ทริปนี้ ป๋าเกียรติพาเพื่อนไปท่องเที่ยวแนว แคมป์ปิ้ง สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตโดยการนอนในเต็นท์สุดหรู ที่ตั้งอยู่บนภูเขามองเห็นวิวภูเขาและสายหมอกยามเช้า และ อาทิตย์อัสดงยามเย็นสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด พับที่พักแนวแคมป์  เขาสกบูติกแคมป์ (Khao Sok Boutique Camps)"   และ ต่อด้วย เขื่อนรัชชประภา (เชี่ยวหลาน) ที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือที่รู้จักกันในนาม กุ้ยหลินเมืองไทย กันครับ เราเริ่มต้นที่สนามบินนานาชาติสุราษฏร์ธานี ใช้บริการรถเช่า ซึ่งมีหลายๆคันให้เราใช้บริการ ราคาเช่าแล้วแต่ตกลงกันครับ 

จากนั้นเราไปกันเลย ระหว่างทางรายล้อมด้วยภูเขาปกคลุมด้วยหมอกบางๆ เป็นภาพที่ประทับใจมากครับ

มาถึงทางพนักงานจะจัดที่จอดรถไว้ให้เรา และ มีรถไฟฟ้ามารับเราขึ้นไป เนื่องจากที่พักอยู่บนภูเขา

ทางขึ้นเป็นเขาต้องเร่งเครื่องลุ้นกันตัวโก่ง 555

ถึงที่พักแล้ว ด้านหน้าของเค้าเตอร์เช็คอินน์ ออกแบบด้วยไม้ไผ่เป็นธรรมชาติมากครับ

พนักงานต้อนรับดีมากๆครับ 

"กิจกรรมเขาสก"แนวผจญภัย

สระว่ายน้ำส่วนรวม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดว่ายน้ำครับ

วิวมองจากจุดเช็คอินน์ จะเห็นวิวเขาสวยงาม

พนักงานต้อนรับ บริการเสริฟน้ำผลไม้และผ้าเย็นให้เราอย่างดี

เนื่องจากอาหารของที่นี่จะพิถีพิถันในการทำอาหารแนวพื้นบ้านให้เรา ใช้เวลาทำนาน แนะนำให้สั่งล่วงหน้า สำหรับอาหารเย็น 

ทางลงไปที่พักของจะอยู่ด้านล่าง

เปิดเข้ามาในห้อง บนเตียงนอนมีผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว จัดทำเป็นรูปช้าง มีกิ่งไม้วางเรียงข้อความ"SAWADDEE" 

มีอุปกรณ์ให้พร้อมเช่นระเกียง,กาต้มน้ำ,ชา,กาแฟ ฯ

โต๊ะเครื่องแป้งทำด้วยวัสดุธรมชาติ

ทางที่พักไม่อนุญาตให้นำอาหาร,เครื่องดื่มเข้ามา เนื่องจากอาจจะมีมดเข้ามาในที่พักได้

วิวด้านหน้าห้องพัก สวยงามมากครับ

บริเวรห้องน้ำมีมุ้งลวด ปลอดโปร่ง

ส่วนของห้องน้ำ : ตกแต่งผนังด้วยไม้ไผ่
เมื่อเปิดเต็นท์ด้านหลัง  จะเจอส่วนตรงกลางอ่างล้างหน้า ห้องน้ำด้านซ้าย ห้องอาบน้ำด้านขวา

ใช้ใบเตยดับกลิ่นอับ หอมธรรมชาติ

ไอเดียการตกแต่งใช้กระบอกไม้ไผ่ขวดแชมพู,สบู่ฯ

ทางเดินไปที่พักเชื่อมต่อด้วยสะพานไม้ ลัดเลาะต้นไม้ ให้ความรู้สึกดื่มดำกับธรรมชาติ

ด้านหน้าที่พัก

ลองเดินไปชมที่พักแต่ละหลังกันครับ

พอตกกลางคืน จะมีแสงไฟประดับรายทางและที่พักสวยงาม

มื้อเย็นเรามาทานอาหารที่ห้องอาหาร ใต้แสงเทียนโรแมนติก

ช้อนส้อมใช้ใบตองพันปราณีต

บรรยากาศห้องอาหาร

เค้าเตอร์สั่งอาหาร

สำหรับเมนูที่เราสั่ง คือ หมูสามชั้นผัดกะปิ

ผัดฟักแม้ว

แกงส้มชะอมกุ้ง

ตบท้ายด้วยบัวลอยไข่หวาน

เช้าวันใหม่ โอ้โห  อากาศดีมากครับ มีหมอกปกคลุมคล้ายๆภาคเหนือเลย  บรรยากาศเงียบสงบ ต้นไม้เขียวขจี เต้นท์ติดแอร์ธรรมชาติ มองจากห้องพักเห็นวิวภูเขาสีเขียวสวย ขอบอกเลยว่าชิลมากกก.

