วัดม่วง สักการะหลวงพ่อใหญ่ วิเศษชัยชาญ…
การเดินทางครั้งนี้พอมีเหตุและปัจจัยอยู่บ้าง…
เมื่อประมาณน่าจะสี่ปีที่แล้ว เราเคยได้มีโอกาสมาเยือน วิเศษชัยชาญ ครั้งนั้นมาทำภารกิจบางอย่าง ภาพจำคือ จำไม่ได้เลยว่าเราเคยมาที่นี่
เมื่อประมาณ สี่ห้าวันที่ผ่านมา พี่สาวเราเอาภาพที่ไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาก มาให้ดู คือ สวยอ่ะ เลยอยากรู้ว่าที่ไหน…
วัดม่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทองภาพจำแทบไม่มี แต่ความทรงจำยังพอมีอยู่บ้าง อืมมมมมม เราเคยไปมานะ แต่นานมาแล้ว สรุปเลยแล้วกัน……
พระพุทธรูปองค์ใหญ่สวยมาก
อยากไปถ่ายรูปสถานที่นี่เคยไปแล้วแต่ทำไมจำไม่ได้ อยากไปอีกครั้ง เหมือนมันค้างคาอยู่ในใจ
อ่างทองไม่ใกล้ไม่ไกล ไปวันเดียวทริป สบายๆ
ไปเริ่มต้นการเดินทางกัน….
แปดโมงกว่าๆ เราออกเดินทางจากแม่กลอง เข้ากรุงเทพแวะทำธุระนิดหน่อย ก่อนมุ่งหน้าสู่อ่างทอง กว่าจะได้ออกจากกรุงเทพเกือบเที่ยง เมืองหลวงอ่ะนะ อย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้เลย เวลามันบวกๆไปเยอะ ไปต่อๆ…
ขับรถผ่านรังสิต อยุธยา ถึงอ่างทองประมาณบ่ายโมงนิดๆ หิวสิ ท่องโลกออนไลน์พบร้านอาหารน่าจะอร่อยและดีงาม ชื่อร้าน นิรมิต ร้านอาหารไทยสไตล์เราชอบกิน อยู่วิเศษชัยชาญ ใกล้วัดด้วย งั้นขับต่อไป…
ผ่านเข้าเมืองอ่างทอง เจอไปสาม สี่ ห้า หก แยกไฟแดงไฟเขียว ทะลุออกไปอำเภอวิเศษชัยชาญ ไม่ไกลมาก ใช้เวลาไปถึงสิบนาที เลยป้ายทางเข้าวัดม่วง ไปนิดเดียว ก็จะเจอป้ายบอกทางไปร้านนิรมิต คือ ถ้าขับรถมาเปิดดู พิกัด จาก google map ได้เลยตรงเป๊ะ…
ถึงร้านแล้ว มีคนไม่เยอะ ก็มันคงเลยเวลาอาหารเที่ยงมาซักพักใหญ่ๆแล้วล่ะ สั่งอาหารมาสี่อย่าง ได้อย่างเร็ว อันนี้คือ ถูกใจที่สุดในโลก รสชาติอาหารว่าอร่อยมากแล้ว ด้วยความที่เสริฟเร็วมากยิ่งอร่อยเข้าไปอีก
เนื่องจากมีลูกค้าทานอาหารอยู่ในร้านด้วยเลยถ่ายบรรยากาศมาได้นิดหน่อย เดี๋ยวจะไปรบกวนการกินข้าวเค้า แต่ภาพอาหารเราจัดเต็ม เชิญชม…
อาหารรสชาติดี บรรยากาศดี ทุกอย่างดี เชียร์ให้มาชิม…
บรรยากาศร้าน…
ปูหลน แกงส้มไข่ชะอมกุ้ง ปลาทอดน้ำปลา ยำคะน้า…
อิ่มแล้ว ก็ไปกันต่อ พนักงานเค้าแนะนำให้มาเดินตลาดศาลเจ้าโรงทอง เป็นตลาดเก่าแก่อายุเกินร้อยปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต้องไปชมแล้ว…ขับรถออกมาจากร้าน เลี้ยวเข้าจอดวัดนางใน ใช้เวลาสองนาทีถึง คืออยู่ใกล้ๆกันนั้นแหละ แต่วันเวลาที่เราไปอาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่ตลาดคึกคัก มันก็เลยดูเงียบเหงา ร้านค้าปิดซะเยอะ ไม่เป็นไรไว้ค่อยมาใหม่
เกือบๆบ่ายสามโมง เราก็มาถึงสถานที่ที่เราตั้งใจว่าจะมา…..
