สำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศหลายๆคนคงนึกถึง ยุโรป, ญี่ปุ่น หรือ อเมริกา แต่สำหรับคนที่เริ่มท่องเที่ยวต้องการจะไปในที่ที่ไม่ไกล ราคาไม่แพง และสามารถสื่อสารภาษาไทยได้อยู่ ปากเซ หรือลาวใต้ ถือว่าเป็นที่ตอบโจทย์ทั้งหมด
📍 Fact about Pakse
1. นครปากเซอยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศลาว
2. นครปากเซ เป็นเมืองเอกของแขวงจำปาศัก
3. ประเทศลาวสามารถอยู่ได้โดยไม่ใช้วีซ่า 30 วัน
4. การจะไปนครปากเซต้องผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก
5. ควรซื้อซิมที่เมืองลาวใช้ราคาประมาณ 150 บาท
6. ประเทศลาวจะขับพวงมาลัยซ้าย (ประเทศไทยขับพวงมาลัยขวา)
7. ตอนเช่ามอไซเขาจะให้ที่ล็อคดิสเบรคมา น่าจะมีการขโมยรถกันบ่อยๆ
8. การขับรถก็ควรระวัง เนื่องจากมี หมู หมา วัว ควาย แพะ เดินบนแบบไม่กลัวรถ และพร้อมจะตัดหน้าตลอดเวลา
9. อาหารประจำชาติลาวคือ เฝอ
10. ที่เที่ยวหลักๆของปากเซจะมี Bolaven Plateau (เส้นทางเดินป่า), Vat Phou, Tad Yuang Waterfall, Tad Fane Waterfall
11. ประเทศลาวจะมีเบียร์ยี่ห้อเดียวคือ เบียร์ลาว แต่ถูกและอร่อย
12. ผู้คนเป็นกันเอง สามารถพูดคุยภาษาไทยได้ (ภาษาลาวจะคล้ายภาษาอีสาน+เหนือ ทำให้สามารถเข้าใจที่คนลาวพูดได้)
13. นครปากเซสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวจริงๆจะเป็นช่วง กรกฎาคม‑ธันวาคม เพราะน้ำตกจะเริ่มมีน้ำและบรรยากาศดี
14. สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่จะมีค่าเข้าและค่าฝากรถ ราคาขึ้นอยู่แต่กับละที่
15. เรทแลกเงินจะอยู่ที่ 500 กีบ/บาท (11 กรกฎาคม 2565)
_______
Chapter 1 : เริ่มต้นการเดินทาง
เริ่มออกเดินทางด้วยรถไฟ ขบวน 139 (กรุงเทพ‑อุบลราชธานี) มาถึงสถานีรถไฟอุบลประมาณ 07.00 น. และต่อแท็กซี่เพื่อไปลงขนส่งอุบล เพื่อจะต่อรถตู้ไปช่องเม็ก (100 บาท/คน) รถออก 09.00 น. พอไปถึงช่องเม็ก ต้องทำเรื่องข้ามไปลาวและเสียค่าเหยียบแผ่นดิน 200 บาท
Chapter 2 : วัยรุ่นเงินล้าน
พอทำเรื่องเสร็จก็แลกเงินมา 1,000,000 กีบ (2,000 บาท) (11 มิถุนายน 2565) พอแลกเงินเสร็จก็นั่งรถต่อเข้าเมืองปากเซ ประมาณ 40‑50 กิโลเมตร (250 บาท/คน)
Chapter 3 : กลายเป็น Biker
รถจะมาจอดที่ร้านเช่ามอไซพอดี ค่าเช่าจะอยู่ที่ 200 บาท/วัน (รับทั้งเงินบาทและเงินกีบ) จากนั้นจึงขับต่อไปวัดพู ประมาณ 40 กิโลเมตร
Chapter 4 : อาหารมื้อแรก
ขับรถไปได้สักพัก ก็เจอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางร้านนึงซึ่งคนกินเต็มร้าน (ส่วนตัวคิดว่าร้านที่ local ที่คนกินเยอะ แปลว่าอร่อยจริง) เลยแวะพักกินก๋วยเตี๋ยว (เฝอ) ในราคา 15,000 กีบ (30 บาท)
