จากลูกเจ๊ก 2 คน ที่เขียนโปสการ์ดคุยกันมาเกือบปีแต่ไม่เคยเจอกันสักที

เกิดอยากไปเที่ยวด้วยกัน ทริปยาวๆเที่ยวอีสานเหนือ จึงเริ่มต้น

คนนึงจองตั๋วเครื่องบิน 0 บาท ที่จองปีนี้บินปีหน้า มูลค่า 200 บาท

อีกคนใจง่ายไม่เคยไปก็อยากไปเหมือนกัน

คนนึงเชียวชาญการใช้ Google Map

อีกคนเป็นนักขับขี่มอไซด์ที่ปลอดภัยที่สุดในประเทศไทย บิด 40 ตลอดทริป

อยากให้ติดตาม รูปไม่สวยมาก ข้อมูลไม่แน่นมาก แต่ความสุนกสนานมีมากกว่าการเที่ยวกันคนแปลกหน้าที่เจอหน้ากันครั้งแรก



อุปกรณ์ถ่ายภาพ

Fuji X-E2 + 35 F1.4

Canon 750D + 18-55

Gopro Hero Silver

ตกแต่งแต่งอีกนิดหน่อยตามจริต


3 มกราคม 2016

06.00 น

นครชัยแอร์ กรุงเทพ

(เมื่อมีเพื่อนร่วมทาง เราเลยทำการสละตั๋วเครื่องบินขาไป แล้วเปลี่ยนมานั่งรถทัวร์แทน)

เรานัดเพื่อนกันที่เลย เจอกันครั้งแรก หลังจากที่คุยกันแบบไม่เคยตัวจริงเลย ผ่านโปสการ์ดและทวิตเตอร์ วีดวายกันพอประมาณ ขึ้นรถแล้ว แจกข้าว กินข้าว แล้วก็หลับค่ะ เจอกันขอนแก่นเด้อออ




12.00 น

ขอนแก่น

ถึงปุ๊ปนั่งแท๊กซีราคาไม่เหมา ไปบ้านรุ่นน้อง วันนี้ฟรีสไตล์ ไม่มีแพลน น้องๆกำลังจะไปกินข้าวกันเพื่อนๆพอดี เลย อ้อ พี่ไปด้วยได้ไหม

มื้อแรกที่ขอนแก่น ดีมากค่ะ พาไปกิน สุกี้ กินไม่อั้น นั่งไปได้ถึงร้านปิดเลย

หลังจากกินเสร็จ ก็ไม่รู้จุดหมายปลายทาง น้องๆเป็นเจ้าบ้านที่ดี เลยอาสาไปเที่ยวในตัวเมือง


15.00 น

วัดหนองแวง

น้องพามาไหว้พระที่วัดหนองแวง เป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นทริป

"แต่พี่ๆขึ้นไปเองนะ พวกหนูรออยู่ข้างล่าง"

เราเดินมาถึงชั้นสูงสุด เราสามารถเห็นวิว บึงแก่นนคร โดยรอบ

ถือว่าอากาศดีมาก ลมเย็นสบาย





17.00 น

บึงแก่นนคร

น้องๆพาเรามาเดินเล่นตลาดเย็นริมบึงแก่นนคร
บรรยากาศเหมือนตลาดกรุงเทพ แต่ราคาถูกมากกกก ถือว่าดี



