ไม่สามารถนำภาพบรรยากาศใต้น้ำมาให้ดูได้ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ :) แต่รับรองความสวยงามของ ปะการัง ปลาน้อยใหญ่ สีสันใต้น้ำไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน
หลังจากดำน้ำจุดนี้เสร็จแล้วไกด์ได้นำพวกเราไปรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอน โดยค่าอาหารนั้นรวมไปกับค่าทัวร์แล้ว หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราก็ไปจุดดำน้ำจุดที่ 2 กันต่อ
จากเกาะพีพีดอน นั่งเรือไปอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำแล้วครับ
เมื่อเสร็จจากดำน้ำจุดนี้แล้ว ไกด์ได้พาไปเที่ยวเกาะสุดท้ายของวันนี้นั่นก็คือเกาะไม้ไผ่
เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ห่างจากเกาะพีพีดอนประมาณ 3 กิโลเมตร ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวมรกต และแนวปะการังซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ สามารถเดินวนได้รอบเกาะได้
ผมชอบเล่นน้ำทะเลที่เกาะไม้ไผ่มาก ๆ เพราะที่นี่น้ำทะเลสีฟ้าใส ทรายขาวละเอียด ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินเล่นริมหาด เล่นน้ำ ถ่ายภาพ และดำน้ำดูปะการังซึ่งมีปะการังหลากหลายชนิด มีมากทางทิศใต้ของเกาะ ได้รับการขนานนามว่า “ดงปะการังแสนไร่” โดยส่วนมากหากใครจองทัวร์แบบ One Day Trip เที่ยวเกาะพีพีต้นทางจากกระบี่ เกาะไม้ไผ่มักจะเป็นที่สุดท้ายที่คณะทัวร์จะแวะให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ ถ่ายรูป และพักผ่อนก่อนที่จะกลับฝั่งกระบี่ครับ
วันนี้ผมสนุกมากกับการเที่ยวเกาะที่กระบี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเที่ยวกับไกด์ที่เป็นกันเองมาก ๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่ไกด์คนเดียว รวมทั้งทีมงานหรือสตาฟทุกคนบนเรือ ผมแนะนำเลยครับกับ ไกด์พาเที่ยวกระบี่ สามารถกดลิงค์แล้วจองได้เลยนะครับ แนะนำทัวร์นี้จริง ๆ รับรองสนุกแน่นอนครับ
วันที่ 3 เก็บไว้เป็นความทรงจำแล้วนำไปเล่าสู่กันฟัง
มาเที่ยวเกาะที่กระบี่ครั้งนี้ผมมีความสุขมาก ๆ และสนุกที่สุด ผมเชื่อเลยว่าทะเลไทยนี่และสวยที่สุดแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชอบมาท่องเที่ยวที่ทะเลที่ประเทศไทยของเรา
วันนี้ผมเดินทางกลับแล้ว ผมออกจากโรงแรมและได้มาซื้อตั๋วเรือเพื่อกลับไปที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา สำหรับการจองตั๋วเรือขากลับเราสามารถมาจองได้ที่ท่าเรือไร่เลย์ฝั่งตะวันออกได้เลยโดยจ่ายค่าเรือโดยตรงกับคนขับเรือซึ่งคนขับเรือจะมารอนักท่องเที่ยวที่ท่าเรืออยู่แล้ว
ระหว่างทางผมได้แวะไปที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในอำเภออ่าวลึก ซึ่งได้ฉายาว่าเป็นคาเฟ่ที่วิวสวยมาก ๆ
จากท่าเรืออ่าวน้ำเมา ผมขับรถขึ้นไปทางตอนเหนือของ จ.กระบี่ ใช้เวลาในกรเดินทางประมาณ 1 ชม. ก็ถึง Ao Luek Ocean View | อ่าวลึกโอเชียนวิว
จุดชมวิวที่นี่กำลังเป็นที่โด่งดังและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายภาพและเป็นจุดเช็คอิน แห่งใหม่ของกระบี่ นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของธรรมชาติอ่าวพังงาที่เบื้องล่างมีเกาะน้อยใหญ่ ป่าโกงกาง ป่าชายเลน สัมผัสพระอาทิตย์ตกยามเย็น สามารถมองเห็นเกาะหมาก เกาะปูแดง มีเครื่องดื่มคอยให้บริการ ทุกประเภท รวมทั้งอาหารตามสั่งในราคาที่ไม่แพงไว้คอยต้อนรับรักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวิวถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
การเดินทางไป อ่าวลึก โอเซี่ยล วิว Ao Luek Ocean View จากตัวอำเภออ่าวลึก 11 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางชัดเจนเป็นถนนลาดยางตลอดสายเมื่อไปถึงสุดถนนลาดยางจะเป็นถนนคอนกรีตให้ขับรถไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเจอที่จอดรถของคาเฟ่อยู่ตรงหน้า
แผนที่พิกัด: Ao Luek Ocean View | อ่าวลึกโอเชียนวิว
การเดินทางครั้งนี้สนุกมาก ๆ ผมได้นำเรื่องราวมาแชร์ไว้ในรีวิวแห่งนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้อาจจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับนักเดินทางทุกท่าน
ผมฝากกดติดตามและให้กำลังใจกับเพจ Go See Write เล่า เรื่อง เที่ยว ไว้ด้วยนะครับ
แล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไปครับ ขอบคุณครับ
Readme.me: Go See Write เล่า เรื่อง เที่ยว
Facebook: Go See Write เล่า เรื่อง เที่ยว
go see write เล่าเรื่องเที่ยว
วันพฤหัสที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.22 น.