รีวิวท่องเที่ยวนครพนม แผนการเดินทางท่องเที่ยวนครพนมเรามีดังนี้
Day 1 : สนามบินดอนเมือง > สนามบินนครพนม > พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืด > บ้านลุงโฮจิมิน > ร้านชาบูฟองดู > Check-in The Room Hotel > วัดนักบุญอันนา หนองแสง > ถนนคนเดินนครพนม > นอน The Room
Day 2 : ร้านอาหารเช้า พรเทพแหนมเมือง (สาขา 2) > The Box คาเฟ่ ริมโขง > เดินเล่นริมโขง > หอนาฬิกา > วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร > วัดหัวเวียงรังษี > วัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง > วัดมรุกขนคร > The Room Hotel
Day 3 : สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 > อนุสรณ์สถานณ์ประธานโฮจิมิน > ร้านเตี๋ยวเต็มโต๊ะ สาขา 2 > ศาลจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) > Cafe de kong (ในค่ายทหาร) > Airport นครพนม
Day 1
เรามาเริ่มต้นเดินทางกันเลย!!! เราเดินทางด้วยเครื่องบิน Air Asia จากดอนเมือง 8.30 น. ถึงสนามบินนครพนม 9.45 น. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ คนละ 1,500 บาท เราไม่ได้โหลดกระเป๋ากันนะจ๊ะสำหรับทริปนี้
ถึงสนามบินนครพนม เราจองรถและรับรถที่สนามบินได้ทันที ราคาวันละ 800 บาทไม่รวมน้ำมัน ได้รถ Yaris Ativ รถคุณภาพพอใช้ได้ โดยรวมแล้วคุ้มราคา
หลังจากรับรถแล้ว สถานที่แรกที่ลุงกับป้าจะพาไปเที่ยวก็คือ "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืด โลกของปลาแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม"
ราคาค่าเข้าก็ไม่แพงนะครับ แถมลุงกับป้าเข้าฟรีซะด้วย
ตัวพิพิธภัณฑ์ฯ มีขนาดเล็กครับ เดินไม่นานก็หมด
เดินเล่นเพลินๆ ดีเหมือนกันครับ
หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ เราเดินทางต่อไปที่ "บ้านลุงโฮจิมิน" อยู่ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์
บ้านลุงโฮจิมินไม่ได้คิดค่าเข้าชมนะครับ เข้าชมได้ฟรี!!! ก็แล้วแต่พวกท่านจะซื้อสินค้าที่เขาขายอยู่ด้านใน เพื่อเป็นการสนันสนุนให้เขายังเปิดบ้านให้พวกเราเข้าชมกันอยู่หรือเปล่า
รูปด้านใน เป็นบ้านกึ่งๆ พิพิธภัณฑ์ที่ ลุงโฮ เคยมาอาศัยอยู่ครับ
สถานที่ต่อไปของเราคือร้านอาหาร "ร้านชาบูฟองดู" เป็นร้านชาบูบุฟเฟ่ต์
ร้านเปิดทุกวัน 11.00 น.-22.00 น.
ราคาหัวละ 260 บาทสำหรับบุฟเฟ่ต์ปกติรวมทุกอย่างแล้ว หากต้องการกินกุ้งราคาจะปรับเป็น 320 บาท และ ราคาสุดท้ายสำหรับคนต้องการกินเนื้อโคขุน หัวละราคา 400 บาท
อาหารอร่อยสดใหม่ น้ำจิ้มเด็ด มาก ถ้ากลับมานครพนมจะมากินอีกแน่นอน
เมนู 260 บาท (ในใบเมนูยังไม่ปรับราคา) แนะนำครับสำหรับร้านนี้ อร่อย ราคาไม่แพง
เวลา 13.30 โมง เราออกจากร้านและเดินทางไป Check-in ณ โรงแรม The Room ครับ
โรงแรมมีที่จอดรถกว้างขวางจอดได้หลายคันเรื่องที่จอดรถหายห่วงครับ สามารถขับรถเข้าจอดได้เลย และก็ใกล้ริมแม่น้ำโขง ห่างกันแค่ 200-300 เมตร เท่านั้น
โรงแรมมีทั้งหมด 3 ชั้น ผมได้ห้องชั้น 3 จะวิวดีกว่าและอากาศถ่ายเทได้สะดวกกว่า แต่ตัวโรงแรมไม่มีลิฟท์นะต้องแบกกระเป๋าเดินขึ้นมา 3 ชั้น เพื่อเข้าห้องพัก อุปกรณ์ภายในห้องให้มาครบ แต่ห้องน้ำจะเล็กไปซะหน่อย