19.00 น

บ้านน้อง

เรากลับมาถึงบ้านน้อง พร้อมเตรียมแผนการเดินทางของวันพรุ่งนี้

แผนพรุ่งนี้ของเรา โดยมอเตอร์ไซด์ที่เช่าน้องๆมา

เริ่มจากเขื่อนอุบลรัตน์ แวะ ถ่ายรูปที่ litte box ต่อด้วยดูไดโนเสาร์ที่ภูเวียง

21.00 น

บ้านน้อง

รู้สึกหิว เลยจะทอดใข่เจียว แต่แล้ว ก็เต็มโต๊ะ จากการรื้อตู้กับข้าวน้อง

การกินมือนี้เหมือนกับว่าลืมกินสุกี้เมื่อตอนเย็น






4 มกราคม 2016

8.00 น

บ้านน้อง

รีบตื่นตั้งแต่เช้า แวะออกมาเติมน้ำมันแล้วก็พร้อมออกเดินทาง



9.00 น

เขื่อนอุบลรัตน์

เรามาถึงเขื่อน โดยขับรถฝ่าด่านมาเลย 5555 ลืมเบรกแลกบัตร

บรรยากาศดี คนน้อย วิวสวย และแดดร้อนมากๆๆๆๆๆๆ



เห็นในแผนที่เขาบอก มีไดโนเสารด้วย เย่ๆ ไดโนเสาร์ตัวแรกก


11.00

ร้านอาหาร

เราเลือกร้าน litte box แต่ไม่มีข้าวให้กิน มีแต่เค้ก คาดว่าไม่พอกับความหิว เลยย้อนกลับมานิดนึง มีร้านอาหาร ราคาไม่แพง มีไวไฟฟรี และกาแฟสดขาย แต่ลืมถ่ายรูปมา (หิวมากจริงๆ)


13.00 น

อุทยานแห่งชาติ ภูเก้า-ภูพานคำ

เพราะไวไฟฟรีและป้ายบอกทาง ทำให้เรารู้ว่า ใกล้ๆนี้มีอุทยานแห่งชาติอีกที ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไร แต่ใกล้มากเมื่อเทียบกับระยะทางที่ขับมาจากบ้าน ต้องแวะ


ที่นี่ยังอยู่กินพื้นที่ของเขื่อนอุบลรัตน์ มีจุดชมวิวเขื่อนแบบใกล้ชิดมาก วิวดีมาก รู้สึกดีมาก และแดดร้อนมากเช่นกัน

ก่อนออกจากอุทยาน เราถามทาวไปภูเวียงจากพี่ๆเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าไกลมาก (มากอีกแล้ว) แต่มีทางลัดจากทางแยกเขื่อนอุบลรัตน์ แต่ก็ยังไกลมาก แต่ก็อยากไป

คนขับโอเค ขับไหว ก็ไปกัน

ระหว่างนั้นก็เปิด google map ก็ตกใจ ต้องขับไปอีก 3 ชม. แวะซื้อน้ำเปล่าที่เซเว่น


14.30 น

อุทยานแห่งชาติ น้ำพอง จุดบริการนักท่องเที่ยว

ขุ่นพระ ขับรถมาไกลมาก เลาะมาตามเขื่อน
ระหว่างที่ขับมาก่อนถึงพัทยา 2(หรือบางแสน ก็ไม่แน่ใน) ยังพอมีรถมอเตอร์ไซด์ของนักเรียนสวนทางบ้าง แต่หลังจากนั้น ไร้สิ่งมีชีวิต ไร้เพื่อนรวมทาง ด้ายซ้ายเป็นภูเขากับทุ่ง ด้านขวาเป็นเขื่อน ก็ยังใจแข็งขับกันมาเรื่อยๆ

แต่พอเจอป้ายจุดบริการ ดีใจมาก รีบจอดรถทันที

ที่จุดบริการ มีซุ้มขายของ ห้องน้ำ เจ้าหน้าที่อุทยานและวันนี้คงมีค่ายพอดี เด็กๆเลยเยอะเป็นพิเศษ เราแวะกินไอติมกันคนละแท่ง เข้าห้องน้ำ ตอนแวะเข้าห้องน้ำ มีคุณน้าคนนึงมาชวนคุย ก็ถามว่ามาจากไหน ไปเที่ยวหรอ เราเลยถามว่า ถ้าไปภูเวียงจะไกลมากไหม(ยังอยากจะไปอยู่) เขาก็ว่าไกลมากกกกก

งั้นเปลี่ยนเป็นถามว่า ที่นี่มีอะไรน่าเที่ยวไหม น้าแนะนำมาว่า เห็นพวกตากล้องชอบขึ้นไปถ่ายรูปกันที่ เขาหินช้างสี คือเป็นจุดชมวิว บนเขา

เราเดินมาขอแผนที่จากเจ้าหน้าที่ กลับมาตั้งหลักที่รถ

สรุปคือ ภูเวียงไม่ไปแล้ว เราจะไปหินช้างสี ไปชมวิวกัน น่าจะดี แล้วต้องแวะเติมน้ำมันก่อนขึ้นเขาด้วย เราเก็บแผนที่ออนไลน์ แล้วใช้แผนที่กระดาษ ขับตามทาง ทางขับไปยากนะ ไม่มีแยก ไม่มีเลี้ยว



