ทะเลหมอกสุดฟินที่ "ดอยหลวงตาก" ครั้งเดียวไม่เคยพอ
ดอยหลวงตาก ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย จังหวัดตาก ซึ่งยอดดอยมีความสูง 1,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 11 กิโลเมตร รวมไปกลับ 22 กิโลเมตร
ดอยหลวงตากเป็น สถานธรรมชาติที่เราอยากไปพิชิตมากๆ อยากทำความฝันให้สำเร็จด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือก็ว่าได้ เพราะด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล เราเลยไม่รีรอที่จะเดินทางไปชมความสวยงามของธรรมชาติ บนยอดดอยหลวงตาก สักครั้ง
ทริปนี้เราไปกับเพจ Let'SGoGo : ไป ด้วย กัน นะ
วันแรกของการเดินทาง
24-06-2565
ทริปนี้เราเดินทางมากับทริปหารเฉลี่ยของเพจนึง เดินทางด้วยรถตู้จากกรุงเทพ ถึง จ.ตาก ประมาณตี 4 กว่าๆ เราจำไม่ได้แล้วว่าที่นี่อยู่ตรงไหน แต่เป็นบ้านและร้านอาหารสำหรับ นักเดินทางที่ต้องแวะ มาล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำกันและทานข้าวกัน
เรามาถึง ตี 4 ก็นอนพักเอาแรงก่อน จนถึงเช้า ลุกขึ้นมาเตรียมตัว ล้างหน้าแปรงฟัน จัดกระเป๋า และทานมื้อเช้าก่อนไปยังจุดลงทะเบียน ซึ่งเรียกว่า "คุ้มป๋าต๋อง" ที่นี่จะมีนักเดินทางมากันมากมาย มาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ของอุทยาน รวมถึงรับคิวลูกหาบ นั่งรถ 4x4 ไปยังจุดเริ่มเดินเท้า
เรานั่งรถ 4x4 ไปยังจุดเริ่มเดินเท้า ก่อนออกเดินเข้าป่าด้วยระยะทาง 11 กิโลเมตร ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อย ด้วยการที่ออกสายไปหน่อย และมีปัญหาเรื่องลูกหาบไม่พออีก เพราะมีบางกลุ่มเอาลูกหาบไปเกิน เลยมีการเจรจารเคลียกันนิดหน่อย
สภาพภูมิอากาศวันนั้นคือร้อนม๊ากกกกกกกกกก...เป็นครั้งแรกที่เดินแล้วร้อนแบบร้องขอชีวิตเลย ไม่เคยคิดว่าการที่ตั้งใจเดินป่าหน้าฝน แบบต้องได้ฟีลฝนปรอยๆ เย็นๆจะกลายเป็นการเดินที่ตรงกันข้าม และมีพี่ในทีม เป็นลมหน้ามืด ต้องพักกันอยู่นาน จนพี่เขาบอกว่าจะไม่ไปแล้ว แกไปไม่ไหวนอกจากจะแบกเป้หนักแล้วเจออากาศร้อนเข้าไป ร่างกายรับไม่ไหว.....เช่นกันกับเราแต่เราอาศัยไม่รีบเดิน ร้อน เหนื่อยก็พัก ช้าไม่เป็นไร ไม่รีบ..ฉานนนนนร๊อนนนน
เดินฝ่าความร้อนระอุในป่าแบบลมไม่กระดิกเลย เป้าหมายคือ ร้านขายน้ำในป่า ซึ่งอยู่ห่างไปจุดพัก 3 กิโลเมตร ....ทางก็เริ่มชันและเดินขึ้นเขาเรื่อยๆแบบซึมๆ นานจนท้อ แต่ที่สุดก็ได้ดื่มเป้ปซี่เย็นๆกลางป่า ขวดละ 20บาท แช่ถังเย็นๆ
หลังจากได้เป้ปซี่แก้กระหาย เดินไปอีกสักพักไม่นาน ก็มาแวะนั่งกินข้าวพักเหนื่อย และเตรียมอาหารหมามาเผื่อ เผื่อเจอน้อลลหมากลางทาง...ซึ่งก็แจกน้องหมาไปเรียบร้อย
เราเดินไต่ระดับความชันมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดชมวิวมองข้างล่างจะเห็นวิว "อ่างเก็บน้ำห้วยบวกหลวง" มาตรงนี้จะรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่สัมผัสลมเย็นๆที่พัดมา โครตชื่นใจเลย ถึงกับนั่งพักชมวิวสัก 5 นาที แล้วไปต่อ และจุดนี้มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยนะคะ ใครจะอัพเดทอะไรมาตรงนี้ก็รีบอัพเดทได้เลย
เส้นทางต่อไปเริ่มเดินไต่ความชันขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ป่าเริ่มโปร่งบ้าง เห็นวิวบ้างแล้ว พอมีลมมาเป็นระยะให้คลายร้อนบ้างในช่วงเที่ยงและบ่ายของวัน ที่แทบหมดแรงเพราะอากาศร้อนมาก จริงๆระยะทางถึงจะไกลแต่ทางเดินไม่ลำบากมาก เหนื่อยตรงร้อนสุดๆนี่แหละคะ...แทบเป็นลมและฮีสโตรคได้ง่ายๆเลย