อาหารเช้าฟรี!!! แต่จะมีแค่ขนมปังปิ้งทาแยม, ชา, กาแฟ และ โกโก้ให้ทานเท่านั้นครับ กินที่ล๊อบบี้เริ่ม 7 โมงเช้า ค่าโรงแรมคืนละ 600 บาท
หลังจาก Check In ที่ The Room แล้ว เราก็ "เดินเท้า" ออกไปเที่ยวกันต่อที่ "วัดนักบุญอันนา หนองแสง" อยู่ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 650 เมตร เดินเลียบถนนริมฝั่งโขงมาได้เลย
มีอาคารหลังเก่าอยู่ใกล้ๆ กัน
เราเดินเล่นเลาะริมโขงอากาศดี และ เห็นโครงไม้ไผ่ประดับประดาไฟ เพื่อใช้ในงานเทศกาลไหลเรือไฟในวันที่ 10 ตุลาคม 2565
ถนนริมฝั่งโขงบรรยากาศดี มองเห็นฝั่ง สปป.ลาว
เราไปหาข้าวเย็นกินที่ถนนคนเดินจากตัวโรงแรมสามารถเดินไปได้ หรือจะนำรถไปจอดที่ไปรษณีย์นครพนมก็ได้ เรากลับมาพักผ่อนที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัวเดินทางไกลไป "วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร" ในวันรุ่งขึ้น
Day 2
เนื่องจากอาหารเช้า The Room มีแค่ขนมปังปิ้งกับ ชา กาแฟ
เช้าวันที่ 2 เราจึงเดินทางไปกิน "ร้านอาหารเช้า พรเทพแหนมเมือง (สาขา 2)" ห่างจากที่พักเราไปประมาณ 2 กิโลเมตรครับ ร้านนี้จะเป็นร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของนครพนม เราไปดูอาหารกัน
ปากหม้อญวน จานละ 40 บาทเท่านั้น!!!
ซูชิแหนมเมืองจานละ 80 บาท
เรายังสั่งหมูยออีกจานละ 30 บาท กินไป 3 คนรวมแล้วหมดไป แค่ ไม่ถึง 200 บาท อิ่มและอร่อยมาก ร้านนี้แนะนำครับ มาถึงนคนพนมต้องมาลองกินดูซักครั้ง
หลังจากเสร็จจากร้านอาหารเช้าแล้วเราก็ไปกินกาแฟกันต่อ ที่ร้าน "Box Cafe" ริมโขงครับ เป็นร้านกาแฟติดริมแม่น้ำโขงเลยครับ ใช้ตู้คอนเทรนเนอร์มาตั้งเป็นร้านกาแฟ ร้านเปิดทุกวัน 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่มครับ ราคากาแฟ มีตั้งแต่ 50-100 บาทตามแต่จะสั่งครับ
รูปถ่ายด้านนอก
หลังจากดื่มกาแฟ เติมพลังกันแล้วเราก็เดินทางต่อ ทริปนี้ไม่เร่งรีบเราจึงแวะเดินเล่นริมโขง และ แวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาสัญลักษณ์ของเมืองนครพนมกันก่อน
หอนาฬิกา
เป้าหมายต่อไปของเราก็คือ "วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร" วัดที่ทุกคนต้องมา เมื่อมาเที่ยวนครพนม วัดอยู่จากตัวเมืองนครพนมประมาณ 55 กิโลเมตร ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจ้า
ลุงป้า ชอบพญานาค
หลังจากเสร็จจาก วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เราก็ขับรถล่องเพื่อเดินทางกลับตัวเมือง ใครเป็นสายมูต้องชอบแน่เพราะทริปนี้เราแวะวัดหลายวัดเลย โดยแผนของเราคือผ่านวัดไหนก็จะแวะเที่ยววัดเหล่านั้นระหว่างทาง วัดถัดไปของเราคือ "วัดหัวเวียงรังษี"
เป็นอีกวัดที่สวยงามของจังหวัดนครพนม วิ่งเลียบฝั่งโขงก็จะเจอ อยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุพนมเท่าไร
เราแวะถ่ายรูปไหว้พระขอพร แล้วเราก็เดินทางต่อไปยัง "วัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง" ซึ่งเป็นวัดที่ 3 ของเราแล้วสำหรับวันนี้
วัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง มีลักษณะคล้ายกับวัดพระธาตุพนมมากๆ เพียงแต่มีขนาดที่เล็กกว่า