ขออธิบายภาพภายในวัดม่วง ในแบบที่เราได้สัมผัสมานะ จากลานจอดรถภายในวัดม่วง (วันนี้คนน้อยมาก ที่จอดรถมีให้เลือกมากมาย) ด้านขวามือจะเป็นโบสถ์วัดม่วง ที่น่าสนใจคือ กำแพงโบสถ์ บัวปูนปั้นขนาดใหญ่สีชมพู ล้อมตัวโบสถ์อยู่ด้านใน เป็นกำแพงใบบัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามภาพเลย
ภายในโบสถ์เราไม่ได้เข้าไปนะ คิดว่าน่าจะเป็นสถานที่ไว้ประกอบพิธีทางศาสนา เราตรงไปเข้าชม วิหารแก้ว อันนี้สวยงามวิจิตรการตามาก ภายในตัววิหารใช้กระจกหลายๆชิ้นมาปะติดปะต่อกัน มาทำเป็นผนัง เสา หลังคา ประดับไฟสวยงามจริงๆ ภายในวิหารยังเป็นที่เก็บสังขาร ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) เป็นผู้ซึ่งบูรณะวัดม่วงขึ้นมาใหม่
ออกจากวิหารแก้ว เดินไปด้านหลังก็จะพบกับรูปปั้นเมืองจำลอง นรก สวรรค์ อันนี้เราขอผ่านนะไปชมไฮไลต์สำคัญของวัดม่วงเลยดีกว่า
“พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” มีขนาดหน้าตักกว้าง 62 เมตร สูง 93 เมตร เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ฉาบด้วยสีทองอร่าม งดงามจริง ทางขึ้นด้านหน้า มีรูปปั้นพญานาคสามเศียร ใช้เวลาก่อสร้าง 16 ปี
หลวงพ่อใหญ่ (เรียกตามคนในพื้นที่) ตระหง่านโดดเด่นสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ใครที่ได้มากราบไหว้ ขอพร ส่วนใหญ่ก็จะต้องไปสัมผัสบริเวณปลายนิ้วของหลวงพ่อใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคล
ก็ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจเรียบร้อยกับการกลับมาย้อนภาพจำในครั้งก่อนโน้น ซึ่งก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี มาครั้งนี้เหมือนมาเที่ยวครั้งแรกเลย
ออกจากวัดม่วงประมาณเกือบห้าโมงเย็น ยังไม่อยากลับเพราะกลัวรถจะติดเลยแวะหาร้านนั่งกินชา กินขนมแถวๆนั้นเพลินเพลิน ดูพระอาทิตย์ตก กับภาพหลวงพ่อใหญ่ก่อนกลับดีกว่า ท่องไปในโลกออนไลน์อีกแล้ว มีอยู่สองสามที่ เข้าประเด็นในแบบที่ต้องการ สุดท้ายจิ้มไปที่ The Lao Cafe’ AngThong
ออกจากวัดเลี้ยวขวาใช้เส้นทางที่จะกลับบ้าน ประมาณสี่กิโล แล้วยูเทรินกลับ ขับมาอีกนิดเดียวก็จะเจอร้าน Tha Lao Cafe ในวันและเวลานั้น เราคือลูกค้ากลุ่มเดียวในร้าน ก็จะเขินๆอยู่นะ แต่พนักงานเป็นกันเองมาก บอกตามสบายค่ะ ร้านปิดประมาณหกโมงครึ่ง เราก็ตามนั้น ตามสบายครับ นั่งเพลิดเพลิน ถ่ายรูปก็เพลิน ร้านนี้วิวดีมากมาย มากจริงๆ
ลากลับบ้านกับแสงสุดท้ายที่ปลายท้องนา เก็บเกี่ยวความดีงาม ความประทับใจไปเยอะมาก แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ตั้งใจจะวันเดียวทริป กลายเป็นครึ่งวันทริป แต่ดีจริงๆ ไว้จะกลับมาใหม่นะ
จบบริบูรณ์
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันพฤหัสที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 09.42 น.