บันทึกการเดินทาง : ปางอุ๋ง 2 วัน 1 คืน
“ ปางอุ๋ง ” ชื่อที่ใครหลายคนคุ้นหู สถานที่ เต็มไปด้วยภาพในฝัน สายหมอกบนผืนน้ำ
ตัดกับวิวทิวเขาที่เต็มไปด้วยป่าสน ลานกางเต็นท์ เรือพายในอ่างเก็บน้ำกับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมา จนใครที่เห็นภาพต้องพูดกับตัวเองในใจว่า อยากไปปางอุ๋งซักครั้งหนึ่งให้ได้
การเดินทางรอบนี้ ติ้ง น้องชายเราได้เอ่ยปากชวนว่าอยากไปปางอุ๋งอีกซักครั้ง ไปด้วยกันมั้ย
ต้องบอกก่อนว่า ปางอุ๋งคือสถานที่ ที่เราเคยไปมาแล้วกับน้องชาย 2 คน เมื่อปีก่อน
ทำให้ภาพความประทับใจนั้นยังตราตึงในตัวเรา แต่รอบนี้ พวกเราจะไปกันทั้งหมด 4 คน
ไม่ใช่การเที่ยวแบบพี่น้องละ แต่มี ตอย และ วินไปกับเราด้วย
เส้นทางการเดินทาง
อาเขตเชียงใหม่ – ตลาดสายหยุดแม่ฮ่องสอน - ร้าน JD รถเช่า – ปางอุ๋ง – บ้านรักไทย
- บขส.แม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่
การเดินทางรอบนี้เราตกลงกันว่าจะนั่งรถไปถึงแม่ฮ่องสอน แล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับขึ้นปางอุ๋งกัน
รถตู้เปรมประชา สายเชียงใหม่แม่ฮ่องสอน คงป็นทางเลือกสำหรับการขึ้นแม่ฮ่องสอนที่ง่ายที่สุด
พวกเราใช้เวลาเดินทางไปแม่ฮ่องสอนกว่า 5 ชม. ในเส้นทางที่เค้าว่าโค้งเยอะและโหดที่สุดในประเทศ
ผ่านปาย ปางมะผ้า และถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน รวมๆ 2000 กว่าโค้ง ตั้งแต่ 8:00 – 13:00 ได้
ทำเอาสงสารน้องตอยที่เป็นคนเมารถอยู่แล้วด้วย เรียกได้ว่านั่งจนเบื่อเลย ><
พอมาถึงแม่ฮ่องสอน พวกเราก็เลือกลงที่ตลาดสายหยุด ในเมืองและตรงดิ่งไปที่ร้าน JD รถเช่า
ที่เรากับน้องเคยมาเช่ากันรอบก่อน พี่เจ้าของคนเดิมก็ยังใจดีเหมือนเดิม แนะนำหลายๆอย่าง
ถึงแม้ว่าจะจำพวกเราไม่ได้ก็ตาม
ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นปางอุ๋งไม่ใช่เรื่องยากหรอก
จากประสบการณ์เรากับติ้ง ที่ผ่านการขึ้นเขามานับไม่ถ้วนและที่นี่ก็ยังเคยเป็นครั้งแรกของพวกเราอีกด้วยในการขับขึ้นเขาเมื่อปีก่อน ทำให้การไปรอบนี้ไม่มีเรื่องน่ากังวลไปมากกว่าอากาศระหว่างทางที่โคตรเย็น แต่แดดก็โคตรแรงมันเป็นอะไรที่ขัดกันมาก
พวกเราใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในการขับจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปถึงปางอุ๋ง ระหว่างทาง วินที่ซ้อนเราอินกับการถ่าย gopro มาก เอะอะเจอวิวสวยๆบอกให้จอด แต่ต้องยอมรับจริงๆเสน่ห์ของการขับมอเตอร์ไซค์เราคือเมื่อไรที่อยากจอดก็แค่จอด มันชิวมาก และตลอดข้างทางวิวก็สวย
เป็นช่วงฤดูที่ป่าไม้เริ่มผลัดใบ เริ่มมาสีส้มแซมๆในผืนป่า สวยงามมาก
ถึงแล้วปางอุ๋ง กับบรยากาศที่รู้สึกดีเหมือนเดิม
ประสบการณ์เที่ยวช่วง high season ตอนแรกแอบกังวลว่าคนจะเยอะ แต่คนไม่ได้เยอะแบบที่คิด