เส้นทางบนดอยหลวงตากจะมีช่วงเดินฝ่าสันคมมีดไปคะ สองข้างเป็นเหว แต่ทางไม่อันตรายมากคะ ถ้าขี้กลัวแบบเราก็ใช้สมาธิและความระมัดระวังเดินหน่อย
เมื่อเราเดินขึ้นมาเรื่อยๆ ป่าก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นป่าดิบชื้น หรือป่าโบราณ ป่าฝน พวกต้นไม้จะเจอพวกเฟิร์น มอส บอนกระดาษ และใบไม้สวยๆในป่าชื้น และต้นไม้รูปทรงแปลกๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกระหว่างทาง
เดินออกจากป่าชื้นมา จะเห็นทางที่โครตชันมากๆเลย ที่จะต้องเดิน ไต่ดันขึ้นไปบนลานสน ระยะทางไม่ถึง 100 เมตรคะ ค่อยเดินไป เพราะเกือบหงายหลังไถลลงมา ด้วยความที่แบกเป้เองและถ่วงหลัง จนเกือบร่วง ถ้าร่วงหงายหลังลงมา ไม่ตายก็แค่กลิ้งเป็นลูกขนุนมาข้างล่าง แล้วค่อยๆขึ้นไปใหม่...555
เมื่อเราเดินขึ้นมาบนเขาจะเจอลานต้นสนคะ แต่พอขึ้นมาแล้ว อากาศแตกต่างจากข้างล่างยังกับหน้ามือเป็นหลังมือเลย จากร้อนๆ กลายเป็นมาเจอลมฝนที่พัดเย็น และเมฆที่ตั้งเค้ามาแต่ไกล อากาศเย็นสบายอย่างที่ไม่เคยได้รับจากระยะทาง 9 กิโลเมตร ที่เราได้เดินผ่านมา 555
"ผานางพญา" เป็นจุดที่สวยมากและหายเหนื่อยไปเลย จุดนี้เราเดินจากลานสนมาประมาณ 500 เมตร ก็จะมาทะลุวิวนี้ คือทุกคนพร้อมใจกันถ่ายรูป บ้างก็ปลดเป้นอนแผ่เลยทีเดียว เพราะถ้าถึงจุดนี้นอกจากวิวสวยๆที่ต้อนรับเราและปลอบใจจากความเหนื่อยล้าแล้ว นั่นนน....หมายถึงเราใกล้ถึงแค้มป์แล้วนะคะ แต่ต้องเดินฝ่าดงกล้วยดงทาก ไปอีก 2 กิโลเมตร คะ
ป่ากล้วยและดงทาก เดินจากผานางพญามาก็ลงเลาะเข้าดงกล้วยหรือป่ากล้วยเลย เป็นที่รู้กันดี ถ้าเจอ ป่ากล้วยในป่า เราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง 555 แต่ว่า เราไม่เจอคะ เพราะรีบเดินและทากที่นี่ก็น่าจะน้อย เดินมาถึงแคมป์ ก็ไม่เจอเลย โชคดีมาก
มาถึงแคมป์ประมาณ 5 โมงกว่า หาที่กางเต็นท์ ยากหน่อย เพราะมาช้า 555 แต่ไม่เป็นไร นอนตรงไหนก็ได้ ขอให้ไ้ด้นอน ฮ่าๆ หลังจากนั้นก็เดินเลาะป่าลงมากรอกน้ำใช้ ล้างหน้าแปรงฟันตอนเช้า ส่วนน้ำดื่ม เราเอามาพอสำหรับสองวัน
พ่อครัวกำลังทำมื้อเย็นที่แสนอร่อยให้สมาชิก มีอาหารหลายอย่างนะ แต่ด้วยความเหนื่อยเลยขี้เกียจถ่ายและหิวจนลืมถ่ายรูป และช่วงเย็นก็ไม่ได้เดินขึ้นไปชมวิวบนดอยหลวงตาก เพราะฝนตก ลมแรง
หมดไปอีก 1 วันที่เดินป่าไกลๆ วันนี้เลยเพลียมาก แถมตะคริวกินด้วย ต้องรีบเข้าเต็นท์ไปนอนนวดน้ำมันแก้เมื่อยในเต็นท์และเป็นอีกคืนที่เย็นสบายเพราะฝนตกเกือบทั้งคืน
วันที่สองของการเดินทาง
25-06-2565
กิจกรรมของเช้าวันนี้ก็คือ เดินไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ยามเช้าบน ยอดดอยหลวงตาก กันจ้า เป็นเช้าที่อากาศเย็นสบายมากๆ ไม่หนาวเลย มีลมเย็นสบาย ไม่แรงดั่งพายุเหมือนหลายๆคนเจอและรีวิวมา ถือเป็นความโชคดีของเราในทริปนี้แล้วกัน 555
เช้าวันนี้บนยอดดอยหลวงตาก เจ้าหน้าที่บอกว่า เกิดไฟไหม้ป่าเลยลามมาถึงบนดอยหลวงตากอีกด้านนึง แต่โชคดีไฟหยุดเพราะฝนตกเสียก่อน เราจึงเห็นรอยไหม้แค่ด้านเดียว เลยทำให้ดอยหลวงตากในช่วงที่ไปนั้นนั้นไม่เขียวทั้งดอย
ทะเลหมอกและแสงเช้าของอีกด้านก็มาพร้อมกัน แสงเช้าทำให้เรามองเห็นจุดกางเต็นท์ของเราได้ และเต็นท์สีส้มๆอ่อนหน่อย ก็เต็นท์เราเอง แฮ้ๆๆ
เดินต่อจากป้ายขึ้นเนินเขามายังเขาอีกลูกที่น่าจะเป็นจุดสูงสุดของดอยหลวงตากแล้ว เวลานี้ทะเลหมอกเริ่มลอยมาแบบสวยๆเลย ทีแรกที่มาคิดว่าน่าจะฟุ้งๆ ขาวๆ แต่วันนี้เหมือนโชคเข้าข้างเราอีกแล้ว...