ลุงป้า ยิ้มร่า อิ่มบุญ อิ่มใจ แต่เรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรายังแวะ "วัดมรุกขนคร" อีกแห่งก่อนจะเดินทางกลับที่พัก
วัดมรุกขนคร เป็นอีกวัดที่สวยงามไม่แพ้วัดอื่นๆ เลย
ข้างในสวยมาก ลุงป้า ชอบ
หลังจากนั้น ลุง ป้า ก็กลับที่พักเนื่องจากฝนทำท่าจะตกตลอดเวลา อากาศจึงร้อนอบอ้าวมาก กลัวจะไม่สบายไปซะก่อน ตอนเย็นๆ เราออกไปเดินถนนคนเดินอีก เพื่อหาอะไรกิน ทำให้การท่องเที่ยวนครพนมวันที่ 2 จบไปแต่เพียงเท่านี้
Day 3
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการท่องเที่ยวนครพนมของลุงกับป้ากันแล้วนะจ๊ะ
วันนี้ลุง ป้าตื่นสาย และ เดินทางไป สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 กัน
ด่านตรวจคนเข้าเมืองสามารถทำบัตรผ่านแดนรายวันได้นะครับ ใช้แค่บัตรประชาชน ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ครับ
เราไม่ข้ามไปเพราะไม่มีเวลา รถยนต์ก็สามารถขับข้ามไปได้เช่นกันแต่ต้องทำเอกสารการข้ามแดนก่อนนะ
เราขับรถต่อไปถ่ายรูปริมโขงวิวสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 กัน
เสร็จจากสะพานมิตรภาพ เราก็เดินทางต่อไปยัง "อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์" จริงแล้วอนุสรณ์อยู่ใกล้ๆ กับ บ้านลุงโฮจิมิน นะครับ สำหรับใครที่อยากจะไปแบบรวดเดียวก็อยู่ใกล้ๆ กันเลยนะ
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ ไม่เก็บค่าเข้าชมแต่ จะมีค่าบำรุงรักษาอาคารคนละ 20 บาทนะครับ
หลังจากเราเยี่ยมชม อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เสร็จแล้วเราก็เดินทางไปกินข้าวร้าน "เตี๋ยวเต็มโต๊ะ สาขา 2"
ร้านเตี๋ยวเต็มโต๊ะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อของนครพนม เราเก็บไว้เป็นร้านก่อนกลับเพื่อจะได้ลองกินที่ร้านนี้ปรากฎว่า อาหารรสชาติพอได้ครับ แต่ราคาเทียบกับปริมาณแล้วถือว่าเป็นการกินก๋วยเตี๋ยวที่ราคาแพงพอควรครับ เราสั่งเตี๋ยวเต็มโต๊ะ และ อาหารกินเล่นอื่นๆ ราคาตกประมาณ 1600 บาท
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วเราก็เดินทางไป "ศาลจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)"
สวยงามและเข้าชมฟรีครับ แวะมานครพนมมาเดินเล่นที่นี้ก็ดีอยู่นะ
สถานที่สุดท้ายของทริปนี้ที่เราไปก็คือ "Cafe de kong (ในค่ายทหาร)" ตอนแรกก็งงหน่อยครับตอนที่ขับเข้าไปนึกว่าผิดทางแต่ปรากฎว่ามีคาเฟ่ อยู่ในค่ายทหารจริงๆ ครับ
เครื่องดื่มให้น้องๆ ทหารชง ราคาพอประมาณ แก้วละ 50-90 บาท รสชาติสำหรับผมไม่อร่อยครับ และ เราสั่งเค้กมากินด้วย กล้องละ 90 บาท รสชาติไม่อร่อยเช่นกัน
ร้านวิวสวยอยู่ในค่ายทหารและติดริมน้ำครับ
ร้านมีทางเดินริมน้ำด้วยครับ
หลังจากเราคาเสร็จจากคาเฟ่นี้ เราก็ขับรถไปเติมน้ำมัน วิ่งรถ 3 วันไปไกลประมาณ 500 กิโลเมตรใช้น้ำมันไปประมาณ 500 บาทเช่นกันครับ ถือว่ารถที่เราเช่า Yaris Ativ ประหยัดใช้ได้เลย แต่องค์ประกอบคือรถที่นครพนมไม่ค่อยติด และ ผมขับที่ความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงทำให้ประหยัดด้วยครับ
พงพาเพลินของจบทริป "ลุงป้าพาเที่ยว...นครพนม" ไปเพียงเท่านี้ครับ
Pongpaplearn
วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 18.11 น.