ถือว่าเป็นโชคดีของเรา
เรามากัน 4 คน เลือกนอนเต็นท์ชาวบ้าน 1 หลังและเอามากางเองอีก 1 หลัง
ติ้งได้ติดต่อเต็นท์ชาวบ้านแถวๆร้านหมูกระทะไว้ นอนได้ 3 คน พร้อมเครื่องนอน 400 บาท
เอาจริงก็ถือว่าคุ้มเลย เทียบกับไปอุทยานอื่น ที่ต้องเช่าเต็นท์ เสียค่าพื้นที่ เสียค่าเครื่องนอน
ตามจำนวนคน แต่อันนี้ 400 คือจบ อุ่น นอนสบาย แต่เราดันมากัน 4 คนไงเลยเสียสละไปนอนเต็นท์ตัวเองที่ไม่มีอะไรเลย lol ไอ้วินก็อาสามานอนด้วย ก็เลยกลายเป็นแยก 2-2 ไป
หลังจากที่พวกเราเข้าเต็นท์ ต่างคนต่างไปเดินเล่นตามสไตล์ของตัวเอง ติ้งก็ไปนั่งเรือกับตอย
วินก็เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายสตอรี่ IG เก็บไว้ในหลายๆจุด ส่วนเราก็เคลียสัมภาระ เดินไปดูในมุมที่ไม่เคยเดินไป และซักพักเรากับวิน ก็ตกลงที่จะเดินไปด้านสันเขื่อนในช่วงเย็น
และก็ได้เจอหงส์ขาว เจ้าถิ่นของปางอุ๋ง ที่กำลังกินอาหารอยู่ ดูเหมือนว่าเจ้าหงส์เนี่ยจะดุเอาเรื่องเลย
เราเข้าไปยื่นให้เอะอะมันจะงับมือเราตลอดเลย
แสงสุดท้าย ณ ปางอุ๋ง
เรากับวินเดินไปเรื่อยๆจนถึงท่าเรือพาย ช่วงเวลานั้นคนเริ่มน้อย แสงเริ่มไม่มี
ณ ท่าเรือพายพี่ที่พายเรือก็กำลังจะเลิก พวกเรามีโอกาสถามเค้าว่าถ้าอยากนั่งต้องทำยังไง
พี่เค้าบอกน้องมาตอนเช้าเลย เริ่มพายตั้งแต่ตี 5 มาก่อนได้ก่อน รอบละ 150 บาท
แน่นอนเรากับวินทั้งคู่ต่างคิดในใจว่าคราวหน้ามาค่อยขึ้นละกัน ไอ้วินบอกจะพาแม่มานั่งเรือ โอเคส่วนเราก็รอมีคนมานั่งด้วยละกัน ไว้รอถึงเวลานั้นก่อน อยากเก็บความรู้สึกไว้คราวหน้า
ก่อนแสงสุดท้ายจะลับไป เราเดินกลับไปที่จุดกางเต็นท์เพราะติ้งกับตอยบ่นหิวเลยอาสาไปสั่งหมูกระทะรอ ของชอบของน้องตอยเค้าแหละและยังเป็นอาหารคู่หูกับการไปเที่ยวที่หนาวๆซะจริงๆ
หลังจากกินกันเสร็จ พวกเรานัดกันมานั่งผิงไฟจากเตาหมูกระทะที่เหลือ ช่วงเวลานั้นมันดีมากเลยนะ เราได้นั่งคุยกัน อากาศหนาวๆกับมันเผาที่ซื้อติดมา พร้อมกับจิบโซจูอุ่นๆ มันทำให้รู้สึกถึงความครบรสของการมาเที่ยวแบบตั้งแคมป์จริงๆ
ยามเช้าที่รอคอย กับสายหมอกที่ไม่เป็นใจ
เราตื่นขึ้นมาประมาณ 6:00 ท่ามกลางแสงสลัวๆ ที่คาดหวังจะได้เห็น เมย สายหมอกที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่วันนี้เป็นวันที่น่าเสียดายจริงๆ ที่หมอกมันน้อยเหลือเกิน จนแทบไม่เห็น
ทำให้วินกับตอยที่ยังไม่เคยมา อาจจะพลาดวิวที่ดีที่สุดของปางอุ๋งไปเลยก็ได้
แต่ก็นะ ไว้ให้ทั้งคามีโอกาสได้มาตามล่าภาพในความทรงจำที่ เรากับติ้งเคยเห็นมาแล้ว
และยกให้ที่นี่เป็นสถานที่ในดวงใจเราเลยล่ะ
แสงแรกที่ลอดผ่านช่องเขา วิวทะเลสาบที่ถูกสะท้อนเป็นสีทอง
ผู้คนที่ต่อคิวเพื่อนั่งเรือพายยามเช้า คงไม่ต่างอะไรกับช่วงเวลาแห่งวัยเด็กที่เราจะต่อคิวซื้อข้าวเที่ยวร้านอร่อยที่โรงอาหาร ที่ใครๆต่างก็อยากกินไก่ทอดร้านเด็ดของโรงเรียนเป็นแน่ๆ