15.30 น

ปั้มน้ำมัน ทางแยกก่อนขึ้นเขา หินช้างสี

ดีใจมาก เจอปั๊มแล้ว ปั้มต่างจังหวัด ร้างๆๆ จะเติมต้องเดินไปตามในบ้าน ซึ่งพี่เขากำลังหลับอยู่
ขอถ่ายรูปไว้หน่อย



16.00 น

จุดชมวิว เขาหินช้างสี

ด้วยทางคดเคี้ยว เลี้ยวซ้ายทีขวาที เพื่อนบอกให้เกาะดีๆ ก็พาเรามาถึง



เราต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 900 เมตร จะถึงจุดชมวิว


บนศาลาชมวิว จะทำให้เราเห็นเขื่อน และถนนที่เราขับเลาะมาเรื่อยๆ
โอ้ย หายเหนื่อย อยากดูจนพระอาทิตย์ตกดิน แต่รีบกลับดีกว่าค่ะ ทางไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับตอนกลางคืน




แวะถ่ายรูปขากลับ นิดหน่อย

17.00 น.

ในหมู่บ้าน ทางกลับ(จำชื่อไม่ได้)
วัวมาาาาา มาทั้งฝูงเลยยย ต้องจอดรถแอบๆ รอวัวเดินกันไปก่อน

ไม่เคยเจอ ชอบๆๆ



ทางขับกลับ พระอาทิตย์กำลังตก



18.00 น

ปั๊มแห่งหนึ่ง ของถนนเส้นหลัก

แวะพัก ตูดชา มือช้า หน้าชากันหมด



19.00 น
ตลาดต้นตาล

เราแวะซื้อข้าวเย็นกลับบ้าน และแวะเดินเล่นนิดหน่อย ตลาดเขาของขายเยอะดีเหมือน จตุจักรบ้านเรา ราคาของไม่แพง ขากลับเราแวะซื้อเค้กกลับไปฝากน้องซะหน่อย เพิ่งผ่านวันเกิดมา 24 วัน 55555
รูปไม่มี แต่มีความสุขมาก ทั้งปลาเผา ส้มตำ น้ำตก ตับหวาน และข้าวเหนียว



20.00 น

บ้านน้อง

ถึงบ้านโดยสวัสดิ์ภาพ


สรุปแผนการเดินทางวันที่ 4 มกราคม




5 มกราคม 2016


8.00 น

ตลาดบ้านคำไฮ แถวๆบึงศรีฐาน

น้องบอกว่าจะพามากิน โจ๊ก จั๊บ เส้น ร้านดัง

แต่ปิด
เลยแวะมากินร้านริมทาง คือก็อร่อยดี แปลกๆ แต่ก็อร่อย ราคาประทับใจ 25-30 บาท




12.00 น

บ้านน้อง
เตรียมตัวไปเชียงคาน

อ่านความสนุกสนานได้ที่

รีวิว เชียงคาน Slow Life In Chiang-Khan ใช้ชีวิตช้าๆที่ เชียงคาน [5-8 jan 2016]





8 มกราคม 2016

21.30 น

ฝั่งกังสดาล ขอนแก่น
กลับมาถึงของแก่นด้วยเวลาค่ำมาก วันนี้น้องๆไม่สะดวกให้ไปค้างที่บ้าน เลยต้องหาที่นอนกันเอง เลยเลือกแถวๆกังสดาล ได้หอพัก ราคา 500 บาท ห้องดูดี มีแอร์เย็นๆ

หลังจากที่พักเรียบร้อย ก็แวะมาหาของกิน แต่ดึกแล้ว เลือกมากไม่ได้ จึงลงเอยที่ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ แถวๆที่พัก
ราคา 55 บาท


9 มกราคม 2016 วันเด็กแห่งชาติ

10.00 น

บ้านน้อง

เราแวะบ้านน้อง วางกระเป๋า และมาเอารถเพื่อไปภูเวียง (อยากไปมาก จะไปให้ได้)

12.30 น

ศูนย์การเรียนรู้ ไดโนเสาร์ ภูเวียง
พิพิฒภัณฑ์ไดโดเสาร์ ภูเวียง

ทางวันนี้สบายๆ ปลอดภัย เพราะอยู่ในเขตบ้านคนซะส่วนใหญ่

ที่แรก

ขับตามแผนที่มา เหมือนเป็นลานอเนกประสงค์ไว้ พักผ่อน มีไดโนเสาร์ และเด็กๆ เต็มไปหมด






