วันแรก (วันพุธ)
ก่อนจะเริ่มเดินทางก็แน่นอนครัช เตรียมตัวอยู๋พอสมควร หาข้อมูลว่าจะไปพักที่ไหนบ้างเพราะเป้าหมายของเราคือไปเรียนเดินป่าที่อช.ดอยภูคา จ.น่าน จากนั้นเราก็เก็บของ เดินทางออกจากบ้านที่ จ.นครปฐม ตอน 03:30 น. เพราะอย่าลืมครัช นี่คือการขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวครั้งแรก ก็เลยอยากจะออกแต่เช้าเพื่อค่อยๆขับ ค่อยๆเดินทางไป
ก็ขอวาร์ปไปถึงที่จุดหมายแรกเลยละกัน อช.ลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ ไปถึงประมาน 12:00 น. เพราะไปแวะที่ อช.ต้นสักใหญ่มาก่อน
ขอถ่ายกับป้ายซะหน่อย
นี่ครับคือยานพหนะของเรา ใหญ่โตมากถ้าเทียบกับตัวเรา แต่ก็พาเรามาถึงได้อย่างปลอดภัยและสบายๆ ค่ากางเต็นท์และยานพหนะรวมคืนละ 70 บาท ซึ่งเราจะค้าง1คืน และไม่มีนักท่องเที่ยวเลยในวันนี้ ซึ่งเป็นวันพุธ ซึ่งเราสามารถกางเต็นท์ตรงนี้ได้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่เอารถลงมาจอดทั้งคืนไม่ได้นะครับ ได้แค่เอามาถ่ายรูป ต้องเอาไปจอดตรงที่ลานจอดรถ
อันนี้คืออีกจุดนึงของอช.ลำน้ำน่าน อยู่ถัดไปอีกจากลานจอดฮอเมื่อสักครู่ เค้าเรียกว่าเกาะนมสาวซึ่ง สามารถกางเต็นท์ได้เช่นกัน มีห้องน้ำทั้งสองจุด
อากาศร้อนมากครัช แต่ที่ลงมาเพราะมาสำรวจว่าหรืออาจจะมากางเต็นท์ตรงนี้ แต่ดูทรงแล้วไม่ไหว
กลับมากางที่แรกที่เรามาเซอเวย์ไว้ดีกว่า พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้กางตรงนี้
ยามค่ำคืน มีแสงจันทร์สว่างพอควรนะครัช ลืมบอกว่าปั้มน้ำมันและ7-11 ออกไปอีกประมาน 16 กิโล นะครัช เตรียมของมาให้เรียบร้อย จริงๆมีร้านสวัสดิการ แต่วันธรรมดาเค้าไม่ค่อยเปิด
ตื่นแต่เช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บข้าวของ เพราะที่ดูรีวิวมาที่นี้ร้อนเร็วมาก ฉะนั้นเราเก็บของเสร็จก่อน 07:30 น. และก็อพยพไปกินข้าวเช้า เก็บของ ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงที่จอดรถ
เป็นอันจบวันแรก
วันที่สอง (วันพฤหัสบดี)
ออกเดินทางจากอช.ลำน้ำน่าน ประมาน 09:00 น. เพื่อที่จะไปที่ดอยเสมอดาว อช.ศรีน่าน แต่แล้วเค้าปิดจ้า ยังไม่เปิดให้บริการเนื่องจากโรคระบาดโควิด
ณ ตอนนั้น รีบเปิดดูแผนที่เพื่อที่จะปรับแผนการเดินทาง และ พี่เจ้าหน้าที่ที่อช.ศรีน่านก็แนะนำว่า ให้ไปสะปันก่อนเลย และค่อยกลับมานอนอช.ดอยภูคาคืนวันศุกร์ เพื่อที่จะได้เรียนเดินป่าในเช้าวันเสาร์ ซึ่งเราก็เห็นด้วยและก็ปักหมุดไปที่โค้งเลข 3 และ หมู่บ้านสะปัน ใช้เวลารวมจะดอยเสมอดาวปนะมาน 2 ชั่วโมงกว่าๆ
และนี่ก็คือภาพที่เกิดจากความตั้งใจ เพราะต้องจอดรถ เปลี่ยนเสื้อและถ่ายรูปช่วงประมาน 14:00 น. แถมมีผึ้งป่าคอยตามรังควานนน 5555 แต่ก็ยืนถ่ายอยู่ประมาน 20 นาที