แหมอากาศดีแบบนี้ ต้องจัดนางแบบมาเป็นพร้อป เข้ากันเลย 

มองเห็นวิวภูเขา และสายหมอกยามเช้า มาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกับเราที่นี่ เขาสก บูติกแคมป์

ใครจะไปว่ายน้ำ ท่ามกลางหมอกยามเช้าๆ ก็ว่ากันไปครับ

จากนั้นเรามาทานอาหารเช้าที่ทางที่พักเตรียมไว้รอ

บรรยากาศยามเช้าเย็นสบายมีหมอก  เราสั่งอาหารเช้าง่ายๆ จัดเป็นชุดๆ

น้ำสัมแท้ๆคั้นสดๆ

เราเช็คเอาท์จากที่พัก ก็มีรถไฟฟ้าไปส่งเราที่ลานจอดรถ

จากเดินทางออกจาก  เขาสก บูติกแคมป์ มุ่งหน้าไป เขื่อนรัชชประภา หรือ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเราได้จองเรือไว้แล้ว

• ที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติเขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา (เชี่ยวหลาน) อยู่ที่ อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 730 กิโลเมตร หากขับรถมาเองใช้เวลาเดินทางประมาณ 9-10 ชั่วโมง หรือนั่งรถโดยสาร VIP ของ บขส. มาลงที่ท่ารถ และต่อรถโดยสารหรือขับรถส่วนตัวตรงดิ่งไปยังอำเภอบ้านตาขุน ซึ่งก่อนจะถึงตัวอำเภอบ้านตาขุนจะมีป้ายใหญ่ของเขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน) อยู่ทางขวามือ

มีค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานจากเทศบาลบ้านเชี่ยวหลาน คนละ 10 บาท/เด็ก 5 บาท

ก่อนขึ้นเราต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก คนละ 40 บาท

จุดตรวจตั๋วขึ้นเรือ

ทางลงไปขึ้นเรือจะชันหน่อยครับ เกือบสะดุดขาตัวเองล้ม

การเดินทางโดยนั่งเรือหางยาว(แบบเหมาลำ) เพื่อเข้าพักที่แพและเที่ยวชมธรรมชาติในเขื่อนรัชชประภา ใช้เวลาประมาณ 2 ชม ค่าโดยสารแบบเหมาอยู่ที่ประมาณ 1,600-2,800 บาท

Go!!

แต่ข้อเสียคือไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ใครที่ชอบท่องโลกโซเชียล ใจเย็นๆ ถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ก่อน เอาไว้ตอนขึ้นฝั่งค่อยอัพโหลดอวดเพื่อนๆกันนะครับ 555

ไฮไลท์ เขื่อนเชี่ยวหลาน ที่ไม่ควรพลาด 

• คือ เขาสามเกลอ จุดที่ถ้าใครพลาดไปนี่บอกเลยว่ามาเสียเที่ยวมาก เพราะที่นี่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลานเลยก็ว่าได้ ด้วยลักษณะของเขาหินปูนที่ตั้งเรียงกันจนมีความคล้ายคลึงกับ กุ้ยหลิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองจีน จึงเป็นที่มาของฉายา “กุ้ยหลินเมืองไทย” ที่คนเขาเปรียบเปรยกันนั่นเอง

• จากนั้นเรามาหยุดพักที่ แพนางไพร ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ 3 ที่พักริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ดูแลและให้บริการโดยอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแพที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุดในบรรดาแพที่พักของอุทยาน  และแพนางไพรยังเป็นบริเวณที่มีปลาตะเพียนหางแดงเยอะที่สุด (วังปลา) เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่อาศัยกันเป็นฝูงหากินเองตามธรรมชาติ  มีห้องพักเป็นห้องพักไม้ไผ่ ภายในห้องพักมีหลอดไฟ 1 ดวง ที่นอน หมอนและผ้าห่ม ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แยกห้องอาบน้ำกับห้องสุขาชาย-หญิงอย่างชัดเจน และมีบริการพายเรือคายัค

วังปลา เป็นแหล่งปลาตะเพียนหางแดงมากที่สุด และมีอาหารไว้ให้ซื้อเลี้ยงปลา 

มีห้องอาหารสำหรับนัำท่องเที่ยว

           สำหรับทริปนี้ เป็นทริปที่เน้นเติมพลังกาย เพิ่มพลังใจให้เราได้เตรียมพร้อมรับมือกับวันทำงาน กับ เขาสกบูทิกแคมป์ ที่พักที่รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ อากาศบริสุทธิ์ แสงแดดยามเช้า แสงอาทิตย์ยามเย็น  และ เขื่อนรัชชประภา หรือ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” เป็นอีกหนึ่งสถานีที่ที่ ประทับตรงตา สมกับที่ เค้าตั้งสมยานามว่า"กุ้ยเหลินเมืองไทย"   อ่านจบแล้วอย่ามัวรอช้า รีบแพ็กกระเป๋าไปตามรอยป๋าเกียรติ  กันโลด ...555  

**รับชมแล้ว ช่วยกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้เพจป๋าเกียรติพาเที่ยวด้วยครับ

การเดินทาง

• เครืองบิน เช่ารถ จากสนามสุราฏษร์ธานี ขับเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึงตัว อ.บ้านตาขุนจะเห็นป้ายเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางด้านขวามือ
• รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปจนถึงจังหวัดชุมพรจากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยกที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึงตัว อ.บ้านตาขุนจะเห็นป้ายเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางด้านขวามือ
• รถโดยสารสาธารณะ มีรถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) และสถานีขนส่งผู้โดยสารบรมราชชนนี ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th