ที่สอง
เป็นพิพิฒภัณฑ์ไดโดเสาร์ วันนี้เข้าฟรี เพราะวันเด็ก (ดีใจจัง)
มีส่วนจัดแสดงวิธีการขุดพบซาก โครงกระดูก และ ประวัติ




ส่วนอีกโซนเป็นจำลองไดโนเสาร์ ขยับได้บางตัว เด็กเยอะมาก ถ่ายรูปกันสนุกสนาน

แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ อยากไปอีกที่ แต่ว่าต้องขึ้นเครื่อง ตอน 18.00 น แต่อยากไป


15.00 น

อุทยานแห่งชาติ ภูเวียง

ยินดีต้อนรับ ได้มาสมใจ

จะมีเป็นจุดๆไว้ให้ ด้วยเวลาอันจำกัด ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้เกิน 45 นาที

เลยเลือกไปดู รอยขุดโครงกระดูกไดโนเสาร์ จุดที่ 1 แล้วพบว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย (รีบ)

เห็นจุดชมวิว ต้องเดินขึ้นไปอีก 1 กิโล ว้าววววว เหนื่อย มาก รีบเดิน รีบพัก แล้วก็รีบเดิน

ถึงจุดชมวิว วิวนี่ไม่สนใจเลย นั่งพักลูกเดียว พอให้รู้สึกดี แล้วก็กลับ

รีบเดินกลับ รีบไปเอารถ รีบๆๆๆๆๆ





16.30 น

ครึ่งทาง

เพื่อนกำลังบิดด้วยความเร็วกว่าที่เคยขับมาตลอดชีวิต

ระหว่างนั้นกำลังหาทางเลื่อนตั๋ว (เลื่อนไม่ได้) ก็หารถทัวร์กลับวันพรุ่งนี้ถ้าตกเครื่อง ซึงเต็มหมดทุกรอบ (ไรว่ะ)

ยังไงก็ต้องให้ทัน

แต่กระเป๋าอยู่บ้านน้อง คาดว่าวกกลับไปบ้านน้องน่าจะตกเครื่องแน่นอน เลยโทรไปบอกน้องให้เอากระเป๋าไปให้ที่สนามบินที

เพื่อนก็บิดแรงขึ้น น้องก็รีบเอากระเป๋าไปให้ นี่ก็เชคอินในมือถือไปเลย เอาว่ะ ให้วิ่งเข้าเกทขึ้นเครื่องได้เลย

เหตุการณ์ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นบนมอไซด์ทั้งหมด 5555


17.50 น

สนามบินขอนแก่น

ด้วยความดีที่ไปทำบุญที่วัดต่างๆ ทำให้ไฟท์ดีเลย์ไป 15 นาที รอดตัวไป ไปนั่งพักหายในสวยๆอยู่ในเกท


18.15 น

บนเครื่องบิน ขอนแก่น-กรุงเทพ

กลับกรุงเทพ โดยสวัสดิ์ภาพ โดยไม่มีเด็กร้องไห้ ไม่มีคนจีนเสียงดัง



19.30 น

สนามบินดอนเมือง

บอกเพื่อนๆว่าถึงกรุงเทพแล้ว โทรบอกแม่ว่าถึงกรุงเทพแล้ว
แล้วมือถือก็ดับพรึ่บ!
( 3 วันหลังจากนั้นพบว่า มือถือพังถาวร กู้อะไรไม่ได้เลยนอกจากเบอร์ที่อยู่ในซิม ต้องเปลี่ยนมือถือใหม่)



สรุปแผนการเดินทางวันที่ 9 มกราคม



ขอนแก่น เป็นเมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวถ้ามีรถ (เป็นความจำเป็นมากๆ)

แบบที่ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ ตามอุทยานแห่งชาติ เลาะตามเส้นเขื่อนอุบลรัตน์ นั่งแพในเขื่อนอุบลรัตน์ หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก็มีร้านอาหารเยอะมากกก เห็นตอนนี้มีรถเมล์ในเมือง แอร์เย็นๆราคาไม่แพงด้วย ยังไงก็ลองมาเที่ยวตามกันดูนะคะ






ความคิดเห็น