เที่ยว วัดพระแก้ว ปี 2565 (ช่วงที่โควิดกำลังคลี่คลาย)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็น วัดอารามหลวงในเขตพระราชฐาน ที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2326 หลังสถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานี (สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์พร้อมกับโปรดเกล้าให้สร้างพระบรมมหาราชวังในปี พ.ศ. 2325)
สำหรับการเดินทางในวันที่ไปนั้น (8 พ.ค. 2565) ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่เป็นช่วงที่เริ่มคลี่คลายแล้ว เริ่มมีนักท่องเที่ยงต่างชาติเข้ามามากขึ้น หลังรัฐฯผ่อนมตราการการเข้าประเทศ
การเดินทางผู้เขียนขอเริ่มจากถนนเจริญกรุง โดยสารรถโดยสารร่วมเอกชน สาย 1 (รถเมล์ส้ม) จากเส้นทาง โรบินสัน(บางรัก)-ไปรษณีย์กลาง-ตลาดน้อย-เยาวราช-สามยอด-ดิโอลด์สยาม-คลองหลอด-หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน-ศาลหลักเมือง-สนามหลวง-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-มหาวิทยาลัยศิลปกร-ท่าเตียน
เนื่องจากบริเวณโดยรอบวัดพระแก้วมีการก่อสร้างใต้ดิน การเดินรถจึงมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางไปบ้าง แนะนำว่าให้มาลง ถนนมหาราช (หน้า มหาวิทยาลัยศิลปกร) แล้วเดินเข้า ตรอกพระยาเพชร ไปทางสนามหลวง
ตรอกพระยาเพชรเป็นซอยเล็กๆข้างประตูมหาวิทยาลัยศิลปกร ถนนมหาราช
ปากทางเข้าตรอกพระยาเพชร มีป้ายบอกเดินไปตามลูกศรชี้ได้เลย
เดินมาถึงสนามหลวง จะมองเห็น ศาลฎีกา
จุดคัดกรอง ตรวจอาวุธ และ วัดอุณหภูมิ
ระหว่างทางกำแพงฝั่งถนนหน้าพระลานมีการก่อสร้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน
ประตูวิเศษไชยศรี ทางเข้าสู่วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง
เมื่อเดินผ่านประตูวิเศษไชยศรี จะมีจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ และสแกนจุดเช็คอิน หากไม่สะดวกสแกนก็จะมีจุดให้ลงลายมือชื่อ
มุมถ่ายภาพมหาชน ยอดนิยมที่ใครเข้ามาแล้วต้องไม่พลาด
มุมมหาชนที่ใครก็ตามที่มถึงจุดนี้แล้วต้องไม่พลาดที่จะเก็บภาพ
ศาลาสหทัยสมาคม ปัจจุบันจัดให้เป็นที่ลงนามถวายพระพร
ทางเข้าสู่วัดพระแก้ว / จุดจำหน่ายบัตรสำหรับชาวต่างชาติ
สำหรับคนไทยเข้าชมไม่มีค่าบัตร(แสดงบัตรประชาชน) บัตรเข้าชม ชาวต่างชาติ 500 บาท
พระฤๅษี และ พระโพธิธาตุพิมาน
เมื่อเดินเข้ามาถึง สิ่งที่จะเห็นเป็นอันดับแรก คือ "พระฤๅษี และ พระโพธิธาตุพิมาน" รูปปั้นพระฤๅษีสร้างขึ้นในสมัย รัชกาลลที่ 3 มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพรแพทย์แผนโบราณ ส่วน พระโพธิธาตุพิมาน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากพุทธคยา
เดินไปทางซ้ายเล็กน้อยจะพบอาคารบนฐานไพที เด่นๆ 3 อาคาร คือ
1. พระศรีรัตนเจดีย์ (บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ สมัยรัชกาลที่ 4)
2. พระมณฑป (ประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับทอง สมัยรัชกาลที่ 4)