จากนั้นก็มุ่งหน้าหมู่บ้านสะปัน ต้องบอกว่าระหว่างทางถนนสวยมากนะแต่เนื่องจากเราเองก็ยังขับไม่เก่งและนี่เป็นทริปแรกก็ค่อยๆขับไป จนถึงที่พักที่หมู่บ้านสะปัน ชื่อว่า ขุนเขาธารา ซึ่งชิลมากกก ไม่แออัดและไม่มีนักท่องเที่ยวเลยเหมือนเดิม เพราะคือวันพฤหัสบดี
ลำธารหลังที่พัก ชิลมากกก เล่นน้ำได้และมีห่วงยางให้ด้วย ค่ากางเต็นท์ คืนละ 200 บาท ข้าวขาหมูสะปัน อร่อยมาก 60 บาท
ยืมเวฟ110i ของที่พักขับเข้ามาตรงสะพานนี้ พี่เค้าน่ารักใจดีมากให้ยืมมาด้วย เพราะเราอยากพักรถเรา ขับมาทั้งวัน
แนะนำนะครับ บรรยากาศดีมากเงียบสงบ มีทั้งเขาและลำธาร และไม่แออัดนะ
วันที่สาม (วันศุกร์)
ตื่นเช้าเช่นเคยเพราะนอนเร็ว แผนของเราวันนี้คือ น้ำตกสะปัน และเดินทางไปเตรียมตัวที่อช.ดอยภูคา
ที่น้ำตกสะปัน ถ้าอยากจะไปเจอแลนด์มาร์คแบบนี้ ที่ถ่าย MV เพลง ปล่อย ของพี่หนุ่มกะลา ให้เดินเข้าไปให้สุดทางเลย ประมาน 2 กิโลเมตร จากทางเข้า หอบเล็กน้อย แต่คุ้มนะ เพราะว่าสวยและเงียบสงบ สงบจนถ่ายรูปไปได้สักพักเริ่มรู้สึกวังเวง เพราะมีเราคนเดียวทั้งน้ำตก แต่เสียงอะไรไม่รู้เริ่มเยอะและดังขึ้นเรื่อยๆ 55555
จากนั้นออกจากน้ำตกไปแพคของขึ้นรถ กินข้าวกลางวันที่ที่พัก และออกเดินทางต่อไปที่ อช.ดอยภูคา
ดูจากภาพก็น่าจะรู้ ลานกางเต็นท์ที่นี่ ชื่อว่า ลานดูเดือน ซึ่งไม่มีร่มเงาเลยและเราก็ไม่มีทาร์ปด้วย เรามาถึงประมาน 14:00 น. เราจึงยังไม่เอาของลงใดๆทั้งสิ้น ทำได้แค่เพียงหาร่มไม้เล็กน้อย และเริ่มจัดของสำหรับการเรียนเดินป่าพรุ่งนี้
จากนั้นก็ลงไปสั่งอาหารสำหรับเย็นนี้ กระเพาไข่ต้ม 50 บาท อ่าลืมบอกไปค่ากางเต็นท์คืนละ 30 บาท เราจ่ายไปสงคืนนะ คืนวันศุกร์กับเสาร์
วันที่สี่ (วันเสาร์)
เราก็ได้มาทำตามภาระกิจสมใจ นั่นคือการเรียนการเดินป่าที่ถูกต้อง ซึ่ง ณ ตอนนี้ น่าจะมีที่ อช.ดอยภูคาที่แรกและยังมีที่เดียวอยู่ ทางเดินไม่ยากนะ ระยะทางประมาน 2 กิโลเมตรเอง แต่มีการให้ความรู้และประสบการณ์ตลอดทาง ใครสนใจลองเข้าไปที่เพจ FB โรงเรียนนักเดินป่า อุทยานแห่งชาติดอยภูคา นะครัช
วันที่ห้า (วันอาทิตย์)
ออกจากป่าภู1700 มาตอน 11:00 มาทานข้าวกลางวัน และ เก็บของ และเปิดดูแผนที่ว่าถ้ากลับบ้านตอนนี้เลยใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่ง 11 ชั่วโมง 796 กิโลเมตร (น่าน-นครปฐม) ซึ่งเราก็ตัดสินใจกลับบ้านเลยดีกว่า ระหว่างทางกลับบ้านก็จอดพักใหญ่ๆ2ครั้งที่ พิษณุโลก และ สิงห์บุรี ถึงบ้านปลอดภัย ประมาน 23:30 น.
สรุปทริป น่าน 2022 ของ NewsPii's Journey (4 คืน 5 วัน)
เดินทางรวมทั้งหมด
1,722 กิโลเมตร
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ค่าที่นอน 330 บาท
ค่ากิน 888 บาท
ค่าน้ำมัน 2,960 (เบนซิน 91&95 ลิตรละ 40+)
ค่าอื่นๆ ตราโรงเรียนนักเดินป่าอช.ดอยภูคา 300 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด = 4,478 บาท
NewsPii's Journey
วันพฤหัสที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.39 น.