จากนั้นเดินต่อมาอีกเกือบ 2 กิโล มายัง "ต้นสนเดียวดาย" แต่ตอนนี้ต้นสนไม่เดียวดายแล้ว เพราะมีนักเดินทางมาทักทายแทบทุกวันเลย และบังเอิญเจอกับพี่ที่รู้จัก จึงถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึกหน่อยจ้า
เมื่อเราเดินกลับมาจาก ต้นสนเดียวดาย ก็เจอวิวนี้....ที่สุดของแจ้มากคะ ดอยหลวงตากของฉัน ทะเลหมอกที่คาดว่าไม่เจอก็เจอแบบโครตสวยมากๆเลย
นี่แหละนะ ที่เขาว่า "ถ้าเราไม่คาดหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง "
หลงรักที่นี่เลย ทะเลหมอกสวยๆปังๆแบบนี้ ที่เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเลยที่จะเจอแบบนี้บนดอยหลวงตาก เพราะบนดอยหลวงตากจะเป็นแนวลมแรงมากๆ ปะทะทะเลหมอกฟุ้งๆขาวๆทั่วทั้งดอย
แล้ววันนี้ฉันมีแต้มบุญมาเดินป่านะจ้าา 555 ลมสงบนิ่ง ทะเลหมอกสุดปัง และสวยมากๆ เหมือนฝูงนก กา ต่างๆจะดีใจ ออกมาโบยบินกันเต็มท้องฟ้าเลย หายเหนื่อยล้า จากเมื่อวาน....ทะเลหมอกทำให้วันหนักๆที่ผ่านมา หายไปเลย
บรรยากาศบรอเวณจุดกางเต็นท์ก็สวยไม่แพ้กัน
ช่วงเช้าชมความสวยงามบนยอดอยหลวงกันจนถึงเวลาลงมาทานข้าวเช้า และ เก็บเต็นท์เราก็เตรียมตัวลงกลับไปจุดเริ่มเดิน อีก 11 กิโลเมตร อาหารเช้าง่ายๆ แต่เป็นข้าวต้มที่ไม่อยู่ท้องเอาเสียเลย แต่ได้ขนมลอดช่องมาแทนที่ กินมากไม่ได้เดี่ยวท้องไส้ปั่นป่วน หาพุ่มไม้เข้าอีก 55
ถ่ายรูปสัก สอง สามแชะ เป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทางกลับ
ขากลับเดินผ่านดงกล้วย แล้วมาหยุดความฟิน ที่ " ผานางพญา " อีกครั้ง ที่เรียบว่าผานางพญา คือดูรูปสุดท้ายจะเห็นเป็นใบหน้าหญิงสาวเขาเลยเรียกว่า "ผานางพญา"
ป่าสนช่วงเช้าขากลับ สวยชื้นใจมากๆ ละอองหมอกบางๆ พัดผ่านไปมา แต่ทางขากลับช่วงที่เดินผ่านป่าสน เราจะเดินไปอีกทาง ลงไปอีกทาง จะไม่ผ่านทางที่มาคะ
แก็งค์น้องๆลูกหาบ ใช้เวลามาหารายได้ช่วยที่บ้าน
ขากลับเดินลงรวดเดียว เหนื่อยก็พัก กินขนมกินน้ำ ใช้เวลาไปถึงจุดเริ่มเดินประมาณ บ่าย 2 กว่าๆ อาบน้ำทานข้าวกลับ กรุงเทพกันคะ
เป็นอีกทริปที่ชอบและเหนื่อยมากๆ แต่ก็ตั้งใจจะกลับไปอีกรอบ เพราะชอบ ดอยหลวงตาก
ขอบคุณที่อ่านรีวิวคะ
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ แมวพเนจร
😺 แมวพเนจร 🌿
วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.09 น.