Chapter 5 : มรดกโลกที่ลาว
ในที่สุดก็ถึง มรดกโลกของลาวใต้ หรือวัดพู โดยจะเสียค่าเข้า 50,000 กีบ/คน (100 บาท/คน) และค่าฝากรถอีก 10,000 กีบ/คัน (20 บาท/คัน)
Chapter 6 : ระหว่างทาง
ขอพักเหนื่อยหน่อยแล้วกัน
Chapter 7 : ปีนและป่าย
เส้นทางชันมาก มีหินเป็นขั้นบันได แต่แต่ละขั้นบันไดค่อยข้างสูง
Chapter 8 : อยุธยาเมืองลาว
ภาพวัดพูมุมสูง
Chapter 9 : มากับฝน
พอมาถึงข้างบน ฝนก็มาพอดี
Chapter 10 : ถึงแล้ว
ถึงแล้วววว มีพระพุทธรูปอยู่ข้างใน 1 องค์
Chapter 11 : พระพุทธรูป
พระพุทธรูปภายในวัด ลักษณะค่อนข้างต่างจากพระพุทธรูปในประเทศไทยพอสมควร
Chapter 12 : นครปากเซ
หลังจากกลับมาจากไหว้พระ ก็แวะที่พักที่อยู่ในเมืองและแวะมากินจิ้มจุ่มเนื้อวัว ชุดละ 45,000 กีบ (90 บาท) และเบียร์ลาวอีกขวดละ 20,000 กีบ (40 บาท)
Chapter 13 : Hostel
พอวันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางมาที่เล้งไว้แต่ไม่สามารถจองได้ (FB : ຕາດຟານ ຣີສອດ Tadfane Resort )(Tel.+85620 98663366) เพราะต้องจองโดนการโอนมัดจำเข้าบัญชีลาว ซึ่งโอนไม่เป็น555 โชคดีที่มีเหลืออยู่หนึ่งห้อง ราคา 319,000 กีบ (638 บาท) พร้อมอาหารเช้า ธรรมชาติมาก แต่เสียอย่างเดียว บุ้งเยอะมาก
Chapter 14 : น้ำตกตาดเยือง
พอวางของในที่พักก็ขับมาอีกประมาณ 3‑4 กิโลเมตรก็จะถึงน้ำตกตาดเยือง ก็จะต้องเสียค่าเข้า 10,000 กีบ (20 บาท) ค่าเฝ้ารถ 5,000 กีบ (10 บาท)
Chapter 15 : ความสวยงามที่ซ่อนอยู่
ใครจะรู้ว่าส่วนที่สวยที่สุดของน้ำตกนี้คือข้างล่างน้ำตก แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือการที่ต้องยอมเปียกไปทั้งตัว เพราะละอองน้ำจากน้ำตกนั้นแรงมาก
Chapter 16: สิ่งที่ต้องยอมเสีย
ความแรงของละอองน้ำของน้ำตก
Chapter 17 : น้ำตกตาดฟาน
ตื่นเช้ามาอีกวัน พร้อมกับมื้อเช้าของที่พัก พร้อมวิวข้างหน้าคือน้ำตกตาดฟาน
Chapter 18 : Zipline
ที่นี่มี Zipline ด้วย ซึ่งถึงเป็น highlight ของที่นี่เลยทีเดียว โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 40‑70 USD
Chapter 19 : กลับบ้าน
เดินทางกลับบ้านโดนการกลับมาที่ตัวเมืองแล้วนั่งรถออกมาช่องเม็ก (250 บาท/คน) และเสียค่าออกจากประเทศอีก 100 บาท/คน แต่ขากลับตัวเมืองอุบลกลับกับพี่คนไทยที่เจอบนรถมาช่องเม็ก
Chapter 20 : Train
จบแล้วสำหรับทริปนี้ กลับบ้านกัน ขากลับขึ้นขบวน 140 (อุบลราชธานี‑กรุงเทพ) โดยรถจะออกจากสถานีอุบลราชธานี 20.30น.
นิรัชพร รุจิรัตนากร
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 21.21 น.