บริเวณสันเขื่อน จะเป็นจุดแรกที่แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านแนวเขาที่ห้อมล้อมปางอุ๋งไว้ลงมาเป็นที่แรก ถึงแม้พวกเราจะพลาดโอกาสเห็นหมอกบนทะเลสาบ แต่บรรยากาศยามเช้าปางอุ๋งก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย เราใช้เวลาอยู่กับสันเขื่อนซักพัก จนแดดเริ่มแรง พวกเราก็เดินไปหาอาหารเช้ากินต่อในหมู่บ้าน พร้อมกับไปกินกาแฟคั่วเองของร้านลุงปาละ ที่เป็นร้านดังของที่นี่เลยล่ะ
นั่งเดิม มุมเดิม และบรรยากาศเดิมๆ
มันจะมีที่นั่งในศาลาตรงท่าเรือ เป็นมุมที่เราสามารถมองเห็นปางอุ๋งได้ 2 ฝั่ง และเป็นจุดที่เราชอบที่สุดตั้งแต่ครั้งแรกที่มาปางอุ๋งเลย การได้มานั่งมองวิว ไม่ต้องคิดอะไรตรงนั้น มองเรือที่ผ่านไปผ่านมา ได้เห็นบรรยากาศความสุขของแต่ละคน อาจจะเป็นความชอบส่วนตัวก็ได้นะ
แถมนอกจากนี้ขากลับไปเต็นท์ เราจะเดินผ่านแนวสนที่ถูกแสงแดดลอดผ่าน นี่ก็เป็นอีกจุดที่เราชอบมาเลย ได้นั่งมองผืนน้ำ อาบแดดคลายความหนาวยามเช้า เป็นจุดที่ดีจริงๆ
ก่อนกลับเอาให้คุ้ม ไปเดินเล่นบ้านรักไทย ใน 1 ชม.
ก่อนกลับพวกเราตกลงกันว่าจะแวะไปบ้านรักไทย สถานที่ ที่เมื่อมาเที่ยวปางอุ๋งแล้วไม่ให้เสียเที่ยวก็ต้องไปบ้านรักไทยต่อ เพราะการเดินทางมาแม่ฮ่องสอน ใช้เวลามากพอสมควร การไปสถานที่ใกล้เคียงให้หมดก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
แต่ด้วยรอบรถขากลับที่จองไว้ ทำให้เรามีเวลากับบ้านรักไทยน้อยมาก และคิดว่าที่นี่ไม่เหมาะกับพวกเราด้วย เพราะคิดว่าคนที่มาที่นี่ควรจะมากินอาหารจีนยูนาน ซื้อใบชากลับบ้านบ้าง หรือมานอนค้างซักคืน ทำให้พวกเรามีเวลาเดินเล่นกันได้รอบนึง แล้วก็ต้องออกจากหมู่บ้านรักไทยซะแล้ว และมุ่งหน้าเดินทางกลับเชียงใหม่กันซะแล้ว
ปางอุ๋ง ยังไงก็คือปางอุ๋งแหละ
เรามีโอกาสถามติ้งที่เคยมาปางอุ๋งกันแล้ว “ เอ้ยติ้ง มึงรู้สึกยังไงบ้างกับการมาอีกครั้ง ”
ก็ถามเล่นๆแหละ และส่วนตัวติ้งมันเป็นคนไม่อินกับสถานที่ท่องเที่ยวเท่าไร เว้นแต่ว่าที่ไหนทำให้มันประทับใจ มันจะจดจำที่นั่นเลย และไอ้ติ้งก็พูดกับเราว่า “ ดีนะ ถึงแม้เราจะไม่เห็นหมอก แต่ยังไง ปางอุ๋งก็คือ ปางอุ๋งแหละ ยังสวยที่สุดเหมือนเดิม ”
อาจจะเป็นคำพูดเล่นๆของน้องเรา แต่ส่วนตัวก็ยังให้ที่นี่เหมือนเดิมนะ บรรยากาศ วิว ลานกางเต็นท์
หมู่บ้าน หรือจะเป็นเจ้าหงส์ หลายสิ่งๆที่มี ณ ที่นี่ ก็ยังคงเหมือนเดิม ทำให้คิดถึงอีกแน่นอน
แล้ววันนึงเราจะกลับมาใหม่นะ ปางอุ๋ง
เขียนโดย ป.ปลาตัวกลม
ติดตามเรื่องราวของพวกเราได้ที่
Facebook : เหนียวที่ พี่น้อง
Instagram : nt_phinong
youtube : https://www.youtube.com/channe...
nnatsu roll
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 15.41 น.