แม่ฮ่องสอน เคยได้รับการบันทึกว่าเป็นเมืองที่ประชากรที่มีความสุขมากที่สุดของประเทศไทยแห่งหนึ่ง จุดเด่นหลักของเมืองในหมอกแห่งนี้คือความสงบ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมของพื้นเมือง ที่ยังมิได้รับการแต่งเติมมากนักเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
สำหรับผมแล้ว จ.แม่ฮ่องสอนแห่งนี้ ทำให้ผมมีความสุขในทุกๆวัน ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นการเดินไปในทุกๆที่ ของจังหวัดที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทยแห่งนี้
ผมเริ่มต้นการเดินทาง และเก็บภาพแห่งความสุข บนเส้นทางวงกลมที่เริ่มต้นตั้งแต่เชียงใหม่ ซึ่งเส้นทางนี้ นักเดินทางอย่างเราจะรับรู้ได้เลยว่า ความสุข ไม่ได้อยู่ที่ปลายทางเท่านั้น แต่มีอยู่ทุกๆกิโลเมตรจากสองข้างทางของถนนสายนี้
ตลอดการเดินทาง ผมเริ่มเก็บภาพตามสถานที่ยอดฮิตในเส้นทางที่ขับผ่าน อย่างเช่นร้านกาแฟยอดฮิตอย่าง Coffee in love เพื่อแวะพักทั้งรถ และก็พักทั้งคนครับ
ถึงแม้ผมจะรีบไปให้ถึงเมืองแม่ฮ่องสอนให้ทันภายในช่วงบ่ายแค่นี้ แต่ก็ยังคงอดใจไม่ได้กับการแวะชมวิวในจุดพักรถต่างๆ ที่ราวกับว่าเส้นทางนี้ เป็นเส้นทางลอยฟ้าจริงๆ จากรูปคือจุดพักรถและจุดชมวิวกิ่วลม ปางมะผ้าครับ
และเราก็ได้มาถึงที่หมายของเราจนได้
เมื่อมาถึงเมืองในหุบเขาแห่งนี้แล้ว สิ่งที่เราอยากทำเป็นสิ่งแรกก็คือ สักการะพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่การเดินทางของเรา
ช่วงที่ผมไปนั้นเป็นปลายฤดูหนาว แต่อากาศยังค่อนข้างเย็นสบาย และมักจะมีแสงสวยๆในช่วงเย็นให้เราได้เก็บบรรยากาศเสมอ
บรรยากาศและแสงยามเย็นของร้านกาแฟที่ชื่อ ก่อนตะวัน จะลับเหลี่ยมขุนเขา หรือ Before Sunset coffee บริเวณใกล้ลานจอดรถหลังพระธาตุดอยกองมู ทำให้ผมต้องจดจ่อกับการรอถ่ายบรรยากาศยามเย็น ไม่ว่าจะมีลูกค้าเยอะเพียงใดก็ตาม
ผมและแฟน นั่งสงบจิตใจ จดจ่อกับความสงบและเงียบงัน จนพระอาทิตย์ได้หลับเหลี่ยมขุนเขาไปแล้ว จึงได้กลับเข้าที่พัก ณ เมืองเบื้องล่างต่อไป
ณ เมืองแม่ฮ่องสอนนี้ บนยอดเขาเราจะสามารถมองเห็นพระธาตุดอยกองมู สวยเด่นเป็นสง่า อยู่เหนืองกลางใจเมือง แต่เบื้องล่าง ณ ศูนย์กลางของเมืองแห่งนี้ก็มีวัดเก่าแก่ สวยงามอยู่เช่นกัน คือวันจองคำ ริมบึงหนองจองคำ ซึ่งจะเปิดไปประดับประดา เผยให้เห็นความสวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้เลยทีเดียว
จากตัวเมืองไม่ไกลนัก ยังมีหมู่บ้านรักไทย สถานที่ยอดฮิต ที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่บนเทือกเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณหนึ่งพันเมตร มีความสวยงามราวกับสวรรค์สมกับเป็นเมืองในหมอก เนื่องจากไอน้ำที่กระทบกับความเย็นเหนืออ่างเก็บน้ำทำให้มีไอหมอกพวยพุ่งในทุกๆเช้าของฤดูหนาว
ถ้าลืมตาขึ้นมา แล้วมองรอบๆข้าง ณ อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ โดยไม่บอกชื่อสถานที่ คงยากที่จะบอกได้จริงๆว่า นี่คือประเทศไทยที่สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก
เสียดายที่เวลาของผมมีน้อยไปหน่อยกับการที่จะได้ไปเก็บภาพแห่งความสวยงามของสถานที่ต่างๆบนเทือกเขาสูงแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมแนะนำอยากให้ทำอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การปั่นจักรยานชมเมืองแม่ฮ่องสอนแห่งนี้
เนื่องจากเมืองแม่ฮ่องสอน มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินซะส่วนใหญ่ อาจทำให้เหนื่อยไปบ้าง แต่เชื่อผมเถอะว่า ความเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ และวิถีชาวบ้านของเมืองนี้จะทำให้เราลืมความเหนื่อยอย่างแน่นอน
คงได้พบกันใหม่ เร็วๆนี้ ณ เมืองที่มีแต่ความสงบ ไร้ความวุ่นวาย
บนเส้นทางลอยฟ้า สู่ แม่ฮ่องสอนครับ...
ChanyootImk Imkramon
วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.41 น.