3. ปราสาทพระเทพบิดร (ประดิษฐานพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ รัชกาลที่ 1-9)
พระศรีรัตนเจดีย์ และ พระมณฑปตั้งอยู่บนฐานไพทีใหญ่
พระศรีรัตนเจดีย์ (บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ สมัยรัชกาลที่ 4)
ปราสาทพระเทพบิดร (ประดิษฐานพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ รัชกาลที่ 1-9)
พญามาร (ยักษ์) แบกพระเจดีย์ทอง
พญามาร (ยักษ์) แบกพระเจดีย์ทอง
พระพุทธรูปศิลาตามมุมพระมณฑป
นาคจำแลง
นาคจำแลง
รูปปั้นยักษ์เฝ้าตามประตูรอบวัดพระแก้ว ทั้งหมด 12 ตน
พระแก้วมรกตในพระอุโบสถวัดพระแก้ว
จิตรกรรมฝาผนังรอบระเบียงเรื่องรามเกียรติ์
ภาพวาดยักษ์ตามประตูต่างๆ
จบในส่วนของ วัดพระแก้ว จากนั้นผู้เขียนเข้ามาชมในส่วน พระบรมมหาราชวัง
ในส่วนของพระบรมมหาราชวัง ก็จะประกอบไปด้วยพระที่นั่งสำคัญๆต่างๆ เช่น พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท, พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท, หมู่พระมหามณเฑียร ที่ประกอบด้วยพระที่นั่งองค์ต่างๆ เช่น พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน, พระที่นั่งไพศาลทักษิณ, พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นต้น
ในส่วนของหมู่พระมหามณเฑียร ปกติแล้วผู้เขียนไปกี่ครั้งก็จะเห็นว่าปิด ไม่อนุญาตให้เข้าชมบริเวณภายใน แต่วันที่ไปเห็นว่าเปิดให้เข้า แต่ไม่่อนุญาตให้เข้าชมภายในพระที่นั่ง จึงได้ภาพภายนอกบางส่วนในหมู่พระมหามณเฑียร (ชื่อเรียกพระที่นั่งในหมู่พระมหามณเฑียรชื่อจะคล้องจองกัน จักรพรรดิพิมาน ไพศาลทักษิณ อมรินทร์วินิจฉัย)
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน ปกติจะไม่สามารถเข้ามาถึงบริเวณหมู่พระมหามณเฑียรได้
พระที่นั่งในหมู่พระมหามณเฑียร
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างขึ้นในรัชสมัย รัชกาลที่ 5
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
หลังจากที่ได้ชมพระที่นั่งต่างๆตามที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้กล่าวถึงแต่อยากให้ลองไปเที่ยวกัน เช่น พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่ เป็นต้น
หลังจากเที่ยวชมเสร็จแล้ว ตอนออกจากวัดพระแก้ว ก็มีจะมีให้ สแกน/ลงชื่อ เพื่อแจ้ง check out จากสถานที่นี้ด้วย
ฟ้าครึ้มดูท่าทีฝนน่าจะตก ผู้เขียนขอเก็บภาพ วัดพระแก้วอีกสักมุม บริเวณหน้าศาลหลักเมืองก่อนกลับ
วัดพระแก้วอีกสักมุม บริเวณหน้าศาลหลักเมืองก่อนกลับ
ตึกกระทรวงกลาโหม อีกมุมมหาชนที่ผู้เขียนไม่เคยมาถ่ายเลย (วันนี้ได้เก็บภาพแล้ว)
ฝนตกแล้ว อยู่หลบฝนที่เต้นท์บริเวณหน้าตึกกระทรวงกลาโหม ก็พอได้เก็บภาพมาบ้างระหว่างรอฝนหยุด
อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพ
Camera : Canon M50
Lens : Charlie Lens 35mm f1.6 / Canon Efm 15-45 mm
สุดท้ายนี้ อย่าลืมดูแลสุขภาพ สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ กันนะครับ
ขอบคุณครับ
Teeranont
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 21.59 น.